ยามเช้าของวันไปโรงเรียนแสนธรรมดา เมืองแห่งการศึกษาที่หอพักชายในเขตที่4 ชั้น6ห้องของ ‘ซาโตะ อายูมะ’ นักเรียนมัธยมปลายที่กำลังรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ โดยเอาน้ำมาล้างแค่หน้ากับแปรงฟันแบบลวก ๆ แล้วหยิบกระเป๋านักเรียนบนเก้าอี้สีดำที่สภาพดูไม่จะไม่ได้รับการดูแลเลย วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
เวลา06:59น. ถนนระหว่างทางไปโรงเรียนที่ซาโตะ อายูมะเรียนอยู่ สภาพโดนรอบดูเรียบง่ายแต่ก็ไม่ได้ดูตกยุค พื้นถนนถูกปูด้วยอิฐสีเหลืองอ่อน
“เห่…วันนี้คาสึมะมาถึงเป็นคนแรกหรอ ฝนคงตกหนักแน่”
นักเรียนมัธยมปลายผมสีทองท่าทางเหมือนนักเลงที่อยู่ตรงหน้าของอายูมะก็คือเพื่อนสมัยของเค้า ‘คิซารากิ คาสึมะ’ ที่ยืนเล่นโทรศัพท์ที่ทางเบื่อ ๆ อยู่คนเดียว
“กวนโอ้ยกันใช้”
“เปล่าก็ปกติสึกิโนะจะมาเป็นคนแรกตลอดและคาสึมะนะจมาสายที่สุดในกลุ่มไม่ใช่หรอ แถมดันมารอเป็นคนแรกร้อยวันพันปีจะมีซักหน”
“กวนโอ้ยกันเห็นๆเลยนิหว่า!!”
คาสึมะกระโดดพุ่งไปล็อกคออายูมะ โดยที่ไม่ได้ตั้ง
“โอ้ย ๆ …ยอมแล้ว ๆ พวก”
ในระหว่างชุลมุน ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาอย่างกระทันหัน
“พวกนายนี่นะจะเล่นกันก็ชวนดูสถานที่หน่อยสิ ว่าแต่ผ้าพนฝันแผลนั้นคืออะไร”
เสียงผู้หญิงที่แทรกเข้ามาอย่าง ก็คือ ‘อามาโนะ ยูริโกะ’ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของอายูมะและคาสึมะ ที่ดูด้วยแววตาเอือมระอาทั้งสองคอง
“อุบัติเหตุเล็กน้อยนะ”
“งั้นหรอ”
“เอ้าๆ เล่นกันพอแค่นี้แล้วไปโรงเรียนกันได้แล้ว”
เธอหันหน้ามาพูดด้วยเสียงที่นุ่นนวลพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วสึกิโนะกับอากินะแหละ”
“ทั้งสองคนไปรอที่โรงเรียนก่อนแล้ว”
“ถ้างั้นพวกเรารีบไปก่อนโรงเรียนกันก่อนเถอะ”
เวลา07:11น. พวกอายูมะอยู่หน้าโรงเรียนมัธยมแห่งนึงในเมืองแห่งการศึกษา อาคารสีขาวขนาดใหญ่ดีไซน์ดูเลียบ ๆ แบน ๆ ที่ชั้นบนๆมีสะพานมีหลังคาที่เชื่อมกับตึกรอบ ๆ ภายในอาคารหลักหากเข้าไปครั้งแรกอาจจะพูดได้เลยว่าเป็นเขตวงกตขนาดยอม ๆ เคยมีเหตุการณ์นักเรียนจำนวนมากหลงทางอยู่ในนั้นเป็นชาติ ภายหลังเลยต้องมีแผนที่ติดไว้หลายจุดภายในอาคาร
“เส้นยาแดงผ่าแปดเหมือนเคยละนะ”
“เวลาเดินเข้านะเหลือ ๆ เลยละ”
คาสึมะเอามือไขว้หลัง แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“นี่เคยได้ยินมั้ย ข่าวเรื่องนักเรียนใหม่นะ”
ยูริโกะเริ่มพูดเปิดประเด็น
“อ่อ ใช้นักเรียนที่จะเข้ามาในสัปดาห์หน้าอะไรนั้นใช่มั้ย รู้สึกว่าจะประสบอุบัติเหตุอะไรซักอย่างจนต้องพักรักษาแถวนี้ตั้งหนึ่งปีเต็ม”
“คิดว่าจะเป็นคนแบบไหนละ”
“ไม่รู้สิ จะยังไงก็ได้ช่างมัน”
“อามูยะคุงยังเป็นพวกไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากการ์ตูนกับเกมเหมือนเคย”
“ช่างเรื่องนั้นเถอะ ว่าแต่วิชาแรกวิชาอะไรนะ”
“รู้สึกว่าจะเป็นชีวะนะ เห็นว่าวันนี้จะมีสอบเก็บคะแนนเยอะซะด้วยนะวันนี้”
“ไม่จริง มีสอบด้วยหรอนี้พีงเปิดเทอมแค่สัปดาห์กว่าเองนะ”
คาสึมะพูดด้วยสีหน้าลุกลี้ลุกลน
“ลืมไปแล้วสินะ”
“คงลืมจริง ๆ นั้นแหละ”
ในที่สุดก็มาถึงหน้าประตูด้านบนมีป้ายห้องเขียนไว้ว่า2/3 ถ้าหากให้อธิบายคงเป็นที่มีกำแพงกระจกที่สามารถมองเหตุได้จากทั้งสีทิศยกเวนบริเวณกระดานดำสีขาว กำแพงกระจกสามารถเปลี่ยนเป็นกำแพงสีขาวทึบในทันที เค้าค่อยเปิดประตูอย่างช้า ๆ ภายในห้องก็คือ… จะว่าไงละ ภายในห้องมีแต่ความสับสนวุ่นวายราวกับอยู่ในคอนเสิร์ต มีเสียงคุยเจียวจ้าวดันอยู่เป็นระยะๆ ด้านหลังห้องหัวหน้าห้องเล่นกีต้าร้องเพลงที่เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนซักแห่ง มีพวกที่ยืนเต้นอยู่บนเก้าอี้ด้วย
“อรุณสวัสดี มาแล้วกันหรอ”
เสียงทักทายที่มาจากหลังห้องตรงข้ามกับพวกที่เล่นกีต้าอยู่ เป็นเสียงผู้หญิงที่ฟังดูง่วงเหงาหาวนอนมากๆ เป็นเสียงของ ‘มิซากิ สึกิโนะ’
“ราตรีสวัสดี”
“แปลว่าเมื่อคือเล่นเกมโต้รุ่งสินะ”
“ไม่ไหวเลย”
อายูมะกับคาสึมะพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“พวกนายก็กล้าพูดเนอะ ไม่ดูตัวเองเลย”
“เอ้าอ่าวเก็บโทรศัพท์ได้แล้ว07:20แล้ว” ครูประจำชั้นตะโกนออกมาจากหน้าห้องที่มีกล่องพลาสติกสีชมพูสำหรับเก็บโทรศัพท์ของทุกคน
ประมาณ1ชั่วโมงผ่านไป เวลา08:20น. มีซากศพจำนวนมากกองเพนิน ถ้าจะพูดให้ถูก คือเหล่านักเรียนที่พึ่งสอบมาเสร็จมาดๆสภาพทุกเหมือนคนเหมือนศพที่นอนรอการย่อยสลายไปตามธรรมชาติ บางคนก็นอนตายอยู่บนโต๊ะนักเรียน บางคนก็ไปนอนตรงพื้น บางคนก็นั่งสมาธิและมีสวดมนตร์อะไรซักอย่างลอยออกมาจากปาก บางคนก็หยิบหนังสือขึ้นมาเพื่อเช็คคำตอบของตัวเอง ส่วนพวกของอายูมะนั้นก็ก็สภาพไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ถึงกับนอนตายเป็นซาก อายูมะมานั้งอ่านนิยายแฟนตาซีเพื่อความผ่อนคลาย
ประโยคสนทนาในห้องก็จะยังพอมีอยู่เช่น ข้อนี้ตอบอะไร ข้อนั้นตอบอะไร ราว ๆ นี้ และเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงช่วงพักกลางวัน พวกอายูมะกำลังนั้งตรงม้านั่งของตึกมัธยมต้นที่ชั้น1
“เวลานี้ผ่านไปไวจริงๆเลยนะ”
คนที่บนออกมาคืออายูมะ
“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ สรุปแล้วอากินะจังก็ไม่มาสินะ”
“คงไม่สบายแหละ ด้วยให้อายูมะคุงไปเยี่ยมและเอางานไปส่งเลย”
“ทำไมต้องเป็นชั้นวะ” เค้ากลอกตาไปมองที่ยูริโกะอย่างช้า
“ก็นายไม่น่าจะมีธุระอะไรนิ” เป็นคำพูดที่เค้าเถียงไม่ออก
“…ครับๆเข้าใจแล้วครับ”
“วันนี้ไม่ค่อยมีประเด็น” คาสึมะพูดด้วยเสียงที่นิ่งเรียบ
“ถ้าประเด็นกรือกัวข้อก็มีแค่เรื่องนักเรียนใหม่ ไม่ก็ข่าวคดีคนหายจำนวนมากเป็นประวัติการณ์”
“แล้วนั้นมันอะไรละนั้น”
“รู้สึกว่าน่าจะเป็นข่าวที่ว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หายตัวไปในเวลาไล่เลี่ยกันนะ”
อายูมะพูดในสิ่งที่เค้ารู้จากการฟังข่าวเมื่อหลายวันก่อนและพยายามเอาไปปะติดปะต่อเรื่องในข่าวกับเรื่องที่เจอเมื่อวานนี้ภายในหัว เค้าพอที่จะเข้าใจบางส่วนแล้ว
“มันก็ไม่ใช่ประเด็นให้พูดคุยตามสไตล์กลุ่มเรานี่หว่า…”
เวลา16:13น. เวลากลับบ้านของเหล่านักเรียน อายูมะเดินไปที่หอพักของ ‘นานาเสะ อากินะ’ คนเดียวเพื่อที่จะเอางานของวันนี้ไปส่งให้
‘ติดอง…’
“นี่อากินะ ชั้นเอางานมาส่งนะ นี่นอนอยู่รึไง”
เอาหยิบโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสเก่าออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“ตุด…ตึก…ตุก…ตึก…หาโหลใครคะ”
เสียงที่ฟังดูลุกลี้ลุกลนดันออกมาจากโทรศัพท์เก่าๆ
“ชั้นเองอายูมะไง วันนี้เอางานมาส่งให้เฉยๆนะ”
“อะ…อายุมะคุงหรอ ขะ…ขะ…ขอบคุณ”
เสียงเต็มไปความสับสนและมึนงงจบลงก่อนที่จะมีเสียงเดิน ‘กึๆ’ ก่อนที่ประตูจะเลื่อนเปิดออก
“โย้ว อะนี่”
“อ่าขอบคุณ”
เขายื่นของให้เธอโดยไม่ใส่ใจอะไร
“นี่เธอเป็นอะไรมากมั้ย หมายถึงอาการป่วยนะ”
“อ่าก็ยังไม่ค่อยดีเท่ไหร่ เออคือว่าขอบคุณจริงบ่าย”
“เอาเดียวก่อน”
เธอรีบปิดประตูก่อนที่เค้าจะพูดจบ
“เป็นอะไรของเค้าเนี่ย ช่างเถอะกลับก่อนแล้วกัน”
‘นั้นสิ ๆ เธอคนนั้นดูตกใจตอนเห็นนาย อย่างกับเห็นเลยนะพวก’
เค้าหันไปด้านหลังที่ที่น่าจะเป็นต้นเสียง แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากความว่างเปล่า ในสถานะการแบบนี้คงบอกได้แค่ว่าหูแว่วหรือไม่ก็คิดไปเองนั้นแหละ
เค้าค่อย ๆ เดินกลับหอของเค้าอย่างช้า ตอนนี้เค้าบนทางเดินกลับหอที่เดิมที่เคยใช้แล้วหลุดไปที่แปลงเมื่อคืนนี้ และระหว่างทางที่เดินก็มีเสียงพูดมากน่ารำคาญที่ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่เสียงแว่ว พูดมาไม่หยุดเป็นชาติแล้ว
‘นี่ๆ ทางนี้มันทางที่นายโดนเล่นงานเมื่อวานไม่ใช่หรอ’
“ช่วยเงียบไปก่อนได้มั้ย เอาไว้พอถึงหอแล้วค่อยคุยรายละเอียดกัน ถ้าพูดคนเดียวมันจะดูเป็นคนบ้าสิเฟ้ย”
’นายก็แค่หยิบหูฟังมาใส่แค่นี้ พูดดูไม่แปลงแล้วน่า’
‘เฮ่ ขอแนะนำรีบให้ก่อนที่มันจะรู้สึกว่านายอยู่ตรงนี้ ควรก่อนเคราะห์ดีที่มีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกแต่คราวนี้มันของจริงแน่’
“เห้ย ๆ ทำไมไม่รีบบอกตั้งแรกละ’
และทันใดนั้นพื้นที่รอบๆก็เปลี่ยนไปทันที่ ‘เอาอีกแล้วเลาะ’ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว พื้นที่ถูกเปลี่ยนจากพื้นอิฐเป็นงานศิลปของเด็กสามขวบ ตึกรามบ้านช่องเปลี่ยนเป็นงานศิลปะตัดแปะโทนสีม่วงทอง ทองฟ้าปกคลุมไปด้วยความมืดยาวค่ำคืน แต่ก็มีแสงสว่างจากไหนไม่
“ซวยชะมัด” อายูมะพึมพำออกมาจากลำคอ
‘ไม่เอาน่า ยังไงซักวันก็ต้องเจอ’
“ไม่จริงงงงง!!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Yuki Nagato
ถูกใจเรื่องนี้มากเลย 😍
2025-06-15
1