ตอนนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด จากการแต่งตัวของพวกเขาทั้ง 3 คนแล้วน่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาที่แค่ออกมาหาของป่าเท่านั้น
"คุณลุงงง พวกหนู 2 คนแค่หลงทางมาค๊าา แค่จะหาทางออกจากป่านี่เท่านั้น"
"เฮ้ย!! ไอ่เป็ง เอ็งไปแก้บ่วงให้อิน้อยนี่เลาะ" ชายคนที่เอาปืนจ่อนายธีร์สั่งชายที่ชื่อเป็งนั่นมาแก้บ่วงให้ฉัน
อร๊ายยย ตุ๊บ!! ฉันถูกปล่อยล่วงลงมายังดีที่มีใบไม้ปกคลุมจึงไม่เจ็บเท่าไร นายธีร์รีบมาประคองฉันไว้
"คุณไม่เป็นไรนะ" เขากระซิบถามฉัน
"ไม่เป็นไร" ตอบกลับเขาพร้อมปัดเนื้อปัดตัวผมเผ้ายุ่งเหยิงใบไม้ติดเต็มไปหมด
"หมู่เอ็งมาที่นี่ได้จะได..แถบแถวนี้ถ้าโชคบ่ดีเดียวจะโดนยั๊บไปขายที่ชายแดนปู้น" ก็หนีมาจากนั้นแหละลุง
"อั้นก็เอาเขาสองคนไปที่หมู่บ้านก่อนค่อยว่ากัน ดีบ่โดนกับดักจั่นห้าว*เมียเอ็งได้ตายแน่"
เขาพูดภาษาถิ่นยังดีที่ฉันพอจะฟังเข้าใจบ้างว่าแต่เมียใคร ใครเป็นเมีย อิลุงที่เอาปืนจ่อนายธีร์นั้นตอนนี้ได้ลดปืนลงแล้วเดินนำทางให้เราสองคนเดินตามเขาบอกว่าจะพาไปที่หมู่บ้าน แต้มบุญฉันทำงานหนักมาก ขอให้ฉันรอดจากที่นี่ทีเถอะ ..
เราเดินมากันได้สักพักกลิ่นหอมๆที่แตะจมูกฉันตอนแรกเริ่มชัดขึ้น มันหอมจริงๆเพราะตอนนี้หิวมากนี่เราใกล้จะถึงหมู่บ้านแล้วสินะ
"คุณลุงค่ะ ..ข้างหน้านี่คือหมู่บ้านที่คุณลุงว่าจะพาเราไปใช่มั้ย คือหมู่บ้านอะไรค่ะแล้วอยู่แถบไหน จังหวัดอะไร" ที่ฉันถามเพราะอยากรู้พิกัดที่ๆฉันอยู่
"อ่อ..ชื่อหมู่บ้าน F หมู่บ้านนี้อยู่ในจังหวัด H ไกลจากในตัวเมืองหลายร้อยกว่าโล กว่าจะเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาเกือบวัน แล้วหมู่เอ็งมาที่นี้ได้ไง เดินมากันสองคนได้จะได" ห่ะ!! จังหวัด H นี่เราข้ามมาไกลเป็นสี่ห้าจังหวัดเลยหรอ วันก่อนนั้นยังอยู่ทะเลอยู่เลยนี่ขึ้นเหนือซ่ะละ
"อ่อ ..เราสองคนเป็นนักท่องเที่ยวแล้วเกิดหลงป่าอ่ะครับ ติดอยู่ในป่านี้มาสองวันแล้ว กะว่าจะเดินมาเรื่อยๆเผื่อจะเจอหมู่บ้าน ก็เลยมาเจอพวกคุณลุงก่อน" นายธีร์พูดขึ้น
"อ่อ.. ถือว่าโชคดีที่เจอพวกข้า ไม่ได้เจอพวกลักลอบขนยา ค้าผู้หญิง" ไม่อยากจะพูดเลยว่าเจอมาแล้วค๊าา..
"แล้วถ้าไปในหมู่บ้านได้พอจะมีรถเข้าตัวเมืองมั้ยครับ เราต้องเดินทางกันยังไง"
"มีสิ!! แต่มันมีอาทิตย์ละครั้งเท่านั้นเขาลงไปเอาของขึ้นมาขาย พึ่งปิ๊กมาวันวาจะไปแห่มกำก็วันฮือ"
"วันวา,วันฮือ คือวันไหนค่ะ" ฉันเริ่มไม่เข้าใจละ
"วันวาน่าจะหมายถึงเมื่อวาน ส่วนวันฮือนี่ถ้าให้เดาน่าจะอีกหลายวัน หรือไม่ก็กว่าของที่เอามาขายจะหมดนะผมว่า" นายธีร์ อธิบายให้ฉันฟังอีกที
"แล้วพวกลุงชื่ออะไรกันบ้างค่ะ หนูชื่อพรีมนะ อีกคนชื่อธีร์ค่ะ" ฉันรีบแนะนำตัว เพราะดูแล้วพวกเขาน่าจะเป็นมิตรถ้ารอดจากป่านี้ไปได้ฉันจะตอบแทนคุณลุงทั้งสามอย่างสาสมเลย
"อ้อ..ลุงชื่อแสง คนนั้นชื่อเป็ง แห่มคนชื่อผัด ลุงเขามาดักหมูป่าที่ลุงเลี้ยงไว้มันหลุดหายไปสองตัว ยั๊บได้ละตัวนึงเหลือแห่มตัวนึง บ่ได้สักกำแต่ได้อิน้อยนี่แทน" ลุงดูท่าทางผิดหวังนะคะ
เราทั้งหมดเดินทางมาจนถึงหมู่บ้าน พวกเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาบ้านส่วนใหญ่ทำจากไม้ยกสูงมีใต้ถุน บางหลังก็ยังมุงหลังคาด้วยหญ้าอยู่ ลูกเล็กเด็กแดงบ้างก็ใส่แค่กางเกง บางก็ไม่ใส่อะไรเลยวิ่งเล่นกันให้วุ่น เมื่อฉันมองไปรอบๆเห็นผู้คนจ้องมองมาที่เราสองคนเป็นจุดเดียว..
"เดียวพวกเอ็งต้องไปเจอพ่อใหญ่บ้านที่นี่ก่อนนะ ข้าพาเอ็งมาได้แค่นี้แหละที่เหลือก็อยู่ที่พ่อใหญ่ว่าจะให้พวกเอ็งอยู่หรือไป"
"เออ..ลุงค่ะ ลุงพอจะมีโทรศัพท์มั้ยค่ะหนูจะขอยืมหน่อย"
"อ่อ ลุงบ่มี ถึงมีก็โทรบ่ได้มันบ่มีคลื่น"
"แล้วที่นี่ร้านขายของที่ว่าอยู่ไหนคะ ทั้งหมู่บ้านคงมีร้านเดียวสินะคะ"
"ก็บ้านพ่อใหญ่เขานั้นแหละ.... อ่ะถึงละ รออยู่นี้เดียวเฮาไปตามก่อน"
ลุงแสงเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่ดูแตกต่างจากบ้านทั่วไปซึ่งจะใหญ่โตกว่าทุกหลังมีบริเวณบ้านที่แบ่งเขตชัดแจน ข้างๆจะมีร้านขายของที่ว่าจะเป็นพวกของใช้ เครื่องมือมากกว่า"
"ลุงเป็งค่ะ แถวนี้ไม่มีร้านอาหารหรอ" ฉันอดที่จะถามไม่ได้เพราะได้กลิ่นเหมือนย่างอะไรสักอย่างแต่ไม่เห็นจะมี
"บ่มี!!ตางนี้ เขาทำอาหารบ้านไผบ้านมัน จะมีขายคัวกินก็กาดเช้า ชาวบ้านจะไปหาของป่ามาขายกันเอง อยากกินหยังก็ต้องรอวันรุ่ง" อ่องั้นกลิ่นย่างที่ว่าคงจะทำอาหารกันเองภายในครอบครัวสินะ ง่าา~ หิวอ่า
"อิน้อย...เข้ามาในนี่ก่อน"
เสียงลุงแสงร้องเรียกให้ฉันกับนายธีร์เดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านหลังนั้น เราสองคนเดินมาจนถึงหลังบ้าน เจอผู้คนมากมายที่เหมือนกำลังช่วยกันจัดงานอะไรบางอย่างผู้คนนับสิบหันมามองเราเป็นจุดเดียว และคนที่ยืนคุมงานอยู่เป็นชายสูงวัยประมาณหกสิบกว่ารูปร่างท้วม ผูกผ้าขาวม้าที่เอว ยืนถือไม้เท้า คงจะเป็นคนนี้สินะที่ลุงแสงเรียกว่าพ่อใหญ่..
"สวัสดีค่ะ/ครับ" ฉันสองคนกล่าวสวัสดีท่านก่อน
"เอ็งสองคนที่ว่าเป็นชาวเมืองนะหรอ มาๆนั่งก่อน" ฉันเดินตามพ่อใหญ่นั่งใต้ต้นไม้ที่เหมือนจะมีแคร่ไม้ไผ่จัดเป็นโต๊ะ
"แนะนำตัวก่อนนะคะ หนูชื่อพรีม อีกคนชื่อธีร์ค่ะ คุณคงจะเป็นพ่อใหญ่ของที่นี้สินะคะ"
"อ่อ..แม่นแล้วละ ตะกี้ไอ่แสงมันเล่าหื้อฟังแล้วมันบอกว่าจะขอติดรถกลับในเมืองหรอ กว่าจะไปคงต้องรอแห่ม 2-3 วันเพราะพึ่งกลับมาวันวา"
"อ่อ..ได้ครับ .. พอจะมีที่ให้เราพักสักสองสามวันมั้ยครับระหว่างที่รอกลับในเมือง"
"คิงเขาเป็นไผ เข้ามาในหมู่บ้านนี้บ่แม่นเป็นสายหื้อหมู่ค้ายา ยั๊บแม่หญิงหรอ..พ่อใหญ่จะไปหื้อหมู่มันเข้ามาไล่มันออกไป" เสียงชายคนหนึ่งที่ดูอายุราวสามสิบกว่าพูดขึ้นดูไม่สบอารมณ์เท่าไรที่เห็นพวกเราสองคน
"เขาหลงมาเป็นชาวเมือง จะขอติดรถกลับเข้าเมืองเฉยๆ" พ่อใหญ่พูดแย้งขึ้น
"คนชั่วมันมาในคราบคนหลงทางเยอะแยะ" พูดเสร็จเขาก็สบถหัวเสียแล้วเดินจากไปพร้อมคนติดตาม2-3คน อาจจะเป็นพวงพ้องเดียวกัน
"อย่าไปถือสาละ..มันคือไอ่ทิด ตอนเด็กมันเคยถูกหมู่ยั๊บละอ่อน ยั๊บแม่หญิงไปขายแต่มันรอดมาได้แล้วเสียพี่สาวไปมันเลยฝั่งใจ" พ่อใหญ่อธิบายความเป็นมาของชายผู้นั้นที่แท้ก็ฝั่งใจนี่เอง
"แล้วเดียวนี้ยังมีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอยู่มั้ยค่ะ " บ้านป่าแถวนี้เขาเหมือนจะปกครองกันเองมากกว่า อยู่ในเขตประเทศก็จริงแต่ภาครัฐคงดูแลไม่ทั่วถึงขนาดต้องมีตำรวจมาประจำการ
"ไม่มีมาเมินแล้วหล่ะ ตั้งแต่มีหมู่ทหารเข้ามาเขาอยู่แถบชายแดนห่างจากนี้ไปอีก2-3โล อาทิตย์นึงถึงจะสุ่มมาที่หมู่บ้านนี้ที" อ่อ..ค่อยโล่งอกหน่อย
"แล้วคนเหล่านี้เขามาทำอะไรกันที่บ้านพ่อใหญ่ละคะ ดูวุ่นๆเชียว"
"อ่อ..วันรุ่งจะมีงานแต่งลูกสาวคนเขาเลยมาช่วยงาน.. นั้นไงเจ้าสาว ,, คำเฟื่องเอ้ย!!มานี้เลาะลูกเอาน้ำมาหื้อเขาสองคนตวย" พ่อใหญ่เรียกลูกสาวที่ชื่อ'คำเฟื่อง' เธอยังดูเป็นสาวแรกรุ่นที่น่าตาน่ารักอายุน่าจะไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ เดินเอาน้ำมาให้พวกฉันตามคำสั่งของผู้เป็นบิดา
"ยังดูเด็กอยู่เลยทำไมแต่งงานเร็วจัง" ฉันกระซิบคุยกับนายธีร์
"ค่านิยมของคนแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่คนแถบนี้เขาแต่งงานมีครอบครัวกันประมาณนี้แหละ เกินยี่สิบห้าขึ้นไปคือแก่แล้ว" อะเฮือก..เกินยี่สิบห้าคือแก่หรอ แล้วฉันที่จะยี่สิบเก้าแล้วหล่ะ ไม่เห็นจะแก่เลย T_T
...................................
จั่นห้าว* คืออุปกรณ์ล่าสัตว์ชนิดหนึ่งมีการผูกเชือกหรือลวดสลิงไว้กับไกปืนเมื่อมีสัตว์ป่ามาเดินเกี่ยวจะทำให้ปืนลั่นอัตโนมัติ หากคนเดินเกี่ยวอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้แล้วแต่ตำแหน่งที่โดน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 60
Comments
ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆
อัพอีก!ตอนนี้มีภาษาอีสานด้วย!!
2023-07-12
0