NovelToon NovelToon

คลั่งรักมาเฟียสาว

มาเฟียสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม แต่อายุดันไม่สัมพันธ์กับหน้าตา ดันมาเจอนักแสดงหนุ่มฮอต

.

-1-

พบกันเมื่อวัยเยาว์

.

“ไอ้มิว วันนี้เลิกเรียนไม่ไปเล่นบาสกับพวกกูหรอวะ?”

แชง ผู้เป็นเพื่อนถามหนุ่มน้อยรูปงามสุดฮอตของโรงเรียน เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินออกจากโรงเรียน หนุ่มน้อยหันมาส่ายหัวให้เพื่อนก่อนจะเดินออกไปอย่าเร่งรีบ

“วันนี้มันมีถ่ายแบบนิตยสารรึเปล่าวะ”

คิน เพื่อนอีกคนบอกเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยที่เดินจากไปไม่ได้ตอบอะไรแชงเลย แชงหันมาตามเสียงของเพื่อน ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่สนามบาสเกตบอล

คิน แชง และมิวสิคเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น พวกเขาเป็นกลุ่มหนุ่มฮอตที่สุดในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งนี้ และไม่แปลกใจเลยที่เด็กๆ ที่นี่จะถูกแมวมองทาบทามเข้าวงการซะส่วนใหญ่ ในใจกลางเมืองใหญ่แบบนี้มีที่โรงเรียนนี้แหละที่โด่งดังที่สุดเรื่องหน้าตา มิวสิคก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกทาบทามไป ที่จริง แชง และคิน ก็ไม่ต่างกันเพียงแค่ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบ

แชง เป็นนักเรียนดีเด่น หนุ่มแว่นที่น่าหลงใหลเลยทีเดียว เขามีลุคที่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดมาก ดีกรีประธานนักเรียนของโรงเรียน เปรียบเสมือนมันสมองของกลุ่ม

คิน เป็นนักกีฬาของโรงเรียน โดยเฉพาะบาสเกตบอล แต่จริงๆ แล้วเขาอยู่ชมรมเทควันโด และเป็นหัวหน้าชมรม คินเคยแข่งขันได้เหรียญทองของจังหวัด เทควันโดสายดำที่สาวกรี้ดหนักมาก แต่คินเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ถึงจะยิ้มเก่ง แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงเท่าไหร่ มักจะชอบสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ มากกว่า เพราะเขาเคยบอกว่า ชีวิตวัยรุ่นมันสั้น ยังไม่อยากคิดเรื่องผู้หญิง แต่ก็มีผู้หญิงเข้ามาไม่ขาด คินไม่เคยคบใครจริงจังเลย แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป

มิวสิค หนุ่มหล่อประจำโรงเรียน เรื่องเรียนพอไปได้ เรื่องกิจกรรมนี่โดดเด่นจนคนอื่นๆ อิจฉา ความเจ้าชู้ชนะเลิศ เป็นนายแบบที่โดนทาบทามหลายบริษัท แต่ตัวมิวสิคไม่เคยเซ็นสัญญากับบริษัทไหนเลย รับงานเมื่ออยากรับ ไม่คบใครจริงจังหรือคบได้นานเลย คารมคมคายเป็นที่หนึ่ง อีกอย่างเป็นนักเต้นเพลงk-popที่ใครๆ ก็กรี๊ด ขนาดผู้ชายด้วยกันยังปลื้มเลย

พวกเขาทั้งสามคนจับกลุ่มกันได้อย่างลงตัว รูปหล่อพ่อรวยทั้งสามคน ไม่มีใครน้อยหน้าใคร ไม่แปลกที่วันๆ จะมีสาวๆ ซื้อของมาให้ไม่ขาด แต่ไม่มีสาวคนไหนได้ใจพวกเขาเลยสักคน และอีกไม่นานเขาก็จะจบมัธยมศึกษาปีที่6 และเตรียมเข้า มหาวิทยาลัยเดียวกัน

.

.

.

ด้านมิวสิค

หลังจากที่รีบเดินออกมาจากโรงเรียนก็เจอกับพี่ผู้จัดการที่กำลังยืนรอเขาอยู่หน้าโรงเรียนพร้อมรถตู้ทึบที่จอดเทียบอยู่ด้านหน้า

ไม้เอก ผู้จัดการของมิวสิคคือคนของแม่ที่เขาจ้างมาเพื่อคุมพฤติกรรมของเขา เพราะกลัวว่าจะออกนอกลู่นอกทางโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ไม้เอกเป็นคนค่อนข้างเนี้ยบและสุขุม หน้าตาหล่อเหลาจนสะดุดตา ผู้เป็นแม่ช่างคัดสรรมาจริงๆ มิวสิคเดินขึ้นรถตู้โดยมีสาวๆ คอยตามมาส่ง มิวสิคโบกไม้โบกปานดาราดังก่อนจะขึ้นรถไปพร้อมผู้จัดการ

“วันนี้เลทนะครับ”

“ติดเรียนนิดหน่อยน่ะครับ”

“ขอแจ้งตารางงานวันนี้นะครับ มีถ่ายแบบให้นิตยสารเสื้อผ้าแบรนด์Pomelo และต่อด้วยไปถ่ายโฆษณาให้แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นAnikiครับ”

“ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือ? มีเลี้ยงข้าวด้วยไหมครับ?”

“อยากทานก็สั่งครับ คุณมิวคงหิว- -”

“5555 พี่เอกละก็...”

“..........”

“ครับพี่”

มิวสิคเงียบไปเมื่อเห็นสายตาอันเฉียบคมเชือดเฉือนเขา ไม้เอกค่อนข้างเงียบขรึมและมีหลักการจนบางครั้งมิวสิคเองก็รู้สึกอึดอัดเพราะยากที่จะเข้าถึง ถ้ามีผู้หญิงที่เงียบขรึมแบบไม้เอก เขาคงขนลุกน่าดู

.

.

มิวสิคถ่ายแบบเสร็จก็เดินทางมาร้านอาหารญี่ปุ่นอะนิคิ เพื่อถ่ายโฆษณา ระหว่างเดินทางไม้เอกก็บรีฟลักษณะของการแสดงในโฆษณานั้นเพื่อให้เข้าถึงจุดโดดเด่นของร้าน พอรถตู้เลี้ยวเข้ามา มิวสิคแทบไม่ได้ฟังที่ไม้เอกพูดเลย เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไผ่และกำแพงที่ถูกสร้างจากไม้ไผ่คล้ายๆ เข้าสวนของบ้านในใครสักคนในญี่ปุ่น เขาเลี้ยวรถมาถึงที่จอดรถในสวนหิน แต่มันไม่ได้ร้อนเลย เพราะไม้ไผ่ค้ำสองข้างทางโน้มเข้าหากันจนเป็นร่ม ทางเดินเข้าไปให้อารมณ์เหมือนบ้านญี่ปุ่นโบราณ แม้แต่ป้ายไม้ชื่อร้าน แถมยังมีรูปปั้นหินรูปจิ้งจอกอยู่สองข้างหน้าร้าน ดูๆ ไปก็น่ากลัวไม่น้อย ตั้งแต่เขาตระเวนถ่ายแบบมาไม่เคยเห็นสถานที่แห่งนี้เลยสักครั้ง อาจจะเป็นร้านพึ่งเปิดใหม่ แต่ทำไมถึงได้กล้าจ้างเขากัน เพราะถ้าเปรียบเขาที่มีโปรไฟล์ ทันสมัยกับคนที่หน้าตาหล่อคมยังจะดีกว่าเลือกเขาเสียอีก

“โห่ ถูกร้านแน่นะพี่?”

“ป้ายชื่อร้านก็ถูกต้องนะ...ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเงินจ้างทำโฆษณา”

ทั้งสองคนเดินเข้าไปถึงหน้าร้าน ที่คล้ายบ้านยากูซ่ามากกว่า ชายนับสิบคนใส่ชุดยูกาตะวิ่งมาเรียงแถวสองข้างเท่าๆ กันก่อนจะโค้งคำนับพร้อมพูดว่า อิระชัย เสียงดังฟังชัดและหนักแน่นจนน่าเกรงขาม มิวสิคค่อยเดินเข้าไปแอบข้างหลังไม้เอกอย่างหวั่นใจ

“ยกเลิกทันไหม?”

“ไม่ทันแล้วครับ...”

ทั้งสองหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความกล้าหาญ มิวสิคคิดว่ายิ้มสู้เสือดีกว่า จึงเดินยิ้มเข้าไปในร้านและเห็นชายรูปร่างกำยำหน้าหวานคมคล้ายตัวการ์ตูนพระเอกยากูซ่าญี่ปุ่น เหมือนหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนยังไงอย่างนั้น

“สวัสดีครับคุณมิวสิค ผม ไคโตะ เรียกไคก็ได้ครับ”

ชายคนดังกล่าวเอ่ยทักทายก่อนจะโค้งให้เขาเล็กน้อย มิวสิคโค้งตอบพร้อมยกมือไหว้ด้วยเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะโค้งหรือจะไหว้ก่อนดี

“พูดไทยได้ด้วยหรือครับ ผมนึกว่าเป็นคนญี่ปุ่นซะอีก”

“เป็นลูกครึ่งครับ”

"เริ่มกันเลยไหมครับ?"

หลังจากมิวสิคถามไค ไม้เอกก็ได้พูดถามถึงเวลาเริ่มงาน เพราะดูเหมือนว่ามิวสิคคงจะเริ่มหิวในเวลานี้มันใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว ถ้ากลับบ้านดึกเกินไปเขาจะโดนคุณหญิงว่าเอาได้

“รอสักครู่ครับ เดี๋ยวไปเรียกลูกพี่หญิง...ผมหมายถึงเจ้าของร้านให้ครับ”

ไคเดินขึ้นไปบนชั้นสองของร้าน ก่อนจะมีหญิงสาวร่างเล็กน่าตาสะสวยเดินเข้ามาพาพวกเขาไปนั่งในห้องวีไอพีรอ พร้อมกับเสิร์ฟชาเขียวแบบญี่ปุ่นให้พวกเขา

“พี่เอกครับ พี่สังเกตไหมว่าร้านนี้มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้น บางคนอย่างกลับลูกครึ่ง นี่มันร้านอาหารแน่หรือพี่? อย่างกับร้านรวมหนุ่มสาวฮอต”

“คุณมิวสิคครับ...เป็นคนช่างพูดตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็มันจริงนี่ ผมอย่างทึ่ง”

“แต่มันก็จริง...รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้”

บทสนทนาของพวกเขาถูกขัดด้วยการเปิดประตูไม้เลื่อนห้องวีไอพี ไคเดินเข้ามาพร้อมด้วยหญิงสาวตัวเล็ก ร่างบางดูอรชร ผมสีดำสนิทยาวประบ่า รับกับใบหน้าสวยแต่ก็ดูน่ารัก หน้าตาหมวยเลยทีเดียว ปากอิ่มได้รูปถูกแต้มด้วยลิปสติกสีแดงตุนดูทันสมัย แต่การแต่งตัวและสีหน้าของเธอดูขัดกับหน้าตาที่น่ารักนั้นนัก หน้าตาเธอยังดูเด็กอยู่เลย มิวสิคมองหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาตาค้างก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว เขาคิดว่าเธอคงอายุห่างจากเขาไม่มากนัก

“สวัสดีครับ^^”

.

.

.

.

รักแรกพบ

.

-2-

.

.

“สวัสดีครับ^^”

มิวสิคทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเจอสิ่งที่สนใจ ภายในอกของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหน หญิงสาวมองหน้าเขาก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้เป็นการตอบรับ แล้วเดินไปนั่งที่เบาะตรงข้ามตามด้วยไคที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ มิวสิคและไม้เอกมองพวกเขาราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่ลูกพี่หญิงยากูซ่าเคียงข้างกับลูกน้องหนุ่มคนสนิท ทั้งคู่มองไคและหญิงสาวค้างโดยไม่มีคำพูดอะไร จนหญิงสาวเริ่มพูดก่อน

“คงได้บรีฟแบบโฆษณาไปแล้วใช่ไหม?”

“ผมไม่ค่อยเข้าใจน่ะครับ อยากให้พี่บรีฟให้เป็นการส่วนตัวอย่างละเอียด^^”

มิวสิคเริ่มหยอดเธอเหมือนเด็กน้อยหลอกเอาของเล่น ไม้เอกใช้แขนสะกิดเด็กหนุ่มเล็กน้อยภายใต้สายตาของไคที่มองพวกเขา ไคมองแววตาของเด็กหนุ่มออกว่าเขาหมายถึงอะไร

“เดี๋ยวผมบรีฟให้ก็ได้นะครับ เพราะต้นแบบคือผมเอง^^”

ไคพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่แอบน่ากลัว ไม้เอกมองเห็นถึงความหวงของไคที่แสดงออกชัดเจนจนคิดว่าเขาอาจจะเป็นคู่รักของหญิงสาวตรงหน้าก็เป็นได้

“เอาล่ะ ฉันเตรียมคนของฉันเรียบร้อยแล้ว กล้องด้านนอกก็พร้อมแล้ว”

“แล้วเธอจะอยู่ดูผมใช่ไหมครับ^^”

“..........”

หญิงสาวไม่ตอบอะไรพร้อมกับลุกเดินออกไปนอกห้องตามด้วยมิวสิค ไค และไม้เอก เมื่อออกมาก็เห็นว่ามีกองถ่ายเข้ามาเซตฉากและมุมพร้อมเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ตอนพวกเขาเข้ามาก็ยังไม่เห็นมีใครเลยสักคน ไม้เอกบอกให้มิวสิคไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้า ก่อนจะเริ่มถ่ายทำกัน หญิงสาวก็ยังคงนั่งดูพวกเขาถ่ายงานแบบเงียบๆ แต่ที่น่าแปลกคือชายหนุ่มหน้าตาดีและรายล้อมเธอที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

ใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควรตั้งแต่เย็นจนตอนนี้เวลาปาไป4ทุ่มแล้ว เพราะอาจจะมีหลายฉาก หลายมุมที่ต้องตัดต่อให้ออกมาสมชื่อร้านอะนิคิ ที่แปลว่าลูกพี่ งานโฆษณาชิ้นนี้เลยออกแนวยากูซ่าหนุ่มที่ดื่มด่ำกับร้านบรรยากาศเงียบสงบและอาหารต้องพรีเมี่ยมถูกใจนั่นเอง ไม่ต่างจากการแสดงละครสั้นเลยสักนิด ไม่นานก็ถ่ายทำเสร็จ มิวสิคเดินแจ้นมาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงโซฟาด้วยรอยยิ้ม

“เป็นไงบ้างครับ? ถูกใจเธอไหม? ^^”

“อืม...ใช้ได้”

“ว่าแต่...พี่ชื่ออะไรครับ^^”

“ไม่มีใครบอกหรือว่าจะถามชื่อคนอื่นให้ขานชื่อตัวเองก่อน”

“ผม มิวสิค อายุ18 พี่ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ครับ?”

“ฉัน ลลิน หรือ ลิน”

“อายุละครับ? คงห่างจากผมไม่กี่ปีใช่ไหม? เธอเรียนที่ไหน?”

“ไม่มีใครบอกหรือว่าอย่าถามอายุผู้หญิง”

“ผมจะได้เรียกถูกไงครับ แต่ที่จริงอยากเรียกที่รักมากกว่า^^”

“เหอะ!.... 29 นายคงต้องเรียกว่าคุณน้ามากกว่ามั้ง”

ลินพูดจบก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกไปสูดอากาศด้านนอกร้านพร้อมด้วยลูกสมุนที่ยืนเฝ้าอยู่ก่อนหน้านี้ เพื่อรอส่งแขก ไคมองมิวสิคที่ทำหน้าอึ้งและนิ่งค้างอยู่ก่อนจะยิ้มอย่างสะใจแล้วเดินตามลินออกไป ท่าทีเกี้ยวสาวเมื่อกี้ของเขาหายไปในพริบตาเมื่อรู้อายุของลิน ไม้เอกแอบกลั้นขำทั้งๆ ที่เขาเป็นคนเงียบขรึม แต่ครั้งนี้คงอดไม่ได้จริงๆ กับเด็กในความดูแลของเขาที่ริอ่านไปจีบรุ่นใหญ่ขนาดนั้น

“เวลาคุณยิ้มดูดีกว่าตอนทำหน้านิ่งนะคะ^^”

หญิงสาวคนที่เสิร์ฟน้ำชาต้อนรับพวกเขาเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารพร้อมกับหันไปพูดกับไม้เอกที่หันหน้าไปแอบขำ ทางเธอที่กำลังเสิร์ฟอาหารพอดี ไม้เอกหยุดขำทันทีพร้อมกับกระแอมเบาๆ แก้เขิน

“เอ่อ..ขอบคุณครับ คุณ....”

“โตเกียวค่ะ”

หญิงสาวพูดจบก็โค้งก่อนจะเดินไปเอาอาหารจากในครัวมาเสิร์ฟต่อ ไม้เอกมองตามโตเกียวที่เดินเข้าไปอย่างเผลอตัว และพบว่าบาริสต้า เชฟ สวยทุกคนเลย เขาหันกลับมาก่อนจะมองไปที่อาหารหรูหราที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ บาริสต้าสาวเดินมาเสิร์ฟน้ำผลไม้ปั่นให้ พร้อมกับนมปั่น เธอยื่นให้มิวสิค ทำให้เด็กหนุ่มหน้านิ่วก่อนจะหันไปมองหน้าสวยๆ ของเธอ

“นมปั่น? ไม่มีสาเกหรอครับคนสวย? ^^”

“ที่นี่ไม่ขายสาเกให้เด็ก -.-”

“ผมไม่เด็กแล้วนะครับ^^”

“ไว้อายุ20เต็มก่อนค่อยมาดื่มนะหนุ่มน้อย”

บาริสต้าสาวพูดก่อนจะเดินออกไป มิวสิคมองป้ายชื่อที่ติดหน้าอกของบาริสต้าคนนั้นก่อนจะยกมือเรียกเธออีกครั้ง

“คุณนุ่นครับ ขอสาเกให้พี่ผู้จัดการผมด้วยนะครับ^^”

“หา? ฉันไปอยากกินตอนไหน?”

“เอาน่าพี่ช่วยๆ ผมหน่อย^^”

“อายุแค่นี้หัดดื่มนะครับคุณมิวสิค-__-”

“ดื่มกับผู้ปกครองครับ^^”

มิวสิคยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไม้เอกทำได้แค่ส่ายหัว ไม่นานนักนุ่นก็เสิร์ฟเหล้าบ๊วยเย็นให้ไม้เอกเพราะเธอรู้ว่ายังไงเด็กหนุ่มก็แอบดื่มอยู่ดี จึงเลือกเหล้าบ๊วยหวานที่ฤทธิ์อ่อนกว่าสาเกอยู่มากเสิร์ฟแทน แต่ด้วยความดื้อดึงของมิวสิค ไม้เอกทำได้แค่รินน้ำสีชาวางไว้แล้วมิวสิคเป็นคนยกขึ้นดื่มแทบจะทุกแก้ว พวกเขานั่งทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเกือบชั่วโมงแต่ก็ทานจนหมดเกลี้ยง เพราะดื่มเหล้าบ๊วยไปจึงทำให้มิวสิคเริ่มมึนนิดๆ อาจจะเป็นเพราะอยู่กับเพื่อนๆ เขาก็มีแอบดื่มประจำเลยทำให้ไม่เมาถึงขนาดนั้น มิวสิคพอมีสติดีอยู่ ไม้เอกเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องกลับได้แล้วจึงเดินไปที่แคชเชียร์ที่โตเกียวยืนอยู่ เพราะวันนี้ถ่ายทำโฆษณาร้านเลยปิด มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่นั่งทาน

“ไม่ต้องจ่ายค่าอาหารค่ะ เป็นคำสั่งของเจ้าของร้านค่ะ^^”

“เอ่อ...ครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ”

“อะริงาโตะโกชัยมาชิตะค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ ไปดีมาดีนะคะ^^”

โตเกียวพูดพร้อมโค้งให้พวกเขาอย่างสุภาพ ไม้เอกคิดว่าเป็นร้านที่น่ามาใช้บริการจริงๆ ทั้งการบริการและอาหารตา อาหารปากก็ไม่ใช่เล่นๆ เลย เหมาะกับการมานั่งคุยงาน หรือนัดพบส่วนตัวมากๆ และเขาก็มีความคิดที่จะมาอีกแน่นอน ถึงบรรยากาศมันจะแปลกๆ ไปหน่อย แต่ก็ได้ฟีลลิ่งแบบยากูซ่าดีตั้งแต่ทางเข้าจนถึงในร้านเลยทีเดียว

ไม้เอกและมิวสิคเดินออกไปด้านนอกก็เห็นว่าชายหนุ่มสิบกว่าคนยืนเรียงรอส่งพวกเขากลับเช่นเดิม มิวสิคเห็นลินยืนหันหลังอยู่ตรงสุดทางที่ชายหนุ่มโค้งคำนับ เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอทันที ไม่ว่ายังไงเขาก็ละความสนใจจากเธอไม่ได้เสียเลยจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเธออายุอานามจะห่างจากเขาถึง 11 ปีก็ตาม

“จะสิงฉันรึไง?”

ลินพูดทั้งๆ ที่ตัวเองยังยืนหันหลังนิ่ง มิวสิคไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเดินเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน แต่เขาก็ไม่ได้ถอยออกไปแต่อย่างใด ไคทำท่าจะเดินเข้ามาดึงมิวสิคออกจากลิน แต่ลินยกมือห้ามไว้ โดยไม่พูดอะไร

“พี่ลิน...เป็นใครกันแน่ครับ? ^^”

.

.

.

ไม่ยอมถอย

.

.

“พี่ลิน....เป็นใครกันแน่ครับ? ^^”

.

.

“นักแสดงหนุ่มน้อยอย่างนายไม่ควรอยากรู้เรื่องที่ไม่ควรอยากรู้นะ”

“ผมอยากรู้จักพี่ลินมากกว่านี้ครับ”

“อย่าเลย”

“ทำไมล่ะครับ?”

“อยู่ในที่ของนายไป”

“พี่ลินตัวเล็กกว่าผมอีกนะครับเนี่ย”

มิวสิคก้มลงมองลินก่อนจะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ลินได้แต่ยืนนิ่งพร้อมถอนหายใจกับหนุ่มน้อยคนนี้ที่ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ เพราะเขาเด็กจริงๆ นั่นแหละ ลินหันมาประจันหน้ากับเขา ก่อนจะผายมือข้างหนึ่งออกจากที่ไขว้หลังไว้เป็นการเชิญให้เขากลับ มิวสิคโน้มหน้าเข้ามาใกล้ลินพร้อมกับยิ้มให้อย่างน่ารักตามประสาเด็กหนุ่ม เพราะความใกล้ขนาดนั้นทำให้ลินเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังโตชัดขึ้น เธอยอมรับว่าเขาหล่อมากพอสมควร ถ้าโตไปคงจะทวีความหล่อของเขาอย่างโดดเด่นแน่ๆ อนาคต การเข้าทำงานในวงการบันเทิงของเด็กคนนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย และต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง

“ผมกลับก่อนนะครับพรุ่งนี้จะมาใหม่^^”

“งานจบแล้ว..มาทำไม?”

“มาสมัครงานพาร์ทไทม์ช่วงปิดเทอมครับ^^”

“ไม่รับ ไปทำงานของนายสิ-_-+”

“อยากทำที่นี่ จะได้เจอพี่ทุกวันเลยไง”

“บอกไปแล้วว่า ไม่รับ”

“งั้นมาเป็นลูกค้าแล้วจะตื๊อจนกว่าพี่จะรับ”

“เด็กเอาแต่ใจหรือ?”

“ครับ! ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ^^”

มิวสิคพูดจบก็เดินไปขึ้นรถตู้ที่ไม้เอกยืนรออยู่ เขาหันกลับมาโบกไม้โบกมือให้เธอ แต่ลินก็ยังยืนนิ่งมองไม่ได้ตอบรับเขาแต่อย่างใด

“ไปก่อนนะครับที่รัก^^”

“..........”

ลินถอนหายใจกับเด็กหนุ่มที่พึ่งนั่งรถออกไป ไคมองลินด้วยสายตาหวงแหน แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้อะไรเลย ไคเดินมาหาลินแต่ไม่ได้พูดอะไรจนลินหันไปมองเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนิ่ง

“พูดมา”

“นายหญิงครับ ผมว่าอย่าอยู่ใกล้เด็กคนนั้นมากจะดีกว่านะครับ มันจะไม่เป็นผลดีต่อแก๊งเรา....”

“ท่าทางฉันเหมือนอยู่ใกล้เขาหรือไง?”

“เปล่าครับ...ถึงนายหญิงจะไม่ใกล้ แต่เด็กคนนั้น....”

“ฉันรู้แล้ว”

“.......”

ไคไม่กล้าที่จะพูดต่อ เพราะลินไม่ชอบให้คนเซ้าซี้ ถ้าเธอพูดคำไหนคือคำนั้น ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เธอก็เก่งกาจกว่าพวกเขานัก ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้สามารถทำให้คนในแก๊งที่มีแต่ผู้ชายล้วนยอมรับได้ขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา และเป็นที่น่าเกรงขามของแก๊งอื่นๆ ในไทย ไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วยกับแก๊งของพวกเขา ลลิน ฉายา พระจันทร์คลั่ง แห่งแก๊งจิ้งจอก เพราะเธอคือจุดศูนย์กลางของแก๊งนี้

.........เมื่อไหร่ที่พระจันทร์คลั่งจิ้งจอกที่อยู่ใต้แสงจันทร์ก็จะคลั่งเหมือนได้รับพลัง.....

“ปิดร้านกันเถอะ มีงานต้องไปสะสางต่อ”

ลินพูดก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ที่เธอสร้างร้านขึ้นมาเพียงเพื่อปิดบังตัวตนของเธอ ถึงมันเสี่ยงไปหน่อยที่ต้องโฆษณาแต่มันเป็นผลดีมากกว่าสำหรับรายรับจากร้านอาหารนี้เพื่อเป็นการหมุนเวียนเงินภายในแก๊ง อีกอย่างเธอคิดว่า ลูกน้องของเธอในอนาคตก็ต้องวางมือจากวงการนี้แล้วทำอาชีพสุจริตต่อไปนั่นเอง ลินเองไม่สามารถลงจากหลังเสือแล้วใช้ชีวิตที่แสนธรรมดาแบบนั้นได้ ในอนาคตเธอต้องตายเหมือนบรรพบุรุษของเธอเอง ไม่อาจหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่น่าเศร้านี้ไปได้

ไคเดินตามลินเข้าร้านพร้อมด้วยลูกน้องร่วมยี่สิบคน ไม่ใช่ว่าเด็กๆ ภายในร้านจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เพียงแค่พวกเธออยากทำงานเท่านั้น จึงไม่ได้สนใจที่จะรู้ประวัติที่ไม่ควรรู้ของนายหญิงของร้าน

"คืนนี้ประชุม"

ลินพูดสั้นๆ บอกไค เพื่อจะได้เตรียมตัวไปพวกลูกน้องของเธอนั่นเอง ส่วนลินก็เดินได้เดินขึ้นห้องไปก่อน  ไคโค้งตามหลังเธอก่อนจะรีบไปบอกลูกน้องของเขาทันที

.

.

ห้องประชุมด้านในสุดของตัวบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ประตูเลื่อนได้ค่อยๆ ถูกเปิดออก ห้องที่มีรูปวาดจิ้งจอกตรงกลางห้อง ที่นั่งแบบญี่ปุ่นโบราณเพิ่มความเข้มขลัง ลินเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลูกน้องของเขานั่งเรียงกันเป็นระเบียบนิ่ง ลินเดินเข้าไปนั่งที่หัวโต๊ะด้านหน้ารูปวาดจิ้งจอกน้ำสีน้ำเงิน เมื่อเธอนั่งลงลูกน้องก็โค้งพร้อมกล่าวทักทายด้วยความเคารพ

"เริ่มเลย"

"ครับ แก๊งพยัคฆ์มันได้ลักลอบขโมยสินค้านำเข้าของเราในโกดังท่าเรือตะวันออกไปเรียบร้อยครับ และยังกวาดลูกค้ารายใหญ่ในบ่อนกาสิโนของเราไป ผมคิดว่าน่าจะมีหนอนในแก๊งเราครับ"

"อาฮะ...."

"......."

ลินหันไปมองไคด้วยสายตาเย็นชา เธอนิ่งจนน่ากลัวนี่คือสัญญาณไม่ดีสำหรับไคและลูกน้อง การที่เธอนิ่งไปไม่แสดงอารมณ์แบบนี้เหมือนคลื่นใต้น้ำที่กำลังจะโหมสู่ชายฝั่ง

"แล้วทำไม....ไม่จัดการ หา!!!!!"

"...เอ่อ...ขอโทษครับนาย"

"ต้องให้เรื่องถึงฉัน? ลุกขึ้น!!!"

"ครับนายหญิง!!"

ผลัวะ!!!!

ลินต่อยเข้าที่หน้าของไคเต็มแรง หมัดของเธอหนักพอที่จะทำให้เขาหน้าหันไปตามแรงหมัด เลือดค่อยๆ ออกมาจากมุมปากที่แดงช้ำเพราะแรงต่อย ไคเช็ดมุมปากตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันกลับมาก้มหน้าให้เธอเช่นเดิม

"ไปจัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่ฉันจะตัดนิ้วนายทีละนิ้ว"

ลินลุกเดินออกไปจากห้องพร้อมด้วยลูกน้องที่ทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน ไคเดินตามลินออกไปด้วยเช่นกัน ไคหยุดที่หน้าห้องของลินอย่างเงียบๆ

"เข้ามาสิ"

ลินรู้ตัวทันทีจึงเรียกคนที่ยืนตรงหน้าห้องเข้าไป ไคเปิดประตูเข้าไปเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร เขาเดินเข้าไปกอดลินจากข้างหลังทันที พร้อมกับซุกไซร้ซอกคอขาวนั้นอย่างโหยหา

.

.

.

.

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!