ศึกเวทมนตร์ คนพลังอาหาร

ศึกเวทมนตร์ คนพลังอาหาร

ตอนที่1 ก้าวแรกของการเป็นคิง

1.ก้าวแรกของการเป็นคิง

”นี่รุยตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวจะไปสอบสายเอานะ วันนี้เป็นวันสำคัญในการสอบด้วยไม่ใช้รึไง”

วันนี้เป็นวันสอบคัดเลือกตัวแทนหมู่บ้านที่รุยตั้งตารอ เขาฝึกฝนฝีมือตัวเองมาตลอดเพื่อวันนี้

”กี่โมงแล้วเนี่ยแม่ (เสียงงัวเงีย)”

เจ้าหนูรุยเป็นคนที่ตื่นสายอยู่เป็นประจำ เพราะเขาจะใช้เวลาหลังเลิกเรียน ออกไปฝึกฝนขัดเกลาฝีมือตัวเองอยู่ในป่าคนเดียวทุกๆ คืน จนบางครั้งเขาก็กลับเข้าบ้านหลังเที่ยงคืนอยู่บ่อย ๆ มันทำให้คุณแม่ต้องค่อยปรุกเขาอยู่เป็นประจำ

”7โมงครึ่งได้แล้วละมั้งลูก”

”7โมงครึ่ง!! แย่แล้วแบบนี้ ทำไมพึ่งปลุกผมละเนี่ยแม่!! ถ้าไปไม่ทัน8โมงผมไม่ได้เข้าสอบแน่เลย วันนี้เป็นวันสอบคัดเลือกคิงและผู้รับพลังงานด้วยสิ.. แม่ก็รู้ว่าวันมันสำคัญกับผมแค่ไหน!!”

เจ้าหนูรุยรีบกระโดดลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความเร่งรีบ รุยใช้เวลาในการอาบน้ำเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น รุยวิ่งไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ พอแต่งตัวเสร็จ เขาก็กระโดดตัวลอย แล้วใช้ก้นสไลด์กับราวบันไดลงมาชั้นล่างด้วยความคล่องแคล่ว

”แม่ปิ้งขนมปังไว้ให้แล้วนะอาบน้ำเสร็จแล้วลงมากินก่อนไปด้วยละ”

ทุกๆ เช้าก่อนไปโรงเรียนแม่ของรุยจะเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เป็นประจำ แต่ด้วยนิสัยที่ตื่นสายอยู่เสมอของรุยทำให้เขากินข้าวเช้าที่แม่เตรียมไว้ไม่ค่อยทันนัก

(รุยคาบขนมปังไว้ในปาก) “ผมไปก่อนนะครับแม่“ เขาเตรียมตัวที่จะออกวิ่ง ท่าทางจริงจัง เขาหมุนปลายเท้าเป็นวงกลมสลับไปมา

(แม่คว้ามือรุยไว้) “นี่รุย!! สู้ๆนะลูก ลูกต้องทำได้แน่นอน”

แม่คือคนที่ค่อยให้กำลังใจและสนับสนุนรุยเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร ต่อให้ทุกคนในหมู่บ้านจะต่างพากันหัวเราะเยาะลูกของเธอที่เกิดมามีพรสวรรค์เป็นถึงคิงแต่กลับไม่สามารถปรุงอาหารเวทย์ให้ผู้รับพลังงานกินได้แม้แต่คนเดียว

(รุยยิ้ม) “มันแน่นอนอยู่แล้วครับ!!” น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

ต่อให้ทุกคนบนโลกนี้จะค่อยพากันดูถูกตัวเขาแต่รุยไม่เคยเก็บมันมาใส่ใจเพราะรุยมั่นใจว่าสักหนึ่งเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น

แล้วจะต้องมีคนที่สามารถ รับพลังจากอาหารของเขาได้ รุยมักจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับนึกถึงคุณพ่อของเขาที่จะค่อยบอกเขาอยู่เสมอว่า...

“อย่าให้ใครมาดูถูกลูกได้ละ คนพวกนั้นที่ค่อยชี้หน้าด่าลูก สักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องมาหลบอยู่ด้านหลังของลูกแน่นอน ถ้าถึงวันนั้นรุยช่วยปกป้องพวกเขาด้วยละ!!”

รุยจำคำสอนนี้ได้อย่างดี มันเป็นแรงผลักดันให้ตัวเขาไม่ย่อท้อต่อคำดูถูกใดๆ

เจ้าหนูรุยรีบวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด ตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไป 7.40 แล้ว ถ้าเขาไปสถานที่สอบไม่ทันเวลา เขาจะถูกตัดสิทธิ์ทันที เพราะในการสอบครั้งเป็นการสอบที่สำคัญของหมู่บ้าน นักเรียนทุกคนในหมู่บ้านล้วนแข่งขันกันเพื่อที่จะได้เข้าสอบในครั้งนี้

อาจารย์ทาเคบะ อาจารย์ประจำชั้นเรียนสอดส่องสายตามองหาเจ้าหนูรุย “จะมาทันไหมนะเจ้าหมอนั่น”

อาจารย์ทาเคบะเป็นอาจารย์ประจำชั้นเรียนของรุย เขามีภูมิหลังที่ดีกับพ่อของรุย และเขารู้ดีว่าเจ้าหนูรุย ต้องพบเจออะไรบ้างหลังจากที่พ่อของเขาได้จากไป

”ในที่สุดฉันก็มาทันเวลาจนได้” (เสียงหายใจเหนื่อยหอบ)

และแล้วในที่สุด รุยก็วิ่งมาที่สนามสอบได้ทันเวลา อาจารย์ทาเคบะหันไปมองที่เจ้าหนูรุย

“คิดว่าเธอจะไม่มาสะแล้ว”

”ต้องมาอยู่แล้วสิ“

”เพราะผมนะ!! จะต้องเป็นคิงของโรงเรียนในปีนี้ให้ได้“

รุยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและสีหน้าสุดจริงจัง

อาจารย์ทาเคบะจับหัวเจ้าหนูรุยแล้วหัวเราะ

“ฮา ๆ นั้นสินะ!! ก็นายนะตั้งใจมากกว่าใครในโรงเรียนเลยนิ”

“ดูนั้นสิ!! ไอ้คิงผู้โดดเดี่ยวมันมาด้วยวะ ฮาๆ“

(เสียงเพื่อนๆ ในชั้นเรียนต่างพากันหัวเราะรุย)

สิ่งนี้เกิดขึ้นกับรุยอยู่เป็นประจำ ในทุกๆวันที่เขามาโรงเรียน รุยมักจะถูกเหล่านักเรียนพากันพูดจาดูถูกเขา บางทีก็โดนเพื่อนๆแกล้ง แต่รุยก็สู้กลับทุกครั้งถึงแม้มันจะจบลงด้วยการที่เขาต้องโดนรุมทำร้ายจนบาดเจ็บ โดนพ่อแม่ของเด็กที่มารุมรังแกเดินเข้ามาชี้หน้าด่าพร้อมทั้งดูถูกตัวเขา สิ่งนี้มันทำให้รุยเองแทบไม่มีเพื่อนในโรงเรียนเลย

“พวกนายคอยดูเถอะ ฉันจะซัดพวกนายให้กระเดนในการสอบครั้งนี้ให้ดู!!”

“แกจะซัดพวกฉันได้ยังไง ก็มันไม่มีใครรับพลังจากอาหารห่วยๆ ของแกได้สักคนเลยนี่หว่า ฮาฮาฮา”

“ไม่มีแล้วไงฟะ!! เดี๋ยวฉันก็จะทำมันเอง กินมันเอง และสู้เองเลยเว้ย!!”

รุยตะโกนใส่พวกที่ว่าเขาด้วยความโมโหสุดขีด ลุยโคตรเจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าคำพูดของเพื่อนๆในโรงเรียนนั้นเป็นเรื่องจริง

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา รุยปรุงอาหารเวทย์ไปแล้วไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขาปรุงมัน แล้วส่งต่อให้คนที่เป็นร่างรับพลังงานกิน ก็ยังไม่มีใครปลดปล่อยพลังเวทย์ออกจากอาหารที่รุยปรุงได้เลย มิหนำซ้ำคนที่กินอาหารเข้าไปยังพูดเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า… อาหารของรุยนั้น มันทั้งแปลกทั้งแย่ และไร้พลังเวทย์ นั้นจึงทำให้ในการสอบครั้งนี้รุยตั้งใจที่จะปรุงอาหารขึ้นมาแล้วกินมันเอง

“แบบนั้นไม่ได้นะรุย ไม่มีใครสามารถเป็นทั้งคิงและผู้รับพลังงานได้หรอกนะ” (เสียงเตือนจากอาจารทาเคบะ)

อาจารทาเคบะรู้ดีว่าสิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะร่างกายของคิงและผู้รับพลังงานนั้นมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันมาก คนที่เกิดมามีความสามารถเป็นคิงจะมีร่างกายที่บอบบางและไม่มีต่อมปลดปล่อยพลังงาน แต่จะมีพลังเวทย์มหาศาลที่นำมาใช้ปรุงอาหารเวทย์ได้ ส่วนคนที่เป็นร่างผู้รับพลังงาน ร่างกายของพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากและเซลล์ในร่างกายของพวกเขาจะผลิตต่อมรับพลังงานเวทย์ออกมาทั่วร่างกาย ต่อมพวกนี้มีไว้รับพลังเวทย์จากอาหารที่ปรุงโดยคิงแล้วปลดปล่อยมันออกมาในรูปอาหารที่กินเข้าไป ยิ่งคิงปรุงอาหารออกมาได้ดีเท่าไหร่ ร่างผู้รับพลังงานก็จะสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาได้แข็งแกร่งมากเท่านั้น

“ใช่ ใช่ ใครที่ไหนจะเป็นทั้งคิงและผู้รับพลังงานได้ทั้งคู่ละ ไอ้โง่เอ้ย!! ถ้าแกไม่มีผู้รับพลังงานก็กลับบ้านไปสะไอ้สวะ!!”

(เสียงเพื่อนในชั้นเรียนตะโกนพร้อมกัน)

“กลับบ้านไปสะ ไอ้คิงผู้โดดเดียว กลับบ้านไปสะ ไอ้คิงผู้โดดเดียว”

จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา “ฉันเอง...”

ตอนนี้เสียงที่ทุกคนกำลังตะโกนอยู่ก็เงียบลงทันที เหล่านักเรียนพากันหันไปมองที่ต้นเสียงนั้น

“แกบ้าไปแล้วรึไง แกบ้าไปแล้วรึไง โซ อาหารที่ไอ้บ้านั้นทำ ขืนแกกินเข้าไปมีหวังได้ไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่!!”

เสียงที่พูดแทรกขึ้นมานั้น คือเสียงของนักเรียนที่มีชื่อว่า “โซ” เขาเป็นหนึ่งในนักเรียนหัวกะทิของโรงเรียน ทุกคนต่างรู้กันดีว่าโซนั้นมีความสามารถในการเป็นร่างผู้รับพลังงานที่แข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับนักเรียนในปีเดียวกัน

“เธอมั่นใจแล้วใช่ไหมโซ?”

อาจารทาเคบะถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับใช้มือจับลงไปที่ไหล่ของโซเบาๆ

“ครับอาจารทาเคบะ“ โซพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางรุย

รุยยิ้มพร้อมยกนิ้วโป้งขึ้น

“ฉันจะทำอาหารที่ทรงพลังที่สุดให้นายกินเอง!!”

ความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมแววตาสุดมุ่งมั่น ทำให้โซยิ้มและพยักหน้าให้กลับรุย

“ฝากด้วยนะรุย”

“เอาละ!! เอาละ!! ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว อาจารจะขอเริ่มการสอบในครั้งนี้แล้วนะ!!”

(กติกาการสอบ)

การสอบในครั้งนี้จะเป็นการจับคู่ระหว่างคิงและผู้รับพลังงาน จะเป็นการสอบโดยใช้อาหารเวทที่คิงปรุงขึ้นมาแล้วส่งต่อให้ผู้รับพลังงานกิน แล้วผู้รับพลังงานจะต้องเข้าต่อสู้กันอย่างสุดความสามารถ

ผู้เข้าสอบมีทั้งหมด 16 คน แบ่งเป็น 8 คู่ รอบแรกจะเป็นการต่อสู้แบบ 1คู่ ต่อ 1คู่ เข้าต่อสู้กัน หลังจากที่ชนะ จะเหลือ 4 คู่ รอบต่อไป ทั้ง 4 คู่จะต้องเข้าต่อสู้กันในทีเดียวถือเป็นรอบตัดสิน คู่ไหนเอาชนะและเหลือรอดเป็นคู่สุดท้าย จะถือว่าเป็นตัวแทนของหมู่บ้าน ขึ้นไปทำหน้าที่เป็นแนวหน้าในการต่อสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้าน กับพวกรุ่นพี่ทีมก่อนหน้านี้

”วัตถุดิบที่ทุกคนจะได้ใช้ในการปรุงอาหารเพื่อสอบในครั้งนี้ จะมีทั้งหมดดังนี้!!”

อาจารทาเคบะพูดเสียงดังและชี้นิ้วไปยังโต๊ะอาหารที่เตรียมเอาไว้

“1. ผักกาดหิมะ”

(ลักษณะเป็นผักกาดเกล็ดหิมะสีน้ำเงิน ตัวผักกาดมีความเย็นและมีรสหวานมาก)

“2. ผักบุ้งงูท้องแดง“

(ลักษณะต้นเป็นเหมือนงูตัวสีเขียวยาว ตรงปลายสุดของยอดจะมีต่อมพิษ ใต้ท้องของต้นจะมีขีดเป็นสีแดงยาว มีความกรอบมากแต่รสชาติจืด)

“3.ใบระบำเพรา”

(ลักษณะเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก มีใบเล็กสีแดงอมส้ม รสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์)

“4.เนื้อหมูภูเขาไฟ”

(เป็นเนื้อหมูสีแดงและมีไขมันแซกเป็นสีดำ เนื้อมีความแน่นและมีกลิ่นควันไฟจากภูเขาไฟ)

“5.เนื้อปลาปีศาจ”

(เป็นปลาหาพันธุ์ยากและมีความดุร้าย มีเกล็ดเป็นสี ม่วงอมดำ เนื้อมีความหวานและแน่นมาก)

“6.พริกสายฟ้า”

(เป็นพริกสีเหลืองทอง มีความเผ็ดร้อนมาก เวลากัดจะถูกไฟฟ้าช็อตเบาๆเข้าที่ปาก)

“7.กระเทียมจิงโจ้”

(เป็นกระเที่ยมที่มีสองขา สามารถกระโดดได้ มีกลิ่นหอมฉุนแบบกระเทียม)

” ถ้าทุกคนมีเมนูในหัวแล้ว เริ่มมได้!! “

อาจารทาเคบะประกาศเริ่มการต่อสู้ เหล่าคิงของแต่ละทีมรีบวิ่งออกไปเลือกวัตถุดิบที่ตัวเองจะนำมาปรุงอาหาร ทุกคนต่างเลือกเอาวัตถุดิบที่คิดว่าจะสามารถปรุงอาหารในครั้งนี้ ให้ออกมาได้แข็งแกร่งที่สุด

” ถ้างั้นมาลุยกันเลย!!“

”อย่างแรกฉันขอรับเนื้อหมูภูเขาไฟไปก่อนละ ต่อมาก็พริกสายฟ้า ตามด้วยกระเทียมจิงโจ้ และสุดท้ายใบระบำเพรา“

รุยเข้าไปเลือกวัตถุดิบที่เขาจะเอาไปทำอาหารออกมาทั้งหมด4อย่าง

”เจ้ารุยคิดจะทำอาหารอะไรออกมาอีกละเนี่ย? วัตถุดิบแต่ละอย่างดูไม่เข้ากันเลย!!“

อาจารทาเคบะพูดพร้อมกับเอามือกุมไปที่ขมับ

”ไอ้รุยนี้มันโง่จริงๆ ด้วยว่ะ ของแต่ละอย่างที่มันเลือก จะเอาไปใช้ปรุงเป็นอาหารได้ยังไงกัน แกเสร็จฉันแน่คราวนี้ “

การต่อสู้ในรอบนี้ “รุย” และ “โซ” ต้องเจอกับ “ทามะ” และ “บาจิ” ทั้งสองเป็นคนจากตระกูลริมแม่น้ำในหมู่บ้าน ตระกูลนี้ขึ้นชื่อเรื่องการทำอาหารด้วยปลาและสาหร่าย พวกเขาสามารถดึงพลังเวทย์ออกจากสัตว์น้ำหรือพืชที่ขึ้นในน้ำ มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และวัตถุดิบในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าทางของทีมพวกเขาอีกด้วย

”ฉันมั่นใจในตัวนายนะ ปรุงอารที่ทำให้ฉันมีพลังเวทย์มหาสานออกมาให้ได้นะรุย“

โซยังคงเชื่อมั่นและคิดว่ารุยจะต้องทำอาหารที่แข็งแกร่งออกมาให้เขากินได้

”ฉันขอเริ่มเลยแล้วกัน จงลุกโชนขึ้นไฟเวทย์!!“

รุยจุดไฟเวทย์ขึ้นจากฝ่ามือ ลูกไฟเวทย์สีน้ำเงินเปล่งประกายขึ้นบนฝ่ามือของเขา รุยง้างแขนขวาออกไปจนสุด แล้วขว้างลูกไฟเวทย์ลงไปในกระทะ “พรึ่บ” ทันทีที่ลูกไฟกระทบกับก้นกระทะก็เกิดเปลวเพลิงสีน้ำเงินอันแสนร้อนแรงรุกขึ้นทันที

(คิงทุกคนจะสามารถจุดไฟเวทย์ขึ้นจากฝ่ามือของตัวเองได้ และจะสามารถปล่อยรสชาติเครื่องปรุงออกมาจากปลายนิ้วทั้งห้าของตัวเองได้ตามความนึกคิด)

จากนั้นรุยได้เริ่มการปรุงวัตถุดิบทันที รุยใช้มือตบพริกสายฟ้าและกระเทียมจิงโจ้จนแหลก พอเสร็จเขาก็โยนมันลงไปในกระทะที่กำลังร้อน เขาผัดมันจนมีกลิ่นหอมลอยออกมา หลังจากนั้นรุยก็เริ่มสับเนื้อหมูภูเขาไฟจนมันละเอียด เสร็จแล้วก็ใส่มันลงไปในกระทะ ท่าทางการผัดอันสุดแสนร้อนแรงทำเอาเพื่อนๆ ที่มาดูต่างพากันประทับใจ เขาผัดจนสีแดงของหมูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ มันคือสีของหมูที่เริ่มจะสุก

“ต่อไปคือขั้นตอนการปรุงรส!!”

รุยตระโกนออกมาเสียงดัง เขาโยนตะหลิวลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า และกางนิ้วออก ชี้มันลงไปที่กระทะ รุยปล่อยกระแสพลังเวทย์ลงไปที่ปลายนิ้วทันที

“ออกมาสะ!!ความหวานของน้ำตาล”

นิ้วของรุยส่องแสงสีน้ำเงินขึ้นทันที จากนั้นที่ปลายนิ้วก็มีผลึกน้ำตาลพุ่งออกมา ผลึกน้ำตาลสีขาวสะท้อนแสงได้ลงเข้าไปคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสับ เสร็จจากนั้นรุยก็ได้ปล่อยน้ำปลารสเค็ม ที่มีสีน้ำตาลอ่อนละมุลออกมา

พอดีกับจังหวะที่ตะหลิวล่วงลงมา รุยเหวี่ยงมือไปคว้ามันด้วยความเร็ว จากนั้นเขาก็ใช้ตะหลิวผัดส่วนผสมทุกอย่างจนเข้ากันดี สีของหมูสับตอนนี้กลายเป็นสีน้ำตาลที่เข็มขึ้นดูน่ากินมาก

“สุดท้าย!! ลงไปในกระทะได้เลยใบระบำเพรา”

รุยเด็ดใบใบระบำเพราออกมาหนึ่งกำมือแล้วโยนมันลงไปปิดท้าย เขาจับด้ามกระทะไว้อย่างแน่นแล้วสะบัดข้อมือขึ้นลงเป็นจังหวะ เนื้อหมูและส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้ารวมกัน จนมีกลิ่นหอมลอยขึ้นมา

“เสร็จเรียบร้อย!! ลงจานได้“

”ฉันขอตั้งชื่ออาหารจานนี้ว่า ผัดระบำเพราหมูสับ!!”

อาจารทาเคบะถึงกับอุทานออกมาว่า

“อุต๊ะ นั้นมันชื่ออะไรวะนะ!! ฉันไม่เคยได้ยินในตำราอาหารเวทย์มาก่อนเลย”

หลังจากที่ทุกคนได้เห็นอาหารที่รุยทำเสร็จ เหล่าเพื่อน ๆ นักเรียนก็ต่างพากันหัวเราะออกมา

“รุยมันทำเมนูบ้าอะไรออกมาอีกแล้วละเนี่ย ฮาๆ”

“คู่ของเรานี้โชคดีจริงๆ เลยวะบาจิ ที่จับฉลากเจอกับไอ้รุยจอมโง่นั้น เดียวฉันจะใช้ “ผัดฉ่าปลาปีศาจ” จัดการพวกมันให้เละเลยค่อยดู”

ทามะ และ บาจิ ได้ทำเมนูขึ้นชื่อของตระกูลเขา อย่าง..

”ผัดฉ่าปลาปีศาจ” นี่เป็นเมนูสุดแข็งแกร่งมากๆ มันถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูลริมแม่น้ำเลยทีเดียว รุยและโซเจอของแข็งเข้าให้แล้ว….

ฮอต

Comments

Farah Syaikha

Farah Syaikha

แอดเขียนได้สองขั้นตอนที่ยอดเยี่ยม: ดีและน่ารัก! ❤️

2025-03-20

1

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!