ตึ่ง!!
เสียงปิดประตูรถ รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจะขับรถออกไป
"แย่แล้ว !! รีบลงเถอะ"
แต่ไม่ทันการเสียแล้ว รถได้เคลื่อนตัวออกไปจึงทำให้ฉันกับนายธีร์ติดอยู่หลังรถบรรทุกประมาณ 6 ล้อ ที่คันไม่ใหญ่มาก คุมด้วยผ้าใบสีทึบ รถคันนี้เหมือนจะบรรทุกอะไรมาก่อนหน้านี้สักอย่าง ฉันสัมผัสได้ว่ามีเศษผักจำนวนมากตกเกลื่อนอยู่
"เราจะทำไงต่อกันดีละ " ฉันรู้สึกใจเสียอีกครั้ง
"ผมว่าเราอยู่แบบนี้ไปก่อนละกัน เดียวจอดตรงไหนค่อยลงตอนนั้น อย่างน้อยก็คิดซ่ะว่าช่วยเราหนีจากจุดนี้ก่อนละกัน รถบรรทุกแบบเนี้ย ยังไงก็โดนเรียกทุกด่านแน่ๆ เพราะดูแล้วแค่ขนผักไม่น่าจะต้องใช้ผ้าใบทึบขนาดนี้"
"ฉันก็ว่ากลิ่นในนี้มันแปลกๆเหมือนไม่ได้มีแค่ผักอ่ะ จนฉันเวียนหัวจะตายแล้วเนี้ย"
"ทนหน่อยนะคุณ .. อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องอยู่ที่เกาะนั้น"
"ตอนนี้พวกมันก็รู้แล้วว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ แล้วไอ่เด็กนั้นจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย" ฉันแอบเป็นห่วงชายวัยรุ่นคนนั้นเหมือนกันอายุยังน้อยแท้ๆไม่น่าหลงผิดเลย
รถเคลื่อนตัวออกไปนานพอสมควรจนตอนนี้ไม่รู้เลยว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ไหน จนฉันงีบหลับไปด้วยความเพลีย
โอ้ย!! หัวฉันโขกกับอะไรบางอย่าง อาจเป็นจังหวะตอนที่รถเคลื่อนตัวตกหลุม ฉันตื่นมาในอ้อมกอดนายธีร์ที่เขาโอบประคองฉันไว้ เขาก็งีบหลับไปพร้อมฉันเหมือนกัน เสื้อผ้าที่เปียกโชกก่อนหน้านี้ตอนนี้ใกล้จะหมาดๆเต็มที
"นาย นี่เราหลับกันนานเท่าไรแล้วเนี้ย เสื้อผ้าจนจะแห้งอยู่ละ"
"นั้นสิ " เขาคลายอ้อมแขนออกจากฉันพลางแง้มผ้าใบดูบรรยากาศภายนอกรถ
"แย่ละสิ!!"
"ทำไม!"
"ใกล้จะค่ำแล้ว งั้นก็แสดงว่ารถคันนี้ไม่ได้จอดเลยละสิ ..."
"หรืออาจจะจอดแล้ว..เรามัวแต่หลับกันรึเปล่า"
"ไม่หรอก รถคันใหญ่แบบนี้เบรคทีทำไมจะไม่รู้ มันไม่ได้นุ่มนวลแบบรถยนต์คันหรูของคุณแน่.....ผมลองคิดๆดูน่าจะผ่านมาหลายจังหวัดแล้วละถ้าไม่ขึ้นเหนือก็อาจจะล่องใต้"
"เราบอกให้เขาจอดดีมั้ย หรือไม่ก็ขอความช่วยเหลือจากเขาไปเลยก่อนมันจะเลยไปไกลกว่านี้"พูดเสร็จฉันรีบคลานไปหน้ารถกะจะทุบกระจกจากด้านหลังให้เขาจอด
"คุณหยุดก่อน .. คุณว่ามันไม่แปลกๆหรอ รถคันนี้มันไม่น่าขับยาวจนไม่จอดพักได้ขนาดนี้หรอก ละยิ่งเป็นรถที่ผ้าใบคุมทึบแบบนี้เจอด่านตรวจที่ไหนก็ต้องจอดอยู่แล้วแต่นี้ไม่!! แล้วคุณคิดว่าขนผักมันต้องใช้ผ้าใบทึบขนาดนี้มั้ย นอกเสียจาก..มันจะไม่ได้ขนแค่ผักอย่างเดียวนะสิ"
จังหวะที่ฉันกำลังจะคลานถึงหน้ารถฉันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ผัก ติดมือฉันอยู่
"นาย ดูนี่เหมือนจะเป็นขนนก หรือ ขนแมว ก็ไม่รู้ ติดมือฉัน"
"เป็นอย่างที่คิดจริงๆ"
"อะไรอี๊กกกกก" นายนี่มันคิดอะไรดีๆบ้างเถอะแต่ละอย่างนี่นะ
"จริงๆแล้วรถคันนี้มันขนสัตว์ป่าด้วยนะสิ แค่เอาผักบังหน้า ละที่มันไม่จอดเพราะต้องทำรอบ หรือไม่ก็อาจจะจ่ายส่วยไว้หมดแล้ว "
เอี๊ยดดดดดดดด!!!!!~~ เสียงเบรครถจนหัวฉันทิ่ม
นายธีร์แง้มผ้าใบดูบรรยากาศนอกรถ ตอนนี้เหมือนมีแต่ป่า กับกระโจมที่คล้ายๆตั้งแคมป์ มีกองไฟ และมีชายฉกรรจ์เดินเฝ้ายามไปมานับสิบ และยังมีรถอีกหลายๆคันจอดเรียงกัน ภายในกระโจมมีผู้หญิงแรกรุ่นเดินเข้า 6 - 7 คน
"ผมว่าท่าจะไม่ดีแล้วหล่ะ... นี่น่าจะเป็นแหล่งกบดานพวกลักลอบค้าสัตว์ แต่มีผู้หญิงวัยแรกรุ่นเดินเข้าไปในกระโจม 6 - 7 คนเห็นจะได้"
ตึ่ง!!!! เสียงปิดประตูบวกกับรถสั่นเล็กน้อย คนขับน่าจะลงจากรถแล้ว
"เดียวผมจะลงจากรถไปดูลาดเลาก่อนนะ คุณรอผมอยู่ตรงนี้ ที่นี่น่าจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุดแล้วสำหรับคุณตอนนี้ "
"แล้วเราจะหนีไปไหนได้อีกละ ฉันกลัวไปหมดแล้วนะ "ฉันพูดพลางเสียงสั่นน้ำตาเริ่มคลอเบ้า เขาจับไหล่ฉันไว้พร้อมพูดว่า
"เชื่อใจผมนะ ผมจะพาคุณกลับได้แน่นอน ขอแค่คุณเชื่อใจผมแค่นั้น" ฉันทำได้แค่พยักหน้าตอบกลับ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ตอนนี้คือเชื่อใจนายสินะ
เขาแง้มผ้าใบลงไปดูลาดเลาก่อน เขาบอกให้ฉันรออยู่ที่นี่พอมีทางหนีทีไล่แล้วเดียวเขาจะกลับมา เพราะรถคันนี้จอดอยู่คันสุดท้ายพอดี ฉันรออยู่ด้วยความหวาดระแวง
แคว๊กกก!!!~~~
เสียงฉีกผ้าใบดังขึ้น ฉันตกใจเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เป็นชายร่างยักษ์คนนึง
"เฮ้ยยย!! พวกมึงง มีผู้หญิงอยู่ที่นี่คนนึงว่ะ ไหนบอกว่ารอบนี้ได้มาแค่ 7 คนไงว่ะ" ชายร่างยักษ์ตะโกนเรียกพักพวก ฉันที่กลัวจนตัวสั่น ทำไงดี นายธีร์ล่ะอยู่ไหนถูกพวกมันจับตัวได้หรือป่าว หรือเขาหนีไปแล้ว ในใจฉันทั้งโกรธทั้งเป็นห่วง
กรี๊ดๆๆๆ~~ "ปล่อย!อย่ามาจับตัวฉันนะ"
ชายร่างยักษ์กระโดดขึ้นรถพร้อมจะจับตัวฉัน ฉันที่เขยิบตัวเองจนติดกระจกฝั่งคนขับไม่ทันการมันกระชากแขนฉันให้ลุกขึ้นแล้วลากลงรถไปยังกระโจม
ภายในนั้นมีหญิงสาววัยแรกรุ่นอีก 6 -7 คนที่เหมือนจะถูกจับตัวมา บางคนยังร้องไห้ไม่หยุด บางคนร้องจนตาบวม แต่บางคนก็เหมือนจะรู้ชะตากรรมตนเองอยู่แล้วเลยได้แต่นั่งเงียบ
"อ่ะ! เข้าไป " ฉันถูกมันเวี่ยงจนไปนังติดกับผู้หญิงคนนึง
"เฮ้ย !! แกมานี่ดิ มึงรู้จักคนนี่รึป่าวกูเจออยู่หลังรถมึงอ่ะ" ชายร่างยักษ์เรียกชายอีกคนมาน่าจะเป็นคนขับรถคันดังกล่าว
"ไม่นะพี่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันขึ้นมาตอนไหน "
ชายร่างยักษ์เดินมาจับคางฉันเงยขึ้น
"ไม่เลวนิ หน้าตาจัดว่าสวย จะใครก็ช่างที่เข้ามาในนี่ จะออกไปไม่ได้แน่นอน เดียวสองทุ่มเริ่มส่งตัวเข้าเขตเลย" ฉันปัดมือหยาบๆของมันออก
ฉันมองไปรอบๆทั้งกลัวทั้งใจเสีย อีกใจก็พอจะมีความหวังว่านายธีร์จะต้องมาช่วยฉัน อีกใจก็แอบกังวลว่าเขาจะหนีไปแล้วหรือป่าว แต่ต้องข่มเก็บอาการไว้
"พวกเธอทำไมถึงมาที่นี่ได้ละ" ฉันอดที่จะถามหญิงสาวเหล่านั้นไม่ได้
"ถูกหลอกมานะสิ ..บอกจะให้มาทำงานเมืองนอกที่ไหนได้นอกเมืองซ่ะงั้น ฮือออๆ "
ฉันเริ่มใจเสียอีกครั้งแล้วงานที่ว่าคืองานอะไร
"ทำงานอะไรหรอ" ขออย่าเป็นอย่างที่ฉันคิดละกัน
"นี่เธอไม่รู้จริงๆหรือบื้อกันแน่ ห่ะ! จะงานอะไรอีกละ ก็ขายตัวไง"
ฉันสตั้นกับคำตอบที่ได้ยิน ไม่นะนี่ฉันมาถึงจุดนี้แล้วหรอเนี้ย ทำไงดีฉันจะต่อรองอะไรพวกมันได้บ้าง
"แล้วที่เราอยู่นี่คือที่ไหนอ่ะ " ฉันยังคงถามพวกเขา หญิงสาวที่ดูเงียบๆเมื่อกี้ก็เริ่มพูดขึ้น
"ก็แถบชายแดนไงละ เธอมาถึงที่นี่ได้ไงถึงไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน ถ้าจะบอกว่าหลงมา ก็เสียใจด้วยเธอมันซวยเอง " นี่ชีวิตฉันมันจะดิ่งลงเหวได้ชั่วพริบตาเลยหรอหลายวันก่อนฉันยังเป็นคุณหนูอยู่เลย
"ไป๊! พาพวกมันออกไป อิเจ๊มันรอนานแล้ว "ชายร่างยักษ์พูดถึงบุคคลที่สาม อิเจ๊ที่ว่าต้องเป็นแม่เล้าแน่ๆ ไอ่พวกชั่ว
ฉันถูกพวกมันทั้งสามคนลากไปขึ้นรถพร้อมกับหญิงสาวอีก 7 คน แย่ละสิ.. พวกมันจะพาฉันไปไหนละเนี้ย แล้วนายธีร์อยู่ไหนทำไมยังไม่มาช่วยฉันสักที ฉันจะทำยังไงดีระหว่างที่นั่งอยู่นั้นน้ำตาฉันก็ไหลออกมาด้วยความอัดอั้นที่จะเก็บอาการไม่ให้กลัวอีกต่อไปได้
"ลงมาอย่าชักช้าเดี๋ยวพ่องก็ยิงไส้แตกซ่ะนิ"พวกมันคนนึงเปิดประตูพร้อมชักปืนขู่ เพราะหญิงสาวทั้งหลายมีการขัดขืนไม่อยากตามมันไป
"เร็ว!"
ไม่นานทั้งหมดก็ได้ลงรถรวมถึงฉันด้วยฉันมองไปรอบๆ เหมือนเป็นสถานบังเทิงก็ไม่เชิง เพราะพวกมันพาเข้าหลังร้าน คาดว่าข้างหน้าคงจะเป็นแหล่งอโคจรเต็มรูปแบบ เพราะมีผู้คนเดินเข้าออกให้ทั่ว
"ช้าจังนะพวกมึง เอาเด็กพวกนี้ไปที่ห้องฉันก่อน ใครพร้อมจะให้เริ่มงานเลยวันนี้แขกเยอะฉิบหาย" นี้คงจะเป็นอิเจ๊ที่พวกมันพูดถึงสินะ ลักษณะการแต่งตัวคือใช่เลย
ภายในห้องถูกจัดแจงอย่างดี ทั้งโต๊ะโซฟา
"เด็กๆเข้ามาแล้วนั่งก่อนจ๊ะ เดียวจะขอแนะนำตัวก่อนนะ ฉันเป็นผู้ดูแลในส่วนของพวกเธอ พวกเธอจะเรียกฉันว่าเจ๊ก็ได้จ๊ะ เดียวฉันจะมาบอกรายละเอียดการทำงาน...."
"ไม่!! ฉันไม่พร้อมจะทำงานนี้ พวกแกทั้งหมดหลอกฉันมา บังคัญขู่เข็นให้ฉันมาอย่างไม่เต็มใจพวกแกมันคนชั่ว ที่หากินแต่เรื่องต่ำๆ" หญิงสาวที่ร้องไห้ไม่หยุดตลอดทางเกิดโวยวายขึ้นมา
เพี้ยะ !!!! เสียงถูกตบหน้าอย่างแรง
"พวกมึงมานี่ดิมีม้าพยศอยู่ตัวนึงเอาไปขัดเกลาที สงสัยม้าตัวนี้จะยังไม่พร้อมทำงาน"
"ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ทำงานพวกนี้แน่ ปล่อย" เพี๊ยะ !!! หญิงสาวคนนั้นทั้งโวยวายทั้งดิ้นจนถูกไอ่ร่างยักษ์ตบด้วยหลังมือแล้วลากออกห้องไป พร้อมเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา ฉันได้แต่ยืนอดกลั้นฝืนทนเก็บกดทั้งความกลัวความโกรธไว้
"มีใครไม่พร้อมทำงานอีกมั้ยจ๊ะ ...เดียวเจ๊จะให้ไปพักผ่อนแบบคนตะกี้ก่อน"
คนที่เหลือต่างเลิ่กลั่กมองหน้ากันไปมา
"อิเด็กคนนี้ถ้าขัดเกลาดีๆอาบน้ำแต่งตัวซักหน่อย เป็นตัวทำเงินได้เลยนะ ดูตอนนี้สิมอมแมมเชี่ยว" อิเจ๊นั้นชี้มาทางฉัน
"ถ้าเป็นเด็กดี พูดง่าย อยู่เป็น เธอจะมีเงินใช้ไม่ขาดแน่นอนจ่ะ" แหม่!! ฉันไม่ทำงานแบบนี้ฉันก็มีกินมีใช้สบายไปทั้งชาติค๊าา อิผี!! เก็บไว้ในใจไม่กล้าพูดหรอก
"อ่ะ..นี่ชุดฟอร์มสำหรับคืนนี้ ไปแต่งตัวได้แล้วอีก20นาที มาเจอกันที่ห้องนี่ "
..........................................................................
ยัยพรีมเอ้ย!! เธอนี่มันหนีเสือป่ะจระเข้จริงๆเลย แล้วธีร์หายไปไหนรีบไปช่วยน้องเร็ว!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 60
Comments
ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆
ไรท์ๆมีแผนจะทำQ&Aรึปล่าว~
2023-07-06
0