*3️⃣🤍🤍🤍*ตอนที่ 3: พันธสัญญาเงา
กลางค่ำคืนอันเงียบงัน ณ โรงเรียนวาเลธิราน เมฆสีดำลอยปกคลุมยอดเขา หอคอยเวทที่สูงที่สุดยังคงมีแสงวิบวับจากคบเพลิงเวทมนตร์สีน้ำเงินเยือกเย็น
อรัณย์นั่งอยู่คนเดียวในห้องฝึกเวทลับใต้ดิน ห้องที่ครูใหญ่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงผนังหินเย็นเฉียบ และวงเวทที่วาดด้วยโลหิตของอสูรที่กลายเป็นหิน
เขาเพ่งมองมือของตนเอง — เมื่อวาน เขาสามารถระเบิดคริสตัลธาตุทั้งห้าได้
แต่มันไม่ใช่ “พลัง” ในความหมายที่ใคร ๆ เข้าใจ
มันคือ “การลบล้าง”
คือพลังที่ปฏิเสธธรรมชาติของเวทมนตร์
“ข้าคือคนผิดพลาด… หรือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ตั้งแต่แรก?”
เขาพึมพำกับตนเอง
ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าเบา ๆ ก็ดังขึ้นจากเงามืด
“ยังไม่หลับอีกหรือ?”
เสียงนั้นคุ้นเคย — อีเรน ซาลเวียร์
เธอเดินเข้ามาพร้อมตะเกียงเวทมนตร์เล็ก ๆ ส่องสว่างใบหน้าเรียบเฉยของเธอ
“เจ้ากลัวงั้นหรือ?”
“ไม่…” อรัณย์ตอบเบา ๆ “…ข้ากลัวว่า ข้าจะไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ”
“งั้นก็ดี เพราะคนธรรมดาไม่มีใครลบล้างเวทได้หรอก”
⸻
ปริศนาในความฝัน
คืนนั้น หลังจากอีเรนจากไป อรัณย์ก็เผลอหลับไปในห้องนั้น
ในความฝัน เขายืนอยู่กลางหอคอยเวทมนตร์ที่พังทลาย
เศษหินลอยอยู่กลางอากาศ เสียงกระซิบดังรอบตัว
“จงเลือก… จงยอมรับ…
พลังของเงาคือความว่างเปล่า
ผู้ถือครองมัน ต้องแลกบางสิ่ง”
เงาดำรูปร่างเหมือนเขาเองก้าวออกมาจากด้านหลัง
“ข้าคือเจ้า — ในวันที่ไร้ความลังเล”
“หากเจ้าไม่ยอมรับเวทเงา… เจ้าไม่มีสิทธิ์ควบคุมมัน”
ทันใดนั้น เงานั้นยื่นมือมาแตะอกของเขา
อรัณย์รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบพุ่งผ่านกระดูกสันหลัง
เวทเงาไหลเข้าสู่ร่างเขา — เป็นครั้งแรกที่เขา “รู้สึก” ถึงพลังจริง ๆ
⸻
เช้าวันถัดมา – พิธีพันธสัญญา
ณ โถงพิธีแห่งธาตุ ครูใหญ่เรียกนักเรียนปีหนึ่งทุกคนให้มารวมตัว
วันนี้คือ “วันสาบานธาตุ”
คือวันที่นักเรียนจะทำพันธสัญญากับธาตุที่ตนผูกพัน เพื่อได้รับเวทพื้นฐานประจำตัว
ทุกคนเข้าคิวเพื่อแตะมือกับ “เสาหินธาตุ” ซึ่งมีธาตุเวทสถิตอยู่ในนั้น
ธาตุดิน: สัญญาแห่งพละกำลัง
ธาตุน้ำ: สัญญาแห่งสัญชาตญาณ
ธาตุไฟ: สัญญาแห่งความมุ่งมั่น
ธาตุลม: สัญญาแห่งเสรีภาพ
ธาตุเงา: สัญญาแห่งความลับและการแลกเปลี่ยน
อรัณย์รู้ว่าเขาไม่มีธาตุ เขาไม่ควรจะมา
แต่เมื่อเขาก้าวขึ้นสู่เวที…
…เสาที่หก ปรากฏขึ้นจากพื้นอย่างไม่มีใครคาดคิด
เสาหินสีดำสนิทที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
รอบมันมีตัวอักษรโบราณส่องแสง และผู้คนรอบตัวต่างสั่นสะท้านโดยไร้เหตุผล
“เสาแห่งไร้ธาตุ… มันไม่เคยโผล่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3…”
ครูใหญ่พึมพำด้วยเสียงเคร่งเครียด
“ถ้าเขาแตะมัน… เขาจะต้องเลือกทางที่ไม่มีวันหวนกลับ”
อรัณย์เงยหน้ามองเสา แล้วพูดเบา ๆ
“ถ้ามันพาข้าไปสู่ความจริง… ข้ายอมแลกทุกอย่าง”
เขาเอื้อมมือแตะเสาแห่งไร้ธาตุ
เงาแผ่กระจายครอบคลุมทั้งห้อง
เด็กชายคนหนึ่งทำพันธสัญญากับเวทมนตร์ที่โลกทั้งใบหวาดกลัว
*4️⃣🪬🧿*ตอนที่ 4: เสียงกระซิบจากอดีต
หลังจากทำพันธสัญญากับ “เสาแห่งไร้ธาตุ” พลังบางอย่างในตัวอรัณย์ก็ตื่นขึ้นจริง ๆ เป็นครั้งแรก
เขาเริ่มได้ยินเสียงกระซิบจากเงา
เสียงที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากเขา
เสียงที่เอ่ยชื่อของเขาเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน…
“เจ้าคือบุตรแห่งเงา…
ผู้สืบสายโลหิตจักรพรรดิ
เจ้า…จำข้าไม่ได้งั้นหรือ?”
⸻
คืนฝึกเวทครั้งแรก
ในห้องฝึกใต้ดิน อรัณย์และอีเรนซ่อนตัวฝึกเวทเงาอย่างลับ ๆ
โดยใช้อักขระโบราณที่เขาจดจากภาพในฝัน
เมื่อเขาเพ่งจิต อักษรเหล่านั้นสว่างขึ้นด้วยแสงสีม่วงอมเทา และวงเวทก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้น
อีเรนเฝ้าดูเงียบ ๆ ก่อนจะพูดว่า
“ข้าเคยได้ยินตำนานของ ‘เวทไร้ธาตุ’ ที่สามารถ แยก เวทมนตร์ของผู้อื่นออกเป็นชิ้น ๆ ได้…”
“เจ้า…อาจจะเป็นคนเดียวในยุคนี้ที่ทำได้”
“แยกเวท?” อรัณย์เลิกคิ้ว “ข้าทำอะไรแบบนั้นได้จริงหรือ?”
เพื่อทดลอง เขาหยิบผลึกเวทสายไฟ แล้ววางไว้กลางวงเวท
เขาหลับตา ใช้สองมือวางลงเหนือผลึก พร้อมเปล่งคำเรียกภายในใจ
“จงเผยแก่นแท้ของเจ้า…”
ผลึกไฟเริ่มสั่น และแสงสีแดงแตกกระจายออกเป็นสาย — ไหลไปตามเส้นวงเวทอย่างมีชีวิต
ไม่ใช่แค่เรียกเวท… อรัณย์สามารถ “แกะโครงสร้าง” ของเวทมนตร์ได้
“ข้า…เห็นมัน…”
“เวทแต่ละธาตุ…มันมีโครงสร้างเหมือนเส้นใย… ข้าแยกมันออกได้!”
⸻
เหตุการณ์ประหลาดในหอสมุดกลาง
ในคืนหนึ่ง อรัณย์เข้าไปยังหอสมุดลับของวาเลธิราน ตามคำแนะนำของเสียงในหัว
ที่มุมหนึ่งของชั้นหนังสือเวทเก่าแก่ เขาพบตำราเก่าปกสีดำสนิท ไม่มีชื่อ ไม่มีผู้แต่ง
เมื่อเปิดดู หน้าแรกไม่มีอักษร
แต่เมื่อเขาแตะลงไป — อักษรโบราณก็ลอยขึ้นทีละบรรทัด พร้อมเสียงกระซิบดังก้องในหัว
“โอ…โลหิตที่ยังเหลือ
ลูกหลานแห่งเฟรอส
เจ้ายังจำข้าไม่ได้หรือ?”
ทันใดนั้นภาพหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า
ภาพของพ่อเขา — ยืนอยู่หน้าเด็กชายตัวเล็กที่กำลังร้องไห้
“ให้อภัยพ่อนะอรัณย์…”
“พ่อจำเป็นต้องปิดผนึกมันไว้… ก่อนที่มันจะกลืนกินเจ้า…”
ภาพนั้นทำให้อรัณย์ทรุดลง
“ความทรงจำของข้า…ถูกลบไป?”
“ข้าถูกผนึก…ตั้งแต่ยังเด็ก?”
เสียงในหนังสือเอ่ยอีกครั้ง
“หากเจ้าต้องการความจริง จงตามหาสิ่งที่พ่อเจ้าทิ้งไว้ใน ‘ห้องใต้หอเงา’…”
“ที่นั่น…คือจุดเริ่มต้นของคำสาปทุกอย่าง”
⸻
เงาเทวทูตเคลื่อนไหว
ในขณะเดียวกัน ณ หอพักอาจารย์วาเลธิราน — ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้ากระจก มือข้างหนึ่งกำลังลูบแหวนสีดำบนมือ
“เขาเริ่มตื่นพลังแล้วสินะ…”
“ลูกชายของเซริน เฟรอส…”
เขายิ้มเยือกเย็น ก่อนหันไปยังผู้ติดตามชุดดำข้างหลัง
“ส่งคำสั่ง… เริ่ม ‘การทดสอบแรก’”
“ปล่อย อัลกอซ แห่งเงาทมิฬ ลงในอาณาเขตโรงเรียน”
*5️⃣🧌👺👹👿*ตอนที่ 5: อสูรแห่งเงาทมิฬ
ค่ำคืนเงียบงันในวาเลธิราน กลับเต็มไปด้วยบางสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้
เสียงลมที่ควรจะเย็นเฉียบในยามค่ำกลับถูกแทนด้วยไอเย็นจาก บางสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมชาติ
อรัณย์สะดุ้งตื่นจากฝัน ท่ามกลางความมืด เสียงหนึ่งดังกระซิบอยู่ในหัว
“มัน…มาแล้ว…”
“อัลกอซ…ผู้กลืนกินเงา”
⸻
เงาทมิฬปรากฏ
เสียงกรีดร้องดังมาจากลานฝึกเวทด้านล่าง
แสงเวทพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และตามมาด้วยแรงระเบิดขนาดย่อม
อรัณย์วิ่งออกไปพร้อมอีเรน
ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนต้องหยุดหายใจ
สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมารูปร่างเหมือนหมาป่าผสานเงาควันสีดำยืนอยู่กลางลาน
มี 6 ตาเปล่งแสงสีแดง มองทะลุความมืด — อัลกอซ แห่งเงาทมิฬ
มันเป็นสัตว์เวทโบราณที่เคยถูกจารึกว่า “สูญพันธุ์”
แต่ตอนนี้ มันกลับอยู่ตรงหน้า… และมันกำลังล่า
⸻
เวททั่วไปใช้ไม่ได้ผล
นักเรียนปีสูงพยายามใช้เวทใส่มัน
เวทไฟ, น้ำแข็ง, ลม ไม่มีผลใด ๆ — ทุกอย่างถูกมัน “กลืน” เข้าไปในเงาของตัวเอง
มันไม่ใช่เพียงแค่อสูร… แต่มันคือ “รูหนอนเวทมนตร์” ที่กลืนกินเวททุกชนิด
“ขนาดเวทผสมของรุ่นพี่คลาส A ยังไม่ได้ผล…”
อีเรนกัดฟัน
“อรัณย์ เจ้าต้องใช้เวทของเจ้าแล้ว!”
⸻
เงาเริ่มเต้นรำ
อรัณย์ยืนกลางลานฝึก ท่ามกลางนักเรียนที่แตกตื่น
เขาหลับตา สูดลมหายใจ และยกมือขึ้นช้า ๆ
เงาของเขา…เคลื่อนไหว ช้ากว่าเขา
ไม่ใช่แค่เงา แต่เหมือน “เงาอีกตัว” ที่คอยสะท้อนตัวตนเขาอย่างล่าช้า
มันเริ่มสั่นไหว ราวกับกำลังจะ ปลดปล่อยตัวเองออกมา
“จงตอบรับเสียงของข้า…
เงาที่ไร้รูปร่าง
พลังแห่งสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับ…”
“จงปรากฏ… วงเวทแห่งว่างเปล่า!”
วงเวทขนาดใหญ่ปรากฏใต้เท้าเขา — วงเวทไร้แสง แต่เปล่งพลังคลื่นมหาศาล
ทันใดนั้น เงาที่อยู่ใต้เท้าเขาก็พุ่งขึ้นกลางอากาศ
กลายเป็นสายเงาทั้งสิบเส้น พุ่งเข้าโจมตีอัลกอซในทุกทิศทาง
เงาไม่ใช่แค่การโจมตี — แต่มัน เจาะเข้าไปในเวทป้องกันของอัลกอซ และ “แยก” โครงสร้างพลังมันออกทีละเส้น
อัลกอซคำราม มันรู้สึกได้…ว่าครั้งนี้มัน อาจตายได้จริง
⸻
เวทต้องห้าม: “ทัณฑ์แห่งไร้ธาตุ”
อรัณย์หลับตาอีกครั้ง พึมพำบทเวทที่เขาเห็นในหนังสือลับจากหอสมุด
“ผู้ไร้สี…ผู้ไร้แสง…
จงทำลายความเชื่อมั่นแห่งโลก
ทัณฑ์แห่งไร้ธาตุ จงปลิดชีพทุกสิ่งที่มีโครงสร้าง!”
วงเวทสุดท้ายสว่างวาบ
และร่างอัลกอซ…เริ่ม แตกออกเป็นเศษเวทมนตร์
ราวกับมันไม่เคยมีอยู่
เหลือเพียงควันเงาที่สลายไปในลม
⸻
หลังการต่อสู้
นักเรียนทุกคนเงียบงัน
ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่ตนเห็น
แม้แต่ครูผู้คุมเวทระดับสูง ก็ยืนอึ้ง
“เขา…ฆ่าอัลกอซได้ โดยไม่ใช้อาวุธ หรือธาตุใดเลย…”
แต่แล้ว อรัณย์ทรุดลง
เวทเงานั้นกินพลังชีวิตจากเขาไปมากกว่าที่เขาคิด
อีเรนเข้ามารับร่างเขาไว้ทัน ก่อนที่เขาจะหมดสติไปในอ้อมแขนของเธอ
“เจ้าโง่…เจ้าบ้าชะมัด…”
เสียงเธอสั่น…
“…แต่เจ้าคือคนเดียวที่ทำได้”
*6️⃣⛓️💥🩸🩸*ตอนที่ 6: สายเลือดเฟรอส
อรัณย์ตื่นขึ้นในห้องพยาบาลของวาเลธิราน
เขาจำได้ลาง ๆ ว่าตนใช้เวทเงาสังหารอัลกอซ… แล้วทุกอย่างก็มืดดับไป
สิ่งแรกที่เขาเห็นเมื่อรู้สึกตัว คือใบหน้าอีเรนที่หลับคาแขนเตียงเขา
มือเธอยังกุมมือเขาไว้แน่น
นานแค่ไหนแล้วที่มีใครจับมือเขาด้วยความห่วงใยแบบนี้…
⸻
เสียงแห่งอดีต
ในความฝัน อรัณย์ถูกพาเข้าสู่เงาอีกครั้ง
เงานั้นไม่ใช่ของตัวเขา — แต่เป็นความทรงจำของใครบางคน
“พ่อหรือ…”
เขาพึมพำขณะเงารอบตัวเปลี่ยนรูปร่างเป็นโถงศิลาสีดำ
ในกลางห้อง มีชายคนหนึ่งยืนอยู่
ชุดคลุมสีดำสนิท มีสัญลักษณ์เดียวกันกับบนหน้าอกของอรัณย์ — ตราเงาคู่
ชายคนนั้นหันมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“อรัณย์…ถ้าเจ้ามาเห็นภาพนี้ แสดงว่าข้าตายไปแล้ว”
“พ่อชื่อ เซริน เฟรอส”
“อดีตหัวหน้าตระกูลแห่งเงา
ผู้ทรยศจักรวรรดิเวทมนตร์… เพื่อปกป้องบางสิ่ง”
⸻
ความลับของตระกูล “เฟรอส”
“เฟรอส ไม่ใช่ตระกูลธรรมดา”
“พวกเราเคยเป็น ‘ราชวงศ์เงา’
ผู้สร้างสมดุลให้กับพลังธาตุทั้งหมด”
“ในอดีต มี 5 ตระกูลใหญ่ — ธาตุไฟ น้ำ ลม ดิน และเงา”
“แต่พลังของตระกูลเงานั้นเป็นสิ่งที่เหลือล้ำเกินไป…”
“จึงถูกกลัว ถูกล่า และถูกลบออกจากบันทึกประวัติศาสตร์”
“ข้าคือคนสุดท้ายที่เหลือ…ก่อนจะมีเจ้า”
“และเจ้า…คือคนเดียวที่อาจฟื้นฟูมันได้”
ภาพในฝันจางลง — อรัณย์สะดุ้งตื่น
หัวใจเขาเต้นแรง
พลังที่เขาคิดว่าเป็นคำสาป… แท้จริงคือ สายเลือดราชาแห่งเงา
⸻
เบื้องหลังของวาเลธิราน
ในอีกด้านหนึ่ง — อาจารย์ใหญ่ของวาเลธิราน กำลังสนทนากับบุรุษในชุดคลุมม่วง
ใบหน้าของเขาซ่อนอยู่ใต้ฮู้ด แต่เสียงของเขาเยือกเย็นราวความตาย
“เขาเริ่มรู้แล้วว่าเป็นใคร…”
“แผนที่สองจึงต้องเริ่มก่อนกำหนด”
ชายในฮู้ดส่งม้วนคัมภีร์ให้
“หอเงาใต้ดินต้องถูกเปิด…
หากเขาผนึกตนเองกับ ‘เสาหลักเงา’ ได้สำเร็จ พวกเราจะควบคุมเขาไม่ได้อีก”
⸻
อีเรนกับความลับของเธอ
อีเรนนั่งเงียบข้างเตียงอรัณย์ ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ ขณะเขาลืมตา
“เจ้ารู้ไหม… ทำไมข้าถึงอยู่ข้างเจ้าเสมอ?”
เธอไม่รอคำตอบ
“เพราะข้าคือ ‘ผู้พิทักษ์แห่งสายเงา’
คนสุดท้ายที่เหลือจากตระกูลเรธีน่า…
ตระกูลที่ปกป้องราชวงศ์เฟรอสมาตลอดพันปี”
“ข้าเกิดมา…เพื่อปกป้องเจ้า แม้ต้องตายก็ตาม”
อรัณย์ตกตะลึง…
ทั้งชีวิตเขาไม่เคยรู้ว่ามีใครที่ “เกิดมาเพื่อปกป้องเขา”
“แต่นั่น…มันไม่แฟร์เลยนะอีเรน”
“ข้าก็อยากมีสิทธิ์ปกป้องเจ้ากลับเหมือนกัน…”
⸻
สุดท้ายของบทนี้
ขณะที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนหอพัก
เงาบางอย่างเคลื่อนไหวในซอกตึก
มันไม่ได้มีรูปร่างชัดเจน… แต่มันกำลัง “จ้อง” อรัณย์
“องค์ชาย…ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว”
“พวกเรารอเจ้า…มา 17 ปีแล้ว”
*ต่อ**👀🔮👺*
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 6
Comments