ภายในลานโล่งกว้างบนห้างสรรพสินค้าหรูชั้นเจ็ดถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มคนอย่างคับคลั่งจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้อากาศได้ลอดผ่าน นอกจากนี้ชั้นด้านบนที่สามารถมองลงมาได้ก็ถูกจับจองด้วยผู้คนที่ไม่สามารถแย่งชิงพื้นที่บนชั้นเจ็ดได้จนต้องพาตัวเองไปเกาะรั้วมองจากทางชั้นบน
จิวเลี่ยนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แว่นกันแดดเลนส์สีเข้มถูกถอดมาเหน็บเอาไว้ที่คอเสื้อ บนใบหน้าจึงเหลือแค่หน้ากากอนามัยปิดคลุมท่อนล่างของใบหน้าเท่านั้น และหากว่าใครก็ตามที่เป็นแฟนคลับของของเขาในฐานะนักแข่งรถมาเห็นเขาในตอนนี้ล่ะก็จะต้องจำได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจิวเลี่ยนจึงได้สวมหมวกแก็ปและดึงลงให้ปีกหมวกลงต่ำเพื่อซ่อนใบหน้าของเขาเอาไว้
จิวเลี่ยนมองไปยังด้านล่าง มองไปที่เวทีที่ตอนนี้แทบจะลุกเป็นไฟด้วยการแสดงของหนุ่มหล่อทั้งห้าคนแห่งวงยูนิค วงที่กำลังมาแรงและมีกระแสไปทั่วโลกในขณะนี้
ความจริงต้องบอกว่าจุดวางสายตาของจิวเลี่ยนมีอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหวังจิ้งหยู สายตาของเขามองตามการเคลื่อนที่ของหวังจิ้งหยูอย่างไม่ละสายตา ยิ่งตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ปากอ้าออกน้อย ๆ เพื่อหอบหายใจ เขาก็เผลอนึกไปถึงค่ำคืนที่ผ่านไปได้ไม่นาน
ตอนที่หวังจิ้งหยูเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของเขา เม็ดเหงื่อนั้นก็หยดไหลลงบนตัวเขา ริมฝีปากบางก็อ้าออกส่งเสียงกระหึ่มในลำคอสลับกับหอบหายใจ มีเสน่ห์อย่างยากจะละสายตาจริง ๆ
จิวเลี่ยนโดนเสน่ห์อันร้ายกาจยามอยู่บนเวทีของหวังจิ้งหยูเล่นงานเสียแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เขาที่ตกบ่วงเสน่ห์อันร้อนแรงของหวังจิ้งหยู เพราะบรรดาแฟนคลับที่ยืนเบียดเขาอยู่นี้ก็ตกลงไปในบ่วงนั้นด้วยเหมือนกัน ดูจากการที่พวกเธอเอาแต่กระทืบเท้าดีดดิ้นไปมา ปากก็ตะโกนเรียกชื่อ
“พี่จิ้ง พี่จิ้ง กรี๊ดดดดด พี่จิ้งขา พี่จิ้งหล่อมากกกกก กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดสลับเสียงคร่ำครวญเรียกชื่อที่ดังข้างหูไม่ขาดสายทำเอาจิวเลี่ยนหูดับไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
โชคดีมากที่การแสดงบนเวทีนั้นจบลงในเวลาแค่สิบห้านาที เสียงกรีดร้องของบรรดาแฟนคลับจึงได้เบาลงบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีเสียงตะโกนบอกรัก เสียงเรียกร้องความสนใจดังขึ้นอย่างเนือง ๆ
วันนี้ห้าหนุ่มวงยูนิคมางานเปิดตัวสินค้าที่พวกเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งทางเจ้าของสินค้าก็ได้เลือกเช่าพื้นที่ในห้างนี้เป็นสถานที่จัดงาน เพราะว่ามีหน้าร้านอยู่ในห้างนี้ด้วยเหมือนกัน
“เอาล่ะครับ ต่อไปนี้พวกเราจะมาพูดคุยกับห้าหนุ่มหล่อของทุก ๆ คนกันหน่อย แต่ก่อนที่จะได้พูดคุย ให้ทั้งห้าคนได้แนะนำตัวกันก่อนดีกว่า เริ่มจากทางฝั่งนี้เลยก็ได้ครับ” พิธีกรชายวัยกลางคนที่เป็นศิลปินตลกที่หลาย ๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตานั้นเริ่มดำเนินรายการทันที
“สวัสดีครับ หวังจิ้งหยู หัวหน้าวงยูนิคครับ” หวังจิ้งหยูผู้เป็นทั้งพี่ใหญ่และหัวหน้าวงเริ่มแนะนำตัวก่อนเป็นคนแรกเนื่องจากเขายืนอยู่ใกล้พิธีกรมากที่สุด
สิ้นเสียงแนะนำตัวของจิ้งหยู เสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนคลับก็ดังขึ้นทันที
จิวเลี่ยนต้องยกมือขึ้นอุดหูอีกครั้งหนึ่ง แต่มุมปากก็มีรอยยกยิ้มน้อย ๆ คิดว่าในบรรดาคนที่ยืนอยู่ที่นี่ไม่มีใครไม่รู้จักจิ้งหยูอย่างแน่นอน
หลังจากที่จิ้งหยูแนะนำตัวเสร็จแล้ว ก็เป็นหยางฮ่าวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ถัดไปก็เป็นเสียนลู่ ซองซึงฮุนและปิดท้ายด้วยเจิ้งเหยา พี่ใหญ่อีกคนหนึ่งของวง
จิวเลี่ยนสังเกตดูจากเสียงกรี๊ดแล้วพบว่าพี่ใหญ่ทั้งสองของวงเป็นที่นิยมของบรรดาแฟน ๆ มากที่สุด โดยที่จิ้งหยูดูจะเป็นที่นิยมมากกว่าเจิ้งเหยาเล็กน้อย อาจจะเพราะด้วยความเป็นหัวหน้าวงด้วย
เมื่อห้าหนุ่มพูดแนะนำตัวเสร็จ พิธีกรก็เริ่มพูดตามสคริปที่เตรียมเอาไว้ในทันที
“ได้กลับมาที่เกาะเอ็มอีกครั้ง รู้สึกยังไงบ้างครับ” คำถามนี้นับได้ว่าเป็นคำถามเบสิคมาก ดังนั้นคนที่ตอบคำถามจึงไม่จำเป็นต้องมีความระมัดระวังอะไรในการตอบ เสียนลู่จึงได้ถูกพี่ ๆ มอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้ตอบคำถามนี้
“ดีครับ ดีมาก ๆ เลย แฟน ๆ ยังคงให้การต้อนรับเราอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ดีใจมาก ๆ ที่ได้มาเจอแฟน ๆ ที่นี่อีกครั้งครับ” เมื่อเสียนลู่ตอบเสร็จแล้วแน่นอนว่าย่อมต้องมีเสียงกรี๊ดของแฟน ๆ ตามมา แฟนคลับแต่ละคนยิ้มจนหน้าบานกันไปหมด รู้สึกดีใจมากที่ทำให้ศิลปินชอบได้กับการต้อนรับของตัวเอง
“ได้ข่าวว่ามาถึงเกาะเอ็มเป็นวันที่สี่แล้ว สามวันก่อนหน้านี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างครับ พอจะบอกให้ทุกคนฟังได้ไหม”
คำถามนี้หากว่ามีคนสังเกตดี ๆ หรือตาไวสักหน่อยจะเห็นได้ว่าผู้เป็นหัวหน้าวงนั้นชะงักไปเล็กน้อย
“ก็ไปเที่ยวมาหลาย ๆ ที่ครับ และก็แอบซุ่มทำงานอยู่นิดหน่อย แต่ว่าจะเป็นงานอะไรนั้นคงต้องขอเก็บไว้เป็นความลับก่อน ยังไงขอฝากทุกคนให้รอติดตามชมด้วยนะครับ” เจิ้งเหยาเป็นผู้ตอบคำถามนี้
“โอ้โห เรียกได้ว่ามาครั้งหนึ่งคุ้มเลยสิครับเนี่ย ได้ทั้งมาเที่ยว ได้ทั้งทำงาน แถมยังได้เจอแฟน ๆ อีกด้วย แล้วสถานที่เที่ยวไหนที่พวกคุณชอบที่สุดครับบนเกาะเอ็มนี้”
“ฮืมมม ผมชอบทุกที่เลยครับ แต่ถ้าให้เลือกชอบที่สุดเห็นจะเป็นสวนสนุก” เสียนลู่ตอบด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เอ๊ะ สวนสนุกเหรอครับ คุณเสียนลู่ได้มีโอกาสไปเที่ยวสวยสนุกด้วยเหรอครับนี่ แล้วอย่างนี้บรรดาแฟนคลับที่บังเอิญเจอไม่ตกใจแย่เหรอครับ” พิธีกรชายถือว่าตกใจอย่างแท้จริง ชื่อเสียงของห้าหนุ่มยูนิคไม่ใช่ว่าจะเล็กน้อย ไม่ใช่บุคคลที่จะเดินไปตามสถานที่สาธาระณะได้อย่างสะดวกราบรื่น ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนจะต้องเผชิญกับการรุมของกลุ่มก้อนแฟนคลับแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงแปลกใจที่เสียนลู่บอกว่าชอบสวนสนุก
“ก็ไปมาครับ แต่ว่าคนจำผมได้มีไม่เยอะเท่าไหร่” เสียนลู่ไม่พูดว่าแท้ที่จริงแล้วไม่มีใครจำเขาได้เลยต่างหากเนื่องจากการปลอมตัวของเขา
ใครจะคิดว่าคนหัวล้านอ้วนตัวกลมเป็นหมีจะเป็นคนเดียวกับเสียนลู่แห่งวงยูนิคกัน
นับได้ว่าเสียนลู่ใจกล้ามากที่ปลอมตัวไปเที่ยวสวนสนุกโดยที่ไม่กลัวแฟนคลับจับได้
ทว่าเสียนลู่เหมือนจะลืมไปว่าไม่ใช่แค่เขาแอบแฟนคลับ แต่แอบแม้กระทั่งคนดูแลของเขา
เอ็มม่าที่ยืนอยู่ด้านล่างเวทีขมวดคิ้ว ส่งแววตาคาดโทษไปให้ทันที
“แหม จะเป็นไปได้เหรอครับที่แฟนคลับจะจำคุณเสียนลู่ไม่ได้ ผมว่าเขาต้องจำได้แน่ ๆ แต่ว่าเพื่อให้คนที่ตัวเองรักได้มีเวลาส่วนตัวสักหน่อย เขาก็เลยแกล้งทำเป็นจำไม่ได้แล้วไม่เข้าไปรบกวนมากกว่า จริงไหมครับ” สมกับที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน พิธีกรชายวัยกลางคนพูดเอาใจแฟนคลับอย่างเต็มที่ พูดกับเสียนลู่แล้วก็หันไปยื่นไมโครโฟนไปทางแฟนคลับ
“จริงงงงงงงง!” แฟนคลับด้านล่างพร้อมใจกันส่งเสียงตอบรับทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วพวกเธอกำลังคิดอยู่ว่าเสียนลู่ไปเที่ยวสวนสนุกมาวันไหน ทำไมพวกเธอถึงได้ไม่มีใครรู้เลย ไม่มีใครปล่อยข่าวออกมาสักนิด แม้กระทั่งพวกซาแซงแฟนคลับก็ตาม
ห้าหนุ่มยูนิคหัวเราะเบา ๆ กับคำตอบรับของแฟนคลับ ก่อนที่พิธีกรจะส่งคำถามต่อไปออกมาอย่างต่อเนื่องให้ห้าหนุ่มได้สลับกันตอบ และเมื่อถึงเวลาที่สมควรเขาก็ดึงบทสัมภาษณ์เข้าสู่สินค้าที่ทั้งห้าคนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
“ทุกคนต่างก็รู้อยู่แล้วว่ายูนิคนั้นกำลังเป็นที่นิยมไปทั่งโลกขณะนี้ และทั้งห้าคนก็ต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำการแสดงคอนเสิร์ตและพบปะแฟน ๆ ดังนั้นคิดว่าแต่ละคนคงจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ว่าสงสัยมาก ทำไมหน้าของแต่ละคนถึงได้สดใสไม่ทรุดโทรมเลยล่ะครับ มีเคล็ดลับอะไรจะบอกแฟน ๆ บ้างหรือเปล่า” นี่เรียกได้ว่าเป็นการพูดเข้าสินค้าอย่างโจ่งแจ้งทีเดียว
“เคล็ดลับดูแลผิวหน้าของพวกเราเหรอครับ ทุกคนคงรู้แล้วว่าการนอนพักผ่อนเยอะ ๆ ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ทานผลไม้ ออกกำลัง นั้นเป็นวิธีที่ดี แต่ว่าพวกเราไม่ได้มีเวลาพักผ่อนสักเท่าไหร่ เราเลยต้องมีตัวช่วยมาเสริมแทนน่ะครับ ตัวช่วยนั้นก็คือผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้า แล้วข้อจำกัดของผมก็คือเวลา ผมมีเวลาน้อยมาก ดังนั้นการทาสกินแคร์หลาย ๆ ขั้นตอนก็ออกจะกินเวลาของผมมากเกินไป ผมเลยจำเป็นต้องหาตัวช่วยครับ แล้วก็มาเจอตัวนี้ นี่ ผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมคุณสมบัติของการดูแลผิวหน้าในสกินแคร์แต่ละขั้นตอนเข้าด้วยกัน ทาบาง ๆ ก่อนนอนแค่นี้ตื่นช้ามาหน้าเราก็สดใสรับวันใหม่แล้ว” ซองซึงฮุนผู้มีผิวหน้าดีที่สุดในบรรดาห้าหนุ่มเป็นผู้รับหน้าที่ในการขายตรงครั้งนี้
