ตอนนี้ใกล้เวลาพลบค่ำเข้าเต็มทีแสงค่อยๆลับหายจากขอบฟ้า นี่เราต้องนอนกันที่นี่จริงๆหรอเนี้ยแค่ฉันมองไปรอบๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา
นายธีร์หาฟืนก่อไฟเพื่อพักแรมในคืนนี้ เขาหาไฟแซ็กได้จากกระเป๋ากางเกงของชายแจ็คเก็ตดำ ทำให้คืนนี้ยังพอมีความอุ่นจากองไฟเล็กๆอยู่บ้าง
"อ่ะ..คุณ วันนี้เราคงต้องกินน้ำมะพร้าวประทังชีวิตกันไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่"
เขายื่นลูกมะพร้าวที่ถูกปลอกแล้วให้ฉันพลางปลอกให้ตัวเองอีกหนึ่งลูก ถือว่ายังโชคดีอยู่บ้างที่ต้นมะพร้าวบางต้นไม่ได้สูงมากนัก คนตัวสูงแบบเขาแค่เขย่งนิดหน่อยก็เก็บได้แล้ว...
ฉันนั่งกอดเข่าอยู่หน้ากองไฟด้วยความเย็น เพราะชุดที่ใส่เป็นแค่ผ้าชีฟองบางๆจึงไม่ทำให้อบอุ่นร่างกายเท่าไร เขาสังเกตุเห็นแบบนั้นจึงถอดเสื้อสูทสีดำคลุมให้ฉันแทน ในตัวเขายังคงมีเสื้อเชิ้ตสีขาวชายเสื้อถูกปล่อยออกจากกางเกงให้หลุดรุ่ยปลดกระดุมสองเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกอันกำยำ..
แค่กๆ แค่กๆ
เสียงไอของชายผู้นั้นคนที่ยังรอดชีวิตอยู่ดังขึ้น จากบาดแผลการถูกยิงต่อให้ไม่ใช่จุดสำคัญแต่หากปล่อยไว้แบบนี้นานๆเขาได้เสียเลือดตายจริงๆแน่ และตอนนี้เขาก็ดูหายใจริบรี่เต็มที
" ดื่มนี่ซะถ้ายังไม่อยากตาย" นายธีร์นำน้ำมะพร้าวที่ปลอกเสร็จไปให้แต่กลับถูกชายผู้นั้นปฏิเสธด้วยความยิ่งยโส
"สงสัยอยากตายจริงๆสินะ "
"ถึงแม้จะรอดไปได้พวกมันก็ฆ่าผมตายอยู่ดี"
"นายไม่มีครอบครัวหรอ .. นายมีคนรักมั้ย หรือชีวิตนี้ตัวคนเดียวเลยไม่กลัวตาย"
คำถามนี้ทำให้ชายผู้นั้นนิ่งเงียบไป
"มีสิ! ผมมียาย ใช่ ตอนนี้เขาคงรอผมอยู่" ชายผู้นั้นพูดพลางทำหน้าเศร้า
"งั้นก็กินนี่ซะ เดียวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ว่าจะเอาไงกันต่อ"
นายธีร์ป้อนน้ำมะพร้าวให้ชายผู้นั้นดื่ม เขาดื่มมันด้วยความหิวกระหายเต็มที ไม่นานเขาก็เดินมานั่งตรงข้ามฉันแล้วแคะกินเนื้อมะพร้าวต่อ
"ทำไมนายถึงช่วยมันละ..มันจะฆ่าพวกเรานะ"
"ก็ผมถูกฝึกมาให้ช่วยคน ไม่ได้ถูกฝึกมาให้ฆ่าใครนะ"
"ที่นอนเกลื่อนอยู่นั้นก็ฝีมือนายไม่ใช่หรอ"
"นั่นเขาเรียกว่าป้องกันตัว ถ้ามันไม่ตาย ผมก็ตายและคุณก็ตายด้วย"
แง่~~~~ ใช่แล้ว แค่นึกถึงเหตุการณ์ตอนกลางวันก็ทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัว
"นาย....เออ..คือฉันปวดฉี่อ่ะ ไปส่งหน่อยได้มั้ย" บรรยากาศตอนนี้ทั้งดึกทั้งวังเวง แล้วยังมีศพพวกนี้อยู่ด้วยอีก บรึ๊ยย!!!
"อ่อ..ได้สิ"
ฉันเดินไปข้างพุ่มไม้ แสงจากดวงจันทร์สาดส่องมาให้เห็นเป็นเงาตะคุ่ม นี่จะเป็นครั้งแรกของฉันที่ได้ฉี่แบบ outdoor ระหว่างที่ทำธุระอยู่ ฉันได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว
"นาย..นาย..ยังอยู่มั้ย "เงียบ!! ไม่มีเสียงตอบกลับมาใดๆ มีแต่เสียงเคลื่อนไหวของอะไรสักอย่าง ฉันที่รู้สึกใจเสียรีบทำธุระตัวเองให้เสร็จแล้ววิ่งกรี๊ดดออกมา
หมับ !!
กรี๊ดๆๆๆ มีคนมาโอบตัวฉันจากด้านหลัง ฉันดิ้นไม่ลืมหูลืมตา
"คุณ ๆ ผมเอง จะรีบวิ่งไปไหน มันไม่ใช่ทางนั้น"
ฉันที่ได้สติ ทุบเข้าที่อกเขาไปหลายที บึกๆๆ
"นายจะแกล้งฉันทำไม รู้อยู่ว่าฉันกลัว เมื่อกี้ฉันเรียกทำไมไม่ขานรับหล่ะ"
"ผมก็ยืนฉี่อยู่ไง อยู่ข้างๆคุณนั่นแหละ"
"งั้นเสียงที่ฉันได้ยินเมื่อกี้ ก็คือ เสียง นายฉี่หรอ อี๋!!!"
พูดเสร็จฉันสบถอย่างหัวเสีย เดินเร่งฝีเท้ามายังจุดที่นั่งเดิม พลางมองหน้าคนที่เดินตามมาอย่างหงุดหงิด
"ดึกแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นมากละคุณไปนอนบนเรือละกัน"
"แล้วนายละ "
"ผมจะเฝ้ายามเอง ง่วงเดียวก็งีบหลับแถวนี้แหละ คุณนอนได้มั้ย หรือจะนอนกับผม"
"ไม่อ่ะ ,,ฉันนอนได้ เดียวก็คงเช้าแล้ว"
ครั้งแรกของฉันอีกแล้วที่ต้องมานอนแบบไม่มีฟูกนุ่มๆผ้าห่มอุ่นๆ คิดถึงเตียงที่บ้านจัง ..ภายในเรือยังพอมีที่ให้ฉันหลบอยู่บ้าง ด้วยเสื้อสูทของเขาสามารถพลางร่างกายฉันได้ กลิ่นกายของเขาที่ติดกับเสื้อทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจเหมือนเขาอยู่ข้างๆ..
คลื่น~~ คลื่น~~
เสียงคลื่นกระทบโขดหิน เรือที่ถูกจอดนิ่งๆเมื่อคืนตอนนี้ถูกเคลื่อนไหวตามจะหวะคลื่นที่กระทบฝั่ง
อ๊วกกก!!!
ฉันถูกปลุกเพราะสิ่งนี่ทำให้ฉันเวียนหัวไม่ไหว ฉันมองเข้าฝั่ง เห็นชายผู้นั้นยังคงถูกมัดที่โขดหินเหมือนเดิม ที่เขาแน่นิ่งไปนั้นเขาหลับหรือตายแล้วนะ
"เฮ้ !! คุณตื่นละหรอ "
ฉันหันมองไปยังต้นเสียง นายธีร์ที่ยืนตรงโขดหินเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง
"นายทำอะไรน่ะ"
"ผมเห็นปลาเล็กๆอยู่ตรงโขดหินนี่กลุ่มนึง กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาขึ้นมายังไง
ฉันลงเรือเดินลุยน้ำไปหาเขาเพื่อมองดูปลากลุ่มนั้น
"อาหารเช้าของเราวันนี้"
หาาา.. เขาจะทำเมนูอะไรละเนี้ย จะเอามาเสียบไม้ย่างแบบในหนังยังทำไม่ได้เลย ตัวเล็กนิดเดียวเอง เขาครุ่นคิดอยู่นานจนเหลือบมองมาที่ชายกระโปงฉัน
"ชายกระโปงคุณผมขอนะ "
"ห่ะ!!! ไม่นะอย่ามายุ่งกับชายกระโปรงฉัน" ฉันรีบเดินหนี แต่ด้วยความยาวของมันทำให้ฉันเดินลุยน้ำไม่ถนัด
"เห็นมั้ยยาวมากไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ตัดออกครึ่งนึงเถอะ"
"ม่ายยยยยย~" ฉันพยายามวิ่งหนีแต่ไม่ทัน
เขาจับขาฉันไว้ จนฉันล้มลง
"นิดเดียวเอง "
แคว๊กกกก!!!!
เสียงฉีกกระโปรงฉันเป็นทางขวาง จากที่ยาวถึงข้อเท้าเหลือถึงแค่หัวเข่าเอง
"ง่าาาาาา~ ใจร้ายย!!"
"คุณก็อย่าใจแคบสิ ช่วยๆกันหน่อย" เขาเอาชายกระโปงฉันมัดขึงกับง่ามไม้ทำเป็นกระชอนตักปลา
ควับ! ควับ! เขาช้อนอยู่2-3ครั้ง
"นี่ไงได้แล้วเห็นมั้ย "เขาโชว์ผลงานที่เขาทำขึ้น ว่ามันตักปลาได้จริง ปลาตัวเล็กตัวน้อยดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในกระชอนที่เขาทำ
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบสาย เขาห่อปลาจากใบมะพร้าวที่เขาสานเองกับมือแล้วปิ้งไฟห่างๆ
"นายทำอะไรพวกนี้เป็นด้วยหรอ"
"ตอนเด็กๆผมเคยช่วยป้าห่อขนมขายตามตลาดอ่ะ ตอนนั้นเขาจะใช้ใบตองแต่นี่ก็พลิกแพลงเองลองใช้ใบมะพร้าวดูก็พอได้อยู่ ..นี่เห็นมั้ยสุกพอดี"
ฉันว้าวอยู่พอสมควรอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น อะไรที่ไม่เคยเจอก็ได้เจอ เขาเอาปลาแบ่งมาให้ฉันแม้ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรแต่รสชาตมันก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว
นายธีร์ลุกไปปลุกชายผู้นั้นที่ยังคงหายใจโรยริน
"ถ้าไหวก็ตื่นมาทานไรสักหน่อย ..ถ้าเกิดโชคดีวันนี้อาจมีคนมาตามหา แต่ถ้าโชคร้ายคงต้องได้รอความตายอยู่ที่นี่จริงๆแหละ"
"แก้มัดผมก่อนสิ..เดียวผมกินเอง"
เขาแก้มัดชายผู้นั้นพร้อมพามานั่งด้วยกัน ฉันรีบเขยิบไปนั่งใกล้นายธีร์ทันทีเพื่อความปลอดภัย ท่าทางชายผู้นั้นที่ดูอิดโรยพยายามประคองตัวเองหยิบปลาเข้าปากด้วยมือที่สั่นระวิง
"ถ้าวันนี้ไม่มีคนมาช่วยเราจริงๆนายจะทำไงอ่ะ เราอยู่กับศพพวกนี้มาคืนนึงแล้วนะ ถ้านานไปกว่านี้ศพได้เน่าแน่ ไม่อยากจะนึกภาพตามเลย บรึ๊ยยย~~~" ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาจริงๆ
"ผมกะไว้ว่าถ้าไม่มีใครมาจริงๆคงต้องขับเรือไปอยู่อีกฝั่งผมก็คงไม่อยู่กับศพอีกเป็นคืนที่สองเหมือนกัน"
"งั้นกินเสร็จเราไปกันเลยมั้ย"
ไม่นานชายผู้นั้นก็ได้เอ่ยขึ้น
"เดียวผมพาพวกพี่ออกไปจากที่นี่เอง.....แต่"
...................................................................
เกิดเป็นนางเองเรานี้ชีวิตช่วงนี้ดูยุ่งเหยิงหน่อยๆ ชายผู้นั้นจะพาออกไปแล้วยังมีแต่!อะไรอีกละเนี้ย..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 60
Comments