Avatar : Ruin My life [tonowari X Tulkun]Oc
...“พี่ข้า ท่านเปรียบเสมือนครอบครัวของข้า”...
...“โตโนวารี เจ้ามันโง่เขลานัก”...
...“โง่เขลาจนมิล่วงรู้ความปรารถนาของข้า”...
ตอนที่ 1 ประสงค์แห่งเอวา
ครื้นนน เสียงของวาโยแรงกระซัด ถาโถมใส่สิ่งก่อสร้างทุกอย่าง ศูนย์วิจัยกลางทะเล'นาสเวีย'กำลังถูกพายุไซโคลนขนาดใหญ่ถาโถมราวกับจะทำลายให้สิ้น ผู้คนในศูนย์วิจัยต่างวิ่งหนีตายไปหาที่หลบภัยที่คาดว่าจะปลอดภัยแต่ไม่มีทางที่จะหนีรอดไปได้แม้แต่น้อย
“ให้ตายเถอะ! ไหนพยากรณ์บอกว่าวันนี้ไม่มีพายุไง! แล้วไอเบื้อกทอนาโดเหี้ยนี่คือเหี้ยไร!!”เสียงสบถคำด่าของหัวหน้าศูนย์วิจัยดังขึ้น อลัน ทิวเจอร์ พยายามเกาะยึดทุกสิ่งในห้องวิจัยที่ห่างจากพายุไม่มากนัก “หัวหน้า! ทำยังไงดีครับ! ถ้าเป็นแบบนี้ทุกคนในสถานวิจัยได้ตายห่าหมดแน่!”หนึ่งในลูกน้องคนสนิทพูดขึ้น มากัส บิวท์ มองหน้าผู้เป็นนายใหญ่ที่ดูแลศูนย์วิจัยกลาฃทะเลด้วยใบหน้าที่กลัวตายสุดขีด
“ฉันเป็นนักวิจัยชีวะทางทะเล! ไม่ใช่ทหารสั่งการรบ!จะไปรู้หรอว่าจะทำยังไงถึงรอด!!”อลันตะโกนด่ามากัส แต่เสียงของพายุดังกว่าทำให้กลบเสียงของอลัน“บัดซบ!! ฉันไม่ได้อยากมาตายห่าเป็นผีแดนศพในมหาสมุทรนะโว้ยยย!!”หัวหน้าศูนย์วิจัยตะโกนโวยวายด้วยความแค้นใจที่กำลังจะตายในไม่ช้า
ตู้มมมมม! และไม่ทันไรพายุไซโคลนลูกใหญ่ก็ได้ทำลายศูนย์วิจัยกลางทะเลจนสิ้น“เหี้ยแล้ว!”สิ่งมีชีวิตในศูนย์วิจัยต่างลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้ามืด พวกเขากำลังจะถูกพระเจ้าลงทัณฑ์จากการกระทำที่เคยพรากชีวิตสัตว์นํ้าเพื่อเป็นการทดลองศึกษา
ดวงตาสีทองอัมพวันหลับตาตํ่ารอรับความตายที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า จะไปนรกหรือสวรรค์ก็ช่าง อลันขอเพียงแค่ที่ๆจะไปมีสัตว์นํ้าให้เขาได้จ้องมองขณะลงกะทะทองแดง หรือได้ดื่มไวน์รสเลิศพร้อมมองมันบนสวรรค์ก็แล้วกัน
ตู้มมมม! ร่างเล็กตกลงมากระแทกกับพื้นนํ้าทะเลด้วยความสูงหลายพันเมตรทำให้ร่างนั้นกระดูกหัก
กร๊อบบ อลันค่อยๆจมดิ่งสุ่ใต้มหาสมุทรแสนมืดมิดและหนาวเหน็บ ความเงียบใต้ท้องทะเลทำเอาใจดวงนั้นอกสั่น ความเงียบมันน่ากลัวเหลือเกิน อลันพยายามจะตะเกียดตะกายขึ้นจากใต้พื้นนํ้าที่แสนหนาวเหน็ยแต่ความเจ็บปวดจากการกระดูกหัก ทำให้ไม่สามารถว่ายขึ้นไปหาออกซิเจนได้
ร่างบางค่อยๆสำลักนํ้า และขาดอากาศไปอย่างช้าๆภาพจำในอดีตตอนที่เขาเคยทดลองเจ้าปลาตัวเล็กให้มันตกมาจากที่สูงพร้อมกับให้มันขาดอากาศหายใจตายอย่างช้าๆด้ววความทรมานกลืนกลับเข้ามาในเซลล์สมอง
สงสัยมันคงกลับมาเอาคืนเขาเสียมั้ง 'กฎแห่งกรรมมันมีจริงนะ' ดวงตาอัมพันค่อยๆปิดลงสิ่งสุดท้ายที่คิดขึ้นมาในหัวของนักวิจัยที่ศึกษาเรื่องราวสัตว์นํ้ามาตลอด 45 ปีคงไม่พ้นคำว่า
'เอาจริงๆนะ ถ้ายมบาลใจดี ให้โอกาสได้เกิดใหม่ขอให่ได้เกิดเป็นสัตว์นํ้าในพื้นทะเลแสนกว้างใหญ่ก็แล้วกัน'
จบความคิดจบชีวิต
อลันตายเสียแล้ว ร่างนั้นจมไปใต้พื้นอันมืดมิดไร้จุดสิ้นสุด แต่ดูเหมือนฟ้ายังมีตา
แสงสีขาวสว่างวาบทำเอาคนที่ตายไปแล้วกลับฟื้นคืนอย่างไม่มีมูล
'มหาสมุทรกลืนกินกายาของเจ้า แต่ไม่ต้องห่วงมหาสมุทรจักมอบคืนชีวิตใหม่ให้แก่เจ้า ข้าขอประทานพรแด่เจ้า จากเอวา'
สิ้นคำพูดปริศนาแสงรอบตัวก็เจิดจรัสมากกว่าเดิมจนต้องยกมือขึ้นมากัน
“ไม่ใช่โลกไม่ใช่ศูนย์วิจัย แล้วมันคือที่ไหนกัน”
อลันมองสภาพแวดล้อมรอบตัว พื้นใต้ฟ้าสะท้อนแสงแดด หมู่สัตว์แปลกประหลาดแหวกว่ายไปทั่วพื้นนํ้า หมู่ประการังที่สีสันสดใส 'ที่ไหนกัน' อลันตั้งคำถามก่อนจะยกแขนแกร่งที่กำยำของตนแต่ก็ต้องพบกับสิ่งแปลกประหลาดในร่างกาย สัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นของลำตัว สิ่งที่ควรเป็นแขนเป็นมือกลับเป็นครีบ ดวงตาที่ควรมีแค่สองกลับมาสี่ 'เด๋วนะซิส นี้มันเรื่องเชี้ยอะไรวะเนี้ย!!'อลันในร่างที่แปลกประหลาดกระวนกระวายใจ เขาไม่เหมือนมนุษย์ แต่กลับคล้ายวาฬ ลักษณะตัวที่ใหญ่กว้างไหนจะครีบ แต่แปลกที่สุดคือสีผิวกับดวงตาที่มีถึงสี่
'อะไรวะเนี้ย!!!! นี้ตัวฉันหรอ!! ทุเรศสิ้นดี!! ขอเกิดเป็นสัตว์นํ้านะเว้ย! ไม่ใช่ตัวประหลาดแบบนี้!'อลันผู้ปากแจ๋วพูดด้วยนํ้าโห ความทรงจำก่อนตายทั้งหมดไหลเข้ามาในหัว ก่อนตายเขาขอให้เกิดเป็นสัตว์นํ้าแต่ใครจะคิดว่าได้เกิดเป็นตัวประหลาด
อลันมองสำรวจตัวเองอย่างทุลักทุเล เขาไม่เหมือนสัตว์บนโลกด้วยซํ้าไหนจะพวกตัวประหลาดรอบๆตัวเขาอีก จากความฉลาดเป็นกรดของอลันและบวกกับความเป็นติ่งการ์ตูน ก็สรุปง่ายเลยว่า! 'ยินดีต้อนรับสู่ต่างโลก'
'ต่างโลกพ่อมึงงงงงง!!!!!!' อลันหัวเสียอย่างแรงเขาอยู่ต่างโลกเหมือนในการ์ตูน แต่การ์ตูนเรื่องไหนถึงมีตัวทุเรศแบบนี้ มันคือการ์ตูนหรือหนังกันแน่ สมองของอลันครุ่นคิดอย่างรวดเร็วจนเจ้าตัวประหลาดใจ ปกติแล้วสมองของมนุษย์มันไม่น่าจะใช้ความคิดได้รวดเร็วขนาดนี้ ระบบประสาทก็ค่อนข้างจะดีกว่ามนุษย์ด้วยซํ้า
'เด๋วนะเด๋วนะ ไม่สิ!เดี๋ยวๆๆ ตัวใหญ่เหมือนวาฬมีสี่ตามีครีบตัวสีฟ้าหน้าตาประหลาดความคิดฉลาดเป็นกรดกว่ามนุษย์....' คำถามภายในใจได้รับคำตอบแล้วสายคอหนังอย่างอลันเดาไม่ยาก'อวตาร'สีหน้าของอลันนิ่งอึ้งไปสักพักก่อนจะขยับครีบขวาที่คล้ายเป็นมือข้างขวาของมนุษย์ ท่าทางของเขามันดุ๊กดิ๊กจนน่าเอ็นดู
'ก็...ได้มาต่างโลก...แต่โลกที่มาคืออวตาร...โคตตเจ๋งงงง!!!!'จากสายตาตอนแรกที่หงุดหงิดพลันเปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความปลื้มปิติ ที่ได้รู้ว่าตนกำลังมาอยู่ในหนังไซไฟแฟนตาซีดัง แถมดูเหมือนจะเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตในเรื่องที่มีสติปัญญาเกินกว่ามนุษย์อย่าง โทคูล
โคตรเจ๋งโคตตจ๊าบขอโทษที่ตอนแรกไม่ชอบละกัน อลันเผยสีหน้ายิ้มออกจาก เจ้าโทคูลอลันกำลังดีใจกับชีวิต
ใหม่ที่ตอนแรกไม่ชอบ 'แต่ทำไมมันดูตัวเล็กกว่าตัวอื่นวะบบี้โทคูลหรอคงงั้นแหละมั้งแต่ช่างสิใครสน เรามาสนการเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบสไตล์อลันคูลดีกว่า!!!' พูดเองตอบเอง หากเป็นโทคูลจริงคงไม่สมองปัญญาอ่อนแบบนี้
เจ้าเบบี้อลันคูลตัวน้อยกำลังแหวกว่ายไปในท้องมหาสมุทร หางส่ายดุ๊กดิ๊กราวกับลูกเป็ดไร้ฝูง ดวงตาพราวประกายพรางจับจ้องมองรอบๆด้วยความตื่นเต้น'ดาวดวงนี้มันสุดยอดดดด!'เข้าปากตัวน้อยแหวกง่ายด้วยความสุขโดยหารู้ไม่ว่ามันดันหลุดเข้ามาในถิ่นของ อาคุล่า
'สาวสวนแตงแห่งเมืองสุพรรณณณณ' อลันแหวกว่ายพรางร้องเพลงอย่างสุขใจโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีตัวอะไรบ้างอย่างกำลังว่ายมาทางเขา ฟู่วววววว เสียงของพื้นนํ้ากระเพือบอย่างรุนแรง อลันรับรู้ถึงการขยับด้วยความเร็วจากฝั่งซ้ายก่อนจะพบว่ามันคือสัตว์ตัวใหญ่กว่าเขากำลังพุ่งเตรียมจะสวบเขา
'อะ..อะ..อะคุน่าบาทาทะ!!!กรี้ดดดดด'เจ้าอลันรีบส่ายก้นพุ่งตรงออกไปจากจุดตรงนั้นทันทีแต่เจ้าอาคุล่ายังคงไม่ลดลัความพยายามที่จะกินเจ้าอลันเบบี้
เจ้าโทคูลอลันพยายามว่ายหนีแต่เจ้าอาคุล่าก็ยังคงไล่ตามอย่างไม่ลดละ'ช่วยข่อยยยยเน๊อิหล่าาาากรี้ดดดดด'ความเป็นชายในตัวจริงๆของอลันได้ตื่นขึ้นซะแล้วสิ
อาคุล่ากำลังจะกัดเข้าที่หางของอลันแต่ อลันนั้นมีไหวพริบกว่าทำให้เบี่ยงตัวและตวัดหางกลับไปฟาหน้าของอาคุล่าก่อนจะว่ายไปทางหุบเขาช่องแคบ ด้วยความที่อลันตัวเล็กกว่าเป็นสองเท่าและว่องไวกว่าอาคุล่าเป็นสองเท่า
เจ้าอาคุล่าชนกับหุบเขาแสนคับแคบอย่างจังจนเกิดแรงสั่นสะเทือน
ตู้มมมม!!
อาคุล่าชนกับหุบเขาแคบอย่างจัง อลันโทคูลเบบี้วัยแจ๋วหันไปมองผลงานของตนก่อนจะทำท่าแสยะยิ้มในร่างของโทคูล
'ฮะ! สมนํ้าหน้าไอปลาหน้าตู่!' อดีตหัวหน้าศูนย์วิจัยทำท่าขำหัวกลิ้งแต่ดูเหมือนอลันจะขำมากไปจนไม่ได้เห็นเลยว่า เจ้าอาคุล่ามันว่ายขึ้นเหนือนํ้าและกำลังดิ่งตรงมาหาเขา
แรงสั่นกระเพื่อมทำให้อลันต้องหยุดขำและมองไปยังด้านบน ดวงตาทั้งสี่เห็นกับฮารุล่าที่กำลังพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว ปากของมันอ้าออกจนน่าหวาดกลัวและกำลังจะสวยหัวของอลัน 'กรี้ดดดดด!แม่จ๋าาาาา!!' ดูเหมือนชีวิตชาติที่สองจะจบซะแล้ว...
ฉึก! เสียงแทงดังขึ้นของเหลวสีแดงกระจายเต็มไปทั่ว ดวงตาสีฟ้าหม่นของอลันเบิกโพรง เจ้าอาคุล่าถูกหอกแหลมพุ่งเสียบทะลุดวงตา มันดิ้นด้วยความเจ็บปวดส่งเสียงแห่งความโศกา อลันในร่างของโทคูนนิ่งอึ้งราวกับหยุดหายใจ
'รีบไปซะ!' เสียงแหลมเล็กดังมาจากเหนือหัวของอลัน เจ้าเด็กน้อยชาวนาวีสีฟ้าแกรมเขียวผมยาวเจ้าของหอกกำลังตะโกนบอกให้อลันรีบหนีไป
อลันที่สบโอกาสก็กำลังจะหนีแต่ก็คิดได้หากหนีเอาตัวรอดคนเดียวเจ้าเด็กนาวีสีฟ้าแกรมเขียวนั้นจะรอดได้เยี่ยงไร ไม่ทันให้ใช้ความคิดวางแผน เจ้าเบบี้อลันพุ่งตัวไปใส่อาคุล่าที่มีความใหญ่กว่าตัวของมัน
ตัวของฮารุล่ากระเด็นไปตามแรงผลักของอลัน ทำให้ร่างของมันกระเด็นไปชนกับโขดหิน ปั้ก! เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของอาคุล่าดังกึกก้องไปทั่วผืนนํ้า ชาวนาวีฟ้าแกรมเขียวพุ่งตัวลงมาใกล้เจ้าอาคุล่า มือเล็กดึงหอกที่ปั้กตาในตอนแรกก่อนจะแทงมันลงไปที่หัวใจของอาคุล่าอย่างทุลักทุเล 'ย้ากกกกก!'
ฉวกกกก! หอกแหลมได้ปักกลางหัวใจของอาคุล่า อาคุล่าดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดก่อนจะจากไปอย่างช้าๆ ชาวนาวีฟ้าแกรมเขียวคล้ายจะหมดอากาศหายใจ ร่างนาวีสีฟ้าแกรมเขียวพยายามดิ้นรนตะเกียดตะกายขึ้นไปบนผิวนํ้า แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว ร่างนั้นค่อยๆขาดอากาศหายใจและกระตุก อลันที่เห็นว่าเริ่มไม่ดีเสียแล้วจึงรีบว่ายและใช้แผ่นหลังของตนดันตัวของชาวนาวีฟ้าแกรมเขียวขึ้นไปยังด้านบนผิวนํ้า
พึ่บบบ!! “เฮือก!!!”ชาวนาวีร่างฟ้าแกรมเขียวกอบโกยลมเข้าสู่ปอดให้มากที่สุดราวว่ามันจะหายไป“แค่กๆ! ค่กๆ”เสียงกระอักไอดังขึ้น อลันทำเพียงเหลือบตามองอีกฝ่ายที่อยู่บนหลัง
ผ่านไปไม่นานนัก ชาวนาวีฟ้าแกรมเขียวจึงหยุดกระอักไอและนอนนิ่งบนหลังของอลัน “เห้อ..เกือบตายซะแล้ว ขอบคุณนะโทคูล”ชาวนาวีบนหลังอลันพูดพร้อมรอยยิ้มหวานดวงตาสระอิ อลันเพียงส่ายตัวเล็กน้อยเป็นการตอบรับ
“ไหนฝูงเจ้าละ หรือเจ้าอยู่ตัวคนเดียวหรอ?”เจ้าหนูน้อยนาวีสีฟ้าแกรมเขียวถาม อลันเพียงตีหน้าเศร้าเขาไร้ฝูง ไร้พ่อแม่ ตัวคนเดียวเหมือนในตอนที่ยังไม่เป็นโทคูล เจ้าหนูน้อยนาวีสีฟ้าแกรมเขียวเห็นสีหน้าของอลันก็ใช้มืออันน้อยลูบหลังอลันเป็นการปลอบ มือเล็กแสนอ่อนโยนของเจ้านาวีน้อยมันทำให้อลันพอมีกำลังใจขี้นมาบ้าง
“งั้นให้ข้าได้เป็นเพื่อนเจ้าละกันนะ ข้าเองก็ไร้เพื่อน”เจ้านาวีน้อยยิ้ม อลันที่เห็นก็ไม่ได้ขัดอะไรอย่างไงซะเขาก็ควรทำความรู้จักกับคนอื่นๆบ้าง ไม่งั้นคงไม่มีเพื่อนคุยแน่
“ข้าโตโนวารี เจ้ามีชื่อว่าอะไรเหรอ”ดวงตาของอลันเบิกโพรงเมื่อได้ยินชื่อของเจ้านาวีน้อย'โตโนวารี!หัวหน้าเผ่าเม็ตคายีน่าน่ะหรอ! เห้ย!!' สีหน้าของอลันค่อนข้างแปลกใจ เพราะไอเด็กนาวีตรงหน้าในอนาคตคือหัวหน้าของเผ่าเม็ตคายีน่า
โตโนวารีเอียงคอเล็กน้อยพร้อมมองอลัน“มีอะไรรึโทคูล'โตโนวารีน้อยยิ้ม อลันส่ายหัวเบาๆพร้อมส่งเสียงคำรามในคอคล้ายการสื่อสาร“ข้าอลัน ยินดีที่ได้พบโตโนวารี”มันน่าแปลกที่เจ้าเด็กหนุ่มนาวีน้อยฟังออกโดยปกติแล้วถ้าหากยังไม่มีการซาเฮย์ลูกันระหว่างโทคูนและชาวนาวีหรือไม่ได้เป็นคู่ที่เอวาประสงค์ให้ได้เป็นพี่ร้องรวมจิตวิญญาณ มันจะไม่มีทางรับรู้หรือได้ยินเสียงของโทคูน
นั้นก็แสดงว่าโตโนวารีและอลันคงถูกพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่ประสงค์ให้เป็นพี่น้องรวมสาบานกันแน่....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments