หุ่นยนต์มังกร
เบริล
เพื่อบ้านเกิดของข้าถึงตายข้าก็ยอม
ความตั้งใจของผมนั้นแน่วแน่ จนอีกฝ่ายต้องยอมในสายตาที่มุ่งมั่นเอาจริง และไม่กลัวตายของเบริล ผู้ชายคนนี้คงผ่านสงครามและความยากลำบากในชีวิตมาพอสมควรดั่งที่เขาพูดไว้จริงๆ
คาเร็นท์
อืม ถ้าพูดอย่างนั้น ข้าก็คงมิมีกระไรต้องพูดแล้วล่ะ
พ่อ
เดินทางปลอดภัยหนาพ่อหนุ่ม
น้าชายเห็นว่าที่สาวน้อยพูดไม่อาจทำเบริลเปลี่ยนใจได้ จึงไม่ได้ห้ามอะไร เพียงแต่อวยพรให้อีกฝ่ายเดินทางปลอดภัยถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพก็พอ
เบริล
ขอรับ อย่างไรข้าก็ฝากลาเด็กๆกับเมียน้าด้วย มีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก
เบริล
หมายถึงสถานการณ์ปกติล่ะหนา
หรือถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ประโยคนี้ผมตอบน้าแกในใจ ไม่ได้แสดงอะไรออกมาให้แกเห็น
มีเพียงเสียงหัวเราะและใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเท่านั้นที่ให้อีกฝ่ายได้เห็น ก็นะผมไม่อยากให้เศร้าก่อนจากกัน น้าชายเองก็หัวเราะไปกับผม ก่อนที่ผมจะเก็บสัมภาระแล้วออกจากบ้านหลังนั้นมาโดยมีเจ้าของบ้านมองดูจนผมลับสายตาไป
สายตาน้าแกดูกังวลคงกลัวว่าผมจะเป็นอันตราย แต่ก็อย่างที่บอกผมไม่กลัวตาย และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อสิ่งเดียว เพื่อหมู่บ้านที่ผมรัก
จู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังมา ผมจึงหยุดเดินไปครู่หนึ่งเพื่อฟังเสียงฝีเท้าแต่ก็ปรากฎว่าไม่มีอะไร สงสัยผมคิดไปเองมั้ง
ผมไม่สนอะไรและออกเดินอีกครั้ง คราวนี้ความรู้สึกมันชัดเจนขึ้น ผมไม่ได้คิดไปเองจริงๆ และมันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผม
ผมหันควับไปดูข้างหลังแทบจะทันที เอาสิต่อให้มีปีกก็หนีผมไม่พ้นหรอก
ผมกำชับดาบที่คาดกับเอวแน่น พร้อมดึงออกจากฝักทุกเมื่อ
ผมตะโกนเสียงดัง แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ
เบริล
จักมิออกมาใช่ไหม ได้!!!
ยังไม่ทันที่ดาบจะออกจากฝัก บางสิ่งบางอย่างก็ร่วงลงจากต้นไม้ใหญ่เหนือหัวผม เสียงดังตุ๊บ!! ถ้าไม่ใช่คนก็คงเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่เอาการไม่งั้นมันไม่ดังขนาดนี้หรอก
สิ่งที่ตกลงมาปรากฎว่าเป็นคนชุดดำกับเด็กสาวที่โดดลงมาล็อคตัวคนบนพื้นอีกที
ให้ตายดิ เจ้ากรรมนายเวรกันรึไงวะหนีไม่พ้นกันสักที ออกจากบ้านหลังนั้นมาไม่นานยังต้องมาเจอเด็กแสบนี่อีกแล้วเหรอ ทางมีเยอะแยะทำไมไม่ไปห๊ะ
คาเร็นท์สั่งร่างที่หมอบบนพื้น
อะไรล่ะนั่นน่ะ ทำตัวยังกับทหารจับกุมนักโทษ นี่พวกเจ้าเล่นอะไรกัน แล้วไอ้คนชุดคลุมนี่ใช่คนเดียวกันกับที่ผมสู้ด้วยไหม ทำไมมันแพ้ง่ายจังล่ะ มีเวทย์ไม่ใช่เหรอทำไมสู้เด็กไม่ได้
เบริล
นี่เจ้าตามข้ามารึยัยเปี๊ยก
คาเร็นท์
ข้าบอกว่าไม่ใช่ยัยเปี๊ยกอย่างไร ข้าตามจับยัยนี่ต่างหากมิได้ตามเจ้าสักหน่อย
ตามจับ? โว๊ะเล่นใหญ่ เผลอๆพวกเดียวกันมั้งนิ อย่านะอย่าคิดจะมาปล้นผม ผมไม่มีเหลือสักมัลให้หรอก
เบริล
คิดว่าข้าเชื่อหรือไร
เชื่อนี่ก็ออกควายเป็นลูก เอ๊ย! ออกลูกเป็นควายแล้ว หน้าผมเหมือนคนหลอกง่ายหรือไร เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเสียเวลาหมด
อีกฝ่ายรู้ว่ากวนแต่ไม่ได้โต้กลับ เพราะวุ่นอยู่กับการลงเวทย์กำกับไม่ให้อีกฝ่ายหนีอยู่
แต่ถ้ายัยเด็กนี่ใช้เวทย์ได้ ก็เป็นไปได้ที่จะจับตัวคนทำร้ายผมได้สิ ผมเพ่งมองอีกฝ่ายถึงแม้จะปิดหน้าไว้ แต่ผมว่าผมจำแววตาได้นะ
แววตาของคนที่เห็นชีวิตเด็กๆไร้ค่าน่ะ ยังไงผมก็จำได้
เบริล
นี่เจ้า เจ้าคนที่ทำให้ข้าสลบไปนี่ สรุปคือ...เจ้าเป็นผู้หญิงจริงๆใช่ไหม
เบริล
ผมเดินเข้าไปใกล้ เพื่อดูให้ชัดๆว่าผมจำคนไม่ผิด
นางสะบัดหนีพร้อมเอามือป้องหน้าอกหน้าใจไว้ แม่นางต่อให้ไม่มีชุดคลุมปกปิดเอาไว้ข้าก็ไม่ได้เสน่ห์หาอะไรนักหรอก แบนไร้การโค้งเว้าใดๆแบบนั้นใครจะอยากจับกัน
เบริล
แรงควายอย่างเจ้าใครจักอยากยุ่งด้วย
ความปากหมาเป็นเหตุหญิงชุดคลุมดำโกรธจนจะเข้าทำร้ายผมแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะถูกเวทย์บังคับกายอยู่ ผมหัวเราะและบอกให้นางใจเย็น
คาเร็นท์
พอๆ เลิกยุ่งกับนักโทษข้าได้แล้ว
นักโทษอีกแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้วใช่ไหม
เบริล
นี่เจ้าเป็นใครกันแน่
คาเร็นท์
ทำไมต้องบอก ถึงในเมืองเมื่อใดก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันอยู่ดี
มีความลับไปอีก จะเป็นทหารเป็นอะไรก็บอกกล่าวกันสักหน่อยสิจะได้ทำตัวถูกหยิ่งอยู่ได้ ช่างเหอะไม่บอกก็ไม่อยากรู้เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อกี้ว่าไงนะ ถึงในเมืองจะแยกย้าย คือ?
เบริล
กระไร นี่ข้าจักต้องเดินทางร่วมกับเจ้ารึ
อยากจะบ้าตายโว้ย ให้เดินทางร่วมกันเนี่ยนะ ไม่ไปได้ป่ะ ดูแต่ละนางสิถูกกับผมมากมั้งน่ะ รู้สึกอยากมีพลังขึ้นมาเลยจะได้มุดดินหรือหายตัวเข้าเมืองได้ ไม่ต้องใช้ทางสัญจรร่วมกับใคร
?
เดินทางกับข้าแล้วมันทำไม
นักโทษสาวถามก่อนตามมาด้วยคาเร็นท์ที่คาดว่าไม่ได้ให้ค่าอะไรกับเขาเลย
คาเร็นท์
ข้ามิเป็นภาระของเจ้าก็แล้วกัน
อันนี้ก็แรงไปคุณชุดคลุม ว่ากันว่าผู้หญิงสามัคคีกันเมื่อไหร่ผู้ชายอย่างเราจบเห่เมื่อนั้น ผมว่าท่าจะจริง สู้อะไรไม่ได้เลยเนี่ย
ยัยชุดคลุมบอก ก็ไม่รู้ว่าบอกหรือยังไงนะ แต่คาเร็นท์เสริมเข้าไปนี่ ถึงรู้เลยว่าสั่งผม
ชาติแล้วผมทำเวรทำกรรมไว้เยอะใช่ไหมเนี่ยถึงมีเจ้ากรรมนายเวรตามติดมาด้วยถึงสองตัว
พวกเรารีบเร่งฝีเท้าก่อนที่ดวงตะวันจะลับขอบฟ้าไป นี่ขนาดยังไปไม่ไกลเท่าไหร่ยังเจอสิ่งแปลกๆมากมาย
ทั้งงูยักษ์ ไม้เลื้อยกินคน ไหนจะฝูงทากป่ากระหายเลือดอีก แทบจะเอาชีวิตกันไม่รอดเลย แต่ก็ยังดีที่ผมเข้าป่ากับพ่อบ่อยเลยรู้ว่าจะจัดการปัญหาอย่างไรบวกกับเวทย์ของคาเร็นท์นิดหน่อยก็พอจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง หากไม่เจอเลเวลที่หนักกว่านี้อะนะ
เสียงบางอย่างเคลื่อนไหวคล้ายๆเสียงการกระพือปีกของนก แต่น่าจะใหญ่กว่าเพราะเสียงมันดังมาก
ผมเงยหน้ามองฟ้าเพื่อจะหาที่มาของต้นตอเสียงที่ว่า
ยัยชุดคลุมสั่งก่อนหมอบนอนราบไปกับพื้นที่บริเวณใกล้ๆเป็นป่ารก ผมงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ค่อยๆย่อตัวลงกับพื้นก่อนจะถูกยัยเด็กเปรตคาเร็นท์ป๊าบใส่หัวจนผมแทบกินดิน
เบริล
โอ้ย! จักฆ่ากันหรือยัยเด็กเวร
ผมโวยเด็กที่เล่นไม่รู้เรื่อง ไม่รู้รึไงว่าหัวเป็นของสูงลามปามนะยัยนี่ แต่เธอก็สั่งให้ผมเบาเสียงและหมอบนิ่งอยู่กับพื้น
คาเร็นท์มองตามยัยชุดคลุมพลางพิจารณาสิ่งที่อยู่บนฟ้า
ผมกระดกหัวขึ้นดูบ้าง อยากรู้เหมือนกันน่ะสิว่ามังกรตัวเป็นๆหน้าตามันเป็นยังไงเคยได้ยินแต่ตำนานเรื่องเล่ามานานแล้ว จะใช่อย่างที่ผมจินตนาการหรือเปล่านะ แต่ก็โดนมารตัวน้อยขัดอีก
นางทำท่าจะกดหัวผมลงพื้นอีกที ผมจึงรีบขยับออกห่างไม่ให้เธอเล่นกับหัวผมได้
เบริล
อย่าหนา อย่ายุ่งกับหัวข้า
คาเร็นท์มองผมพลางถอนหายใจก่อนจะหันไปสนทนากับยัยชุดคลุมต่อ
คาเร็นท์
พวกมันมาทำกระไรที่นี่
?
มิทราบได้ แต่ดูเหมือนว่ากำลังหากระไรอยู่
หา? ผมค่อยๆเงยมองบ้างคราวนี้ระวังตัวสุดกลัวโดนเด็กตบหัวอีก
สิ่งที่ทั้งสองสาวพูดกันเท่าที่ผมสังเกตเห็นมันไม่ใช่มังกรที่เป็นสัตว์จริงๆแต่เป็นยานพาหนะลอยฟ้าที่ถูกทำให้มีลักษณะเหมือนมังกร จะเรียกว่าหุ่นยนต์มังกรเลยก็ว่าได้ มีสีโดยรอบตั้งแต่หัวจรดหางเป็นสีดำ มีปีกขนาดใหญ่คล้ายปีกค้างคาวไม่แน่ใจว่าทำมาจากอะไรแต่ค่อนข้างทนต่อแรงลมเป็นอย่างดีกางทีหนึ่งเสียงดังทีหนึ่งความยาวจากปลายปีกหนึ่งไปยังอีกปีกหนึ่งน่าจะหลายสิบเมตรอยู่ นั่นคงเป็นต้นเหตุของเสียงฟึ่บฝับที่ผมได้ยิน มีสี่ขาประกอบด้วยขาคู่หน้าขนาดเล็กและขาหลังคู่ใหญ่เท่าเท้าช้างไม่ดิใหญ่กว่านั้นหลายเท่ามาก รวมๆก็คล้ายๆเท้าพวกไดโนเสาร์ยืนสองขา ขนาดของมันประมาณเครื่องบินโดยสารลำใหญ่ที่บรรจุคนหลักร้อยคน ดูท่าน่าจะเปลืองน้ำมันน่าดูเลยนะเนี่ย เท่าที่ดูไม่มีคนด้านนอกน่าจะบังคับจากด้านในเผลอๆอาจจะสั่งการอัตโนมัติจากศูนย์ใหญ่เสียด้วยซ้ำ
เบริล
โด่ หุ่นยนต์มังกรนี่เอง ข้าก็นึกว่าของจริง
?
เห็นแบบนั้นพิษสงร้ายแรงใช่ย่อยเลยหนา
หญิงชุดคลุมพูด แล้วนางก็เล่าต่อว่า เมื่อราวๆ20ปีก่อนพวกมันใช้มังกรเหล่านี้นี่แหล่ะ โจมตีแย่งชิงอาณาจักรแห่งหนึ่งจนล่มสลาย ผู้คนล้มตายค่อนเมืองมาแล้ว
What!! น่ากลัวฉิบ นี่มันไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ธรรมดาแล้ว นี่มันจักรกลสังหารชัดๆถึงว่าพวกนางถึงกลัวกันนักถึงกับกดให้ผมหมอบให้ได้ อนุภาพมันร้ายแรงจริงๆ นี่โลกเรามันมีวิวัฒนาการที่เลวร้ายยิ่งกว่าโรคระบาดอีกเหรอ งี้คนรวยก็รวยเอาๆ อำนาจก็ล้นมือคิดจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบดิ ไม่แปลกใจเลยทำไมชาวบ้านตาดำๆถึงเดือดร้อนเป็นหย่อมหญ้า เมื่อไหร่เขาจะตระหนักถึงชีวิตผู้บริสุทธิ์สักที หรือต้องให้ลูกหลานเขาตายเสียก่อนเขาถึงจะมานึกได้ว่า คนอื่นก็รักชีวิตของเขาเช่นกัน
เบริล
งั้น...งั้นข้ามิกล้าเสี่ยงแล้ว
แหม...หัวเราะใหญ่ ถ้าเธอเป็นผมเธอจะรู้ว่าผมอยากทำอะไรให้ได้มากกว่านี้จริงๆ ไม่ใช่กลัวหุ่นยนต์ไรนั่นนะ เพียงแต่ตอนนี้หมู่บ้านสำคัญที่สุด ผมคือความหวังของหมู่บ้านยังไงก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อนถึงแม้ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตกลับไปจนถึงหมู่บ้านหรือเปล่าน่ะนะ
เบริล
เดี๋ยวเหอะ เห็นว่าเป็นเด็กหรอกหนา
ผมกำมือทำท่าจะสับมะเหงกคาเร็นท์ เจ้าตัวก็ไม่หลบด้วยนะคงจะคิดว่าผมแค่แกล้งๆอะ
คาเร็นท์
ข้ามิใช่เด็กเว้ย!
คนตัวเล็กตะโกนเถียง ลืมไปแล้วมั้งว่าห้ามเสียงดังเนี่ย ตัวเองเป็นคนบอกแท้ๆ
?
พวกมันมีเทคโนโลยีที่ล้ำมากหนา ขืนขยับมากกว่านี้ โดนพวกมันเล่นงานได้ง่ายๆแน่
ล้ำมากเลยเหรอ แสดงว่ามันต้องมีเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งมีชีวิตได้น่ะสิ ต่อให้หมอบก็รอดยากแล้วมั้ง แต่ว่าพวกเราไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกนั้นนี่ ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำคงไม่ทำอะไรเราหรอก บางทีมันอาจจะมีเป้าหมายอะไรที่ใหญ่กว่านั้นเยอะ
เบริล
คิดตามหลักแล้วถ้าเทคโนโลยีล้ำหน้าอาวุธครบมือขนาดนั้น คงมิคิดจักชิงเมืองหรอกใช่ไหม
ผมคิด ความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเพราะมัลคาไดน์ก็อยู่ไม่ไกลนัก และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็จบสิ้นกันหมดทุกอย่างแล้วสิ
คาเร็นท์
แต่ข้าได้ยินมาว่า ทางนั้นเองก็มีเทคโนโลยีที่ล้ำแบบสุดๆอยู่ด้วยเหมือนกันหนา การที่จักบุกเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้ามันมิเสี่ยงเกินไปเรอะ
คาเร็นท์แย้งความคิดของผม ดูท่าเธอจะรู้เรื่องมัลคาไดน์ดีระดับหนึ่งหรือที่บอกว่าเป็นทหารมาจับตัวนักโทษจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นซะแล้ว
ไม่นานเจ้ามังกรยักษ์ก็เคลื่อนตัวออกไปจากจุดที่พวกเราซ่อนตัว
?
พวกมันไปแล้ว รอสักพักให้ข้าส่งสัญญาณก่อนหนาค่อยลุก
สาวชุดคลุมบอกให้พวกเรารอดูท่าทีเธอเองก็ดูรอบๆอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาทำอันตรายพวกเราได้
ไม่เกินห้านาทีนางก็บอกให้พวกเราลุก ก่อนนางที่ถูกมัดมือด้วยพลังเวทย์ไว้จะค่อยๆลุกตามขึ้นมาทีหลัง
เบริล
เจ้าพวกนี้อันตรายแฮะ
ผมพึมพำอยู่คนเดียวพลางปัดเศษดินเศษหญ้าที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าออก
?
ข้าว่าวันนี้เราคงต้องพักแถวนี้ก่อน
นักโทษสาวออกความคิดเห็นพร้อมกับที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าในยามเย็นพอดี
คาเร็นท์
เจ้ามีแผนจักหนีข้าใช่ไหม
ผู้คุมตัวน้อยดูระแวงซะจริง ทั้งๆที่เวทก็กำกับไว้แน่นหนาขนาดนั้นแล้วแท้ๆ
?
ป่ากลางคืนอันตรายจักตาย ใครมันจักไปคิดหนีกันเล่า
นักโทษให้เหตุผลแต่สำหรับคนตัวเล็กก็คงคิดว่าเป็นข้ออ้างนั่นแหล่ะ
เบริล
นั่นสิต้องกังวลกระไร
ผมเสริม ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะยังไงแต่ว่ากลางคืนจะเก่งแค่ไหนก็คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงกับธรรมชาติยามราตรีหรอก เห็นตายมานักต่อนักแล้ว
คาเร็นท์
มิรู้แหล่ะ ข้าต้องรอบคอบไว้ก่อน
แล้วคาเร็นท์ก็ร่ายมนตร์สร้างกรงเวทขังนักโทษสาวของเธอไว้อย่างแน่นหนา ทันทีที่นักโทษสัมผัสกรงเธอก็กรีดร้องออกมาราวกับถูกไฟชอตแล้วรีบไปยืนอยู่ตรงกลางของกรงทันที
คาเร็นท์
หึ ที่เจ้าเหมือนโดนชอตน่ะเพราะรอบกรงมีกระแสเวทประเภทสายฟ้าไหลเวียนอยู่ อย่างไรเจ้าก็หนีมิพ้นแน่
เด็กหญิงยิ้มน้อยยิ้มใจภูมิใจกับผลงานตัวเองน่าดู แต่ผมเคยได้ยินมาว่าคนที่ใช้เวทระดับกระแสไฟได้นี่ต้องฝึกมาประมาณหนึ่งเลยนะ ยัยนี่ฝึกเริ่มฝึกตั้งแต่หัดคลานเลยหรือไรเนี่ย เล็กพริกขี้หนูจริงๆ
หญิงสาวผู้นั่งกอดเข่าพูดประชดยัยตัวเล็ก ก่อนหันไปมองทางอื่น ผมละสงสารจริงๆจะสร้างกรงก็เอาแบบที่ให้นอนได้ด้วยสิเห้ย แค่นั้นจะทำอะไรได้คืนนี้คงได้นั่งทั้งคืนแน่ แต่พูดไปก็เท่านั้นเด็กดื้อนี่ฟังใครซะที่ไหน
เบริล
ว่าจักไปฉี่แลหาฟืนมาก่อไฟน่ะ
นี่แม้กระทั่งผมก็ต้องรายงานด้วยเหรอ แค่คนร่วมทางไหมล่ะ ไม่ใช่นักโทษแต่เพื่อความสบายใจก็ตอบไปตามตรงนั่นแหล่ะไม่มีอะไรปิดบังซะหน่อย
คาเร็นท์
ดี งั้นฝากหาผลไม้ป่ากลับมาด้วยแล้วกัน
เบริล
ข้ามิใช่คนใช้ ลำพังแค่หอบฟืนมาก็เต็มมือแล้ว
ผมรีบปฏิเสธเชิงกวนๆสไตล์ผม มีอย่างที่ไหนเด็กใช้ผู้ใหญ่ แถมไม่มีมารยาทในการขอความช่วยเหลืออีก ฝันไปเหอะว่าจะช่วย
คาเร็นท์
เจ้านี่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเสียเลยหนา แค่นี้ทำเป็นบ่น
เบริล
ความสุภาพบุรุษน่ะมี แต่แค่มิอยากใช้กับเด็กปากเสียเท่านั้น
ถึงขนาดใช้คำว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย แค่กวนเล่นๆเอง ซีเรียสจังยัยเด็กคนนี้
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
👑
Comments