ฝนยังตกไม่หยุด ราวกับเมืองทั้งเมืองถูกใครบางคนตั้งใจให้จมอยู่ในบรรยากาศหม่นทึบ
อัยย์นั่งก้มหน้าอ่านแฟ้มคดีเก่า ๆ ที่ถูกส่งมาถึงสำนักงานเมื่อคืน — ไม่มีชื่อผู้ส่ง เพียงซองสีน้ำตาลเก่า ๆ ที่เขียนว่า
“คดีที่ไม่เคยปิด – 10 ปีก่อน”
: บาดแผลเก่า
ภายในแฟ้มคือภาพถ่ายคดีฆาตกรรมโหดเมื่อสิบปีก่อน เหยื่อเป็นชายวัยกลางคน ถูกฆ่าในบ้านพัก และที่ผนัง… มีสัญลักษณ์เดียวกันกับที่อัยย์เจอมาตลอด
อัยย์มือสั่นเล็กน้อย ตะวันที่สังเกตเห็นถามทันที
“พี่อัยย์… เป็นอะไรครับ?”
อัยย์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงต่ำ
“ฉัน… รู้จักคดีนี้ดีเกินไป”
ตะวันเลิกคิ้ว “หมายความว่ายังไง?”
อัยย์วางแฟ้มลงแล้วลุกขึ้นยืน
“เพราะเหยื่อ… คือพ่อของฉันเอง”
: การกลับไป
อัยย์และตะวันเดินทางไปยังบ้านเก่าที่ถูกปิดตายหลังคดีนั้น
ภายในบ้านเต็มไปด้วยฝุ่นหนา โต๊ะเก้าอี้ยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนวันที่เกิดเหตุ
อัยย์ยืนมองผนังที่เคยมีรอยเลือด — ตอนนี้จางไปแล้ว แต่เธอยังจำมันได้แม่นยำ
เธอใช้ไฟฉายส่อง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้น
สัญลักษณ์เดิม ถูกวาดซ้ำด้วยชอล์กใหม่ เพิ่งไม่นานนี้เอง
ตะวันอ้าปากค้าง “ใครบางคนเพิ่งกลับมา…!”
อัยย์ขบกรามแน่น
“ไม่ใช่ใครบางคน… แต่เป็นคนที่อยากให้ฉันเจอ”
: การพบสารวัตรคมน์
สารวัตรคมน์มาถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้ง
เขามองอัยย์แล้วถามเสียงเข้ม
“คุณกำลังปกปิดอะไรอยู่หรือเปล่า? ทำไมคดีที่คุณสืบทุกคดีถึงมีสัญลักษณ์เดียวกัน และตอนนี้… โผล่มาในบ้านพ่อคุณ?”
อัยย์สบตาคมน์ แต่เลือกเงียบ
ความจริงคือ เธอจำได้ว่าในคืนที่พ่อถูกฆ่า — มีเสียงกระซิบคล้ายกับที่เธอได้ยินจากคดีผู้หญิงหายไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
: เบาะแสจากอดีต
ขณะอัยย์กับตะวันค้นหาบ้าน พวกเขาพบกล่องไม้เล็กซ่อนอยู่ใต้พื้นกระดาน
ภายในมีจดหมายเก่า ๆ และภาพถ่ายพ่อของอัยย์ยืนกับชายอีกคน — แต่ใบหน้าของชายคนนั้นถูกขีดฆ่าด้วยหมึกดำ
ด้านหลังภาพมีข้อความเขียนไว้ว่า
“The Whisperer”
ตะวันเบิกตากว้าง
“นี่มัน… ชื่อคน? หรือสมญานาม?”
อัยย์กำภาพไว้แน่น ใบหน้าของเธอซีดลง
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินชื่อนี้… แต่ทุกครั้งที่มันโผล่มา คนก็จะตาย”
ฝนยังโปรยลงมาไม่หยุด เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาราวกับตอกย้ำความจริง
อัยย์รู้แล้วว่า คดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เชื่อมโยงกับอดีตของเธอโดยตรง
และ “The Whisperer” — คนที่เธอคิดว่ามีแต่ในเงามืด — กำลังเรียกหาเธอออกมาเผชิญหน้า
:เสียงกรีดร้องในความมืด
เสียงฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดทั้งคืนทำให้บรรยากาศในเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลดูเงียบเชียบผิดปกติ ยามดึกเช่นนี้ มักไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ยังคงตรวจตราอยู่เป็นครั้งคราว
กฤตภพนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องเช่าของเขา เอกสารคดีการหายตัวไปของ “พิม” ถูกกางกระจายบนโต๊ะ ทุกหลักฐานเหมือนจะพาเขาไปถึงคำตอบ แต่กลับติดขัดเหมือนทางตัน เขาหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กของพิมขึ้นมาอีกครั้ง
ขณะที่เขาพลิกอ่านบันทึก รอยหมึกที่ถูกขีดฆ่าและลบเลือนทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมา—เหมือนพิมพยายามจะเขียนอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ลบออกไปแทบทั้งหมด
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก สายที่โทรมาไม่ขึ้นชื่อผู้ติดต่อ มีเพียงตัวเลขยาว ๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณโทรศัพท์จากเครื่องเก่า
“สวัสดีครับ ใครครับ?” กฤตภพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงระแวง
มีเพียงเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ดังลอดมาตามสาย ก่อนจะมีเสียงหญิงสาวสั่นเครือเอ่ยขึ้นว่า
“...ช่วยด้วย...พวกเขา...ไม่ให้ฉันออกไป...”
กฤตภพชะงักทันที “คุณพิมใช่ไหม!? คุณอยู่ที่ไหน บอกผมมา!”
แต่สิ่งที่ได้ยินกลับเป็นเสียงกรีดร้องแหลมสูง แทรกด้วยเสียงโลหะกระแทกกัน ก่อนที่สายจะถูกตัดไปอย่างกะทันหัน
หัวใจของกฤตภพเต้นแรง เขารีบตรวจสอบข้อมูลจากระบบโทรศัพท์ แต่ตัวเลขที่ปรากฏไม่ตรงกับเครือข่ายใด ๆ ที่มีอยู่ ราวกับโทรศัพท์นั้นไม่ควรจะโทรออกมาได้ด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน ในเงามืดตรงข้ามห้องเช่า มีเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ใต้แสงไฟสลัว เฝ้ามองห้องของกฤตภพอย่างเงียบงัน…
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments