ใต้เงาบัว ข้าขอไม่สบตาเจ้า
เจ้าคือเด็กมีปัญหา หรือข้าแค่ไม่เข้าใจเจ้า?
ภายในเรือนรองของจวนอัครเสนาบดี ช่วงเช้าอันสงบ… มีเพียงเสียงนกและเสียงเหยียบพื้นไม้ดังแผ่วเบา
จิ่นอี้เซวียน เดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจใคร ดวงตาคมใต้คิ้วเข้มกวาดมองไปทั่ว ก่อนหยุดที่บุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังนั่งดีดผีผาใต้ต้นเหมย
จิ่นอี้เซวียน
หืม… ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตื่นเช้าถึงเพียงนี้
เจิ้นซู่หยาง
เพราะข้าไม่หลับเหมือนคนไร้มารยาทที่บุกรุกเรือนคนอื่นยามเช้า
จิ่นอี้เซวียน
เจ้าหมายถึงข้า?
เจิ้นซู่หยาง
•ละมือจากเครื่องดนตรี, ลุกขึ้น
เจิ้นซู่หยาง
หากมีแม่ทัพท่านใดเดินดุ่มเข้ามาโดยมิได้ขออนุญาตผู้อยู่อาศัย ข้าก็หมายถึงท่านนั้นแหละ
จิ่นอี้เซวียน
ปากกล้าไม่ต่างจากข่าวลือ… ดี ข้าชอบคนที่ไม่ซ่อนเขี้ยวให้เหนื่อย
เจิ้นซู่หยาง
แต่ข้าไม่ชอบคนที่ยืนกรานว่าตนเองมีสิทธิ์ในชีวิตของผู้อื่น
จิ่นอี้เซวียน
เจ้าลืมหรือว่าข้าถูกแต่งตั้งให้มาคุมเจ้าตามคำสั่งเสนาบดีผู้เป็นบิดาเจ้าเอง•เดินเข้ามาใกล้, สบตา
จิ่นอี้เซวียน
และท่านก็ลืมหรือไม่ว่า ข้าไม่เคยยินยอม
จิ่นอี้เซวียน
หากเจ้าเชื่อว่าเสรีภาพคือการใช้ชีวิตเละเทะ ช่วยเหลือชาวบ้านแต่ปล่อยให้ศัตรูแทรกซึมถึงหน้าประตู ข้าก็สมควรมา ‘คุม’ เจ้า•เดินเข้ามาใกล้, สบตา
เจิ้นซู่หยาง
อย่าเอาความเข้มงวดของสนามรบมาบังคับใช้ในที่ซึ่งมีแต่บทเพลงและหมึกดำ ท่านแม่ทัพ
จิ่นอี้เซวียน
และอย่าเอาเสียงพิณกลบเสียงหอก เพราะโลกภายนอกไม่ได้อ่อนโยนเช่นใจเจ้า•จ้องแน่น
เจิ้นซู่หยาง
ท่านไม่รู้จักข้า แล้วเหตุใดจึงตัดสิน…•ถอนหายใจ
จิ่นอี้เซวียน
ข้าไม่ต้องรู้จัก ก็เห็นเจ้าอยู่แต่ในร่มเงา ไม่กล้าแม้แต่จะรับผิดชอบตัวเอง
เจิ้นซู่หยาง
หึ… เช่นนั้นท่านควรลองเฝ้ามองให้ดีเสียก่อน ว่าใครกันแน่… ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพยายามปกป้อง
จิ่นอี้เซวียน
ข้าจะจับตาดู… ว่าเจ้ามีค่าพอให้ข้าเสียเวลาหรือไม่•ชะงักเล็กน้อย, ก่อนหันหลัง
เสียงฝีเท้าหนักแน่นค่อย ๆ ห่างไป เหลือเพียงสายลมที่พัดใบเหมยร่วงโรย
เจิ้นซู่หยาง
ข้าเองก็ไม่รู้… ว่าทำไมจึงอยากให้ท่านเข้าใจ…•พึมพำ
Comments