“บางคนคิดว่าเรามาขายตรงนะครับ ก็ยอมรับเลยครับว่าใช่จริง ๆ ฮ่า ๆ” หยางฮ่าวพูดกลั้วหัวเราะ และมันก็เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาแฟนคลับได้เป็นอย่างดี
สำหรับแฟนคลับที่คลั่งไคล้พวกเขาแล้วนั้น ต่อให้ขายตรงยิ่งกว่านี้ หรือจะบอกแค่ว่ามาซื้อครีมทาหน้ากันเถอะ โดยไม่บอกสรรพคุณ ก็เชื่อได้เลยว่ามีหลายคนที่พร้อมจะเสียเงินซื้อตามโดยไม่คิดลังเลแม้แต่น้อย
“แหม ขายตรงอย่างนี้แฟน ๆ คงจะสงสัยแย่ว่าผลิตภัฑณ์มีดีจริงหรือเปล่า อย่างนั้นเราต้องหาคนมาช่วยพิสูจน์ดีกว่าครับ” สิ้นเสียงของพิธีกร แฟนคลับแต่ละคนก็ออกท่าทางตื่นเต้นทันที
“ยังไง จะสุ่มคนขึ้นไปบนเวทีเหรอ”
“สุ่มไหม หรือเตรียมคนไว้แล้ว หรือยังไง กรี๊ดดดด ทำไงถึงจะได้ขึ้นไปบนนั้น”
“โอ๊ย! สุ่มไหม หรือยังไง ถ้าสุ่มแล้วต้องทำไง จะไปหาแต้มบุญมาจากไหน ใครมีแต้มบุญให้กู้ไหม”
“กรี๊ดดดด สุ่มจริงด้วย พระเจ้า ทำไมไม่เห็นบอกก่อนเลยว่าจะมีการสุ่มผู้โชคดี แล้ว แล้วถ้าสุ่มได้ฉันล่ะจะทำไง วันนี้หน้าโทรมมากกรี๊ดดด จะขึ้นไปให้ผัวพี่จิ้งเห็นหน้าโทรม ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ”
ประโยคหลังนี้ทำให้จิวเลี่ยนอดหันไปมองหน้าคนพูดไม่ได้ พบว่าเป็นผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีอายุน้อยกว่าเขา
เมียมโนอีกแล้ว เมียตัวจริงของเขายืนอยู่ตรงนี้หรอก
ใบหน้าเรียวสวยภายใต้หน้ากากอนามัยเชิดหน้าขึ้นอย่างลืมตัว และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แสงสปอร์ตไลต์ส่องเข้าที่ใบหน้าของเขาพอดี
เสียงกรี๊ดเงียบลง สายตาทุกคู่หันมองมาที่ชายหนุ่มผู้ใส่หน้ากากใส่หมวกปกปิดมิดชิด
“ได้แล้วครับ เราได้ผู้โชคดีคนแรกของกิจกรรมวันนี้แล้ว ขอเชิญผู้โชคดีขึ้นบนเวทีด้วยครับ”
เสียงของพิธีกรดังเข้าหูจิวเลี่ยน เขาที่ยังคงตั้งตัวไม่ทันก็มึนงงไปเล็กน้อย จนพิธีกรพูดเรียกรอบที่สอง ประกอบกับบรรดาแฟนคลับที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มกรีดร้องอย่างอิจฉาเขา
“กรี๊ดดด ทำไมไม่เป็นฉัน ฉันก็ยืนอยู่ข้าง ๆ นี่เอง” เสียงนี้จากคนที่เมื่อครู่ยังบอกว่าไม่อยากเอาหน้าโทรม ๆ ไปเจอผัวพี่จิ้งอยู่เลย
“ผู้โชคดีครับ เชิญลงมาที่เวทีด้วยครับ” เสียงพิธีกรเรียกอีกครั้ง
จิวเลี่ยนมองลงไปข้างล่าง มองหน้าพิธีกร มองหน้าห้าหนุ่มที่อ้าปากมองเมื่อเห็นว่าใครคือผู้โชคดี มองหน้าเอ็มม่าเพื่อนรักที่ตาโตอย่างตกใจ
ผู้โชคดี ผู้โชคดีบ้าอะไร เขาเปิดหน้าได้ที่ไหนกันเล่า!
ผู้โชคดีที่รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายคร่ำครวญอยู่ในใจ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments