เงามืดแห่งอดีตห้วงนิทราที่ลึกจนไม่อาจปลุกตื่น ชิโระยังคงถูกพันธนาการอยู่ภายในความฝัน—หรืออาจเป็นฝันร้ายที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เธอเห็นภาพของอดีต ซ้อนทับกันหลายชั้นจนแทบแยกแยะไม่ออก
เสียงกรีดร้อง เสียงของผู้คนที่เธอพยายามปกป้องในมหาสงครามครั้งสุดท้าย เสียงเด็กเล็กที่ร้องไห้เรียกหาแม่ เสียงของเพื่อนพ้องที่เคยยืนเคียงข้างกันแต่บัดนี้กลับไม่มีใครเหลืออยู่เลย
เธอเห็นภาพของตัวเอง—ครั้งยังแข็งแกร่ง ครั้งที่เธอยังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิ่งที่เธอเชื่อมั่น ภาพของเธอที่เผชิญหน้ากับเทพเจ้าผู้โหดร้าย ต่อสู้ด้วยสุดกำลังแม้รู้ดีว่าตัวเองไม่มีวันชนะได้โดยไม่แลกบางสิ่งบางอย่าง
แล้วสุดท้าย เธอก็แลกมันทิ้งไปจริง ๆ
ภาพสุดท้ายที่เธอจำได้คือท้องฟ้าที่แหลกสลาย แสงสุดท้ายของโลกเก่าที่ดับลงพร้อมกับพลังทั้งหมดของเธอ ร่างของเธอค่อย ๆ ร่วงลงจากฟากฟ้า ทุกสิ่งรอบตัวมืดมิดลงอย่างช้า ๆ และเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินก็คือเสียงเรียกของเขา—เสียงของโซระที่ตะโกนเรียกชื่อเธอ
เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด—และสิ้นหวัง
“โซระ…”
ชิโระพึมพำออกมาในความมืด เธอรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังดึงเธอกลับมา บางสิ่งที่อบอุ่นและอ่อนโยน สัมผัสที่เธอจำได้แม่นยำแม้จะผ่านกาลเวลาไปนานเท่าใด
สัมผัสของเขา
เธอลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อย ๆ เปิดออก เผยให้เห็นแสงอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านเข้ามาภายในวิหาร ทุกสิ่งดูสงบเงียบ มีเพียงเสียงลมหายใจของใครบางคนที่อยู่ข้างกาย
สายตาของเธอเบลอไปชั่วขณะ ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มชัดเจนขึ้น
และสิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าของโซระ
เขานอนอยู่ข้าง ๆ เธอ แขนข้างหนึ่งยื่นมาแตะมือของเธอเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีกครั้ง
ชิโระจ้องมองเขานิ่ง ๆ ใบหน้าของเขาดูสงบ แต่ขณะเดียวกันก็ดูอ่อนล้าอย่างไม่อาจปกปิดได้
ผมของเขาสีดำสนิท ไม่มีแม้แต่ประกายของสีขาวที่เธอเคยเห็นในอดีต
เขาดูราวกับคนที่ปล่อยทุกอย่างไปแล้ว คนที่เลือกจะหยุดเดินไปข้างหน้า และยอมจมอยู่กับกาลเวลาที่หยุดนิ่ง
และสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวที่สุด คือมือของเขา
มือที่ยังคงจับมือของเธอไว้แน่น
มือที่คงไม่เคยปล่อยเลยแม้แต่วันเดียว
เธอค่อย ๆ บีบมือนั้นเบา ๆ สัมผัสของเขาอบอุ่นกว่าที่เธอจำได้
เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปกี่ปี ไม่รู้ว่าทุกสิ่งภายนอกเปลี่ยนไปเพียงใด แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้ในตอนนี้คือ
เขายังคงอยู่ตรงนี้
เฝ้ารอเธออย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาโดยไม่รู้ตัว
“ขอโทษ…”
เธอพึมพำเสียงแผ่ว แม้รู้ว่าเขาคงไม่ได้ยิน
เธอค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ จรดหน้าผากลงกับหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา
หัวใจของเธอเต้นช้า ๆ แต่มั่นคง
เธอกลับมาแล้ว
และเธอจะไม่ปล่อยให้เขาต้องเฝ้ารออีกต่อไป
ชิโระมองใบหน้าของโซระนิ่ง ๆ สัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายของเขา เธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่แตะลงบนเส้นผมสีดำสนิทของเขา
มือของเธอลูบไล้เส้นผมของเขาเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ราวกับต้องการยืนยันว่าคนตรงหน้ายังมีตัวตนจริง ๆ ว่าเขาไม่ได้หายไป ว่าเขายังคงอยู่ตรงนี้ เฝ้ารอเธออย่างอดทนมานานแสนนาน
“ขอโทษนะ…”
เสียงของเธอแผ่วเบา เจือไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเศร้าเสียใจ ทั้งโล่งใจที่ได้เห็นเขาอีกครั้ง
“ขอบคุณที่ยังรอ…”
เธอก้มลง กระซิบข้างหูเขาเบา ๆ ปล่อยให้น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงบนผิวแก้มของเขา
เธออยากจะบอกเขามากกว่านี้ อยากจะขอโทษให้มากกว่านี้ ที่ปล่อยให้เขาต้องเฝ้ารออย่างเดียวดาย
แต่เขากลับต้องเป็นฝ่ายที่ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงแทน
โซระรู้สึกถึงบางสิ่งที่อบอุ่นแตะอยู่บนศีรษะของเขา รับรู้ถึงสัมผัสที่คุ้นเคย เสียงที่อ่อนโยนและแผ่วเบาดังแว่วเข้ามาในห้วงสำนึกของเขา
…เสียงที่เขาไม่ได้ยินมานานแสนนาน
เปลือกตาของเขาค่อย ๆ เปิดขึ้น สายตาของเขาพร่ามัวจากน้ำตาที่สะสมอยู่มานาน และสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ
ชิโระ…
เธออยู่ตรงหน้าเขา…
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด เขาแทบไม่กล้าหายใจ กลัวว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเพียงภาพลวงตาที่จิตใจของเขาสร้างขึ้นมาอีกครั้ง
เขาเคยฝันถึงเธอนับครั้งไม่ถ้วน เคยตื่นขึ้นมาพร้อมกับความว่างเปล่าที่กัดกินหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ครั้งนี้…
เธอยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หายไป
“…ชิโระ?” เสียงของเขาแหบพร่า เปล่งออกมาอย่างไม่แน่ใจ
เธอไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มบาง ๆ ให้เขา น้ำตาของเธอยังคงไหลลงมาอย่างเงียบงัน
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขารู้ว่า…
นี่ไม่ใช่ความฝัน
โซระรับรู้ถึงแรงกดเบา ๆ บนศีรษะของเขา สัมผัสของเธอที่ลูบไล้เส้นผมของเขา
เธออยู่ตรงนี้จริง ๆ
ความรู้สึกทั้งหมดที่เขาเก็บกดมาตลอดพลันระเบิดออกมาในพริบตา
“ชิโระ!”
เขาพุ่งเข้ากอดเธอแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาที่แห้งผากมานานกลับเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เขากอดเธอไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีกครั้ง
เสียงสะอื้นดังออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาฝังใบหน้าลงกับไหล่ของเธอ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไป
เขาไม่สนว่าตัวเองดูอ่อนแอแค่ไหน ไม่สนว่าเขาควรจะพูดอะไร สิ่งเดียวที่เขาต้องการในตอนนี้
คือการกอดเธอไว้ให้แน่นที่สุด
“ขอโทษ…”
เสียงของเธอดังแผ่วเบาข้างหูเขาอีกครั้ง
“ขอโทษที่ปล่อยให้เธอรอ…”
โซระส่ายหัว กอดเธอแน่นขึ้นอีก น้ำตาของเขายังคงไหลไม่หยุด
“อย่าพูดแบบนั้น…” เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “แค่กลับมาก็พอ… แค่กลับมาหาฉันก็พอแล้ว…”
ชิโระยิ้มบาง ๆ ซบหน้าลงกับไหล่ของเขา
“ฉันกลับมาแล้ว…”
โซระกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก ราวกับต้องการยืนยันให้แน่ใจว่านี่คือความจริง
และในที่สุด
หลังจากผ่านการรอคอยอันยาวนาน
เธอก็กลับมาหาเขาแล้วจริง ๆ
อ้อมแขนของโซระยังคงโอบรัดแน่น ไม่ปล่อยให้ชิโระขยับไปไหน
เธอรับรู้ถึงแรงสั่นเล็ก ๆ จากร่างของเขา รับรู้ถึงเสียงสะอื้นที่ดังอยู่ข้างหู ทุกอย่างทำให้หัวใจของเธอปวดร้าว
เธอรู้ว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน
รู้ว่าเขาเฝ้ารอมากี่คืนวัน
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงปล่อยให้เขาต้องทนทุกข์อยู่เพียงลำพัง
ชิโระค่อย ๆ ยกมือขึ้น ลูบศีรษะของเขาเบา ๆ ปล่อยให้ไออุ่นจากฝ่ามือส่งผ่านไปถึงหัวใจของเขา
“โซระ…” เธอเอ่ยชื่อของเขาแผ่วเบา
เขาไม่ตอบ แค่กอดเธอแน่นขึ้น ดึงเธอเข้ามาใกล้ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
ชิโระเม้มริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดของเขาได้ทั้งหมด เธอไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่สิ่งที่เธอทำได้—
คือการอยู่ตรงนี้ ข้าง ๆ เขา
“ฉันขอโทษ…”
เธอพูดอีกครั้ง กระชับมือของเขาแน่นขึ้น
โซระไม่ได้ตอบอะไร แต่เธอรู้ว่าเขาได้ยิน เธอรู้ว่าเขาเข้าใจ
ลมหายใจของเขายังคงสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่ในที่สุดจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
“ฉันฝันถึงเธอทุกวัน…”
เสียงของเขาแผ่วเบา แต่หนักแน่นเต็มไปด้วยความรู้สึก
“ทุกคืน… ทุกวัน… ฉันเอื้อมมือไปหาเธอ แต่กลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า”
“ฉันคิดว่าตัวเองจะบ้าตายอยู่แล้ว…”
ชิโระหลับตาลง น้ำตาเม็ดหนึ่งร่วงลงบนหลังมือของเขา
“แต่ว่า…” โซระสูดหายใจลึก ราวกับต้องการเรียกสติของตัวเองกลับมา เขาค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมกอด จ้องมองใบหน้าของเธอ
“ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว…”
เขายกมือขึ้น ประคองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วไล้ไปตามแก้มของเธอราวกับต้องการจดจำทุกสัมผัส ทุกเสี้ยววินาทีที่เธออยู่ตรงนี้
“ใช่…” ชิโระพยักหน้า ยิ้มบาง ๆ ให้เขา
“ฉันกลับมาแล้ว…”
โซระหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับปลดปล่อยความหนักอึ้งทั้งหมดออกจากใจ
เขายิ้มออกมาในที่สุด
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ ความอ่อนล้า และความสุขที่แท้จริง
“ขอต้อนรับกลับบ้าน… ชิโระ”
เธอจ้องมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ซบใบหน้าลงกับอกของเขาอีกครั้ง
เสียงหัวใจของเขาดังชัดเจน สม่ำเสมอ และอบอุ่น
“อืม…”
ชิโระกระชับมือของเขาแน่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะกระซิบตอบเบา ๆ
“ฉันกลับมาแล้ว… บ้านของฉัน”
เฝ้ารอได้รับการตอบรับ (ต่อ)
แสงสว่างโอบล้อมรอบตัวพวกเขา คลื่นพลังที่ไร้รูปร่างไหลเวียนอยู่รอบกาย บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
ชิโระและโซระค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาของพวกเขาสะท้อนประกายแสงแห่งพลังที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย ราวกับจักรวาลทั้งใบบรรจุอยู่ในแววตาของพวกเขา
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเงียบงัน เหมือนโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
พลังที่ไหลผ่านเส้นเลือดของพวกเขาไม่ใช่พลังธรรมดา
ไม่ใช่พลังของเทพเจ้า
ไม่ใช่พลังของปีศาจ
แต่เป็นพลังที่เหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง—
พลังที่สามารถกำหนดชะตากรรมของทุกสรรพสิ่งได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
หากต้องการทำลาย พวกเขาก็สามารถลบทุกสิ่งออกจากการดำรงอยู่ได้ ราวกับมันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก
หากต้องการสร้าง พวกเขาก็สามารถกำหนดทุกสรรพสิ่งขึ้นมาใหม่ได้ ราวกับเป็นผู้วาดลิขิตแห่งจักรวาล
ไม่มีสิ่งใดสามารถต่อต้านพลังนี้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากขอบเขตใดก็ตาม—ไม่เว้นแม้แต่เทพเจ้าหรือปีศาจ
นี่คืออำนาจสูงสุด
อำนาจที่ไม่มีข้อจำกัด
อำนาจที่อยู่เหนือทุกกฎเกณฑ์ที่เคยมีมา
แต่—
พวกเขากลับรู้สึกถึงน้ำหนักของพลังนี้เช่นกัน
มันไม่ใช่พลังที่มีไว้เพื่อครอบครอง ไม่ใช่พลังที่มีไว้เพื่อกดขี่หรือทำลาย
พลังนี้… เป็นดั่งภาระหน้าที่ เป็นพันธะที่ต้องแบกรับ
ชิโระและโซระหันมามองกัน พวกเขารับรู้ถึงความคิดของกันและกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด
“พลังนี้…” โซระกระซิบ
“มันไม่ใช่พลังของผู้ปกครอง” ชิโระกล่าวต่อ “แต่มันคือพลังของ… ผู้พิทักษ์”
โซระพยักหน้า
“ไม่ใช่เพื่อควบคุม… แต่เพื่อรักษาสมดุล”
พวกเขามิใช่เทพเจ้า มิใช่ผู้ครอบครองทุกสรรพสิ่ง มิใช่ผู้ตัดสินชีวิตและความตายของโลกนี้
พวกเขาคือผู้ที่คอยปกป้องโลกใบนี้—ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปเช่นไร
เป็นผู้พิทักษ์แห่งสมดุลของจักรวาล
พวกเขาเอาศีรษะชนกันอีกครั้ง เป็นการแลกเปลี่ยนคำมั่นสัญญาอันเงียบงัน
“ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“ฉันก็เช่นกัน”
ทันใดนั้น แสงสว่างก็พลันสว่างวาบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อย ๆ จางหายไป
พลังอันมหาศาลที่ถูกปลุกขึ้นมาสลายไปในอากาศ—ไม่ใช่เพราะมันหายไป แต่เพราะพวกเขาได้ควบคุมมันอย่างสมบูรณ์
พวกเขาสัมผัสได้ถึงอำนาจอันไร้ขีดจำกัดที่ไหลเวียนอยู่ในตัว แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขากลับรู้สึกสงบ
เพราะพวกเขารู้ว่าพลังนี้มีไว้เพื่ออะไร
โซระทอดสายตามองออกไปยังโลกที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว
“ตั้งแต่นี้ไป โลกจะเปลี่ยนไป”
ชิโระพยักหน้าเบา ๆ
“ใช่ แต่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเช่นไร เราจะปกป้องมันไปด้วยกัน”
พวกเขายืนอยู่ที่นั่น มองดูโลกใบใหม่ที่กำลังฟื้นคืน—
ในฐานะผู้พิทักษ์
และในฐานะ…
คู่ชีวิตที่ไม่มีวันพรากจากกันอีกต่อไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments