พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนเป็นศิลปะระบายสีของเด็กสามขวบอย่างไงอย่างงั้น อายูมะ รีบตื่นตัวทำท่าทางระแวงการโจมตีที่อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อ เหมือนคราวก่อนที่จู่ ๆ ที่โดนการโจมตีจากไหนไม่รู้ซัดลวงในทีนที่ ระหว่างที่ระแวงการโจมตีที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ทางไหน ก็มีเสียงน่ารำคาญผูกขึ้นมาในหัวของเค้า
‘รีบหนีเร็วเข้า อายูมะ’
“ที่บอกว่าให้หนีนะ หนีไปไหนกัยเล่า”
‘…คือว่านะ ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าถ้ายังอยู่ตรงนี้ละก็ไม่ดีแน่รีบหาที่ไปหลบในที่สุดก่อนเถอะ’
เขารีบวิ่งขึ้นไปในตึก ภายในเหมือนตึกปกติจนทำให้รู้สึกแปลกประหลาดภายในเหมือนตึกออฟฟิศที่ว่างเปล่าไม่มีผู้คน เข้ารีบขึ้นบันได
“ว่าแต่แกเป็นใครกันแน่ เป็นอาการหลอนหรือว่า…”
‘ชั้นก็คือนาย นายก็คือชั้น ถ้าหากนายตายชั้นตายไปด้วยสิ’
“พูดไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”
‘คือว่านะจะให้อธิบายมันก็ยากอยู่ ชั้นนะพึ่งจะมีรูปร่างและพูดได้เมื่อไม่นานมานี้เอง มาสนิทกันไว้ดีกว่าน่า’
“รูปร่าง?”
‘จริงสินะ ชั้นมาแค่เสียงนิ’
‘เอาละอย่าตกใจซะละ’ หลังจากพูดจบก็มีสิ่งมีชีวิตรูปราคาคล้ายมนุษย์ปรากฎตัวออกมาทางด้านซ้ายของเค้า รูปร่างภาพนอกพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า ‘ปีศาจ’ สีดำตาสีฟ้าและมีปีกกับหาง ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติแล้วคนที่เห็นเป็นครั้งแรกคงตกใจกระโดดถอยหลังเป็นแน่ แต่ว่า…
‘อ้าวไม่ตกใจหน่อยหรอ’
สีหน้าของเค้าเรียบสนิท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น
“ก็แหม่เจออะไรมาตั้งขนาดนั้นจะมีปีศาจซักตัวโผล่หัวมาก็ไม่แปลกใจแล้วหละ”
‘ก็แบบ อยากให้ อะจ้ากปีศาจ อะไรแบบนี้’
ณ บนดาดฟ้า อายูมะยืนมองไปรอบ ทิวทัศน์ไม่มีอะไรนอกจากงานภาพสีเทียนของเด็กสามขวบ
‘นี่ก็ซักพักแล้วนะ เมื่อไหร่มันจะออกมาละเนี่ย’
“ถ้าพูดแบบนั้น เดี๋ยวมันก็ออกมาหรอก”
เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ก็เกิดแผ่นดินไหวพื้นใต้เท้าสันสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นที่โดยรอบเปลี่ยนไปอีกครั้ง ภาพของตึกรามบ้านช่องเปลี่ยนเป็นพื้นลายตารางหมากรุกที่พื้นไม่สม่ำเสมอเหมือนลูกคลื่น รอบ ๆ มีเสาขนาดใหญ่ขาวดำถูกวางไว้อย่างยุ่งเหยิง ที่ ๆ เหมือนจะเป็นเส้นขอบฟ้ามีบันไดจำนวนมากที่ถูกจัดเรียงอย่างซับซ้อน
‘มันมาแล้ว อายูมะจัง’
“อายูมะจัง อะไรของแก”
แผนดินไหวอีกครั้ง เสาสีดำที่ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของอายูมะมีเสียงดังลั่นเอียดอาดดังถี่ขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับการสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้น อายูมะยืนค้างอย่างไรสติเหมือนสมองประมวลผลไม่ทั้น มีรอยปริแตกบนเสาต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“…………………………”
‘อายูมะจัง ตั้งสติก่อนสิ รีบหยิบไอนั้นออกมาเร็วสิ ไม่งั้นนายกับชั้นตายแน่’ ปีศาจพูดด้วยความร้อนรน
“อะ…”
เค้ารีบหาไอลูกเต๋าสีดำนั่น ที่ไม่แน่ใจว่าเก็บเอาไว้ตรงไหน กระเป๋ากางเกงไม่มี กระเป๋านักเรียนแต่ว่าช่องไหนละ และในที่สุด
“จะ…เจอแล้ว”
ในพริบตานั้น ก็เกิดแรงระเบิดและลมแรงพัดออกมาจากเสาที่อยู่กึ่งกลางของพื้นที่ ควันจำนวนมากปกคลุมพื้นที่นี้จนบดบันทัศนวิสัยไปหมด อายูมะกำหมัดลูกเต๋าเอาไว้ในมือให้แน่นขึ้น
‘หลบไปด้านขวาเร็ว’
หมอกควันแหวกออกปรากฎหอกสีขาวพุ่งตรงเข้ามาจากทางขวาบน หลบได้อย่างเฉียดฉิว จากการที่อายูมะตอบสนองตามคำพูดในทันที จากการสังเกตภายในชั่วพริบตารูปลักษณะของศัตรูคือเกาะอัศวินยุคการที่ไร้ความปรึโดยสิ้นเชิง
‘ซ้าย ขวา ถอยหลัง ซ้าย’ เขาหลบตามเสียงในทันที แต่ว่าก็ยังถือว่าตอบสนองได้ช้ามาก เค้ารู้ตัวดีว่ายิ่งเวลาผ่านไปโอกาสหนียิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ ที่ละนิด
‘กระโดดไปทางขวา’
“อ๊ากก…”
มีลูกธนูพุ่งแหวกควันมาปักขาขวาของอายูมะ และในเวลาเดียวกันหอกสีดำก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังทะลุออกมาถึงด้านหน้า เลือดค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผล อายูมะรู้ดีหากมันดึงหอกออกละก็เลือดจะทะลักออกมาไม่หยุดได้เสียเลือดตายแน่ เค้าจึงใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่จับส่วนเกือบปลายหอกเอาไว้แน่น ไม่มีเวลาให้คิดมากเค้าจับหอกแล้วหมุนตัวกลับไปเตะไอตัวที่เหมือนอัศวินกระป๋องสีดำให้สุดแรง
“รับไปซะ…”
“ปัง…” เสียงเหล็กกระทบกับพื้น มันไม่ได้ลอยไปไกล มันแค่ลมลงกับพื้น แต่ก็มากพอที่เค้าจะหักปลายหอก แยกออกเป็นที่กำลังแทงอยู่ในตัวเขา กับหอกที่สั้นจนจนเรียกได้ว่าเป็นมีดสั้น เค้ารีบวิ่งหนีออกไปควันตามเสียงของปีศาจ
‘ในที่สุดก็สลัดพวกมันจนได้’ พวกเค้าอยู่ในที่ ๆ เหมือนจะเป็นตีนบันได
“ว่าแต่ไอนี่ใช้ยังไงนะ” อายูมะแบมือที่กำลูกเต๋าสีดเอาไว้อยู่
‘ลุกขึ้นเถอะ ทางออกจากเขตแดนนี้น่าอีกไม่ไกล’
“รู้แล้วน่า” อายูมะเริ่มเดินอีกครั้ง
“ว่าแต่เจ้าพวกนี้มันเป็นตัวอะไรกัน”
‘พวกมันเป็นเหมือนกับภูติรับใช้ของคนที่สร้างเขตแดนนี้นะ ขอบอกตามตรงชั้นรู้สึกไอ้ตัวที่สร้างเขตแดนนี้มันเพิ่งเกิดมาได้ประมาณสองสามวันมานี้เอง โอ๊ะขึ้นบันไดอันนั้น’
“เหมือนกับพวกภูติผีปีศาจในอนิเมะนะหรอ?”
‘ก็ประมาณนั้น พวกมันนะเกิดจากอารมณ์ด้านลบของมนุษย์ที่ทับถมกันจนเป็นแก่นปีศาจ หากมนุษย์ที่มีแก่นปีศาจฝังเอาไว้อยู่กับตัวเมื่อมีอารมณ์ลบอย่างความสิ้นหวังจนถึงขีดสุดหรือตาย แก่นปีศาจจกินตัวตนของเจ้าของร่างแล้วเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดนะ เลี้ยวขวา’
“แล้วผู้หญิงกับไอ้ตัวเมื่อวานนี้หละ”
‘จริงด้วยสิตอนนั้นนายไม่มีสติมากพอที่ฟังที่เธอคนนั้นพูดนะ ไอ้ตัวเมื่อวานนี้มันเอาไว้ทดว่านายมีพลังมากพอที่จะเอาตัวรอดจากพวกมันรึเปล่านะ เธอคนนั้นน่าจะได้ข้อสรุปว่านายตัวเปล่านะตายแน่เลยให้ไอ้ลูกเต๋านั้น แต่ก็ไม่ได้บอกวิธีใช้นิสิปัญหา’
“งั้นหรอ ว่าแต่นายเป็นตัวอะไรกันแน่”
‘ก็ออกแนวเพื่อนในจินตนาการที่มีอิทธิพลมากพอจนสมองของนายยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลละมั้ง ลงบันไดอันนี้’
“สรุปก็คือถ้าอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ลินะ”
‘ถูกต้องแล้วครับผม เลี้ยงซ้าย’
‘ระหว่างเดินมาหาท่างใช่ไอ้ลูกเต๋านี้กันมั้ย’
‘เห้ยๆ ตอบหน่อยสิ’
“ไม่รู้สิตอนนี้คิดแค่ว่าหนีให้รอดก่อนดีกว่านะ แถมตอนนี้ชั้นพยายามเมินอาการเจ็บปวดทั่วร่างอยู่ ด้วยการเพิ่งสมาธิไปกับการเดินไม่ให้ล่วงอยู่นะ นายก็คิดไปก่อนสิ”
“แย่ละพวกมันเริ่มตามมาจะทันแล้ว”
‘ถ้างั้นลองเอาเลือดทาไปที่ลูกเต๋า’
“ทำไปตั้งแต่ตอนโดนหอกแทงแล้ว” เค้าชูลูกเต๋าที่ชุ่มไปด้วยเลือดให้ปีศาจดู
‘ลองกินมันดูมั้ย’ ปีศาจพูดด้วยเสียงเย้าหยอก
“เอาไว้เป็นวิธีสุดท้ายเลยไป”
‘ถ้างั้นลองพูดแบบแปลงร่างอะไรอย่างงี้’
“แปลงร่าง” ไม่มีประติกิริยาตอบสนองใด ๆ
‘ลองไล่ไปเรื่อย’ ปีศาจพูดอย่างลนลาน
“ยอมรับ” ไม่มีประติกิริยาตอบสนองใด ๆ
“ข้อผิดพลาด” ไม่มีประติกิริยาตอบสนองใด ๆ เค้าไล่พูดไปเรื่อยๆเท่าที่จะนึกออกจนมาหยุดอยู่ที่คำ คำนึง
“Exousia” สิ่งของรอบตัวรวมไปถึงท้องฟ้าที่สีเมา อากาศเหมือนจะหยุดนิดพวกที่ไล่ตามมาก็หยุดอยู่กับที่ มีเสียงดังมาจากความวางเปล่าตรงหน้าของของอายูมะ
/เอาละ ‘ซาโตะ อายูมะ’ เธอนะปรารถนาสิใด/ เป็นเสียงที่ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ ลูกเต๋าลอยขึ้นมาตรงหน้าเขา และเปลี่ยนรูปร่าง เหมือนลูกบอลเรืองแสงสีทองที่มีวงแหวนหลายเส้นหมุนร้อมรอบ
“ใช้ไม่ใช่คนที่มีความปรารถนาอะไรแบบหรอ”
‘โถ่เอ้ย ในเวลาแบบนี้แล้วนายนะ ก็ขอตอบแบบ “ผมอยากปกโลกและรอยยิ้มของผู้คนครับ” อะไรอย่างงี้’
/อย่างงี้นี่เอง ตอนนี้เธอไม่มีความปรารถนาสินะ แต่ก็เอาเถอะข้อมูลของเธอนะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์เสร็จตั้งนานแล้วยังไงมันก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องถามก่อนละนะ/
“งั้นหรอ”
/เธอนะพร้อมแลกความเป็นมนุษย์เพื่อพลังหรือไม่/
“ถ้าแลกแล้วจะหนีจากที่นี้เลยได้มั้ย”
/ไม่ใช่แค่หนีได้ แต่ว่าอาจจะสามารถโค้นไอ้ตัวที่สร้างที่นี้ได้เลยละ/
“ถ้างั้น ก็เอาตามนั้น”
/ไม่คิดให้มากกว่านี้หน่อยหรอ ความเป็นมนุษย์เลยนะ/
“แต่ว่าหากไม่เลือกทางนี้สุดท่าก็ต้องตายอยู่ดี แค่เลือกเส้นทางที่น่าจะดีที่สุดในตอนนี้”
/งั้นเหรอ นี้คือคำตอบจริงๆสินะ/
“การเตรียมใจนะ ไม่จำเป็นสำหรับชั้น”
/ถ้างั้นมาเริ่มกันเถอะ บันทึกเรื่องของพวกเธอ/ เกิดแสงสว่างในทันที่จากทรงกลมที่ลอยอยู่ แสงนั้นมาห่อหุ้มร่างกายของนักเรียนมัธยมปลายที่ตอนนี้กำลังยืนกุมบาดแผลที่อยู่ตรงสีข้าง และเมื่อแสงสีทองหายไปเวลาก็กลับมาเดินอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏอยู่บนบันไดคือชายสวมชุดเกราะสีดำสลับเงินตัดด้วยขอบทองอันพันธ์ ตาสีแดงสดมีข้างขวาถือธนูยาวไร้สายสีเงินที่เหมือนเอาดาบโค้งสองอันมาติกกัน มือซ้ายถือกระเป๋านักเรียนสีดำ
“สรุปแล้ว ชั้นก็ต้องไปสู้สินะ” อายูมะพึมพำพร้อมมองลงไปด้านล่างบันได้ ที่มีพวกหุ่นกระป๋องสลับสีขาวและดำกำลังวิ่งขึ้นบันไดเพื่อตามล่าเค้า
‘ชั้นคิดอะไรสนุก ๆ ออกแล้วมาตั้งชื่อกันมั้ย อย่างเช่น มาสไ…’
“หยุดเลย ไว้ค่อยคิดหลังจากจบเรื่องนี้” ก่อนที่ปีศาจจะพูดจบ อายูมะก็พูดแทรกเพื่อจบบทสนทนาไร้สาระ
“ว่าแต่เจ้านี่ใช้ยังไง” เขายกธนูขึ้นมาด้วยความสงสัย
‘ลองเอาตรงปลายไปฟันพวกมันดูสิ’
“เอาแบบนั้นแล้วกัน” เขาพูดอย่างไม่สนใจอะไร แล้วก็กระโดดลงไปในดงอัศวินกระป๋องขาวดำ
[เอาละได้เวลาโต้กลับแล้ว ไอ้ภาพลวงตาพรรค์นี้จะพังมันไม่ให้เหลือซากเลย] ทั้งสองป่าวประกาศออกมาพร้อมกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments