ฝนซัดกระจกหน้าต่างเป็นจังหวะถี่
นทีนั่งพิงผนังห้องเก่า ๆ ของคิริน ห่มผ้าห่มที่ยืมมาจนถึงคาง มือยังสั่นไม่หยุด แม้จะผ่านชั่วโมงแห่งการวิ่งหนีมาแล้วก็ตาม
ห้องนี้อยู่บนชั้นสองของตึกแถวร้างที่คิรินใช้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพชั่วคราว—มันอับชื้น กลิ่นฝุ่นและกลิ่นฟิล์มเก่า ๆ คลุ้งไปทั่ว แต่สำหรับนที มันกลับดีกว่าการต้องเผชิญสายตาขาวขุ่นนั่นอีกครั้ง
คิรินนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม สูบบุหรี่เงียบ ๆ ดวงตาเขามองผ่านม่านฝนออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง หรือไม่ก็ระแวดระวังอะไรบางอย่างมากกว่า
“นายเคยเห็นมันมาก่อนหน้านี้ไหม” คิรินถามเสียงทุ้ม
นทีชะงัก ก่อนพยักช้า ๆ “ในฝัน… แต่วันนี้มันไม่ใช่แค่ฝันแล้ว”
คิรินกดบุหรี่ลงในถ้วยแก้ว “ศพพวกนั้น… ที่ฉันถ่ายมา แววตาแบบเดียวกันหมด เหมือนถูกบังคับให้ตายทั้งที่ยังมีสติ”
นทีเม้มปากแน่น ใจเต้นแรง “แล้วมันจะเลิกตามเราเมื่อไหร่”
“ถ้าฉันรู้ก็คงไม่มานั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้” คิรินหัวเราะแห้ง ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากชั้นล่าง—เหมือนของหนักลากไปกับพื้น กึก… กึก…
ทั้งคู่ชะงักพร้อมกัน
คิรินลุกทันที เดินไปหยิบไฟฉายและไม้เบสบอลที่วางไว้ข้างตู้ “อยู่ตรงนี้ อย่าออกไป”
แต่ก่อนเขาจะก้าวพ้นประตู นทีกลับคว้าแขนไว้แน่น “อย่าทิ้งฉัน”
สัมผัสนั้นทำให้คิรินหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนถอนหายใจแล้วพยักหน้า “งั้นก็อยู่ข้างหลังฉัน”
ทั้งคู่ค่อย ๆ ลงบันได เสียงลากยังดังอยู่ แต่คราวนี้มันไม่ใช่จากตรงประตูหน้า—มันมาจาก “ด้านในตึก”
ไฟฉายส่องผ่านเงามืด เผยให้เห็นรอยเปียกบนพื้นปูนที่ยาวเป็นทาง ราวกับมีอะไรเลื้อยผ่าน… และหยดน้ำที่ตกเป็นจุด ๆ นั้น ไม่ใช่น้ำฝน แต่มีกลิ่นคาวชัดเจน
กึก… กึก…
เสียงหยุดลง
คิรินยกไฟฉายส่องไปยังมุมห้องด้านใน—ว่างเปล่า
แต่เมื่อเขาก้าวถอยกลับ เสียงฝีเท้าเบา ๆ กลับดังขึ้น “บนหัว”
เพดานไม้เก่าเหนือศีรษะเริ่มส่งเสียงลั่น เอี๊ยด…เอี๊ยด…
นทีเงยหน้าช้า ๆ และในความมืดนั้น เขาเห็นเงาดำขนาดใหญ่เกาะกับคานบ้าน ดวงตาขาวขุ่นจ้องลงมาราวกับกำลังจะกระโจน
“คิริน—!”
ยังไม่ทันจบประโยค เงานั้นพุ่งลงมา เสียงลมแรงปะทะราวกับมีอะไรฉีกอากาศ
คิรินผลักนทีหลบ เสียงกระแทกดังสนั่น และบางอย่างที่ทั้งลื่นและเย็นจัดก็เกือบเฉียดหน้าเขาไป
ไฟฉายหล่นกลิ้ง ทำให้เห็นเพียงเงาร่างสูงโปร่งที่ยืนค่อมอยู่กลางความมืด ริมฝีปากมันแสยะกว้างจนเกือบถึงหู เลือดไหลซึมจากมุมปากเป็นทางยาวลงคอ
คิรินคว้าไม้เบสบอล ฟาดเต็มแรง เสียงดัง ปึ่ก! แต่ร่างนั้นกลับไม่ล้ม มันเพียงเซไปเล็กน้อยก่อนเงยหน้ากลับมาช้า ๆ
ในชั่วขณะนั้น ทั้งคู่รับรู้ได้—มัน “ยิ้ม” ให้อีกครั้ง
นทีคว้ามือคิริน “ไป!”
ทั้งสองพุ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว เงานั้นตามมาใกล้เสียจนเสียงฝีเท้าซ้อนกับเสียงหัวใจเต้น
ทันทีที่ปิดประตูห้อง คิรินดึงตู้เหล็กมาขวาง และทั้งคู่ก็ถอยไปจนหลังติดผนัง
เสียงเล็บขูดประตูดังยาว กรี๊ดดดดดดด… จนเนื้อแขนของนทีขนลุกซู่
แล้วทุกอย่างก็เงียบลง… เหมือนมันหายไป
แต่คิรินรู้ดี—เงานั้นไม่ได้ไปไหน
มันแค่ “รอ” จังหวะที่ทั้งคู่เผลอเท่านั้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments