ตอนที่ 3: สายฝนวันแรก

เสียงฝนยังคงตกพรำลงบนหลังคาเหมือนเดิม แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงยังส่องกระดาษสีขาวในมือผมอย่างใจเย็น แต่หัวใจของผมกลับเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่สายตาไล่ไปตามลายมือของเธอ

ผมเปิดหน้าถัดไปของสมุดบันทึกเล่มนั้น กลิ่นกระดาษเก่า ๆ ปนกับกลิ่นฝนที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างบานเล็ก ผมไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมจะรับฟังเรื่องราวของเธอหรือยัง แต่ก็ไม่อาจหยุดมือที่พลิกหน้ากระดาษต่อไปได้

“วันนั้น...วันแรกที่เราได้เดินเคียงข้างกัน ฉันยังจำได้ดี แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน”

“ฝนตกหนักจนคนพากันหลบฝนเต็มไปหมด ฉันยืนกางร่มอยู่หน้าร้านหนังสือ แล้วเห็นนายยืนเปียกปอนอยู่ตรงมุมตึก”

“ตอนนั้น นายดูเศร้าเหมือนคนหลงทาง”

“แต่พอฉันยื่นร่มให้ นายกลับยิ้มให้ฉัน…รอยยิ้มที่ทำให้ฉันตกหลุมรักทันที”

ผมหลับตาลง ภาพวันนั้นชัดเจนในหัวราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวาน ฝนตกกระหน่ำจนเสื้อนักเรียนของผมชุ่มโชก ผมเพิ่งโดนเจ้าหนี้ตามมาจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาหลบใต้กันสาดเก่า ๆ หน้าร้านหนังสือ ไม่ได้ตั้งใจจะยืนรอใคร ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครยื่นร่มให้ในวันที่ผมไม่เหลือใคร

แล้วเธอก็โผล่มา พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนแสงแดด

“นายยิ้มให้ฉันทั้งที่ตัวเปียกปอน น้ำฝนหยดจากปลายผมจนเสื้อนักเรียนเปื้อน”

“ฉันถามนายว่า ‘หนาวไหม’ นายกลับส่ายหน้าแล้วบอกว่า ‘ผมสบายดีครับ ขอบคุณนะครับ’”

“ฉันแอบขำในใจ นายดูดื้อดึงเหมือนเด็ก แต่ก็น่ารักในแบบที่ฉันไม่เคยเจอใครเป็นแบบนั้น”

ผมหัวเราะในลำคอเบา ๆ ใช่...ผมเป็นเด็กดื้อที่ไม่ชอบให้ใครเห็นว่าผมอ่อนแอ

แต่เธอกลับเห็นผ่านรอยยิ้มของผมทันที

 

ความทรงจำวันแรก

ผมหลับตาลง ปล่อยให้ความทรงจำวันนั้นย้อนกลับมาอย่างช้า ๆ

“จะยืนตรงนี้อีกนานไหม เดี๋ยวไม่สบายหรอกนะ”

เสียงเธอลอยมาในหูเหมือนเสียงกระดิ่งลมที่คอยปลอบประโลม

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชอบฝน”

“พูดแบบนี้ได้ยังไง นายตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย”

เธอหัวเราะพลางยื่นร่มมาให้

“มานี่สิ เดี๋ยวเดินไปด้วยกัน”

ผมจำได้ว่าตอนนั้นลังเล แต่สุดท้ายก็เดินตามไปในร่มคันเล็ก ๆ ของเธอ ร่มที่กางได้ครึ่งเดียว จนไหล่ของเราชนกันเบา ๆ ทุกครั้งที่เธอขยับแขน

 

กลับสู่ปัจจุบัน

ผมลืมตาขึ้นมองสมุดบันทึกที่วางอยู่ตรงหน้า

ทุกถ้อยคำของเธอคือบาดแผลที่ผมเคยทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจ

แต่เธอกลับบันทึกมันไว้เหมือนสมบัติสำคัญ

เหมือนกับว่า...แม้ผมจะทำร้ายเธอ แต่เธอก็ยังเก็บทุกช่วงเวลานั้นไว้กับหัวใจ

“ฝนวันนั้น ฉันอยากให้มันตกนาน ๆ เพื่อจะได้เดินไปกับนายให้นานที่สุด”

“แต่สุดท้าย นายก็ต้องกลับบ้าน นายบอกว่าน้องสาวรอนายอยู่”

“ฉันได้แต่มองหลังนายเดินจากไป ร่มคันนั้นเปียกน้ำฝนจนซีด”

“ฉันเลยกลับบ้านพร้อมกับหัวใจที่เปียกไม่แพ้ร่มของนายเลย”

ผมหยุดหายใจครู่หนึ่ง เธอจำได้แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ ที่ผมไม่ทันได้ใส่ใจ

เรื่องที่ผมคิดว่าไม่สำคัญ แต่สำหรับเธอ...กลับเป็นช่วงเวลาที่เธอเก็บมันไว้ในใจจนวันสุดท้าย

 

รอยยิ้มในสายฝน

เสียงฝนด้านนอกยังคงตกหนัก เสียงฟ้าร้องดังเบา ๆ จากที่ไกล ๆ

ผมเดินไปที่หน้าต่าง ปล่อยให้ละอองฝนซัดหน้าเหมือนต้องการให้ผมตื่นจากฝัน

แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่ฝัน

เพราะความจริง...เธอไม่อยู่ตรงนี้แล้ว

เหลือแค่บันทึกที่บอกเล่าความในใจที่ผมไม่เคยได้ฟัง

ผมหยิบร่มคันเดิมที่ซีดจนลายเมฆเลือนรางขึ้นมาดู

มือผมสั่นเหมือนวันแรกที่เธอส่งร่มให้

แต่ครั้งนี้...ไม่มีมือของเธออีกแล้ว

“คณิน...ถ้าวันไหนนายกลับมา ฉันอยากให้รู้ว่า…ฝนที่ฉันกลัวที่สุด กลายเป็นสิ่งที่ฉันรอคอยที่สุด เพราะมันคือวันที่นายกลับมาให้ฉันได้กางร่มให้”

“แต่ตอนนี้...ฉันคงกางร่มให้นายไม่ได้แล้ว”

ผมกำสมุดบันทึกแน่นจนสั่น

ทุกคำที่เธอเขียนไว้คือมีดที่กรีดหัวใจให้เลือดซึมช้า ๆ

ผมอยากบอกเธอว่า ผมเสียใจ

ผมอยากย้อนเวลากลับไปบอกรักเธอซ้ำ ๆ

แต่ตอนนี้...ไม่มีเธออยู่ให้ผมได้พูดแล้ว

 

จุดเริ่มต้นของฝนครั้งใหม่

ผมหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนค่อย ๆ เปิดหน้าถัดไปของสมุดบันทึก

น้ำตาผมไหลลงบนหน้ากระดาษ แต่ผมก็ยังฝืนยิ้ม

เพราะนี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมยังพอทำได้

อ่านเรื่องราวของเธอให้ครบทุกหน้า

เพื่อที่อย่างน้อย...ผมจะได้รู้ว่าเธอเคยรักผมมากแค่ไหน

และเพื่อที่ผม...จะได้รักเธอให้มากกว่าที่เคย

 

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!