คลั่งรักมาเฟียสาว
.
-1-
พบกันเมื่อวัยเยาว์
.
“ไอ้มิว วันนี้เลิกเรียนไม่ไปเล่นบาสกับพวกกูหรอวะ?”
แชง ผู้เป็นเพื่อนถามหนุ่มน้อยรูปงามสุดฮอตของโรงเรียน เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกจากโรงเรียน หนุ่มน้อยหันมาส่ายหัวให้เพื่อนก่อนจะเดินออกไปอย่าเร่งรีบ
“วันนี้มันมีถ่ายแบบนิตยสารรึเปล่าวะ”
คิน เพื่อนอีกคนบอกเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยที่เดินจากไปไม่ได้ตอบอะไรแชงเลย แชงหันมาตามเสียงของเพื่อน ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่สนามบาสเกตบอล
คิน แชง และมิวสิคเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น พวกเขาเป็นกลุ่มหนุ่มฮอตที่สุดในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งนี้ และไม่แปลกใจเลยที่เด็กๆ ที่นี่จะถูกแมวมองทาบทามเข้าวงการซะส่วนใหญ่ ในใจกลางเมืองใหญ่แบบนี้มีที่โรงเรียนนี้แหละที่โด่งดังที่สุดเรื่องหน้าตา มิวสิคก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกทาบทามไป ที่จริง แชง และคิน ก็ไม่ต่างกันเพียงแค่ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ
แชง เป็นนักเรียนดีเด่น หนุ่มแว่นที่น่าหลงใหลเลยทีเดียว เขามีลุคที่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดมาก ดีกรีประธานนักเรียนของโรงเรียน เปรียบเสมือนมันสมองของกลุ่ม
คิน เป็นนักกีฬาของโรงเรียน โดยเฉพาะบาสเกตบอล แต่จริงๆ แล้วเขาอยู่ชมรมเทควันโด และเป็นหัวหน้าชมรม คินเคยแข่งขันได้เหรียญทองของจังหวัด เทควันโดสายดำที่สาวกรี้ดหนักมาก แต่คินเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ถึงจะยิ้มเก่ง แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงเท่าไหร่ มักจะชอบสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ มากกว่า เพราะเขาเคยบอกว่า ชีวิตวัยรุ่นมันสั้น ยังไม่อยากคิดเรื่องผู้หญิง แต่ก็มีผู้หญิงเข้ามาไม่ขาด คินไม่เคยคบใครจริงจังเลย แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป
มิวสิค หนุ่มหล่อประจำโรงเรียน เรื่องเรียนพอไปได้ เรื่องกิจกรรมนี่โดดเด่นจนคนอื่นๆ อิจฉา ความเจ้าชู้ชนะเลิศ เป็นนายแบบที่โดนทาบทามหลายบริษัท แต่ตัวมิวสิคไม่เคยเซ็นสัญญากับบริษัทไหนเลย รับงานเมื่ออยากรับ ไม่คบใครจริงจังหรือคบได้นานเลย คารมคมคายเป็นที่หนึ่ง อีกอย่างเป็นนักเต้นเพลงk-popที่ใครๆ ก็กรี๊ด ขนาดผู้ชายด้วยกันยังปลื้มเลย
พวกเขาทั้งสามคนจับกลุ่มกันได้อย่างลงตัว รูปหล่อพ่อรวยทั้งสามคน ไม่มีใครน้อยหน้าใคร ไม่แปลกที่วันๆ จะมีสาวๆ ซื้อของมาให้ไม่ขาด แต่ไม่มีสาวคนไหนได้ใจพวกเขาเลยสักคน และอีกไม่นานเขาก็จะจบมัธยมศึกษาปีที่6 และเตรียมเข้า มหาวิทยาลัยเดียวกัน
.
.
.
ด้านมิวสิค
หลังจากที่รีบเดินออกมาจากโรงเรียนก็เจอกับพี่ผู้จัดการที่กำลังยืนรอเขาอยู่หน้าโรงเรียนพร้อมรถตู้ทึบที่จอดเทียบอยู่ด้านหน้า
ไม้เอก ผู้จัดการของมิวสิคคือคนของแม่ที่เขาจ้างมาเพื่อคุมพฤติกรรมของเขา เพราะกลัวว่าจะออกนอกลู่นอกทางโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ไม้เอกเป็นคนค่อนข้างเนี้ยบและสุขุม หน้าตาหล่อเหลาจนสะดุดตา ผู้เป็นแม่ช่างคัดสรรมาจริงๆ มิวสิคเดินขึ้นรถตู้โดยมีสาวๆ คอยตามมาส่ง มิวสิคโบกไม้โบกปานดาราดังก่อนจะขึ้นรถไปพร้อมผู้จัดการ
“วันนี้เลทนะครับ”
“ติดเรียนนิดหน่อยน่ะครับ”
“ขอแจ้งตารางงานวันนี้นะครับ มีถ่ายแบบให้นิตยสารเสื้อผ้าแบรนด์Pomelo และต่อด้วยไปถ่ายโฆษณาให้แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นAnikiครับ”
“ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือ? มีเลี้ยงข้าวด้วยไหมครับ?”
“อยากทานก็สั่งครับ คุณมิวคงหิว- -”
“5555 พี่เอกละก็...”
“..........”
“ครับพี่”
มิวสิคเงียบไปเมื่อเห็นสายตาอันเฉียบคมเชือดเฉือนเขา ไม้เอกค่อนข้างเงียบขรึมและมีหลักการจนบางครั้งมิวสิคเองก็รู้สึกอึดอัดเพราะยากที่จะเข้าถึง ถ้ามีผู้หญิงที่เงียบขรึมแบบไม้เอก เขาคงขนลุกน่าดู
.
.
มิวสิคถ่ายแบบเสร็จก็เดินทางมาร้านอาหารญี่ปุ่นอะนิคิ เพื่อถ่ายโฆษณา ระหว่างเดินทางไม้เอกก็บรีฟลักษณะของการแสดงในโฆษณานั้นเพื่อให้เข้าถึงจุดโดดเด่นของร้าน พอรถตู้เลี้ยวเข้ามา มิวสิคแทบไม่ได้ฟังที่ไม้เอกพูดเลย เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไผ่และกำแพงที่ถูกสร้างจากไม้ไผ่คล้ายๆ เข้าสวนของบ้านในใครสักคนในญี่ปุ่น เขาเลี้ยวรถมาถึงที่จอดรถในสวนหิน แต่มันไม่ได้ร้อนเลย เพราะไม้ไผ่ค้ำสองข้างทางโน้มเข้าหากันจนเป็นร่ม ทางเดินเข้าไปให้อารมณ์เหมือนบ้านญี่ปุ่นโบราณ แม้แต่ป้ายไม้ชื่อร้าน แถมยังมีรูปปั้นหินรูปจิ้งจอกอยู่สองข้างหน้าร้าน ดูๆ ไปก็น่ากลัวไม่น้อย ตั้งแต่เขาตระเวนถ่ายแบบมาไม่เคยเห็นสถานที่แห่งนี้เลยสักครั้ง อาจจะเป็นร้านพึ่งเปิดใหม่ แต่ทำไมถึงได้กล้าจ้างเขากัน เพราะถ้าเปรียบเขาที่มีโปรไฟล์ ทันสมัยกับคนที่หน้าตาหล่อคมยังจะดีกว่าเลือกเขาเสียอีก
“โห่ ถูกร้านแน่นะพี่?”
“ป้ายชื่อร้านก็ถูกต้องนะ...ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเงินจ้างทำโฆษณา”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปถึงหน้าร้าน ที่คล้ายบ้านยากูซ่ามากกว่า ชายนับสิบคนใส่ชุดยูกาตะวิ่งมาเรียงแถวสองข้างเท่าๆ กันก่อนจะโค้งคำนับพร้อมพูดว่า อิระชัย เสียงดังฟังชัดและหนักแน่นจนน่าเกรงขาม มิวสิคค่อยเดินเข้าไปแอบข้างหลังไม้เอกอย่างหวั่นใจ
“ยกเลิกทันไหม?”
“ไม่ทันแล้วครับ...”
ทั้งสองหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความกล้าหาญ มิวสิคคิดว่ายิ้มสู้เสือดีกว่า จึงเดินยิ้มเข้าไปในร้านและเห็นชายรูปร่างกำยำหน้าหวานคมคล้ายตัวการ์ตูนพระเอกยากูซ่าญี่ปุ่น เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนยังไงอย่างนั้น
“สวัสดีครับคุณมิวสิค ผม ไคโตะ เรียกไคก็ได้ครับ”
ชายคนดังกล่าวเอ่ยทักทายก่อนจะโค้งให้เขาเล็กน้อย มิวสิคโค้งตอบพร้อมยกมือไหว้ด้วยเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะโค้งหรือจะไหว้ก่อนดี
“พูดไทยได้ด้วยหรือครับ ผมนึกว่าเป็นคนญี่ปุ่นซะอีก”
“เป็นลูกครึ่งครับ”
"เริ่มกันเลยไหมครับ?"
หลังจากมิวสิคถามไค ไม้เอกก็ได้พูดถามถึงเวลาเริ่มงาน เพราะดูเหมือนว่ามิวสิคคงจะเริ่มหิวในเวลานี้มันใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว ถ้ากลับบ้านดึกเกินไปเขาจะโดนคุณหญิงว่าเอาได้
“รอสักครู่ครับ เดี๋ยวไปเรียกลูกพี่หญิง...ผมหมายถึงเจ้าของร้านให้ครับ”
ไคเดินขึ้นไปบนชั้นสองของร้าน ก่อนจะมีหญิงสาวร่างเล็กน่าตาสะสวยเดินเข้ามาพาพวกเขาไปนั่งในห้องวีไอพีรอ พร้อมกับเสิร์ฟชาเขียวแบบญี่ปุ่นให้พวกเขา
“พี่เอกครับ พี่สังเกตไหมว่าร้านนี้มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้น บางคนอย่างกลับลูกครึ่ง นี่มันร้านอาหารแน่หรือพี่? อย่างกับร้านรวมหนุ่มสาวฮอต”
“คุณมิวสิคครับ...เป็นคนช่างพูดตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็มันจริงนี่ ผมอย่างทึ่ง”
“แต่มันก็จริง...รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้”
บทสนทนาของพวกเขาถูกขัดด้วยการเปิดประตูไม้เลื่อนห้องวีไอพี ไคเดินเข้ามาพร้อมด้วยหญิงสาวตัวเล็ก ร่างบางดูอรชร ผมสีดำสนิทยาวประบ่า รับกับใบหน้าสวยแต่ก็ดูน่ารัก หน้าตาหมวยเลยทีเดียว ปากอิ่มได้รูปถูกแต้มด้วยลิปสติกสีแดงตุนดูทันสมัย แต่การแต่งตัวและสีหน้าของเธอดูขัดกับหน้าตาที่น่ารักนั้นนัก หน้าตาเธอยังดูเด็กอยู่เลย มิวสิคมองหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาตาค้างก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว เขาคิดว่าเธอคงอายุห่างจากเขาไม่มากนัก
“สวัสดีครับ^^”
.
.
.
.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 15
Comments