เกิดใหม่ทั้งทีขอมีแฟนเป็นซุป'ตาร์ #หลงจิวเลี่ยน
“ได้ข่าวว่าทางสหพันธ์เตรียมจะตั้งกฏใหม่ขึ้น ควบคุมงบประมาณสำหรับการแต่งเครื่องยนต์รถที่ใช้แข่งได้ไม่เกินปีละหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าล้านดอลลาร์” เสียงเคร่งขรึมของเจ้าของทีมดังขึ้น หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะมีความสุขกับการเฉลิมฉลองชัยชนะที่ได้มาไม่ทันไร
ดาวเด่นของงานเลี้ยงในวันนี้หันไปมองหน้าไมเคิล หว่อง ผู้เป็นเจ้าของทีมและผู้ที่พูดประโยคนั้นขึ้นมา
“นั่นก็เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมระดับกลางกับล่างที่ไม่ใช่ทีมของผู้ผลิตรถเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์” ริมฝีปากบางของผู้ที่คว้าแชมป์ในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้กังวลนักถึงการเปลี่ยนกฏนี้
“ผมว่าที่น่าสนใจกว่ากฎจำกัดงบก็คือ หลังจากที่ซ้อมจบรอบซ้อมในวันเสาร์ ห้ามไม่ให้นักแข่งหรือทีมวิศวะกรปรับแต่งรถอีก” กฏข้อนี้ที่เขาได้ยินมาเรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับเขามาก นี่มันคือการเพิ่มความท้าทายในการแข่งขันไปอีกขึ้นหนึ่งของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งฟอร์มูล่าวัน เนื่องจากครองแชมป์มาสามฤดูกาลติด
ไมเคิลสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินนักแข่งมือหนึ่งในทีมของตัวเองพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาที่เป็นเจ้าของทีมได้ยินข่าวลือมาแค่เพียงเรื่องการจำกัดงบเท่านั้น แต่เรื่องที่นักแข่งของเขาเพิ่งพูดมา เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
แต่ถึงอย่างนั้นไมเคิลก็ไม่เคยสงสัยในความน่าเชื่อถือของสิ่งที่ออกมาจากปากของคนคนนี้
แฟนคลับการแข่งรถสูตรหนึ่งหรือรถฟอร์มูล่าวันทั่วโลกอาจจะรู้จักนักแข่งของเขาคนนี้ในชื่อว่า จิล เป็นนักแข่งที่มีฝีมือที่สุดในโลกตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้สำหรับการแข่งขัน เพียงแค่ลงสนามครั้งแรกก็สามารถคว้าแชมป์มาได้แล้ว อีกทั้งยังพาทีมที่ใกล้จะถึงจุดจบของเขาให้กลายมาเป็นทีมแชมป์ฤดูกาลได้ นั่นคือสิ่งที่แฟนคลับทั่วโลกและคนในวงการฟอร์มูล่าวันรู้กัน แต่ว่าไมเคิลรู้มากกว่านั้น
รู้ว่าจิลผู้นี้ ไม่ใช่แค่นักแข่งรถอัจฉริยะ แต่เป็นทายาทของตระกูลหลงและตระกูลเวลส์ สองตระกูลที่มีอำนาจและเส้นสายอยู่ทั่วโลก!
คนที่แท้จริงแล้วมีนามว่า หลงจิวเลี่ยน
หลงจิวเลี่ยนผู้นี้ แม้ว่าเบื้องหลังครอบครัวของอีกฝ่ายจะมีอำนาจและมีเงินพอที่จะสร้างทีมฟอร์มูลล่าวันให้กับเจ้าตัว แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ แล้วใช้ความสามารถของตัวเองในนการพิสูจน์ความสามารถ พิสูจน์ว่าแม้จะไม่ต้องพึ่งพาอิทธิพลของตระกูล แต่เขาก็สามารถเข้าสู้สนามฟอร์มูลล่าวันได้ในวัยเพียงแค่สิบห้าปีเท่านั้น
อายุสิบห้า เป็นอายุที่ไม่สามารถขับขี่รถบนถนนปกติได้ด้วยซ้ำ แต่เจ้าตัวกลับโลดแล่นในสนามแข่งรถเสียแล้ว เริ่มจากในสนามแข่งซีรีส์รองอย่าง F3 และ F2 ในตอนที่อายุสิบสามปี ก่อนจะพาตัวเองเข้ามาสู่ F1 ได้ในตอนอายุเพียงแค่สิบห้าปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองของหลาย ๆ ทีม ไมเคิลยังเคยได้รับการติดต่อขอซื้อตัวหลงจิวเลี่ยนผู้เป็นนักแข่งเบอร์หนึ่งในทีมของเขาตอนนี้ ซึ่งต้องขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณความฉลาดของเขาที่ตอนนั้นไม่เห็นแก่เงินก้อนโต แล้วปฏิเสธไป ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงจะไม่มีทีมของเขาผงาดอยู่ในสนามระดับโลกแล้ว
“เรื่องนี้เชื่อถือได้มากแค่ไหน” เจฟฟี่ นักแข่งรถเบอร์สองของทีม ผู้ที่สามารถอันดับสามประเภทบุคคลของฤดูกาลนี้มาครอบครองได้ถามด้วยน้ำเสียงคลางแคลงใจเล็กน้อย อีกทั้งมีความกังวลอยู่ในดวงตา
หากกฎทั้งสองข้อ โดยเฉพาะข้อแรกที่ไมเคิลพูดนั้นออกมาก่อนหน้านี้สักสามปี เขาจะดีใจเป็นอย่างมาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องดี เป็นกฏที่เอื้อประโยชน์ให้กับทีมอิสระเล็ก ๆ แบบพวกเขา ทว่ามาถึงตอนนี้ ทีมเล็ก ๆ ที่โดนมองข้ามนั้นได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่ยากจะโค่นล้มในวันนี้ กฎที่เตรียมจะออกมานี้ เรียกได้ว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไร
“จริงไม่จริงก็รอดูเอาเองเถอะ อีกไม่นาน” จิวเลี่ยนไม่พยายามที่จะยืนยันในสิ่งที่ตัวเองรู้มา แต่บอกให้นักแข่งรุ่นพี่รอพิสูจน์เอาเอง
ซึ่งเขาคิดว่าทางสมาพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศจะประกาศกฎใหม่นี้หลังจากช่วงปีใหม่ผ่านพ้นไป ถึงอย่างไรนี่ก็เพิ่งจบฤดูกาลไป
“ทางเฟอร์ติดต่อมา เขาต้องการเป็นสปอร์นเซอร์ให้เราในฤดูกาลหน้า” ไมเคิลนั้นนวดหัวตาของตัวเอง ปัดเรื่องเคร่งเครียดทิ้งออกไปก่อน แล้วพูดถึงเรื่องที่เขาเพิ่งจะได้รับการติดต่อมาในวันนี้
จิวเลี่ยนหยุดชะงักมือที่กำลังจะส่งเครื่องดื่มเข้าปาก เขาวางแก้วลงแล้วหันไปมองหน้าไมเคิล ดูว่าเจ้าตัวมีความคิดเห็นอย่างไร
ไมเคิลเห็นสายตาของนักแข่งคนสำคัญของทีมเขาก็หัวเราะเบา ๆ เสียงขื่น ถึงเขาจะเป็นเจ้าของทีม แต่อำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดในเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่เขา
อันที่จริงเขาก็สามารถตัดสินใจได้นั่นแหละ แต่ไมเคิลคิดว่าให้คนที่มีส่วนสำคัญมากที่สุดที่ทำให้ทีมมาอยู่ตรงนี้ได้เป็นคนตัดสินใจจะดีกว่า
“เฟอร์ก็ไม่เลว แต่ผมยังชอบเครื่องยนต์จากเมอร์มากกว่า อีกทั้งเฟอร์ก็มีทีมเป็นของตัวเอง ผลงานก็ไม่ได้แย่ ฤดูกาลนี้เขาคว้าอันดับสามประเภททีมไปได้นี่นา” แม้ว่าจะไม่มีคำว่าไม่ออกมาจากปากบางนั่น แต่ก็แปลความหมายของประโยคเหล่านั้นที่พูดออกมาได้ไม่ยาก
หลงจิวเลี่ยนไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ของเฟอร์ และยังต้องการที่จะใช้เครื่องยนต์เมอร์ต่อไป
ไมเคิลยักไหล่ เขาหันไปมองเจฟฟี่ เห็นว่าอีกคนไม่ได้มีท่าทางคัดค้านอะไร ก็รู้ว่าตัวเองต้องเตรียมคำตอบปฏิเสธดี ๆ ไปให้กับทางเฟอร์แล้ว
“ผมไปเข้าห้องน้ำก่อน” จิวเลี่ยนวางแก้วเครื่องดื่มในมือของตัวเองลง ก่อนที่จะเอ่ยปากบอกเจ้าของทีมและเพื่อนร่วมโต๊ะตามมารยาท
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม” เจฟฟี่ถามอย่างเป็นห่วงเล็กน้อย เขามองรูปร่างบอบบางของนักแข่งเบอร์หนึ่งของทีมด้วยสายตาที่ยังคงแปลกใจอยู่เหมือนครั้งแรกที่ได้เจอกัน
คนผู้นี้ยามที่อยู่ในชุดที่ไม่ใช่ชุดแข่ง ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ไม่ได้นั่งอยู่บนรถ เขาดูไม่เหมือนนักแข่งรถที่เร็วที่สุดในโลกเลยสักนิด ถ้าเจอกันนอกสนาม เขาจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนดังในวงการบันเทิงมากกว่า
“ไม่เป็นไร” จิวเลี่ยนส่ายหน้าเบา ๆ ยิ้มบาง ๆ แล้วเดินออกไปด้วยฝีเท้าที่มั่นคง และนั่นยิ่งทำให้เจฟฟี่มองตามด้วยสายตาพิศวงแม้จะเห็นภาพแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ดื่มไปตั้งเยอะ เรียกได้ว่าแทบจะเยอะกว่าทุกคนในที่นี้ แต่เจ้าตัวสามารถเดินได้อย่างมั่นคง ไม่มีตัวเอียงตัวเซเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่บางคนบนโต๊ะนั้นล่วงไปกองกับพื้นแล้วเรียบร้อย
เด็กคนนี้โตมาแบบไหนกัน
เจฟฟี่สงสัย ซึ่งเขาก็ทำเพียงแค่สงสัยอยู่ในใจ ไม่ได้พูดถามออกไป ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้คำตอบว่า
ก็โตมาสภาพแวดล้อมที่มีแต่เหล้าฤทธิ์แรงน่ะสิ
คนที่ขอตัวมาเข้าห้องน้ำนั้นเดินเบียดเสียดผู้คนที่เบียดเสียดกันแน่นอยู่ตลอดทางมาจนถึงทางที่จะเข้าห้องน้ำ ด้วยความที่ดื่มมาเยอะทำให้ตอนนี้กระเพาะปัสสาวะของเขากักเก็บน้ำที่ร่างกายรับเข้าไปแทบจะไม่ไหวแล้ว เขารีบเดินเพื่อที่จะเข้าไปปลดปล่อย ทว่าด้วยความเร่งรีบทำให้เผลอเดินชนเข้ากับคนคนหนึ่งเข้าเสียก่อน
“โอ๊ะ ขอโทษครับ” จิวเลี่ยนพูดขอโทษออกมาทันที โดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก เพราะในกรณีที่เดินชนกัน เขาจะถือว่าเป็นฝ่ายผิดทั้งคู่ เนื่องจากหากมีใครคนใดคนหนึ่งที่มองทาง การชนกันจะไม่เกิดขึ้น เว้นเสียแต่ว่าอีกฝั่งจะไม่ยอมแล้วยกความผิดให้เขาเพียงผู้เดียว เมื่อนั้นจิวเลี่ยนก็จะไม่ยอมอย่างแน่นอน
ซึ่งครั้งนี้ก็ถือว่าไม่ใช่ช่วงเวลาที่นายน้อยตระกูลหลงอย่างหลงจิวเลี่ยนจะได้แผลงฤทธิ์ เพราะคู่กรณีของเขาก็เอ่ยขอโทษมาในจังหวะเดียวกัน ทว่าน้ำเสียงนั้นฟังดูสั่น ๆ ไม่มั่นคงไปเสียหน่อย
แต่ไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของอีกฝ่าย น้ำส่วนเกินในร่างกายต้องการปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน หลงจิวเลี่ยนหยุดให้ความสนใจคู่กรณีชั่วคราวแล้วเดินไปที่โถสุขภัณฑ์อย่างรวดเร็ว พักความสนใจจากคู่กรณีที่ตอนนี้ก็รีบเดินเข้าห้องน้ำด้านในสุดไปแล้ว
“ฮ้า ค่อยโล่งหน่อย” ปากบางพูดพึมพำกับตัวเอง เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขาก็ผละมายืนที่อ่างล้างมือ จัดการล้างมือที่จับน้องชายตัวน้อยของตัวเองเมื่อสักครู่ เมื่อล้างจนมั่นใจว่าสะอาดแล้วก็เตรียมจะเดินกลับออกไป ทว่าเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ จากในห้องน้ำห้องสุดท้าย
ดวงตาคู่กลมหรี่ลง แม้จะบอกว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้สนใจ แต่หางตาเขาก็ยังเห็นว่าคนที่เดินชนกับเขาเมื่อสักครู่นี้เดินหายเข้าไปในห้องน้ำห้องนั้น
เขาไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าเสียงแปลก ๆ นั่นคือเสียงอะไร ทว่าที่สงสัยว่าแทนที่จะมาช่วยตัวเองอยู่ในห้องน้ำคนเดียว ทำไมไม่หาใครมาช่วยสักคน
ด้วยรูปร่างหน้าตาแล้วไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะหาไม่ได้ ดีไม่ดีเพียงแค่ปรายตามองก็มีคนเดินตามเป็นแถวแล้ว
อ่า ใช่ เพียงแค่เสี้ยวนาที แม้ว่าจะปวดฉี่จนแทบขาดใจ แต่สำหรับหนุ่มหล่อแล้ว ยังคงอยู่ในสายตาของจิวเลี่ยนเสมอ
ซึ่งยังมีอีกหนึ่งความจริงก็คือ จิวเลี่ยนได้เห็นคนคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว คนที่เรียกสายตาของเขาให้หันไปมองได้เรื่อย ๆ เมื่อตอนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
จิวเลี่ยนยืนคิดสงสัยได้ไม่นาน เขาก็เหมือนว่าจะได้คำตอบแล้ว เมื่ออยู่ ๆ ห้องน้ำชายก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา ท่าทางของเธอดูไม่ปกติเลยสักนิด เมื่อเดินเข้ามาแล้วก็มองอย่างสำรวจไปทั่วห้องน้ำ จนกระทั่งเดินไปหยุดที่ห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่ห้องเดียว หรือก็คือห้องสุดท้ายที่หนุ่มหล่อของเขาเดินเข้าไปนั่นแหละ
จิวเลี่ยนกอดอกเอนตัวพิงกับเคาท์เตอร์ในห้องน้ำ ยืนมองว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะทำอะไร
หญิงสาวในที่มีหน้ากากอนามัยปิดใบหน้าท่อนล่าง ทั้งยังมีฮู้ดคลุมอยู่ที่ศีรษะเคาะประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทนั่น ปากก็เปิดออกส่งน้ำเสียงหวานเลี่ยนออกมาจากลำคอ
“พี่จิ้งขา พี่จิ้งเปิดประตูให้ฉันเถอะนะ เปิดประตูให้ฉัน แล้วเราจะได้มีความสุขกันไง” จิวเลี่ยนที่ยืนกอดอกเอนตัวพิงเคาท์เตอร์รอดูเรื่องสนุกอยู่นั้นก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานเลี่ยนนั่นพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา และเมื่อผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำนั่นไม่ยอมเปิดประตู มือที่ทุบประตูนั่นก็ออกแรงเพิ่มขึ้น พร้อมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“ทำไมพี่ไม่เปิดประตูให้ฉัน ทำไมพี่ไม่เปิดประตู เปิดสิ เปิด พี่ก็รู้ว่าฉันรักพี่ ฉันรักแต่พี่ พี่เป็นของฉัน พี่จะหนีฉันไปถึงเมื่อไหร่ พี่เป็นของฉัน”
จิวเลี่ยนเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเจอความเกรี้ยวกราดของผู้หญิงคนนี้ เขารู้แล้วว่าเธอไม่ปกติอย่างแน่นอน ไม่มีคนปกติที่ไหนทำกันอย่างนี้แน่ และเห็นทีว่าที่ผู้ชายคนนั้นต้องเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องน้ำ ทำเรื่องแบบนั้นก็น่าจะมีสาเหตุมาจากผู้หญิงคนนี้
จิวเลี่ยนขมวดคิ้ว คิดว่าตัวเองควรจะเข้าไปช่วยดีหรือไม่ ทว่าเขายังไม่ทันจะได้ตัดสินใจอะไร เสียงตระโกนขอความช่วยเหลือจากคนในห้องน้ำก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ช่วย ช่วยผมด้วย” น้ำเสียงสั่นเครือไม่มั่นคง และจิวเลี่ยนคิดว่าผู้พูดคงพยายามจะรวบรวมเรี่ยวแรงพูดมันออกมา
เห็นแก่ที่หน้าตาดีเขาจะลงมือช่วยด้วยตัวเองก็แล้วกัน แน่นอนว่าหมายถึงหลังจากที่ลากผู้หญิงคนนั้นออกไปได้น่ะนะ
หลงจิวเลี่ยนยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตามการ์ดของตัวเองที่ซ่อนตัวอยู่ให้มาพาผู้หญิงจิตไม่ปกติคนนี้ออกไป เขารออยู่เพียงแค่ไม่ถึงนาที ชายฉกรรจ์สามคนก็มาพาเธอออกไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องโวยวายอย่างไม่ยินยอม
“หน้าห้องน้ำมีป้ายทำความสะอาดวางอยู่ครับ” การ์ดคนหนึ่งที่ยังไม่ได้เดินออกไปด้วยพูดรายงานคุณชายใหญ่ของตัวเอง
“อืม วางไว้อย่างนั้นต่อไป” จิวเลี่ยนคลี่รอยยิ้มที่มุมปาก สั่งการเสียงเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพาตัวเองเดินหายเข้าไปในห้องน้ำห้องสุดท้าย
อะไรนะ ห้องน้ำล็อคอยู่ไม่ใช่เหรอ เขาจะเข้าไปได้ยังไง
อ่า ก็จะไปยากอะไร ถีบเบา ๆ ก็หลุดแล้ว
“โอ๊ย” เสียงร้องครางอย่างเจ็บดังขึ้นเมื่อเจ้าของเสียงขยับร่างกายของตัวเองแล้วเกิดความเจ็บแสบที่ร่างกายส่วนล่างของตัวเอง
คนที่เพิ่งจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนที่พระอาทิตย์อยู่กลางศีรษะแล้วหยีตาของตัวเองเพื่อปรับสายตาให้รับแสงได้ ริมฝีปากบางก็สูดลมเข้าปากเพื่อระบายความเจ็บที่ช่องทางด้านล่าง
มือเรียวสวยขยุ้มผมของตัวเองเบา ๆ เพื่อดึงสติกลับมา แล้วทบทวนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง และตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
เมื่อทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างในค่ำคืนที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากบางก็คลี่รอยยิ้มพึงใจและสุขสม
นานมากแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกสนุกสุดเหวี่ยงและมีความสุขมากเหมือนเมื่อคืนนี้ นานพอ ๆ กับอายุในชีวิตใหม่นี้ของเขาเลย
สิบแปดปี
ใช่ ชีวิตใหม่ และเขายังจำชีวิตเดิมของตัวเองได้อีกด้วย
ใครจะรู้ว่าทันทีที่เขาตาย ก็เขาก็ได้เกิดใหม่เลย ไม่ต้องผ่านชีวิตหลังความตาย ไม่ต้องดื่มน้ำแกงลืมอดีต
ไม่ต้องลืมว่าเขาเคยเป็นใครมาก่อน ไม่ต้องลืมว่าเขาเคยมีชีวิตแบบไหน และไม่ต้องลืมว่าเขาเคยถูกทรยศจนตายยังไง
เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว เขาก็คือนักแข่งฟอร์มูลล่าวันดาวรุ่งเหมือนในตอนนี้ พาทีมเป็นแชมป์ได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ยี่สิบปี คว้าแชมป์มาสามฤดูกาลติดกันเหมือนเช่นตอนนี้ และเป็นเพราะผลงานที่ดีเกินไปจนไปขัดแข้งขัดขา ขัดผลประโยชน์คนอื่นเข้าจนต้องโดนสั่งเก็บ
คนลงมือก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพื่อนร่วมทีมที่เขาไว้ใจนั่นเอง วิศวะกรประจำทีมของเขาผู้ที่ทำให้รถของเขาศูนย์เสียการควบคุม จนนำไปสู่ความตายของเขาในที่สุด ทั้ง ๆ ที่เขากำลังจะได้แชมป์เป็นสมัยที่สี่อยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงอดีต ความเบิกบานใจเมื่อครู่นี้ก็พลันหายไป ดวงตาสดใสแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา
สิบแปดปีมานี้เขาตามข่าวอยู่ตลอด ตั้งแต่ที่ลืมตาเกิดขึ้นมาใหม่และได้รู้ถึงสาเหตุการตายในชีวิตที่แล้วของตัวเอง เขาก็ไม่เคยละมือจากความแค้นนั้น แต่ใครจะรู้ ไม่ต้องรอให้เขาลงมือ คนผู้นั้นก็ชิงไปปรโลกเสียก่อน
รถคว่ำตายขณะที่กำลังเดิมทางไปสนามแข่งขัน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวรกรรมตามทันหรืออะไร แต่ก็ถือว่าพอจะบรรเทาความแค้นในใจเขาไปได้บ้าง พอให้เขาใช้ชีวิตใหม่ได้อย่างมีความสุข
ชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขราวกับพระเจ้าจงใจชดใช้ให้เขา มีป่ะป๊า มีแดดดี๊ มีอากง มีคุณอาที่คอยตามใจ และไหนจะน้องชายฝาแฝดที่ชอบทำให้เขาหัวเราะ คนพวกนี้ทำให้เขากลายเป็นหลงจิวเลี่ยนอย่างสมบูรณ์
เป็นหลงจิวเลี่ยน ตามที่ป่ะป๊าของเขาตั้งให้ โชคชะตาแห่งความสุข
พูดถึงป่ะป๊าของเขา หรือก็คือนายใหญ่แห่งตระกูลหลงในตอนนี้ ชีวิตที่แล้วเขาเคยได้ยินชื่อของเจ้าตัวมาบ้าง คนที่มีอายุกว่าเขาเพียงไม่กี่ปี แต่ก็สามารถควบคุมตระกูลหลงที่ทรงอิทธิพลเอาไว้ในมือได้ คนที่มีภาพลักษณ์อ่อนแอบอบบาง
จิวเลี่ยนเคยสงสัยว่าทำไมคนที่มีภาพลักษณ์อ่อนแอบอบบางอย่างป่ะป๊าของเขาถึงได้ยึดอำนาจของตระกูลหลงไว้ในมือได้อย่างมั่นคง เคยคิดว่าเป็นเพราะแดดดี๊ช่วยเอาไว้ ทว่าเมื่อได้เกิดใหม่มาเป็นลูกของทั้งสองคน เขาก็รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว อ่อนแอบอบบางนั่นก็แค่ภาพลักษณ์
ความเป็นจริงก็คือ ป่ะป๊าไม่ได้กุมอำนาจแค่ในตระกูลหลง แต่กุมอำนาจเหนือแดดดี๊ด้วย!
คิดมาถึงตรงนี้ คนที่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตที่สองก็หัวเราะขึ้นมา เขานึกไปถึงเพื่อนนักแข่งของเขา นึกไปถึงสาว ๆ ที่เคยรู้จัก แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นแฟนคลับตัวยงของป่ะป๊า แต่ละคนล้วนแล้วแต่ถูกภาพลักษณ์ของผู้นำตระกูลหลงคนนี้หลอกตาทั้งสิ้น
อะไรคืออ่อนแอบอบบาง อะไรคือใสซื่อไร้เดียงสา
เกรงว่าจะไม่มีอยู่ในตัวป่ะป๊าเขาทั้งสิ้น!
หลงจิวเลี่ยนนินทาพ่อบุญธรรมของตัวเองอยู่ในใจ และเหมือนกับว่าเจ้าตัวจะรู้ เพราะว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เมื่อจิวเลี่ยนเอื้อมมือไปคว้ามันมา ก็พบว่าเป็นป่ะป๊าของเขานั่นเอง
“หลงจิวเลี่ยน กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้!” เบอร์โทรเป็นของป่ะป๊า แต่เจ้าของเสียงเป็นแดดดี๊
คนที่ถูกเรียกชื่ออย่างเต็มยศนั้นสีหน้าเผือดสีทันที รู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ถึงหูผู้นำเวลส์คนนี้แล้วอย่างแน่นอน และเพียงแค่นึกถึงว่าตลอดที่ผ่านมา แดดดี๊ของเขาจัดการกับคนที่มายุ่งกับเขาอย่างไร หลงจิวเลี่ยนก็รู้สึกเป็นห่วงหนุ่มหล่อเมื่อคืนทันที
อ่า แดดดี๊ เป็นลูกเองที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขา เป็นลูกเองที่เต็มใจให้เขาเชยชม
แน่นอนว่าถ้อยคำพวกนี้หลงจิวเลี่ยนได้แต่คิดมันในใจ รีบสะบัดผ้าห่มที่คลุมร่างกายออกแล้วพยุงร่างที่ผ่านศึกมาอย่างเคี่ยวกรำของตัวเองลงจากเตียง
เพียงแค่ก้างลงจากเตียงเท่านั้น ขาสั่น ๆ ของเขาก็พยุงร่างกายไว้ไม่อยู่ ทรุดลงกับพื้นทันที
“คุณชายใหญ่ ขอล่วงเกินแล้ว” การ์ดที่ถูกคัดมาอย่างดีแล้วทำหน้าที่ได้ดียิ่ง เหมือนกับว่าจับตาดูคุณชายใหญ่ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าผู้เป็นเจ้านายไม่สามารถพยุงร่างกายตัวเองได้ก็รีบพุ่งเข้ามาประคองไว้ แล้วอุ้มพาดบ่าทันที
“อุ้มท่าที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ” คนถูกอุ้มดีดดิ้นไปมาอย่างขุ่นเคือง ทว่ามันก็เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเมื่อยิ่งขยับร่างกายก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ จึงได้แต่ปล่อยให้การ์ดอุ้มตัวเองพาดบ่าไปทั้งอย่างนั้น
และเพราะว่าหลงจิวเลี่ยนต้องออกจากห้องไปอย่างกระทันหันเพราะการโทรตามของผู้เป็นพ่อ ทำให้เขาไม่ทันได้เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกแปะติดไว้ที่หัวเตียง และสุดท้ายมันก็ถูกกวาดลงถังขยะไปด้วยฝีมือของพนักงานที่เข้ามาทำความสะอาด
“ป่ะป๊า แดดดี๊” ทันทีที่ถูกอุ้มมาวางไว้จนถึงห้องโถงขนาดใหญ่ในคฤหาสน์หรู คนที่ถูกแดดดี๊โทรตามด้วยน้ำเสียงเข้มงวดดุดันนั้นก็รีบเรียกป่ะป๊า แดดดี๊ของตัวเองด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทันที ทว่าปากเรียกหาป่ะป๊า แดดดี๊ แต่สายตานั้นกลับลอบมองหาคนที่จะสามารถยื่นมือมาช่วยตัวเองได้ และเมื่อเห็นว่าบนโซฟาหรูที่ตั้งอยู่ตรงกลางนั้นมีช่ยวชราคนหนึ่งนั่งอยู่ ดวงตาคู่กลมสวยก็ฉายความยินดี ส่งสายตาหาผู้เป็นตาทันที
“ไม่ต้องมองหาตัวช่วย มองมาที่แดดดี๊” น้ำเสียงทุ้มต่ำลึกของแดดดี๊มาร์ตินี่ ทำให้จิวเลี่ยนละสายตาออกจากผู้ที่ตัวเองเรียกขานว่าอากงตั้งแต่เด็กออกมา แล้วทำหน้าสลดมองหน้าผู้พูด
“นั่งลง” แม้ว่าสีหน้าจะยังคงเคร่งขรึมอยู่ แต่น้ำเสียงนั้นอ่อนลงไม่น้อยเมื่อเห็นว่าขาของลูกชายคนนั้นสั่นสะท้านอยู่น้อย ๆ คล้ายว่าจะยืนทรงตัวไม่อยู่แล้ว
หลงจิวเลี่ยนก้าวขาสั่น ๆ ของตัวเองไปนั่งเคียงข้าง ๆ วอดก้า เลือกซบใบหน้าลงกับแขนเรียวสวยของชายผู้มีอายุเกือบจะห้าสิบปีแล้ว แต่ยังคงความอ่อนเยาว์บนใบหน้าไว้ได้ดี จนเหมือนคนที่มีอายุเพียงแค่สามสิบต้น ๆ เท่านั้น
“ตัวแสบ คิดว่าอ้อนป่ะป๊าแล้วจะรอดความผิดไปได้หรือ” วอดก้าหัวเราะเบา ๆ แล้วลูบกลุ่มผมนิ่มของผู้เป็นลูกชายคนโตอย่างเอ็นดู แม้ว่าผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเขาจะโกรธกับการกระทำเมื่อคืนนี้ของลูกชาย ทว่าเขากลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา และอีกอย่าง ลูกชายคนนี้ของเขาก็โตแล้ว
ไม่ใช่เด็กอายุสิบแปดอย่างที่ใครเห็นกัน
แน่นอนว่าวอดก้ารู้ว่าลูกชายคนนี้เป็นคนพิเศษ พิเศษเหมือนกับเขา และรู้มาได้หลายปีแล้ว ทว่าความรักความเอ็นดูที่มีให้ก็ยังคงเหมือนเดิม
ถึงยังไงก็เป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด เป็นลูกชายคนเดิมของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง
วอดก้ารู้ว่าลูกชายคนนี้มีความจำของชีวิตที่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไปว่าเขารู้ และไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร ปฏิบัติตัวต่อลูกชายคนโตเหมือนกับที่เป็นกับลูกชายคนเล็ก เพียงแต่ว่าจะเชื่อใจมากกว่าเล็กน้อย และห่วงน้อยกว่าอยู่บ้าง
“รู้ไหมว่าทำอะไรผิดไป” มาร์ตินี่เปิดปากถามลูกชายฝาแฝดคนโตของเขา ที่เขาเลี้ยงมาอย่างประคบประหงมเพราะว่าร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่กำเนิด ต่างจากลูกชายคนเล็กที่ตัวโตสูงใหญ่ แม้ว่าจะอายุเพียงแค่สิบแปดปีแต่ส่วนสูงก็ทะลุหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรไปแล้วเรียบร้อย ส่วนจิวเลี่ยนนี้ แม้ว่าจะมีส่วนสูงที่ไม่น้อยเหมือนกัน กว่าร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร แต่ว่าร่างกายกลับผอมบาง ถอดแบบวอดก้ามาไม่มีผิด
แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกในสายเลือด ทว่าเมื่อยิ่งโตมายิ่งเหมือนวอดก้า มาร์ตินี่มีหรือที่จะไม่รักไม่หลงปานแก้วตาดวงใจ และเมื่ออยู่ ๆ แก้วตาดวงใจของเขาถูกผู้อื่นขโมยไปดอมดม เขาหรือจะไม่เจ็บปวดหัวใจ
แน่นอนว่ามาร์ตินี่รู้ดีว่าแท้ที่จริงแล้วคนอื่นไม่ได้ขโมย แต่เป็นลูกชายตัวน้อยของเขานั่นเองที่เป็นฝ่ายเริ่มทั้งหมด
แต่เขาจะไม่ยอมรับ ใครจะทำไม
ส่วนคนโดนถามหาความผิดนั้นหลุบตาต่ำแล้วกลอกตาไปมา ก่อนที่จะค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้น เลื่อนตัวเองลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นแล้วคลานเข่าไปซบใบหน้าลงกับเข่าของผู้เป็นพ่อ ปล่อยหยดน้ำตาเม็ดน้อยให้ไหลออกมาจนหยดลงกับขากางเกงของแดดดี๊
“แดดดี๊ จิวเออร์ขอโทษ จิวเออร์ผิดไปแล้ว” น้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งยอมรับผิด แต่ไม่ตอบว่าตัวเองผิดอะไร
วอดก้าเหลือบสายตามองมาร์ตินี่ และก็มองผู้เป็นพ่อของตัวเอง รู้ได้ทันทีเลยว่ากระบวนการซักไซร้ความผิดของหลงจิวเลี่ยนผู้นี้ก็จะจบลงเพียงแค่เท่านี้
จะยังถามหาความผิด จะยังลงโทษอะไรได้อยู่อีกเล่า แต่ละคนล้วนแต่แพ้น้ำตาเจ้าเด็กแสบนี่ทั้งนั้น
อ้อ ไม่ใช่แค่แพ้น้ำตา แต่ยังแพ้ลูกไม้บีบน้ำตาด้วย
แน่นอนว่าแม้ว่ามาร์ตินี่และเจ้าพ่อหลงจะมองไม่เห็นหรือมองเห็นแล้วแต่แกล้งมองไม่เห็นลูกไม้ของจิวเลี่ยน แต่วอดก้ามองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
ลูกไม้พวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าเขาใช้บ่อย ๆ หรอกหรือ
หลงจิวเลี่ยนผู้เล่นลูกไม้บีบน้ำตาต่อหน้าแดดดี๊กับอากง เมื่อเหลือบสายตาเห็นแววตารู้เท่าทันจากผู้เป็นป่ะป๊าก็หลบตาวูบทันที
ป่ะป๊า ทั้งหมดนี้ลูกก็เรียนรู้มาจากป่ะป๊าทั้งนั้น!
คนที่ก่อนหน้ายังมีความรู้สึกผิดอยู่บ้างที่เล่นละครต่อหน้าแดดดี๊ แต่เมื่อเห็นป่ะป๊า ความรู้สึกผิดก็น้อยลงจนแทบจะไม่เหลือ
เขาบอกว่าเป็นต้องเชื่อฟังพ่อแม่ นี่ยังไงล่ะ เขาเชื่อในวิธีการของป่ะป๊า
เห็นหรือไม่ว่าเขาเป็นลูกที่ดีขนาดไหน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments
ประภาพร แสนสุข
นี่นาย
2022-03-11
0
อิโซเกกกกก!!!
นาย
2021-06-04
0