บทสรุปแห่งสงครามและจุดจบของโลกเก่า
เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ ท้องฟ้าที่เคยสดใสบัดนี้มืดมิดดุจรัตติกาลเปื้อนเลือด พายุพัดโหมกระหน่ำราวกับโลกกำลังโกรธเกรี้ยวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องหน้าของชิโระและโซระคือเทพองค์เดิมที่กลับมาทำลายล้างทุกอย่างอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้มาตัวเปล่า แต่มันได้รับความร่วมมือจากปีศาจร้ายที่แฝงตัวในเงามืด
“เจ้าสองคนคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าทำลายข้าได้ง่ายๆ งั้นหรือ?” เทพองค์นั้นกล่าว พลางสะบัดมือครั้งเดียว แรงกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่พวกเขาทั้งคู่ ร่างของเหล่าผู้ต่อต้านถูกเหวี่ยงกระเด็นไปคนละทิศละทาง
“แค่ข้ากับโซระก็พอ” ชิโระกล่าวเสียงแน่วแน่ นัยน์ตาสีแดงทอประกายเจิดจ้า ก่อนที่พลังของเธอจะปะทุออกมาอย่างรุนแรง เส้นผมของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวสนิทและปลายมิ้นเปล่งแสงเรืองรอง
เทพองค์นั้นกวาดมือเพียงครั้งเดียว บิดมิติรอบตัวจนเกิดรอยแยกของมิติขึ้นมา ทุกอย่างถูกฉีกขาดและบิดเบี้ยว ฝูงปีศาจพุ่งทะลักออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด พวกมันเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับเงามัจจุราชพุ่งเข้าหาชิโระและโซระ
ชิโระก้าวนำหน้า คลื่นพลังสีขาวแผ่กระจายออกจากฝ่ามือของเธอเป็นวงกว้าง เพียงแค่สะบัดมือ ฝูงปีศาจนับพันตัวก็สลายไปในพริบตา แต่ก่อนที่เธอจะโจมตีซ้ำ เทพองค์นั้นก็โผล่มาด้านหลังเธออย่างรวดเร็ว
“อย่าชะล่าใจไป!”
หมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังเทพพุ่งเข้าหาชิโระ แรงปะทะรุนแรงจนแม้แต่ห้วงมิติก็แทบสั่นสะเทือน แต่โซระพุ่งเข้ามาขวางไว้ได้ทัน เขาตวัดดาบรับแรงโจมตีไว้ได้ แม้เลือดจะไหลซึมจากมือเพราะแรงกระแทกมหาศาล
“เจ้าไม่ผ่านข้าไปง่ายๆ หรอก” โซระกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะฟาดดาบลงพื้น แรงระเบิดจากดาบของเขาทำให้พื้นแยกออกเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่
เทพองค์นั้นหัวเราะเยาะ “พวกเจ้าต้านทานข้าไม่ได้หรอก! โลกนี้ต้องเป็นของข้า!”
ขณะนั้นเอง เสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหลัง ชิโระหันไปมองและพบว่ามีเด็กคนหนึ่งที่ทุกคนเรียกว่า “ผู้ถูกเลือก” กำลังพยายามหนีจากเงาปีศาจ แต่เขาเร็วไม่พอ เงาดำนั้นพุ่งเข้าใส่เขาด้วยคมกรงเล็บสีดำ
“ไม่!!” ชิโระพุ่งตัวไปช่วย แต่ช้าเกินไป
กรงเล็บนั้นปักเข้าไปที่กลางอกของเด็กชาย เลือดสาดกระจายพร้อมกับแววตาของเขาที่ดับลงในทันที
ความเงียบงันเข้าครอบงำชั่วขณะ ก่อนที่ชิโระจะกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ
พลังของเธอพุ่งทะลักออกมารุนแรงกว่าเดิม พื้นโลกแตกร้าวขึ้นทุกครั้งที่เธอกวาดมือ สายฟ้าสีขาวผ่าลงมาราวกับเป็นอัสนีแห่งการพิพากษา โซระก็เช่นกัน เขากระโจนเข้าโจมตีเทพองค์นั้นด้วยความเร็วเหนือมนุษย์
เทพองค์นั้นเริ่มรู้สึกได้ถึงความกดดัน มันแสยะยิ้มก่อนจะชูมือขึ้น อัญเชิญพลังมหาศาลจากมิติอื่น แรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เกิดขึ้นจนโลกทั้งใบเริ่มแตกสลาย
“ข้าจะบดขยี้ทุกสิ่งให้กลายเป็นผุยผง!!”
แต่ชิโระไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
เธอเงยหน้าขึ้น มองเห็นโลกที่ถูกทำลายไปแล้ว โลกที่เต็มไปด้วยซากศพและซากปรักหักพัง เธอเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง
“ข้าจะรีเซ็ตโลกใบนี้” เธอได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าที่สูงและได้บอกกับโซระ “โซระ… ข้ารักเจ้า”
ก่อนที่โซระจะทันพูดอะไร แสงสีขาวสว่างวาบไปทั่วทั้งจักรวาล
— การสร้างใหม่ และการหลับใหลของเธอ —
โลกเดิมพังทลายไปจนไม่เหลือเศษซาก ทุกอย่างถูกทำลายและแทนที่ด้วยแสงแห่งการสร้างใหม่
แต่… นั่นคือการแลกเปลี่ยนที่โหดร้าย
ร่างของชิโระที่อยู่กลางท้องฟ้าเริ่มร่วงลงมาช้าๆ
โซระพุ่งตัวไปรับเธอไว้ได้ทัน แต่เธออ่อนแรงเกินกว่าจะขยับตัวได้
“ชิโระ!! ไม่!”
เธอยิ้มอ่อนโยนแม้ร่างกายจะหมดเรี่ยวแรง “ข้าจะ… ต้องหลับไปหนึ่งร้อยปี… เพื่อเป็นค่าตอบแทน…”
“ไม่! เจ้าจะไม่จากข้าไปไหน!” โซระกอดเธอแน่น เสียงของเขาสั่นเครือเป็นครั้งแรก
“อย่าร้องไห้เลยนะ… ข้าแค่หลับไหล… และข้าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ร่างของเธอก็ค่อยๆ ปิดตาลง เข้าสู่ห้วงนิทราอันยาวนาน
หนึ่งร้อยปีต่อจากนี้ เธอจะไม่ได้ลืมตาขึ้นมาอีกเลย
โซระกอดร่างของเธอแน่น ร่างของเธอที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้เปราะบางราวกับสายลม ดวงตาของเขาสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด
…หนึ่งร้อยปีแห่งการรอคอยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น…
บทแห่งการเฝ้ารอ และหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว
เธอจากไปแล้ว… แม้จะไม่ใช่ความตาย แต่มันก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน
โซระอุ้มร่างไร้สติของชิโระแนบอก เธอยังคงหายใจอยู่ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนอง ปลายเส้นผมสีขาวมิ้นที่เคยเปล่งประกายพลิ้วไหวอย่างมีชีวิตชีวา บัดนี้กลับซีดจางราวกับไร้ซึ่งแสงแห่งชีวิต พลังที่เคยเอ่อล้นในตัวเธอหายไปหมดสิ้น เหลือไว้เพียงร่างที่หลับใหลอย่างสงบ
ดวงตาของโซระสั่นไหว ไม่ใช่เพราะการสูญเสียเด็กผู้ถูกเลือก แต่เป็นเพราะเธอ…
“ข้าจะหลับไปหนึ่งร้อยปี…”
เสียงสุดท้ายของเธอยังก้องอยู่ในหัวของเขา
หนึ่งร้อยปี… หนึ่งร้อยปีที่เขาจะไม่ได้ยินเสียงของเธอ หนึ่งร้อยปีที่เขาจะไม่ได้สบตากับเธอ หนึ่งร้อยปีที่เขาจะต้องอยู่เพียงลำพังโดยปราศจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอ
นานเกินไป… “ชิโระ…” เขากระซิบแผ่วเบา พยายามปลุกเธออย่างไร้ความหวัง “ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าหายไป… ข้าจะอยู่ตรงนี้ จนกว่าเจ้าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
โซระพาร่างของเธอไปยังสถานที่ที่เธอเคยสร้างขึ้นด้วยพลังของเธอเอง
วิหารสีขาวบริสุทธิ์ ตั้งอยู่บนหน้าผาที่มองเห็นโลกใหม่ที่เธอสร้างไว้
ไม่มีใครสามารถเข้ามาในที่แห่งนี้ได้ นอกจากเขา และเธอ
ภายในโถงกลางของวิหาร มีแท่นศิลาสีขาวบริสุทธิ์ตั้งอยู่ โซระวางร่างของเธอลงช้าๆ ราวกับกลัวว่าหากสัมผัสแรงเกินไป เธอจะสลายหายไป
เมื่อเขาจัดร่างของเธอให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุด เขาทรุดตัวลงคุกเข่าข้างเตียงศิลา สายตาจับจ้องเธอราวกับกลัวว่าเธอจะเลือนหายไปจากสายตา
เธอเหมือนกำลังหลับฝันดี… แต่ในขณะเดียวกัน ก็ราวกับเธอไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
“แค่ลืมตาขึ้นมาได้ไหม?”
คำถามนี้เขาไม่เคยพูดออกไป เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีคำตอบ
ดวงตาของเขาค่อยๆ หลับลง น้ำตาที่ไม่เคยไหลออกมาแม้แต่ตอนที่โลกพังทลาย กลับค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาอย่างเงียบงัน
“ตอนที่เจ้าบอกให้ข้าอย่าร้องไห้…”
“เจ้าคงไม่รู้หรอก ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย”
เส้นผมที่เคยเป็นสีขาวสว่างเมื่อใช้พลัง บัดนี้กลับเป็นสีดำสนิท แม้แต่ไฮไลท์มิ้นที่เคยอยู่ปลายผม ก็แทบไม่เหลืออีกต่อไป
ราวกับสีสันของเขาหายไปพร้อมกับเธอ
หนึ่งร้อยปีต่อจากนี้…
ข้าจะรอเจ้า ไม่ว่าเวลาจะโหดร้ายเพียงใด
เพราะในโลกที่ไม่มีเจ้า ข้าคงไม่ต่างอะไรกับซากศพที่ยังเดินได้
หากการจากลาของเจ้าคือความเงียบงัน เช่นนั้นข้าจะเฝ้ารออยู่ในความเงียบนี้ตราบนานเท่านาน
“เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว ข้าอยู่ตรงนี้”
แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ยินก็ตาม
ในวิหารอันเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของชิโระ ที่ยังยืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ โซระนั่งอยู่ข้างแท่นศิลา มือของเขาประคองมือเธอเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย ราวกับว่าหากเขาคลายมือออก เธอจะหลุดลอยไปตลอดกาล
“มือของเจ้าก็ยังอุ่นเหมือนเดิม…”
เขาพึมพำเบาๆ ไล้นิ้วโป้งกับหลังมือของเธออย่างแผ่วเบา อุณหภูมิของเธอไม่เปลี่ยนไปเลย ราวกับเธอเพียงแค่เหนื่อยและต้องการพักผ่อน
แต่เขารู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เพียงแค่การนอนหลับธรรมดา
แสงแดดจากภายนอกส่องลอดเข้ามาผ่านกระจกสีของวิหาร สีของมันช่างงดงาม… แต่สำหรับโซระ ทุกอย่างดูหม่นหมองไปหมด
เขาเฝ้ารอ… เฝ้ามอง… และเฝ้าภาวนา
“ข้าจะอยู่ตรงนี้… จนกว่าเจ้าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”
ดวงตาสีเข้มของเขาจับจ้องเธอไม่วาง แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
หนึ่งร้อยปีไม่ใช่เวลาที่สั้น… แต่มันก็คุ้มค่าถ้าปลายทางของการรอคอย คือรอยยิ้มของเธออีกครั้ง
แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านกระจกสีของวิหาร สะท้อนลงมาบนร่างของชิโระที่นอนแน่นิ่งอยู่บนแท่นศิลา เธอดูสงบ… งดงามราวกับรูปสลักจากพระเจ้า แต่ในความงามนั้นกลับแฝงไปด้วยความเงียบงันที่บีบหัวใจ
โซระยังคงเฝ้ามองเธอ มือของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหลุดลอยไปจากเขาอีกครั้ง ในใจเขาว่างเปล่าเหลือเกิน ไม่มีอะไรสามารถเติมเต็มช่องว่างนั้นได้
โลกใบใหม่ค่อยๆ ฟื้นตัว ต้นไม้เริ่มแตกหน่อ ดอกไม้เริ่มผลิบาน มนุษย์ที่เหลือรอดเริ่มสร้างอารยธรรมขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่มันก็เป็นเพียงโลกที่ไม่มีเธออยู่
ไม่ว่าโลกจะงดงามแค่ไหน มันก็ไม่มีวันพิเศษอีกต่อไป…
วันเวลาผ่านไป พระอาทิตย์ยังขึ้นและตกเช่นเดิม ดวงจันทร์ยังคงลอยอยู่บนฟ้า แต่สำหรับโซระ… ไม่มีวันไหนที่แตกต่างจากวันก่อน
เขายังคงเฝ้ามองเธอแบบนี้ทุกวัน พูดคุยกับเธอ แม้เธอจะไม่ได้ตอบกลับมา
“เจ้ารู้ไหม… ดอกไม้ข้างนอกเริ่มเบ่งบานแล้วนะ”
เสียงของเขาเบาหวิว ในขณะที่โลกหมุนไปข้างหน้า เวลาของเขากลับหยุดอยู่ตรงนี้
เขาหยุดอยู่ตรงเธอ… หยุดอยู่กับการรอคอยที่ไร้จุดสิ้นสุด
ดวงตาของเขาหนักขึ้น ร่างกายอ่อนล้าเพราะการเฝ้าดูเธอแทบทุกคืน
ในที่สุด… เขาก็เอนตัวลงนอนข้างๆ เธอ
ฝ่ามือของเขายังคงประสานกับเธอไว้แน่น
แม้ว่าในความฝันเขาจะได้พบเธอหรือไม่… เขาก็ไม่สนใจแล้ว
เพราะอย่างน้อย ตอนนี้… เขายังคงอยู่เคียงข้างเธอ
แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับรู้ก็ตาม
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments