เสียงเคาะเบา ๆ บนโต๊ะทำงานดังขึ้นช้า ๆ เป็นจังหวะ
ปลายนิ้วเรียวยาวของซอจุนฮยอกแตะลงบนแฟ้มรายงานอย่างเหม่อลอย
แม้จะมีประชุมอีกไม่ถึง 15 นาที แต่สายตาเขากลับไม่ยอมละจากแถบสีที่ใช้แบ่งหมวดเอกสารตรงหน้าเลยสักนิด
มันไม่ใช่สีผิด...แต่เป็นกลิ่น
กลิ่นของโอเมก้าคนหนึ่ง ที่ตอนนี้แทรกซึมเข้ามาในสมองเขาอย่างไม่ขออนุญาต
กลิ่นจาง ๆ ที่ติดอยู่บนกระดาษนั้น
เหมือนจะเป็นเศษเสี้ยวของยองอู…ที่เขาไม่อาจปล่อยผ่าน
“ท่านประธานครับ?”
เลขาคิมเคาะประตูแผ่วเบา “อีก 10 นาทีฝ่ายผลิตจะเข้าประชุมค่ะ”
“อืม...ให้ขึ้นมาเลย”
เสียงของเขายังคงนิ่ง
แต่ในอกเริ่มร้อนเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล
ยองอูในอีกมุมของออฟฟิศ กำลังกดพิมพ์รายงานอย่างเงียบ ๆ
เขาตื่นแต่เช้าอีกวันเพื่อเข้าบริษัททันเวลา หลังเหตุการณ์เมื่อวาน
หัวใจยังคงเต้นแปลก ๆ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของซอจุนฮยอก
"อย่าให้พวกเขารู้...ว่ากลิ่นของคุณมีผลกับผม"
ยองอูในอีกมุมของออฟฟิศ กำลังกดพิมพ์รายงานอย่างเงียบ ๆ
เขาตื่นแต่เช้าอีกวันเพื่อเข้าบริษัททันเวลา หลังเหตุการณ์เมื่อวาน
หัวใจยังคงเต้นแปลก ๆ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของซอจุนฮยอก
"อย่าให้พวกเขารู้...ว่ากลิ่นของคุณมีผลกับผม"
ประโยคนั้นยังคงวนอยู่ในหัว
ทำให้เขาต้องพยายามตีหน้านิ่งกว่าทุกวัน
“ยองอู นายโอเคใช่ไหม?”
เสียงของซูมิน รุ่นพี่ฝึกงานอีกคนในทีม
เรียกเขาเบา ๆ พร้อมยื่นขนมปังให้หนึ่งชิ้น
“ขอบคุณครับ...ผมโอเค”
เขาฝืนยิ้มตอบ แม้จะรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังโบยบินอย่างไม่มีปีก
เพียงเพราะได้ยินเสียงของใครบางคนสะท้อนในความคิดซ้ำ ๆ
เวลา 17.05 น.
บริษัทเริ่มเงียบลง พนักงานบางส่วนทยอยกลับบ้าน
ยองอูยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ตรวจเอกสารประชุมวันพรุ่งนี้
“คุณยองอู”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบกับแววตาเรียบเฉียบของคนที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ในเวลานี้
“คะ…ครับ?”
“ห้องผม เอกสารยังไม่เรียง”
“ไปจัดให้”
ยองอูไม่กล้าปฏิเสธ
เขาลุกขึ้นโดยไม่ทันเก็บของ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไปเงียบ ๆ
ในห้องทำงานชั้น 40
บรรยากาศเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้กลับรู้สึก...ต่างออกไปมาก
“คุณอยากทำงานที่นี่จริง ๆ หรือแค่หวังเรื่องทุน?”
คำถามจากคนที่เดินไปหยิบแก้วน้ำพูดโดยไม่หันกลับมา
“ผม…อยากทำงานที่นี่จริง ๆ ครับ”
“แม้จะต้องรับแรงกดดันขนาดนี้?”
เสียงนั้นแผ่วลงเล็กน้อย แต่แฝงด้วยความหมายที่หนักแน่น
“ผมรับได้ครับ”
คำตอบนั้น...แม้จะเบา
แต่กลับดังพอจะสั่นบางอย่างในอกของประธานได้
เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ
หันกลับมาจ้องเด็กฝึกงานที่ยืนอยู่กลางห้องเงียบ ๆ
“คุณอายุเท่าไรนะ?”
“22 ครับ”
“…ยังเด็กอยู่เลย”
คำว่า “เด็ก” จากคนอย่างเขา ไม่ได้แปลว่าไร้ความสามารถ
แต่มันคือ…ยังเก็บซ่อนไม่เก่ง
ทุกความรู้สึก ทุกการสะดุ้ง ทุกแววตา ยังซื่อเกินไปสำหรับโลกใบนี้
และซื่อมากพอ...ที่เขาเริ่มไม่อยากให้มันต้องถูกทำร้าย
“คุณได้กินข้าวเย็นหรือยัง”
“ยังครับ…”
“…อยากกินอะไร”
ยองอูเงยหน้าขึ้นงง ๆ
ประธานคังซอจุนฮยอก…ถามเรื่องแบบนี้กับเขาจริงเหรอ?
“มะ...มาม่าก็ได้ครับ ผมกินง่าย”
“คุณกินแบบนั้นทุกวันเหรอ?”
“…ครับ”
ซอจุนฮยอกไม่ได้พูดอะไรต่อ
แต่เดินออกจากห้องโดยไม่หันกลับมา
“ตามมา”
ยองอูเดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ เหมือนลูกหมาที่กลัวหลงทาง
ภายในรถยนต์หรูอีกครั้ง
พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลยระหว่างทาง
กระทั่งถึงร้านอาหารญี่ปุ่นเล็ก ๆ ที่มีเพียงไม่กี่โต๊ะ
โต๊ะริมหน้าต่างถูกจัดไว้เรียบร้อย
ยองอูนั่งตัวตรง ก้มหน้ามองเมนูจนแทบจะจ้องทะลุกระดาษ
“…ผมสั่งอะไรได้ไหมครับ?”
“สั่งได้ทุกอย่างที่คุณอยากกิน”
ยองอูค่อย ๆ เลือกเมนูราคากลาง ๆ พร้อมยิ้มบาง ๆ อย่างเกรงใจ
“คุณมักจะก้มหน้าเวลาอยู่ต่อหน้าผม”
เสียงของซอจุนฮยอกดังขึ้นกลางมื้ออาหาร
ยองอูสะดุ้งเงียบ ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้น
“เพราะผมไม่รู้ว่า...ผมควรมองคุณด้วยสายตาแบบไหน”
ทั้งโต๊ะเงียบไปพักหนึ่ง
จนกระทั่งซอจุนฮยอกวางตะเกียบลง
“ถ้าคุณจะมองผมเหมือนเจ้านาย ก็อย่ามัวแต่หลบสายตา”
“แต่ถ้าคุณจะมองผมเป็นอย่างอื่น…”
เสียงนั้นหยุดกลางประโยค
เขาหันไปมองแสงไฟนอกหน้าต่างแทน
“ก็อย่าปล่อยให้ผมรู้สึกว่า...คุณกำลังหนีผมอยู่”
ยองอูเงียบไป หัวใจเขาเต้นจนแทบได้ยินเสียง
เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงกับคำพูดนั้น
แต่ที่แน่ ๆ…เขารู้ว่าเขากำลัง เผลอหวั่นไหว
ผู้ชายคนนี้…ไม่ได้อ่อนโยน
แต่กลับมีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึก “ปลอดภัย”
เมื่อกลับถึงคอนโด
ยองอูนั่งนิ่งอยู่บนเตียง มองแสงไฟสลัวจากนอกหน้าต่าง
โทรศัพท์ไม่มีสายเรียกเข้า ไม่มีข้อความ
แต่ในใจกลับมีเสียงของใครบางคนดังก้องไม่หยุด
“ถ้าคุณจะมองผมเป็นอย่างอื่น ก็อย่าปล่อยให้ผมรู้สึกว่าคุณกำลังหนี”
เขาค่อย ๆ เอื้อมมือแตะแก้มตัวเอง
มันร้อน…อย่างน่ากลัว
ตีสองของคืนนั้น
ซอจุนฮยอกเปิดตาขึ้นในความมืด
เขาฝันว่าเขาอยู่ในห้องประชุม...แต่ห้องนั้นว่างเปล่า
และมีกลิ่นเพียงกลิ่นเดียวที่ลอยอบอวล
กลิ่นของโอเมก้าคนหนึ่งที่เขาไม่ควรจดจำมากขนาดนี้
ในฝันนั้น ยองอูเดินเข้ามาช้า ๆ
ในชุดเชิ้ตขาวธรรมดา ผมหล่นคลอเคลียข้างแก้ม
เขาไม่ได้พูดอะไร
แต่เดินเข้ามาใกล้…
ใกล้จนเขาได้กลิ่นตัวจริงจัง
และใกล้จน…ปลายนิ้วเขาเผลอยื่นไปแตะข้อมืออีกฝ่าย
“ท่านประธาน…”
เสียงนั้นเบาราวกับลมหายใจ
และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น แววตาคู่นั้นก็มองเขาอย่าง…
“อ่อนโยน…ปนสั่นไหว”
ซอจุนฮยอกสะดุ้งตื่น
เหงื่อผุดขึ้นตามไรผม แม้แอร์จะเปิดอยู่
เขายกมือขึ้นปิดหน้าผาก
“ไม่สิ…นี่มัน…”
เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ
ครั้งแรกในชีวิตที่เขาฝัน…เกี่ยวกับลูกน้องของตัวเอง
ในอีกด้าน
ยองอูนอนหลับตาแน่น กอดหมอนไว้แน่นจนข้อมือสั่น
เขาไม่ได้ฝันอะไรเลย…แต่หัวใจของเขากลับปั่นป่วนราวกับเพิ่งวิ่งหนีบางอย่างมา
และสุดท้าย เขาแค่กระซิบในใจเบา ๆ
“อย่าใจดีใส่ผมเลยครับท่านประธาน…เพราะผมใจอ่อนไปแล้ว”
เช้าวันถัดมา
เอกสารฉบับแรกของวันวางอยู่บนโต๊ะของซอจุนฮยอก
โพสต์อิทสีเหลืองแปะอยู่มุมซ้าย เขียนด้วยลายมือเล็ก ๆ ของยองอูว่า
“ขอบคุณสำหรับเมื่อคืนครับ
กาแฟไม่หวานแน่นอน :)”
ซอจุนฮยอกอ่านโน้ตนั่นแล้วเงียบไป
ก่อนจะหยิบกาแฟขึ้นมาจิบช้า ๆ
เขาหลุดยิ้มเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
แล้วพูดเบา ๆ กับตัวเอง…ในเช้าที่เงียบที่สุดของปี
“คนอย่างผม…ไม่เคยใจอ่อนกับใคร
แต่บางที...ผมคงกำลังเริ่มเปลี่ยน”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments