กลิ่นอายของน้ำหอมจาง ๆ ลอยปะทะปลายจมูกเมื่อประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเปิดออก
“ดยุกลอร์เวลรอท่านอยู่ข้างใน”
เสียงพ่อบ้านของตระกูลเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง ก่อนจะก้าวถอยไปด้านข้าง เซดริกกลั้นหายใจชั่วครู่ ก้าวเข้าไปในห้องรับรองกว้างขวาง รู้สึกเหมือนตนเองกำลังก้าวเข้าสู่ลานประลองมากกว่าห้องเจรจาแต่งงาน
ชายที่นั่งอยู่กลางห้อง…
ชายที่เป็นต้นเหตุให้เขาถูกลากมาโลกนี้อย่างปริศนา…
ชายที่พ่อของเซดริกยืนยันหนักแน่นว่า “หากไม่แต่งงานกับเขา บ้านเราจะพังพินาศแน่”
เขาคือ… ดยุกอาเธอร์ ลอร์เวล
⸻
ชายหนุ่มผู้นั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักสูง ดวงตาคมสีเทาเข้มเหลือบมองเขาเพียงครู่เดียว แล้วเบือนกลับไปจิบไวน์ในมือ
“เจ้าคือ…บุตรชายคนเล็กของตระกูลฟาเรนซ์?”
น้ำเสียงเย็นเยียบ ไม่สูง ไม่ต่ำ แต่น้ำหนักในถ้อยคำหนักกว่าค้อนเหล็ก
เซดริกสูดหายใจลึก พยายามควบคุมการเต้นของหัวใจ ก่อนจะประสานมือไว้ที่อกและโค้งศีรษะเล็กน้อยตามมารยาท
“ขอรับ ดยุกลอร์เวล”
อาเธอร์วางแก้วไวน์ลง ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าของเขา เหมือนมองอะไรบางอย่างที่กำลังจะประเมินราคา
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่สร้างปัญหาให้ข้า…เช่นเดียวกับคนก่อน ๆ”
คำพูดนั้นเจือความหมายบางอย่าง และเซดริกรู้สึกเหมือนอุณหภูมิในห้องลดต่ำลง
“คนก่อน ๆ?” เขาเลิกคิ้ว แสร้งไม่เข้าใจ
ดยุกไม่ตอบในทันที ดวงตาสีหมอกจับจ้องเขานิ่ง ๆ ก่อนพูดอย่างราบเรียบ
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้ามีอดีตอย่างไร หรือเคยใช้ชีวิตเหลวแหลกแบบไหนมาก่อน ข้าต้องการแค่การแต่งงานในนาม เพื่อปิดปากพวกขุนนางโง่เง่าในวังเท่านั้น”
เซดริกหัวเราะเบา ๆ
เขาเคยเจอนายจ้างเย็นชาในโลกเดิมมาแล้ว แต่ดยุกลอร์เวลคนนี้…เย็นจนเกือบเป็นน้ำแข็ง
“ข้าก็หวังแบบเดียวกันนะขอรับ” เซดริกตอบกลับอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมอ่อน “ถ้าการแต่งงานครั้งนี้ช่วยกอบกู้บ้านข้าได้ และช่วยปิดปากคนในวังให้กับท่านได้ เราก็ต่างได้ผลประโยชน์ไม่ใช่หรือ?”
แวบหนึ่ง…เซดริกเห็นมุมปากของดยุกกระตุกเล็กน้อย ราวกับประหลาดใจที่เขาไม่ยอมก้มหัวหรือลนลานเหมือนบุตรขุนนางคนอื่น ๆ
“…งั้นเราจะตกลงกันตรงนี้”
อาเธอร์หยิบเอกสารขึ้นมาหนึ่งฉบับ พร้อมผลักมันมาตรงหน้าเซดริก
“สัญญาการแต่งงาน – เจ้าจะต้องย้ายมาอยู่ในคฤหาสน์ของข้า มีสถานะเป็น ‘คู่สมรส’ อย่างเป็นทางการ แต่ไม่จำเป็นต้องนอนห้องเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ใด ๆ หากเจ้าทำให้ข้าพอใจ จะได้รับเงินรายเดือนจากข้า และหากผ่านไปหนึ่งปีโดยไม่มีปัญหาอะไร เจ้าจะได้รับอิสระ พร้อมเงินก้อนหนึ่ง”
“…เหมือนการซื้อทาสเลยนะขอรับ”
เซดริกเงยหน้ามองเขาตรง ๆ ดวงตาสีเขียวมรกตเจือแววขบขันและท้าทาย
“ท่านไม่กลัวหรือว่าข้าจะสร้างเรื่องอื้อฉาว?”
อาเธอร์เพียงกระตุกยิ้มมุมปาก คล้ายเหยียดเล็ก ๆ
“ข้าจัดการได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องของหัวใจ เพราะข้าไม่มีมันแล้ว”
…คำพูดนั้น ทำเอาเซดริกนิ่งไปชั่ววูบ
เขาจ้องใบหน้าของดยุกอย่างตั้งใจขึ้นอีกนิด
ไม่ใช่เพราะหลงใหลอะไรหรอกนะ แต่คำพูดแบบนั้น มันไม่ต่างจากบทพูดในละครเกรดบีที่เขาเคยดูเลย
“งั้นข้าจะเป็นคนทดสอบดู ว่าท่านไม่มีหัวใจจริง ๆ หรือแค่กลัวจะถูกมันทำร้ายอีกครั้ง”
อาเธอร์เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างจับสังเกต
“…ข้าจะรอดู”
⸻
หลังจากเซ็นสัญญาและพูดคุยเรื่องพิธีการเบื้องต้นเสร็จ เซดริกถูกพ่อบ้านนำไปชมที่พักชั่วคราวในคฤหาสน์
เขาเดินผ่านโถงยาวที่ประดับด้วยภาพวาดเก่าแก่ พรมสีแดงเลือดหมู และชุดเกราะวาววับ
แม้จะหรูหรา แต่ทุกอย่างให้ความรู้สึกหนาวเย็น ราวกับไม่มีชีวิต
“คฤหาสน์นี่เงียบจริง ๆ เลยนะ” เขาเอ่ยเบา ๆ กับพ่อบ้าน
พ่อบ้านชะงัก ก่อนตอบอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ท่านดยุกไม่ชอบความวุ่นวาย ผู้ที่ส่งเสียงดังโดยไม่จำเป็น…มักไม่ได้อยู่ต่อ”
เซดริกยิ้มขื่นๆ “ข้าควรเริ่มฝึกเดินแบบไร้เสียงสินะ”
⸻
คืนนั้น เซดริกนอนจ้องเพดานไม้เหนือศีรษะ พลางถอนหายใจ
‘นี่เรากำลังอยู่ในชีวิตของคนอื่น…ในโลกที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีกาแฟ…แต่มีดยุกเจ้าระเบียบหน้าโหดหนึ่งคน’
เขาไม่รู้ว่าฟ้ากำลังเล่นตลกอะไร แต่ในเมื่อตายไปแล้ว ได้เกิดใหม่มาในร่างคนที่ต้องแต่งงานกับชายผู้ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดินแบบนี้…
…ก็ต้องเล่นให้สุดล่ะนะ
“เจ้าดยุกเย็นชานั่น… ข้าจะทำให้หัวใจเจ้ากลับมาเต้นอีกครั้งเอง”
เขาหรี่ตา ยิ้มมุมปากคนเดียวกลางห้องเงียบ ๆ
เกม…เพิ่งเริ่มต้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments