"จริงหรือจ๊ะพี่สอนฉันได้หรือจ๊ะ" ทอขวัญพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเปี่ยมไปด้วยความหวังดวงตาของเธอเป็นประกายวิบวับด้วยความตื่นเต้นตามประสาเด็กที่ไม่เคยได้ร่ำเรียนเหมือนเด็กวัยเดียวกัน
"ได้สิ แต่ข้ามีเวลาเพียงวันนี้วันเดียวเพราะพรุ่งนี้ข้าต้องเดินทางแล้ว"
"ขอบคุณมากนะจ๊ะ" ทอขวัญยิ้มอย่างมีความสุขจนแก้มแทบปริแตกไร้ความกังวลในแววตาราวกับว่าตัวตนของเธอได้กลับมาแล้ว
ตาคมที่มองหน้าสวยอยู่ก่อนหน้าก็พลันนิ่งค้างใบหน้าขึ้นสี
"ดูท่าลูกแม่คงไม่อยากไปแล้วเป็นแน่"
หลังจากรู้ความชอบของอีกคนเคนทร์ก็ชวนคุยไม่หยุด ทอขวัญเองก็ตั้งใจฟังและตอบคำถามอย่างไม่อิดออด มีเพียงเพ็ญที่นั่งฟังอย่างเหลือเชื่อที่ได้ยินลูกชายพูดเป็นต่อยหอย
"น้าฝากด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวตอนเย็นน้ามารับ" ข้าวพูดกับเคนทร์ทั้งรู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่าทอขวัญเข้ากับเคนทร์ได้ดีและก็หวังว่าสักวันลูกสาวจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ปกติไม่ต้องวิตกกังวลหรือหวาดระแวง
"ไม่เป็นไรจ้ะเดี๋ยวฉันไปส่งเอง"
"ขวัญตั้งใจล่ะ อย่าให้พี่เขาเสียเวลาเปล่า"
"จ้ะแม่"
เด็กสาวมองตามมารดาจนสุดลับตาก่อนจะหันกลับมามองคนที่ยืนมองอยู่ก่อนหน้า ทำให้สบเข้ากับดวงตาสีเข้ม ที่กำลังมองมายังเธอตาไม่กะพริบ จนทอขวัญทำตัวไม่ถูกวันนี้ชายหนุ่มมองเธอแบบนี้ไปกี่รอบแล้ว
หรือหน้าเธอมันขี้เหร่กว่าเดิมกัน
"หน้าฉันมันน่ากลัวใช่ไหมจ๊ะ" ทอขวัญเอ่ยจบก็คิดจะเอาผ้ามาคลุมแต่กลับโดนมือหนามาคว้าไว้เสียก่อน
น่ากลัวมากเพราะมันทำให้เขาหลงใหลจนละสายตาไปไหนไม่ได้เลย
"อยู่กับข้า เอ็งเปิดผ้าคลุมได้หรือไม่" เคนทร์กล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนมองคนตรงหน้าอย่างหลงใหล
"..."
"มานี่มา" เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้าเข้าใจก็รีบเอ่ยชวนให้มานั่งที่โต๊ะไม้กลางเรือนเคนทร์เลือกที่จะพาเรียนบนเรือนเพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นใบหน้างามของอีกคนจนได้ศัตรูเพิ่ม
เคนทร์เริ่มสอนโดยให้รู้จักที่พยัญชนะเสียก่อน จึงมารู้ว่าทอขวัญนั้นความจำดีมากและดูตั้งใจเสียจนเขาไม่กล้าติดเล่น เสียดายที่ไม่ได้ร่ำเรียนพ่อแม่ของทอขวัญก็ไม่ได้ยากจนถึงขนาดไม่สามารถส่งลูกสาวคนเดียวเรียนได้แต่ทำไม..
"เอ็งลองอ่านคำนี้ดู"
"ทอ ออ ทอ ขอ อัว ทอขวัญหรือจ๊ะพี่เคนทร์" น้ำเสียงของทอวัญเต็มไปด้วยความตื่นเต้นรอยยิ้มกว้างฉายชัดบนใบหน้าของเธอเมื่อเพิ่งรู้ว่าชื่อเธอเขียนแบบนี้ ยามโดนมือใหญ่สัมผัสที่ศีรษะก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเด็กน้อยที่กำลังได้รับรางวัลจากครูผู้สอน
"เก่งมาก ชื่อเอ็งสวยไหม"
"สวยจ้ะ" ตอบพร้อมมองกระดาษด้วยเเววตาระยิบระยับ
"อืม สวยจริง ๆ เหมาะกับเอ็งมาก" มือหนายังคงลูบสัมผัสกลุ่มผมนุ่มอย่างเบามือ ยิ่งได้สัมผัสก็ยากที่จะตัดใจผละมือออก ยิ่งได้มองรอยยิ้มหวานกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คละคลุ้งอยู่ตรงจมูกก็ยิ่งอยากกดจมูกลงที่แก้มเนียนว่าจะหอมมากเพียงใด แต่ก็ต้องกัดฟันทนเพราะเกรงว่าแมวน้อยจะตื่นกลัวไปเสียก่อน
โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของเพ็ญ
"เอ็งอยากเรียนไหม"
"ทำไมจ๊ะ หรือฉันโง่เกินที่พี่จะสอนฉันได้" ทอขวัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้ความสดใสแววตาเต็มไปด้วยความกังวล
"เอ็งฉลาดมากต่างหาก เอ็งไม่ควรหยุดอยู่ที่อ่านออกเขียนได้ยังมีวิชาเลขที่เอ็งต้องลองถ้าอยากเรียนเดี๋ยวข้าส่งเอง" หากอยากเรียนจบสูง ๆ เขาก็เต็มใจ
"ไม่เอาหรอกจ้ะ ฉันไม่อยากเป็นหนี้พี่และอีกอย่างฉันก็.."
"ไม่ต้องใช้ขอแค่เอ็งตั้งใจเรียน อย่ามีผัวก่อนเรียนจบก็พอ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ ให้พี่สอนฉันก็ได้นี่จ๊ะ"
"แต่ข้าไม่มีเวลาให้เอ็งอีกแล้ว งั้นเอ็งสัญญากับข้าได้หรือไม่ว่าเอ็งจะรอข้ากลับมา รอข้า"
เคนทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มด้วยความเสียดายจ้องมองดวงตากลมสวยด้วยความคาดหวัง ว่าอีกคนจะตกลงถึงแม้จะเป็นสัญญาปากเปล่าก็ตาม
"พี่ไปนานหรือจ๊ะ"
"อาจจะสี่ห้าหรือหกปีไม่รู้แน่ชัด แต่เอ็งห้ามมีผัวเด็ดขาด เพราะถ้ามีข้าจะไม่สอนเอ็งแล้วแต่ถ้าเอ็งรอได้ข้าจะใช้เวลาทั้งชีวิตสอนเอ็ง"
ทอขวัญคิดครู่หนึ่งเธอไม่เข้าใจที่อีกคนบอกว่าถ้ารอจะใช้ทั้งชีวิตสอนเธอ เนื้อหาในการเรียนมันเยอะถึงขนาดต้องเรียนทั้งชีวิตเลยหรือ แต่กระนั้นก็..
"จ้ะฉันจะรอพี่"
"ข้าไม่ชอบคนผิดคำพูดถ้าเอ็งทำไม่ได้ข้าจะไปทวงเอ็งคืน ถึงแม้เอ็งจะมีผัวแล้วก็ตาม"
"จ้ะ ฉันสัญญา"
หลังได้ยินคำตอบยืนยันจากเด็กสาวถึงสองครั้งเคนทร์ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข จนหญิงสาวเอียงคอมองด้วยความสงสัยแต่มันกลับทำให้เขาอยากเข้าไปฟัดให้หายมันเขี้ยว
เสียดายที่ทำตามใจตนไม่ได้
ทีนี้ก็ยังอีกเรื่องที่เขาต้องจัดการเพื่อความสบายใจ น่าตลกเด็กสาวที่เพิ่งเคยพบหน้าเจอกันเพียงไม่กี่ชั่วยาม แต่ก็ทำให้เขาคิดอะไรต่ออะไรไปไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว
วันนี้กับพรุ่งนี้จริง ๆ แล้วเป็นที่เขาต้องจัดเตรียมของและพักผ่อนแท้ ๆ
วันรุ่งขึ้น
"ไอ้มั่นเร็ว ๆ หน่อยสิวะ" เคนทร์เอ่ยเสียงดุให้กับลูกพี่ลูกน้องที่อายุห่างกันถึงห้าปีอยู่ด้วยกันเหมือนลูกน้องคนสนิทแต่จริง ๆ กลับเป็นเพื่อนคนสนิทก็ว่าได้
"พี่จะรีบไปไหนแต่เช้าเนี่ย เดี๋ยวเราก็ต้องออกเดินทางแล้วนี่จ๊ะ" มั่นถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเคนทร์ไปเรียกตัวที่เรือนตั้งแต่เช้า คราแรกก็นึกว่าเปลี่ยนเวลาเดินทางให้เช้าขึ้นแต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด
เคนทร์ไม่ตอบเดินมุ่งหน้าไปยังรถกระบะของบิดาที่จอดไว้ใต้ถุนเรือนเพื่อใช้เดินทางเข้าอำเภอในครั้งนี้
เขาจะได้ไปร่ำเรียนอย่างสบายใจ
☆☆☆
หกปีต่อมา...
เรือนไม้ขนาดกลางตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านรอบ ๆ มีเพื่อนบ้านเพียงไม่กี่หลัง ด้วยความที่ห่างจากบ้านหลังอื่นจึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบ แต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกสาวอย่างทอขวัญที่ยังคงมีกำแพงปิดกั้นตัวเองกับคนภายนอกจวบจนตอนนี้ก็ผ่านไปหกปีแล้ว
แม้ยามนี้จะกลายเป็นสาวงามสะพรั่งแต่มันก็ยังไม่ช่วยให้ความคิดเชิงลบที่ถูกปลูกฝังและได้รับมาพังทลาย ความรู้สึกพวกนั้นคำพวกนั้นมันยังคงก้องอยู่ในหัว
"พ่อทองเอย แม่ข้าวอยู่บ้านหรือเปล่า"
เสียงดังจากหน้าบ้านทำให้ทอขวัญหลุดจากอาการเหม่อลอย ลุกเดินไปยังชานไม้หน้าบ้านเพื่อดูว่าใครมาหา ก็พบเข้ากับหญิงชราที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะบ้านห่างกันเพียงสามหลังเท่านั้น
"ยายมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ"
"ทอขวัญพ่อกับแม่อยู่บ้านหรือไม่"
"ไม่อยู่จ้ะ แต่อีกสักเดี๋ยวก็คงจะกลับมาแล้วยายมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ"
"ลูกยายมันกลับมาจากเมืองกรุงกะจะมาอยู่ที่นี่ถาวร เลยชวนให้ไปผูกข้อต่อแขนเรียกขวัญเย็นนี้น่ะ บอกพ่อกับแม่ด้วยนะอ่อหนูก็มาด้วยเถอะมีของกินเยอะแยะเลย"
เสียงแหบแห้งเอ่ยกับหญิงสาวที่ใช้ผ้าคลุมปิดหน้าปิดตายาวเหยียดแต่แววตาแฝงไปด้วยความเอ็นดู
"จ้ะยาย"
คราแรกทอขวัญไม่อยากไป แต่ยายจวนก็ไม่ใช่คนอื่นไกล อีกทั้งยังเคยฝากขนมมาให้เธอกินบ่อย ๆ เป็นเหตุให้ทอขวัญมานั่งจมปุกอยู่ที่ก้นครัวของบ้านยายจวนเพื่อช่วยคนอื่นหยิบจับ นับว่าโชคดีที่คนในหมู่บ้านเข้าใจ ผู้เป็นแม่อย่างข้าวก็ไม่อยากกดดันลูกสาว แต่นี่มันก็ผ่านมานานแล้ว จนเธอคิดว่าถ้าทำแบบนี้อาจดีขึ้น
"เอ็งชื่ออะไร ทำไมถึงมานั่งอยู่นี่คนเดียว"
เสียงทุ้มของบุคคลมาใหม่เรียกคนที่กำลังนั่งเฝ้าหม้อแกงอย่างเหม่อลอยให้หันไปมองตามต้นทางของเสียง ก่อนจะพบว่าเป็นชายสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลทอง ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ทั้งยังมีดวงตาสีฟ้าใส ที่ถึงจะดูแปลกตาแต่ก็หล่อเหล่ามากเลยทีเดียว
"ฉันชื่อทอขวัญจ้ะ ลูกพ่อทองแม่ข้าว"
"อ๋อลูกน้าข้าว แล้วทำไมถึงคลุมผ้าอยู่ในเรือนล่ะ" คนร่างสูงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
"หน้าตาฉันมันไม่น่ามองจ้ะ" พูดด้วยน้ำเสียงอึกอักเล็กน้อยกลัวว่าจะโดนบังคับเหมือนตอนเป็นเด็ก
"ข้าชื่อโจ เป็นหลานยายจวนลูกของแม่อรแม่เอ็งฝากให้ข้ามาดูเอ็ง" โจพูดด้วยความอ่อนโยนไม่เร่งเร้าเพราะรู้เรื่องหญิงสาวมาจากข้าวบ้างแล้ว
"ดูฉันทำไมหรือจ๊ะ" ทอขวัญเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลังฟังชายหนุ่มพูดจนจบประโยค
"กลัวเอ็งเหงา ได้ยินมาว่าเอ็งไม่ได้เรียนอยากเรียนไหมข้าสอนได้นะ" โจใช้ข้อมูลที่ได้จากข้าวมาเกลี้ยกล่อม อีกทั้งยังรู้สึกสนใจในตัวหญิงสาวเป็นอย่างมากเพราะที่นี่ตนนั้นก็ไร้เพื่อน
"สอนได้จริง ๆ หรือจ๊ะ แต่..." ทอขวัญมองโจด้วยแววตาสับสนคิดไม่ตกว่าจะตอบตกลงดีไหม จนเกิดความขัดแย้งในใจเกิดขึ้น มันกำลังตีกันว่าเธอควรทำในสิ่งที่ชอบไหม หรือทิ้งมันไปเพราะเธอไม่เด็กแล้วและตอนนี้ก็อ่านออกเขียนได้แล้ว
"ได้สิ แต่มีข้อแม้นะ เอ็งต้องเป็นเพื่อนกับข้า ดูแล้วเอ็งคงอายุน้อยกว่าข้าเป็นแน่เรียกพี่โจตกลงนะ" โจพูดเองเออเองจนทอขวัญอ้าปากค้างใต้ผ้าคลุมด้วยความประหลาดใจเธอไปตกลงตอนไหนกัน
"..."
"เราเป็นเพื่อนกันแล้วเอ็งจะให้ข้าเห็นหน้าได้ยัง อื้ม งั้นเอ็งไม่ต้องรีบหากเอ็งลำบากใจลองให้ข้าสอนและสนิทกับเอ็งมากขึ้นเสียก่อนก็ได้"
อีกครั้งที่โจพูดเองเออเองด้วยประโยคที่ยาวเหยียด จนทอขวัญถอนหายใจยาวออกมาอย่างอดไม่ได้ ระหว่างเรียนจนปวดหัวกับฟังโจพูดจนปวดหัวเธอไม่รู้เลยว่าจะต้องเตรียมรับมือกับอะไรก่อนดี แต่คงต้องเป็นอย่างหลังมาก่อนแน่ ๆ
วันต่อมาทอขวัญเดินไปยังเรือนของยายจวนตามเวลานัด เพราะข้าวบอกว่าเป็นโอกาสที่ดีเธอควรมีเพื่อนและลองใช้ชีวิตดังเด็กทั่วไป ทอขวัญจึงยอมเพื่อให้มารดาสบายใจ มาถึงก็เห็นโจนั่งรอบนชานเรือน เรือนยายจวนเป็นเรือนไม้ขนาดกลางจากที่ดูแล้วเหมือนลูกสาวแกกำลังจะให้คนมาต่อเติมให้กว้างขึ้น
"เอ็งก็เก่งนี่" โจเอ่ยชมเมื่อเห็นว่าทอขวัญดูคล่องแคล่วในการอ่านเขียนจนแทบไม่ต้องสอนอะไรเพิ่ม
"เห็นนางข้าวบอกว่าพ่อเคนทร์เคยสอนเอ็งใช่ไหม" ยายจวนที่แก่มากแล้วไม่มีอะไรทำเลยมานั่งเฝ้าดูคนหนุ่มสาว อีกอย่างหากตนไม่อยู่คนบ้านอื่นเขาก็จะมองไม่ดี
"ใช่จ้ะยาย เเต่สอนเพียงวันเดียวพี่เคนทร์ก็ออกเดินทาง" ทอขวัญตอบยายจวนด้วยเสียงสดใสเมื่อนึกถึงชายหนุ่มคนเดียวนอกจากบิดาที่ทำให้เธอรู้สึกไว้ใจและประทับใจมาก
แต่นี่ก็หกปีแล้วพี่ใกล้กลับมาหรือยังนะ
"วันเดียวเอ็งก็อ่านออกเขียนได้แล้วหรือ" โจถามอึ้ง ๆ บ้าบอคนเราต้องเรียนสะกดคำไปทีละน้อยไม่ใช่หรือ หรือเพราะเริ่มเรียนรู้ตอนสิบสี่จึงเรียนรู้ได้ไว
"พี่เคนทร์เขาเอาหนังสือให้ฉันด้วย" ทอขวัญตอบเพื่อคลายความสงสัยให้โจ ตัวเธอเองไม่ได้ฉลาดหรือเก่งเลยด้วยซ้ำ มีเพียงอย่างเดียวนั้นคือความจำแต่มันก็เป็นข้อเสียให้กับชีวิตเธอเหมือนกัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 7
Comments