“เชิญผู้โชคดีลงมาที่เวทีด้วยครับ ไม่ต้องเขินครับ ไม่ต้องเขิน คิดว่าคงจะอายแฟนคลับสาว ๆ นะครับ” พิธีกรพูดติดตลกเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ เมื่อเขาประกาศเรียกถึงสามครั้งแล้วคนที่กำลังมีแสงสปอร์ตไลท์ส่องหน้าก็ยังไม่ยอมลงมาจากชั้นบนนั่นเสียที
ไม่ได้เขิน!
จิวเลี่ยนอยากเถียงใจแทบขาดว่าเขาไม่ได้เขิน แต่ว่าเขาไม่สามารถพูดมันออกไปได้ และยิ่งสายตากดดันของทุกคนที่รายล้อมเขาอยู่นั้นยิ่งทำให้จิวเลี่ยนอยากจะกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งเลยจริง ๆ
ก็ถ้าเขาเป็นแค่แฟนคลับจริง ๆ เขาจะรีบวิ่งไปแล้ว แต่ไม่ใช่ไงโว้ยยยยย ไม่ได้ใกล้เคียงเลย!
“เอ๊ะ ฉันว่าฉันคุ้นหน้าเขาอยู่นะ” ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังรอว่าเมื่อไหร่ที่ผู้โชคดีจะลงไปตามคำเชิญของพิธีกร อยู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นมา
จิวเลี่ยนและคนอื่น ๆ หันสายตาไปมองยังต้นทาง เขาพยายามมองหาว่าใครเป็นคนที่ตะโกนขึ้นมา พลังเสียงของเธอช่างดีจริง ๆ
ท่ามกลางฝูงชนนับพันคน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมาหาเจ้าของเสียง
“รู้แล้ว เขาก็คือคนขับรถของวงยูนิคนั่นแหละ เป็นคนขับรถจะเป็นผู้โชคดีขึ้นไปบนเวทีได้ยังไง สุ่มใหม่ สุ่มใหม่เดี๋ยวนี้!” เสียงของคนคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ประโยคต้นนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตัว และประโยคท้ายนั้นมีทั้งแววสั่งการและกดดัน
“อะไรนะ คนขับรถคนใหม่นั่นเหรอ”
“คนขับรถเหรอ เป็นคนขับรถแล้วทำไมไม่รอที่รถ มาอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร”
“ตกลงเป็นคนขับรถจริง ๆ เหรอ ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเตี๊ยมกันมาหรอกเหรอ”
“เตี๊ยมกันมาใช่ไหม ถ้าไม่ใช่ต้องสุ่มใหม่เดี๋ยวนี้ สุ่มใหม่ให้พวกเรา”
“สุ่มใหม่ สุ่มใหม่ สุ่มใหม่” เสียงแฟนคลับดังก้องไปทั่วลานกว้าง
บรรดาทีมผู้จัดงาน พิธีกร และตัวศิลปินบนเวทีก็เริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว
จิวเลี่ยนเองก็สีหน้ามืดครึ้ม เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังสร้างปัญหาให้กับงานของคนอื่นแล้ว
“เอ่อ ใจเย็น ๆ กันก่อนนะครับ ทางแบรนด์ไม่ได้มีการจัดฉากอะไรไว้ครับ เป็นความบังเอิญล้วน ๆ และเพื่อความสบายใจของแฟนคลับทุกท่าน ทางเราจะดำเนินการสุ่มหาผู้โชคคนใหม่ครับ และเพื่อเป็นการขอโทษ เราจะสุ่มผู้โชคดีเพิ่มอีกหนึ่งท่านครับ” พิธีกรที่ได้รับการกระซิบถึงแผนการที่ปรับเปลี่ยนจากทีมงานก็รีบประกาศออกไมโครโฟนเพื่อหยุดยั้งความโกลาหลที่เกิดจากแฟนคลับ
เมื่อบรรดาแฟนคลับได้ยินอย่างนั้นก็ค่อย ๆ เงียบเสียงประท้วงลง สีหน้าเริ่มมีความพอใจขึ้นมา และแปรเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นเมื่อการสุ่มหาผู้โคดีคนใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
จิวเลี่ยนถอนหายใจเมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เขาค่อย ๆ ถอยเท้าจากจุดที่ยืนอยู่เพื่อที่จะปลีกตัวหลบออกไป รู้แล้วว่าการยืนรวมกลุ่มอยู่กับพวกแฟนคลับไม่ใช่ความคิดที่ดีจริง ๆ
ทว่าตอนที่เข้ามานั้นก็ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่ตอนจะกลับออกไปนั่นยิ่งยากกว่า เมื่อบรรดาแฟนคลับนั้นพยายามจะขยับไปมาเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในแสงสปอร์ตไลท์ที่แวบผ่านไปมา และนั่นก็เท่ากับดันจิวเลี่ยนไปทางนั้นทีทางนู้นทีอยู่ตลอด
จิวเลี่ยนไม่มีความคิดจะสร้างปัญหาเพิ่มโดยการผลักแฟนคลับออกไป ดังนั้นเขาจึงได้แต่จำใจยืนอยู่ที่เดิม และระมัดระวังตัวเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของแฟนคลับ
ล้มไปนี่โดนเหยียบตายแน่ ๆ
เพียงแค่สิ้นความคิด เสียงอุทานก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน
จิวเลี่ยนมองไปที่ด้านข้างตัวเองก็พบว่าแฟนคลับคนหนึ่งล้มลงไปแล้ว และกำลังจะถูกฝูงเท้าของบรรดาแฟนคลับคนอื่น ๆ เหยียบ
เฮ้อออ เห็นแก่ผลประโยชน์ของบริษัทหรอกนะ
จิวเลี่ยนขมวดคิ้วแล้วขยับร่างกายตัวเองเบียดแทรกไปดึงแฟนคลับวัยรุ่นหญิงคนนั้นให้ลุกขึ้นมาได้ แต่ขณะที่เขากำลังช่วยอยู่นั้น หมวกที่เขาสวมอยู่ก็หลุดกระเด็นหายไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ระวังหน่อยครับ” จิวเลี่ยนพูดกับแฟนคลับสาวของวงยูนิคที่เขาช่วยไว้ได้ด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อคนที่เขาพูดด้วยนั้นเอาแต่มองเขาตาค้าง
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” จิวเลี่ยนถามเมื่อเห็นว่าคนที่เขาช่วยไว้นั้นไม่มีการตอบสนองอะไรต่อเขาเลย ยืนนิ่งอึ้งเหมือนกับว่ากำลังตกใจอยู่ หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน และเพราะเขาเอาแต่สนใจอยู่กับแฟนคลับคนนี้ ดังนั้นจึงไม่เห็นว่าการสุ่มหาผู้โชคดีสองคนนั้นได้จบลงไปแล้ว ความวุ่นวายรอบข้างพวกเขาก็หยุดลงแล้วด้วย
ดังนั้นเมื่อศิลปินลงจากเวทีกลับไปเตรียมตัวที่ด้านหลัง แฟนคลับสองคนขึ้นไปให้สัมภาษณ์ความรู้สึก แฟนคลับที่ไม่ถูกรับเลือกก็ละความสนใจจากเวที ดังนั้นจุดความสนใจใหม่ของแฟนคลับหลาย ๆ คนก็คือคนขับรถคนใหม่ของศิลปินของพวกเธอ
จุดประสงค์ของการมองนั้นก็ไม่ใช่ในทางบวกสำหรับตอนแรก ทว่าเมื่อเห็นว่าคนที่พวกเธอหมายหัวเอาไว้นั้นไม่ได้สวมหมวกปิดบังใบหน้าอีกแล้ว ดวงตาที่มองมาแต่ละคู่ก็เบิกกว้างขึ้น
“นั่นคนขับรถจริง ๆ เหรอ”
“คนขับรถคนเมื่อกี๊ใช่ไหม ทำไมหล่อ!”
“อะไรน่ะ นั่นคือคนขับรถเหรอ ใช่จริง ๆ เหรอ”
“หล่อ หล่อชิบหายวายวอดเลยค่ะอีเห้ หล่อแบบนี้ได้ยังไง หล่อทะลุแมสคออกมาเลย กรี๊ดดดดด”
“มึ๊งงงง คนขับรถหล่อบอกต่อด้ว หล่ออะไรขนาดนั้นอะ”
“วงยูนิคนี้มันจะเกินไปแล้ว จะหล่อตั้งแต่ศิลปินยันคนขับรถไม่ได้นะ หัวใจจะวาย”
“เดี๋ยวนะ อยากเห็นหน้าใกล้ ๆ มาก ทำไมฉันรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”
“โอ้โห ขนาดใส่แมสยังรู้เลยว่าต้องหล่อแน่ ๆ อยากเห็นตอนถอดแมสเลย”
“เดี๋ยวนะ กุมาติ่งศิลปินนะ ไม่ได้ ไม่ได้ กุจะมาติ่งคนขับรถของศิลปินด้วยไม่ได้!”
จิวเลี่ยนที่ได้ยินเสียงฮือฮาของแฟนคลับ เขาที่ยังไม่รู้ตัวว่าหมวกของตัวเองถูกเกี่ยวกระเด็นหายไปไหนแล้วก็ยกมือขึ้นหมายจะขยับหมวก แต่เมื่อไม่พบ สีหน้าก็มืดครึ้มขึ้นทันที เขาก้มหน้าลงต่ำจนแทบจะชิดอกของตัวเอง ยกมือขึ้นบังใบหน้าแล้วพยายามจะเบียดเสียดผู้คนออกไป ทว่าเมื่อบรรดาแฟนคลับเห็นเขาในตอนนี้แล้ว แต่ละคนก็ไม่ยอมที่จะให้เขาเดินออกไปได้ง่าย ๆ ยิ่งเบียดกันเข้ามาอีก
จิวเลี่ยนเหงื่อตก และยิ่งเหงื่อตกเม็ดใหญ่กว่าเดิมเมื่อแฟนคลับคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาพูดขึ้นมาว่า
“เอ๊ะ ทำไมคุณคนขับรถถึงได้หน้าเหมือนจิลคนที่เป็นแชมป์ฟอร์มูล่าวันคนนั้น!” เสียงของแฟนคลับคนนี้ไม่เบาเลย จิวเลี่ยนขยับปากอย่างต้องการที่จะพูดอะไรสักอย่างออกมา ทว่า เสียงของพิธีกรด้านล่างก็ดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งของห้าหนุ่มยูนิค
“กรี๊ดดดดดด จิ้งหยูเกอเกอ”
“ซึงฮุนอปป้า ซารังเฮ”
“เสียนลู่ตี้ตี้”
เสียงกรีดร้องของแฟนคลับดังขึ้นอย่างถล่มทลาย และนั่นก็ดึงความสนใจของทุกคนไปจากจิวเลี่ยน
จิวเลี่ยนฉวยโอกาสนี้รีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ เกือบไปแล้ว” จิวเลี่ยนใช้หลังมือปาดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเองพลางพรูลมจากอกอย่างโล่งใจ คิดว่าความลับของตัวเองจะแตกตั้งแต่วันแรกเสียแล้ว
ต่อไปต้องระวังตัวกว่าเดิม!
จิวเลี่ยนเตือนตัวเองอยู่ในใจ และยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดว่าจะต้องไปไหนต่อ เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ขอเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน
‘จิ่วเลี่ยน มาที่หลังเวทีเดี๋ยวนี้!’
เป็นข้อความจากเพื่อนรักที่มีส่วนทำให้เขาต้องมาลำบากแบบนี้นั่นเอง
‘ไม่ไป จะไปนอนรอที่ห้องแล้วกัน’ แน่นอนว่าห้องที่เขาพูดถึงก็คือห้องทำงานของป่ะป๊าที่อยู่ด้านบน เอาไว้สำหรับใช้ทำงานเวลาเข้ามาตรวจกิจการที่นี่ ซึ่งก็คือเดือนละครั้ง
จิวเลี่ยนส่งข้อความตอบกลับเพื่อนเสร็จก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ไม่สนใจอะไรอีก เดินไปยังจุดที่ไม่อยมีคนพลุกพล่าน ใช้คีย์การ์ดที่ป่ะป๊าให้ไว้แตะลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารโดยเฉพาะ
“โชคดีที่วันนี้ไม่ใช่วันที่ป่ะป๊ามีคิวตรวจที่นี่” คนที่แอบมาเล่นซนโดยไม่บอกป่ะป๊ากับแดดดี๊พูดกับตัวเองเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงโล่งใจขณะที่เปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของป่ะป๊า
จิวเลี่ยนเอนตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวอย่างเอกเขนก เครื่องปรับอากาศส่งไอเย็น ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ชวนให้ง่วงงุนอย่างทนไม่ได้ จนในที่สุดเปลือกตาบางก็หนักจนพยุงไม่อยู่ ปิดลงบดบังดวงตาคู่สวยในที่สุด
คนเผลอหลับไปนั้นไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองเป็นที่พูดถึงมากขนาดไหนในเชียล และถึงขั้นมีแฮชแท็กเป็นของตัวเองแล้วด้วยซ้ำ
กุถ่ายมาได้ค่า #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย กุอยากรู้มากว่ายูนิคไปหาคนขับรถที่หล่อขนาดนี้มาได้จากที่ไหนวะ
เสียของมาก เสียของที่สุด ขนาดใส่แมสคยังรู้เลยว่าหล่อ โอ้โหหห มุงดูตา ดูคิ้วของเขานะ ไหนจะสันดังที่ดันแมสคนั่นอีก ทำไมคุณพี่ไม่ไปเป็นไอดอลค้า มาเป็นคนขับรถทำไม #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย
ทีมหน้าจอได้ยินว่าที่งานมีเรื่องวุ่นวายตอนสุ่มผู้โชคดี เห็นว่าคนแรกสุ่มได้คนขับรถของวงเอง จริงปะ
กุอยู่หน้างาน คือตลกมากกกก ตอนแรกแฟนคลับไม่พอใจที่สุ่มผชด.ได้คนขับรถของวง คือพอผู้ลงจากเวที จุดวางสายตาก็เปลี่ยนเลย กะว่าจะเชือดทางสายตานั่นแหละ แต่พอหันไปเจอความหล่อกระแทกตาเท่านั้น คนจะเชือดก็กลายเป็นคนถูกเชือดทันที นี่ขนาดเขาใส่แมสนะ ถ้าถอดออกกุก็ไม่รู้ว่าจะยังหายใจต่อได้ไหม #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย
เดี๋ยวนะ ก่อนหน้านี้กุเพิ่งจะหวีดความรวยของคนขับรถไป ตอนนี้กุต้องมาหวีดความหล่อต่อเหรอ กุงงม๊ากกกก หล่อก็หล่อ รวยก็รวย คุณพี่มาเป็นคนขับรถทำไมค๊า #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย
เอิ่ม รู้ได้ไงว่าเขาหล่อ มีแมสคปิดอยู่ จริง ๆ แล้วอาจจะปากเบี้ยวก็ได้ป่ะ เรื่องเสื้อผ้าก็เหมือนกัน กุว่าเป็นของก็อปแน่นอน ถ้ามันทั้งหล่อทั้งรวยจริงจะมาเป็นคนขับรถทำไม แล้วพวกมึงเป็นห่าไรกัน สนใจคนขับรถอยู่ได้ แทนที่จะเอาเวลาไปสนใจศิลปิน #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย
ไม่ว่าในโซเชียลประเด็นเรื่องคนขับรถจะร้อนแรงขนาดไหน จิวเลี่ยนก็ยังคงนอนตากแอร์เย็น ๆ หลับสบายอยู่ดี หลับจนลืมเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้ หลับจนลืมว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องขับรถให้หน้าหนุ่มหล่อแห่งวงยูนิค หลับจนเพื่อนต้องโทรตาม และกว่าเขาจะรับก็ปาเข้าไปเกือบสามสิบสาย
หลับหรือซ้อมตายกันแน่!
“ขอโทษ ๆ พอดีว่าเผลองีบไป เออ ออกมาได้เลย รออยู่ที่รถแล้ว” จิวเลี่ยนรีบพูดขอโทษเพื่อสนิทผ่านโทรศัพท์ทันทีหลังจากที่วิ่งมาถึงรถแล้ว
และเขาก็ยืนรออยู่ได้ไม่ถึงห้านาที กลุ่มคนกว่าสี่สิบคนก็เดินมาถึง แน่นอนว่ากึ่งกลางกลุ่มก้อนคนพวกนั้นก็คือคนที่เขาต้องขับรถให้นั่งนั่นเอง
จิวเลี่ยนขึ้นนั่งบนเบาะคนขับแล้วสตาร์ทรถรอทันที จนกระทั่งการ์ดเปิดประตูรถให้ห้าหนุ่มและหนึ่งหญิงสาวขึ้นมานั่งเรียบร้อยแล้ว และรถของการ์ดที่อยู่ข้างหน้าออกตัวนำไปแล้ว เขาจึงได้เหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวตามไป
“เสี่ยวจิว นายเกือบจะทำพวกฉันซวยแล้ว” เสี่ยนลู่เกาะเบาะข้างคนขับแล้วชะโงกหน้าไปพูดกับจิวเลี่ยน น้ำเสียงนั้นมีความกลั้วหัวเราะอยู่ ฟังดูก็รู้ว่าไม่ได้จริงจังอะไร
“เรื่องสุ่มผู้โชคดีเหรอครับ ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากไปยืนดูพวกคุณตอนทำงาน ไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ด้วย” จิวเลี่ยนเหลือบสายตามองแล้วพูดขอโทษอย่างจริงใจ ความเป็นจริงก็คืออย่างที่เขาพูดไปทั้งหมดเลย
เขาจะรู้เหรอว่าจะมีการสุ่มผู้โชคดีด้วย ต่อให้รู้ก็ไม่คิดว่าจะสุ่มมาโดนตัวเองไหม
“เสี่ยวลู่แค่ล้อเล่นน่ะครับ มันไม่ใช่ความผิดคุณ” เจิ้งเหยาดึงน้องเล็กของวงให้นั่งลงดี ๆ แล้วพูดกับจิวเลี่ยน
“ว่าแต่คุณรู้ไหมในโซเชียลตอนนี้มีแต่คนพูดถึงคุณ แฟนคลับของพวกเราสนใจคุณพอ ๆ กับพวกเราแล้ว” หยางฮ่าวที่นั่งเช็คผลตอบรับจากแฟนคลับทางโซเชียลตลอดพูดขึ้นมาบ้าง
“เอ๋ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ หรือว่าเขาไม่พอใจเรื่องวันนี้กันจริง ๆ” จิวเลี่ยนที่ไม่ได้ท่องโซเชียลเลยจึงไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ใช่ที่ไหนล่ะครับ พวกเขากำลังเล่นแฮชแท็ก คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย ต่างหาก” ซึงฮุนเป็นคนพูดประโยคนี้ขึ้นมา
จิวเลี่ยนที่ได้ยินอย่างนั้นก็สำลักน้ำลายทันที
“แค่ก ๆ เอ่อ นั้นเกี่ยวกับผมเหรอ” จิวเลี่ยนถามอย่างที่ภาวนาให้มันไม่ใช่เรื่องเขาจริง ๆ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าความลับของตัวเองจะถูกเปิดเผยมาด้วยหรือเปล่า
“ก็ต้องเป็นนายน่ะสิ ฉันเห็นรูปที่เขาถ่ายนายลงแล้ว ถึงจะใส่แมสคแต่ก็มองออกว่านายหล่อมากจริง ๆ หล่อกว่าฉันอีกด้วยมั้ง” เสียนลู่หรี่ตาพูด ประโยคท้ายมีความไม่ยินยอมอยู่นิดหน่อย ทว่าไม่ได้จริงจังอะไร
“เอ่อ” จิวเลี่ยนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี นอกจากคิดว่ากลับไปต้องรีบสั่งให้คนตามเก็บความเขาแล้ว
ไม่สิ ถ้าสั่งให้ตามเก็บภาพจะยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ ไม่ได้ ต้องปล่อยเอาไว้แบบนั้นแหละ
จิวเลี่ยนคิดหาวิธีจัดการโดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าในบรรดาห้าหนุ่มนั้นมีคนหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาสักประโยคเดียว และก็เอาแต่ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
ดวงตาคู่คมของจิ้งหยูมองภาพถ่ายคนขับรถของเขาที่แฟนคลับแอบถ่ายแล้วปล่อยลงโซเชียล แม้จะมองเห็นแค่ซีกบนของใบหน้า แต่ว่าแค่เพียงดวงตาคู่กลมโตสีดำสนิทแวววาวคู่นั้นเพียงคู่เดียวก็ทำให้เขาสะดุดตาจนลืมหายใจได้
เหมือน เหมือนดวงตาของคนในคืนนั้น
“แดดก็ไม่มีแล้ว ทำไมยังต้องใส่แว่นกันแดดอยู่อีก ถอดออกเถอะ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 25
Comments