เปิดหน้าตำรา บอกเล่าตำนานเล่นใหม่

เปิดหน้าตำรา บอกเล่าตำนานเล่นใหม่

เรื่องราวของผู้พิทักษ์

ชิโระยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของป่าไม้ กลิ่นหอมของดอกไม้ราตรีลอยคลุ้งในอากาศ ขับเน้นความเงียบงันรอบกาย ดวงตาสีแดงเรืองแสงของเธอจับจ้องไปยังความมืดราวกับสามารถมองเห็นทุกสิ่ง แม้ในเงารัตติกาล เส้นผมยาวพลิ้วไหวตามสายลม แสงจันทร์สาดกระทบประกายไฮไลท์สีมิ้นท์ ทำให้เธอดูราวกับภาพมายาที่กำลังเคลื่อนไหว

เธอไม่พูดอะไร แต่ลมหายใจหนักแน่นที่เปล่งออกมานั้นบ่งบอกว่าเธอกำลังครุ่นคิด

“โลกนี้ไม่เคยบอกเราว่าใครคือผู้คุ้มครองที่แท้จริง บางสิ่ง… ต้องกระทำโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน”

เสียงของชิโระดังก้องกังวานในความเงียบรอบตัว

โซระ ผู้ยืนอยู่ข้างเธอ ค่อยๆ หันมามองด้วยสายตานิ่งสงบ ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีแดงเรืองแสงเช่นกัน ความเยือกเย็นในท่วงท่าของเขาทำให้ทุกสิ่งรอบตัวดูเหมือนหยุดนิ่ง

“การปกป้อง… ไม่จำเป็นต้องอวดอ้าง สิ่งสำคัญคือการรักษาความสงบ”

เสียงทุ้มของเขาเปล่งออกมาด้วยความหนักแน่นและมั่นคง

เด็กๆ ที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากทั้งสอง เงยหน้ามองด้วยแววตาสงสัย ก่อนที่เด็กคนหนึ่งจะยกมือขึ้น

“ทำไมต้องมีทั้งแสงและความมืดครับ?” เสียงใสซื่อของเด็กวัยหกขวบเอื้อนเอ่ย

ชิโระยิ้มบางๆ แม้ว่าอยู่ในความมืด แต่ประกายอ่อนโยนในดวงตาของเธอยังคงมองเห็นได้

“เพราะแสงทำให้เรารู้จักความมืด และความมืด… ก็ทำให้เราเข้าใจคุณค่าของแสง”

เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงไว้ด้วยความลึกซึ้ง

เด็กอีกคนเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะถามต่อ

“แล้วทำไมต้องมีคนดูแลทั้งแสงและความมืด?”

โซระยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่ฉาบฉวย เขาพยักหน้าและกล่าวด้วยเสียงสงบ

“เพราะความสมดุลของโลก ต้องอาศัยทั้งสองสิ่ง”

เด็กคนที่สาม ซึ่งอายุมากกว่าเล็กน้อย มองดูพวกเขาด้วยสายตาครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้

“แล้วเราจะช่วยโลกนี้ได้อย่างไร?”

ชิโระจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้า เธอเดินเข้าไปใกล้ นั่งลงข้างๆ พวกเขา แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่หนักแน่น

“เพียงแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง… โดยไม่ต้องการการยอมรับจากใคร”

โซระเงยหน้ามองท้องฟ้า ซึ่งเริ่มถูกปกคลุมด้วยม่านรัตติกาล

“บางครั้ง… การปกป้องไม่จำเป็นต้องให้ใครล่วงรู้”

เสียงของเขาเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

ชิโระหันไปสบตาเขา ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แล้วกล่าวเสริม

“บางครั้ง… เราแค่ต้องทำหน้าที่ของตนเอง โดยไม่ต้องการคำขอบคุณ”

สายลมเย็นพัดผ่าน ใบไม้ไหวระริก แสงสุดท้ายของวันเลือนหายไป ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นม่วงเข้ม ก่อนจะค่อยๆ กลืนไปในความมืด

เด็กๆ ยังคงเงียบ นั่งครุ่นคิดถึงคำพูดของทั้งสองราวกับกำลังค้นหาคำตอบในใจ

ท่ามกลางความเงียบสงัด ชิโระเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“บางครั้ง… เราไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็นเรา เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อให้ใครรับรู้”

โซระมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่เริ่มเลือนราง เสียงของเขาเบาราวกับกระซิบ แต่กลับก้องกังวานในจิตใจของทุกคน

“บางครั้ง… การซ่อนตัวก็มีเหตุผลของมัน”

ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่ว ทั้งสองยังคงยืนเคียงข้างกันอย่างมั่นคง ขณะที่เด็กๆ จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดคำนึง

ค่ำคืนนี้ยาวนาน และโลกก็ยังคงดำเนินต่อไป แม้ไม่มีใครรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัด… เพื่อปกป้องสิ่งที่ควรค่าแก่การปกป้อง

ค่ำคืนอันเงียบสงัดโอบล้อมพวกเขาไว้

ชิโระยืนแน่วแน่ ดวงตาสีแดงเรืองแสงของเธอส่องประกายดั่งอัญมณีท่ามกลางความมืด เสียงลมหายใจของเด็กๆ ยังแว่วมาเบาๆ พวกเขายังนั่งอยู่ตรงนั้น ซึมซับทุกถ้อยคำราวกับกำลังพยายามเข้าใจสิ่งที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะกล่าวออกมาเป็นคำพูด

โซระยกมือขึ้นแตะด้ามดาบที่สะพายอยู่ข้างหลัง สัมผัสเย็นเฉียบของโลหะทำให้เขารู้สึกมั่นคงยิ่งขึ้น เสียงใบไม้เสียดสีกับสายลมดังแผ่วเบา ราวกับป่ากำลังเฝ้าฟังการสนทนาของพวกเขา

“เมื่อถึงเวลา… เจ้าจะเข้าใจเอง”

เสียงของเขาเบาและเรียบง่าย แต่กลับก้องกังวานในใจของเด็กๆ ทุกคน ดวงตาเล็กๆ ที่มองขึ้นมายังพวกเขาเต็มไปด้วยคำถาม แต่ไม่มีใครพูดออกมา

ชิโระหันไปมองโซระ สายตาของทั้งสองสบกันเพียงครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพยักหน้าเบาๆ ราวกับเข้าใจโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ

“เราไปกันเถอะ”

เธอกล่าว ก่อนจะก้าวถอยหลังไปเพียงไม่กี่ก้าว ร่างของเธอค่อยๆ จางหายไปในเงามืดราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา

โซระมองเด็กๆ อีกครั้ง ดวงตาของเขาสบกับเด็กคนสุดท้ายที่ยังจ้องเขม็งมาทางเขา เด็กคนนั้นอายุราวสิบปี ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความสงสัย

“ข้าจะได้เจอท่านอีกไหม?”

เสียงของเด็กน้อยสั่นเครือเล็กน้อยแต่ก็เต็มไปด้วยความหวัง โซระมองเขาเงียบๆ ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มบางเบา

“เมื่อถึงเวลา… เจ้าจะรู้ว่าเราไม่เคยจากไปไหน”

แล้วร่างของเขาก็จางหายไปในสายลม ทิ้งไว้เพียงเงาเลือนรางและค่ำคืนที่ยังคงดำเนินต่อไป

เด็กๆ ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองไปยังความว่างเปล่าที่ทั้งสองเคยยืนอยู่ สายลมเย็นพัดผ่าน ทำให้ใบไม้แห้งปลิวล่องลอยราวกับกำลังส่งคำสัญญาที่ไม่อาจได้ยินไปยังที่ใดที่หนึ่ง

และในความเงียบนั้น… เด็กคนหนึ่งยกมือขึ้นแตะที่อกของตนเอง หัวใจของเขาเต้นแรงกว่าปกติ

เขายิ้มบางๆ

“พวกเขายังอยู่… เสมอ”

เด็กชายกำมือแน่น รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่ยังเต้นแรงจากบทสนทนาเมื่อครู่ คำพูดของโซระยังดังก้องอยู่ในความคิด “เราไม่เคยจากไปไหน”

สายลมเย็นพัดผ่านใบไม้แห้งให้ปลิวลอยขึ้นไปในอากาศ ราวกับโลกกำลังตอบรับความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ เด็กๆ ที่เหลือค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด บางคนยังเงียบงัน บางคนเหลียวมองรอบตัวเผื่อจะพบร่องรอยของผู้มาเยือนในยามราตรี

“เรากลับกันเถอะ” เสียงของเด็กคนหนึ่งดังขึ้น ทำลายความเงียบที่ปกคลุม พวกเขาพยักหน้าให้กัน ก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากบริเวณนั้น

แต่ในขณะที่พวกเขาหันหลังกลับ เด็กชายที่เป็นคนสุดท้ายหยุดฝีเท้า ดวงตาของเขายังจับจ้องไปที่เงามืดใต้ต้นไม้ใหญ่ที่โซระเคยยืนอยู่ ราวกับกำลังคาดหวังว่าจะได้เห็นเงาร่างนั้นอีกครั้ง

“ข้าจะรอ…”

เขากระซิบเบาๆ ให้กับค่ำคืน ก่อนจะเร่งฝีเท้าตามเพื่อนๆ ไป

——

ณ ป่าลึกซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป

ชิโระยืนพิงต้นไม้ใหญ่ ดวงตาสีแดงเข้มของเธอจับจ้องไปยังดวงจันทร์ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า ความคิดของเธอล่องลอยไปยังดวงตาคู่นั้น… ดวงตาของเด็กชายที่มองพวกเขาด้วยความมุ่งมั่นและคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ

“เขาจะเป็นคนที่ใช่หรือเปล่า?”

เสียงทุ้มของโซระดังขึ้นจากด้านข้าง ชิโระไม่ตอบ เธอเพียงแค่หลับตาลง ปล่อยให้สายลมพัดผ่านร่างของเธอไป

“เวลาจะเป็นตัวตัดสิน”

เธอเอ่ยเบาๆ ก่อนจะหายตัวไปในเงามืด ทิ้งให้โซระยืนอยู่เพียงลำพัง เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฟ้า

“เวลาสินะ…”

เขาพึมพำกับตัวเอง ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงลงมายังร่างของเขา เงาของโซระทอดยาวไปตามพื้นดิน แล้วค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับสายลมยามค่ำคืน

—–

ในโลกที่ความจริงและเงามืดยังคงทับซ้อนกัน

บางสิ่งกำลังจะเปลี่ยนไป…

ค่ำคืนดำเนินต่อไปอย่างเงียบงัน

เสียงสายลมแผ่วเบาพัดผ่านป่าทึบ ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุม มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องผ่านกิ่งไม้ลงมาเป็นระยะ ราวกับกำลังจับจ้องมองเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เด็กชายก้าวเดินไปตามเส้นทางที่ทอดยาวกลับบ้าน แต่ในใจของเขายังคงเต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับโซระและชิโระ พวกเขาเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงปรากฏตัวในค่ำคืนนี้? และคำพูดสุดท้ายที่โซระเอ่ยออกมา…หมายความว่าอย่างไร?

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด จู่ๆ สัมผัสเย็นยะเยือกก็ไหลผ่านผิวกาย ราวกับมีใครบางคนเฝ้ามองจากที่ไกลๆ

เด็กชายหยุดเดิน หันขวับกลับไปมองเบื้องหลัง

เงามืดใต้ต้นไม้ไหวไหว แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น

เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะยกมือขึ้นแตะหน้าอกที่หัวใจยังเต้นแรง ไม่ใช่เพราะความกลัว…แต่เพราะความรู้สึกบางอย่างที่บอกเขาว่า เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้

ไม่ว่าความลับที่ซ่อนอยู่คืออะไร

เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้

——

เบื้องหลังม่านรัตติกาล

เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือกิ่งไม้สูง สายตาของเธอมองลงมายังเด็กชายที่เดินห่างออกไป

“เขาจะค้นหาความจริงจนถึงที่สุด”

เสียงของหญิงสาวดังขึ้น ขณะที่เธอยืนอยู่ในเงามืด ชุดสีดำสนิทพลิ้วไหวไปตามสายลม เส้นผมสีเงินส่องประกายจางๆ ใต้แสงจันทร์

“และเมื่อวันนั้นมาถึง…พวกเราจะรอเขาอยู่ตรงนี้”

เธอหันหลังกลับ ก้าวเดินเข้าไปในเงามืด

และค่ำคืนยังคงดำเนินต่อไป…

สายหมอกแห่งอดีต

ค่ำคืนยังคงเงียบงัน มีเพียงเสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ให้ไหวเอน เส้นทางข้างหน้าดูเลือนรางยิ่งขึ้นราวกับจมอยู่ในม่านหมอกที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามา

เด็กชายชะงักฝีเท้า สัญชาตญาณบางอย่างทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติ อากาศรอบตัวเย็นลงผิดธรรมชาติ ราวกับฤดูหนาวได้มาเยือนทั้งที่ไม่ควรจะเป็น

“ใครอยู่ตรงนั้น…”

เสียงของเขาแผ่วเบา ทว่าก้องกังวานในความเงียบ วินาทีนั้นเอง หมอกสีเทาที่ปกคลุมเบื้องหน้าก็ค่อยๆ แหวกออกเผยให้เห็นเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่

ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมสีดำ ผมยาวสีเงินปลิวไสวตามสายลม ใบหน้าของเขาถูกบดบังด้วยหน้ากากครึ่งซีก เหลือเพียงดวงตาสีอำพันที่สะท้อนแสงจันทร์

“เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่หรือ?”

เสียงของอีกฝ่ายราบเรียบ ทว่ากลับแฝงไปด้วยอำนาจบางอย่างที่กดทับจนเด็กชายรู้สึกหนักอึ้ง

“ข้าแค่อยากรู้ความจริง…”

เด็กชายเอ่ยตอบทั้งที่หัวใจเต้นแรง เขารู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่อาจละสายตาไปจากอีกฝ่ายได้

ชายปริศนายิ้มบางๆ ก่อนก้าวเข้ามาใกล้ เสียงฝีเท้าเงียบเชียบราวกับไร้ตัวตน

“ถ้าเจ้าต้องการความจริงจริงๆ ก็จงตามข้ามา”

เขายื่นมือออกไป ม่านหมอกที่รายล้อมเริ่มหมุนวนราวกับพายุที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่ง

เด็กชายมองมือที่ยื่นมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับชายตรงหน้า

เขาจะเลือกเดินต่อไป หรือถอยกลับกันแน่?

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!