เสียงฝนยังคงโปรยปรายเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ ผมกลับรู้สึกถึงความเงียบที่ปกคลุมหัวใจ มันเงียบจนได้ยินเสียงความคิดตัวเองดังชัดเจน ราวกับทุกเสียงฝนกำลังถามผมว่า “ทำไมถึงทิ้งเธอไว้แบบนั้น”
ผมวางสมุดบันทึกลงบนโต๊ะไม้เก่าที่เคยใช้เขียนการบ้านสมัยเด็ก แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงส่องให้เห็นหน้ากระดาษที่มีรอยน้ำตาเปื้อนจาง ๆ เหมือนเธอร้องไห้ขณะเขียนมัน
“คณิน...ฉันเคยเชื่อว่าฝนจะพาเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง”
“แต่ฝนก็ไม่เคยบอกฉันเลยว่านายจะกลับมาในวันที่สายเกินไป”
“ฉันรู้ว่านายอยากไปตามหาฝัน อยากมีชีวิตใหม่ที่ไม่มีพันธะของครอบครัว”
“แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่า…สำหรับฉัน แค่ได้อยู่ข้างนายก็คือฝันทั้งหมดแล้ว”
ผมกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ น้ำตามันร้อนจนแสบตา ทุกตัวอักษรคือดาบที่ทิ่มแทงใจผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฉันจำได้ว่านายเคยบอกว่า ฝนทำให้นายได้หยุดวิ่งหนีจากโลกได้ชั่วคราว”
“นายบอกว่าฝนทำให้นายได้หายใจ ได้พัก”
“แต่สำหรับฉัน…ฝนคือความทรงจำ”
“เพราะทุกครั้งที่ฝนตก ฉันจะได้นั่งรอนายที่ร้านกาแฟเดิม”
“ฉันไม่รู้ว่าฉันรออะไร”
“บางที…ฉันอาจรอคำสัญญาที่นายไม่เคยพูดออกมาเลยสักครั้ง”
---
ความทรงจำที่ผมหนีมาตลอด
ผมพยายามนึกย้อนกลับไปถึงวันนั้น—วันที่ผมเลือกจะเดินจากมา
ผมจำได้ว่าในตอนนั้น ผมมีหลายเหตุผลที่กดดัน
ภาระครอบครัว ความฝันที่อยากตามหา
แต่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมเดินหนีเธอไปอย่างเงียบงัน
คือความกลัว—กลัวว่าจะไม่มีวันทำให้เธอมีความสุขได้
กลัวว่าจะพาเธอไปเจอแค่ความลำบากที่ผมแบกมาตลอดชีวิต
“ถ้าฉันไม่มีอะไรเลย เธอจะยังอยากอยู่ข้างฉันไหม…”
ผมถามตัวเองซ้ำ ๆ
และคำตอบในหัวผมตอนนั้นคือ
“ไม่…”
เพราะผมไม่เชื่อว่าเธอจะทนได้
แต่ตอนนี้ ผมรู้แล้วว่าผิด
ผมเห็นจากทุกตัวอักษรในสมุดบันทึก
เธอพร้อมจะอยู่ตรงนี้กับผม
เธอพร้อมจะรอผม…
แม้ในวันที่ผมไม่มีอะไรให้เธอเลย
---
วันที่ไม่มีคำสัญญา
“คณิน…นายรู้ไหมว่าฉันรอคำสัญญาจากนายมาตลอด”
“คำสัญญาแค่ว่า ‘รอฉันนะ’ หรือแค่ ‘เดี๋ยวฉันกลับมา’ ก็ได้”
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินมันเลย”
“นายไม่เคยพูด…แม้แต่ครั้งเดียว”
“นายแค่ยิ้มให้ฉัน แล้วเดินจากไปพร้อมฝนที่ตกหนักที่สุดในชีวิตของฉัน”
ผมหลับตาลง
ผมจำได้ว่าตอนนั้น
ผมคิดว่าถ้าผมไม่พูดอะไรเลย มันคงง่ายกว่าการพูดคำสัญญาที่ไม่รู้จะทำได้จริงหรือไม่
ผมคิดว่าการปล่อยให้เธอรอโดยไม่มีคำพูด มันจะทำให้เธอไม่ต้องผิดหวัง
แต่ผมไม่เคยคิดเลย…ว่ามันคือการทำร้ายเธอที่สุด
---
กลับมาที่ร้านกาแฟเดิม
ผมเดินกลับมาที่ร้านกาแฟเดิมอีกครั้ง
กลิ่นกาแฟหอมลอยมาตามลมอ่อน ๆ
โต๊ะริมหน้าต่างยังคงว่างอยู่เหมือนเดิม
ผมนั่งลง มองออกไปยังสายฝนที่โปรยปราย
ข้าง ๆ กันนั้น…มีเก้าอี้ว่างอยู่หนึ่งตัว
เหมือนที่เธอเคยนั่งรอผมทุกครั้งที่ฝนตก
ยายศรีเดินเข้ามา พร้อมแก้วกาแฟลาเต้ร้อน
เธอยิ้มบาง ๆ เหมือนคนที่รู้เรื่องราวทั้งหมด
“เธอบอกให้ฉันชงกาแฟแก้วเดิมเผื่อไว้…ทุกวันที่ฝนตก”
น้ำเสียงยายศรีทำให้ผมหัวใจสั่น
“แม้วันที่เธอไม่อยู่แล้ว…ฉันก็ยังชงไว้ทุกครั้ง”
ผมยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ น้ำตาไหลลงปนกับรสขมในปาก
ฝนยังคงตก…
แต่วันนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่สายฝน
มันคือเสียงสะอื้นที่ไม่มีวันเอ่ยคำสัญญาได้ทันเวลา
---
คำสัญญาที่ไม่มีวันได้พูด
ผมหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาแนบอกแน่น
ในใจอยากตะโกนคำสัญญาที่ผมไม่เคยพูด
“อารียา…ฉันสัญญานะ ว่าฉันจะกลับมา”
แต่วันนี้…มันไม่มีใครรอฟังแล้ว
“คณิน…นายสัญญากับตัวเองก็ได้”
“สัญญากับหัวใจว่านายจะไม่ปล่อยให้คนที่นายรักต้องรอเก้ออีกแล้ว”
“ฉันคงไปไกลเกินกว่าที่นายจะตามทัน”
“แต่ถ้าวันหนึ่งนายกลับมา…และยังจำฝนวันนั้นได้”
“อย่าลืมว่ายังมีคนคนหนึ่งที่เคยรอคำนั้นจากนายมาตลอดชีวิต”
เสียงฝนยังคงตก
แต่ครั้งนี้…มันไม่ได้เป็นแค่เสียงฝนอีกต่อไป
มันคือเสียงคำสัญญาที่ไม่มีวันได้พูด
เสียงฝน…ที่กลายเป็นเสียงร่ำไห้ของหัวใจผมเอง
---
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments