เสียงฝนยังคงตกพรำลงบนหลังคาเหมือนเดิม แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงยังส่องกระดาษสีขาวในมือผมอย่างใจเย็น แต่หัวใจของผมกลับเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่สายตาไล่ไปตามลายมือของเธอ
ผมเปิดหน้าถัดไปของสมุดบันทึกเล่มนั้น กลิ่นกระดาษเก่า ๆ ปนกับกลิ่นฝนที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างบานเล็ก ผมไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมจะรับฟังเรื่องราวของเธอหรือยัง แต่ก็ไม่อาจหยุดมือที่พลิกหน้ากระดาษต่อไปได้
“วันนั้น...วันแรกที่เราได้เดินเคียงข้างกัน ฉันยังจำได้ดี แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน”
“ฝนตกหนักจนคนพากันหลบฝนเต็มไปหมด ฉันยืนกางร่มอยู่หน้าร้านหนังสือ แล้วเห็นนายยืนเปียกปอนอยู่ตรงมุมตึก”
“ตอนนั้น นายดูเศร้าเหมือนคนหลงทาง”
“แต่พอฉันยื่นร่มให้ นายกลับยิ้มให้ฉัน…รอยยิ้มที่ทำให้ฉันตกหลุมรักทันที”
ผมหลับตาลง ภาพวันนั้นชัดเจนในหัวราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวาน ฝนตกกระหน่ำจนเสื้อนักเรียนของผมชุ่มโชก ผมเพิ่งโดนเจ้าหนี้ตามมาจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาหลบใต้กันสาดเก่า ๆ หน้าร้านหนังสือ ไม่ได้ตั้งใจจะยืนรอใคร ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครยื่นร่มให้ในวันที่ผมไม่เหลือใคร
แล้วเธอก็โผล่มา พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนแสงแดด
“นายยิ้มให้ฉันทั้งที่ตัวเปียกปอน น้ำฝนหยดจากปลายผมจนเสื้อนักเรียนเปื้อน”
“ฉันถามนายว่า ‘หนาวไหม’ นายกลับส่ายหน้าแล้วบอกว่า ‘ผมสบายดีครับ ขอบคุณนะครับ’”
“ฉันแอบขำในใจ นายดูดื้อดึงเหมือนเด็ก แต่ก็น่ารักในแบบที่ฉันไม่เคยเจอใครเป็นแบบนั้น”
ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ ใช่...ผมเป็นเด็กดื้อที่ไม่ชอบให้ใครเห็นว่าผมอ่อนแอ
แต่เธอกลับเห็นผ่านรอยยิ้มของผมทันที
ความทรงจำวันแรก
ผมหลับตาลง ปล่อยให้ความทรงจำวันนั้นย้อนกลับมาอย่างช้า ๆ
“จะยืนตรงนี้อีกนานไหม เดี๋ยวไม่สบายหรอกนะ”
เสียงเธอลอยมาในหูเหมือนเสียงกระดิ่งลมที่คอยปลอบประโลม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชอบฝน”
“พูดแบบนี้ได้ยังไง นายตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย”
เธอหัวเราะพลางยื่นร่มมาให้
“มานี่สิ เดี๋ยวเดินไปด้วยกัน”
ผมจำได้ว่าตอนนั้นลังเล แต่สุดท้ายก็เดินตามไปในร่มคันเล็ก ๆ ของเธอ ร่มที่กางได้ครึ่งเดียว จนไหล่ของเราชนกันเบา ๆ ทุกครั้งที่เธอขยับแขน
กลับสู่ปัจจุบัน
ผมลืมตาขึ้นมองสมุดบันทึกที่วางอยู่ตรงหน้า
ทุกถ้อยคำของเธอคือบาดแผลที่ผมเคยทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจ
แต่เธอกลับบันทึกมันไว้เหมือนสมบัติสำคัญ
เหมือนกับว่า...แม้ผมจะทำร้ายเธอ แต่เธอก็ยังเก็บทุกช่วงเวลานั้นไว้กับหัวใจ
“ฝนวันนั้น ฉันอยากให้มันตกนาน ๆ เพื่อจะได้เดินไปกับนายให้นานที่สุด”
“แต่สุดท้าย นายก็ต้องกลับบ้าน นายบอกว่าน้องสาวรอนายอยู่”
“ฉันได้แต่มองหลังนายเดินจากไป ร่มคันนั้นเปียกน้ำฝนจนซีด”
“ฉันเลยกลับบ้านพร้อมกับหัวใจที่เปียกไม่แพ้ร่มของนายเลย”
ผมหยุดหายใจครู่หนึ่ง เธอจำได้แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ ที่ผมไม่ทันได้ใส่ใจ
เรื่องที่ผมคิดว่าไม่สำคัญ แต่สำหรับเธอ...กลับเป็นช่วงเวลาที่เธอเก็บมันไว้ในใจจนวันสุดท้าย
รอยยิ้มในสายฝน
เสียงฝนด้านนอกยังคงตกหนัก เสียงฟ้าร้องดังเบา ๆ จากที่ไกล ๆ
ผมเดินไปที่หน้าต่าง ปล่อยให้ละอองฝนซัดหน้าเหมือนต้องการให้ผมตื่นจากฝัน
แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่ฝัน
เพราะความจริง...เธอไม่อยู่ตรงนี้แล้ว
เหลือแค่บันทึกที่บอกเล่าความในใจที่ผมไม่เคยได้ฟัง
ผมหยิบร่มคันเดิมที่ซีดจนลายเมฆเลือนรางขึ้นมาดู
มือผมสั่นเหมือนวันแรกที่เธอส่งร่มให้
แต่ครั้งนี้...ไม่มีมือของเธออีกแล้ว
“คณิน...ถ้าวันไหนนายกลับมา ฉันอยากให้รู้ว่า…ฝนที่ฉันกลัวที่สุด กลายเป็นสิ่งที่ฉันรอคอยที่สุด เพราะมันคือวันที่นายกลับมาให้ฉันได้กางร่มให้”
“แต่ตอนนี้...ฉันคงกางร่มให้นายไม่ได้แล้ว”
ผมกำสมุดบันทึกแน่นจนสั่น
ทุกคำที่เธอเขียนไว้คือมีดที่กรีดหัวใจให้เลือดซึมช้า ๆ
ผมอยากบอกเธอว่า ผมเสียใจ
ผมอยากย้อนเวลากลับไปบอกรักเธอซ้ำ ๆ
แต่ตอนนี้...ไม่มีเธออยู่ให้ผมได้พูดแล้ว
จุดเริ่มต้นของฝนครั้งใหม่
ผมหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนค่อย ๆ เปิดหน้าถัดไปของสมุดบันทึก
น้ำตาผมไหลลงบนหน้ากระดาษ แต่ผมก็ยังฝืนยิ้ม
เพราะนี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมยังพอทำได้
อ่านเรื่องราวของเธอให้ครบทุกหน้า
เพื่อที่อย่างน้อย...ผมจะได้รู้ว่าเธอเคยรักผมมากแค่ไหน
และเพื่อที่ผม...จะได้รักเธอให้มากกว่าที่เคย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments