ตอนที่3 การปรากฏตัวของครูใหญ่

“สภาพนายดูแย่มากเลยนะ ทาเคบะ “

คุณครูใหญ่มาทันเวลาพอดี เขาจ้องมองไปยังโซที่นั่งชันเข่าอยู่กลางโดม ครูใหญ่ไม่รีรอ เขาหันไปพูดกับคุณครูสาวที่เดินตามหลังของเขา “ส่งอาหารของเธอมาหน่อยซิ โรส” ครูใหญ่รับจานจากมือครูสาว อาหารจานนี้ มีส่วนประกอบเป็นหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่ ที่ถูกราดด้วยน้ำซอสสีเหลืองนวล

“ถ้าจะจับหมูป่าก็ต้องเป็นหนวดปลาหมึกยักษ์นี้ละ”

ครูใหญ่หยิบหนวดปลาหมึกยัดเข้าใส่ปาก พร้อมกับเคี้ยวมันด้วยความเอร็ดอร่อย หลังจากที่กัดกินเคียวหนวดชิ้นใหญ่จนหมด เขาก็ดูดน้ำซอส ที่เลอะนิ้วทั้งห้าทีละนิ้ว เสียงดูดแล้วดึงนิ้วออกด้วยความเร็ว มันชั่งไพรเรอะสะเหลือเกิน

ทันใดนั้นเอง ร่างครูใหญ่ ก็เปล่งแสงสีเหลืองอร่ามออกมา แขนของเขา เริ่มเปลี่ยนเป็นหนวดของปลาหมึกขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง พร้อมทั้งมัดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ที่ขยายใหญ่ขึ้น เสียงของเสื้อผ้าฉีกขาด ต่อมาก็มีน้ำซอสสีเหลืองๆ ไหลออกมาเคลือบไว้ทั่วร่างกาย

ทันทีที่ร่างกายครูใหญ่ เปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ ครูสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ถึงกับอ้วกพุ่งออกมา ครูใหญ่หันหลังกลับไปตวาดเสียงใส่

“นี่เธอจะอ้วกมันทุกครั้งเลยรึไง!!”

“โทษทีค่ะ ผ.อ. ฉันยังไม่ชินกับมันสักที”

ขณะที่ทุกคนยืนคุยกันอยู่นั้น จู่ ๆ โซก็กลับมาลุกยืนขึ้นได้อีกครั้ง เหมือนตอนนี้ร่างกายของเขาจะรักษาบาดแผลจนหายได้แล้ว ทำเอาอาจารย์ทาเคบะตกใจอยู่ไม่น้อย ครูใหญ่ไม่รอช้า เขารีบกระโจนเข้าไปหาโซด้วยความเร็ว

ครูใหญ่ใช้มือที่เป็นหนวดปลาหมึกฟาดด้วยความแรงใส่ที่ลำตัวของโซ โซกระเด็นออกไปจนติดกำแพงบาเรีย แต่เขาก็ลุกกลับขึ้นมาด้วยความเร็วเช่นกัน ครูใหญ่ไม่รอให้โซตั้งหลักหลักได้ดี ครูใหญ่พุ่งเข้าไป!! เขากระหน่ำฟาดด้วยความแรงอย่างต่อเนื่อง

โซตอนนี้ทำได้แค่ตั้งรับไว้ โซยกแขนสองข้างขึ้นมาตั้งการ์ดกันเอาไว้ ครูใหญ่ยังคงฟาดอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมทั้งยังปล่อยน้ำซอสสีเหลืองทิ้งไว้ทั่วสนาม โซเริ่มมองความเร็วของหนวดปลาหมึกออก เขารอจังหวะแล้วจากนั้นก็คว้ามันไว้ ทำเอาครูใหญ่ตกใจ แต่ด้วยความลื่นของน้ำซอสที่เคลือบหนวดปลาหมึกไว้ ทำให้ครูใหญ่สามารถรูดหนวดออกมาจากฝ่ามือของโซได้

“มันเริ่มตามความเร็วของเราทันแล้วสินะ”

ทั้งคู่พุ่งเข้าต่อสู้กันอีกครั้ง แต่ด้วยน้ำซอสที่เลอะอยู่เต็มพื้น ทำให้จังหวะที่โซใช้เท้าดีดตัว กลับกลายเป็นว่าเขาฟรีทิ้งอยู่กับที่ ครูใหญ่ใช้โอกาสนี้ฟาดหนวดปลาหมึกที่ห่อหุ้มพลังเวทเพิ่มเข้าไปฟาดใส่โซอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง คราวนี้พลังมันรุนแรงขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก

การฟาดทุกครั้งมันทำให้เกิดบาดแผลขึ้น โซกระเด็นไปทุกครั้งที่โดนฟาดครูใหญ่ก็พุ่งตามไปฟาดอย่างต่อเนื่องไม่มีช่องว่างให้โซได้ฟื้นฟูตัวเอง หลังจากที่โจมตีอย่างต่อเนื่องครูใหญ่ก็รีบสั่งให้อาจารย์ทาเคบะ ใช่บาเรียสร้างเป็นเครื่องพันธนาการ โซทันที

“จังหวะนี้แหละทาเคบะจับเขาเอาไว้”

อาจารย์ทาเคบะใช้บาเรียล็อกทุกส่วนของร่างกายโซไว้ ในที่สุดโซก็ถูกครูใหญ่และอาจารย์ทาเคบะล็อกตัวไว้สำเร็จ โซร้องขู่คำรามด้วยความโกรธ

“รุยเข้ามานี้หน่อย”

อาจารย์ใหญ่เรียกให้รุยเดินเข้าไปหา

“อาหารที่เธอปรุงนะ มันมีพลังเวทที่บิดเบี้ยวมหาศาลอยู่ เธอต้องเป็นคนคลายมันออก”

ครูใหญ่ชี้นิ้วไปทางโซ บอกให้รุยเดินเข้าไปสัมผัสตัวโซแล้วคลายพลังเวทที่กำลังครอบงำจิตใจของโซออก รุยเดินเข้าไปจับลงที่กลางหน้าอกของโซ

“แล้วผมต้องทำยังไงต่อ” รุยพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“จงสัมผัสให้ถึงพลังแก่นเวทย์สิ เพ่งสมาธิลงไปที่ฝ่ามือ หากสัมผัสก้อนพลังเวทขนาดใหญ่ได้แล้ว ให้เธอพูดว่าคลาย”

“คลาย..” หลังจากที่รุยพูดคำว่าคลายร่างกายของโซก็ค่อยๆ เปลี่ยนสภาพกลับคืนเป็นร่างมนุษย์แบบเดิม อาจารย์ทาเคบะและครูใหญ่ก็ได้คลายพลังของตัวเองออกเช่นกัน หน่วยพยาบาลรีบวิ่งเข้ามาอุ้มตัวโซและบาจิ ไปทำการรักษาทันที

“ทุกคนจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” รุยพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เขารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็คงดี…” ครูใหญ่พูดแล้วเดินจากไป

อาจารย์ทาเคบะเข้ามาจับที่ไหล่ของรุย พร้อมกับยิ้มให้เขา “ฉันเชื่อว่าทุกคนจะต้องปลอดภัยแน่นอน”

หลังเหตุการณ์ผ่านไปสองวัน รุยได้เข้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อถามเรื่องอาการของโซและบาจิ

“คุณหมอครับ อาการของเพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ”

หมอได้เล่าอาการของบาจิให้รุยฟัง... บาจิอาการหนักพอสมควร กระดูกที่แตกหักนั้นรุนแรงมากเขาอาจต้องใช้เวลานอนรักษาตัวในโรงพยาบาลไปอีกเป็นเดือน แต่สิ่งที่หนักที่สุดเลยคือดวงตาทั้งสองข้างของบาจิ หมอไม่สามารถรักษาลูกตาของเขาได้เนื่องจากลูกตาได้หลุดออกมาเป็นเวลานาน ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อตาย บาจิจะต้องกลายเป็นคนตาบอดไปตลอดชีวิต

หลังจากที่รุยได้ฟังสิ่งที่หมอบอก น้ำตาก็ไหลออกมา “มันเป็นความผิดของผมเอง”

หมอยังได้เล่าถึงอาการของโซต่อ โซนั้นดูเหมือนจะแย่ไม่แพ้บาจิ ร่างกายของเขารับพลังงานอันมหาศาลเป็นเวลานาน ทำให้เซลล์และต่อมรับพลังงานทุกส่วนในร่างกายใช้ความสามารถเกินขีดจำกัดไปหลายเท่า

ถึงเขาจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติแต่เขาจะไม่สามารถ เป็นร่างรับพลังงานได้อีกต่อ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แย่สุดๆ ของโลกนี้ การเป็นคนธรรมดาไม่ต่างอะไรจากการเป็นคนไร้ค่า

เพราะโลกนี้หากไม่มีพลังอะไรเลยก็จะถูกมองว่าไร้ประโยชน์ อนาคตของเขาจะไม่มีใครจ้างทำงาน จะไม่มีใครอยากคบหา และ คนที่ไร้พลังมักจะถูกต่อว่าและเอาเปรียบอยู่เสมอ

รุยช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาของเขาไหลออกมาไม่หยุด รุยได้แต่โทษตัวเองอยู่แบบนั้น จนอาจารย์ทาเคบะต้องมาพาตัวเขาออกไป

“เธออย่าโทษตัวเองไปเลยนะ เพราะทุกคนเขาสมัครใจในการสอบครั้งนี้ด้วยตัวเอง”

อาจารย์ทาเคบะลูบหัวรุยพร้อมปลอบประโลม เพราะไม่อยากให้รุยต้องโทษตัวเองอยู่แบบนี้

“มันเป็นเพราะผมนี้แหละ ถ้าผม...ฮือ..ฮื..อ...ถ้าผมไม่ทำอาหารให้โซกิน ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้”

รุยวิ่งสติแตกหนีเข้าไปในป่า เขาทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ไม่เป็นอะไรนะลูก”

แม่เดินเข้ามาปลอบรุยที่กำลังนั่งเสียใจคนเดียว อยู่กลางป่า

“ผมจะเลิกเป็นคิงครับแม่”

รุยบอกกับคุณแม่และร้องไห้ออกมาไม่หยุด

“จะล้มเลิกการเป็นคิงเพียงเพราะเรียงแค่นี้อย่างงั้นเหรอเจ้าหนู”

เสียงของชายแกที่เดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เมื่อเงาจากต้นไม้ค่อยๆ เคลื่อนออกไปก็เผยให้เห็นร่างของครูใหญ่ คุณครูใหญ่เดินเข้ามาหารุยพร้อมกับให้ข้อคิดรุย

“ถ้าเธอยอมแพ้ ก็เท่ากับสิ่งที่เพื่อนยอมเสียไปต้องสูญเปล่านะสิ”

“การที่ทุกคนยืนหยัดที่จะต่อสู้ด้วยอาหารของนาย ก็เพราะว่าเขาเชื่อใจในตัวนายไม่ใช่รึไง”

“ครูใหญ่....ฮือ...อ...” รุยกลั้นใจปาดน้ำตาบนหน้าออก

“ผมจะแข็งแกร่งขึ้นครับ ผมจะต้องปกป้องเพื่อนของผมและหมูบ้านนี้ไว้ให้ได้”

หลังจากที่รุยได้คุยกับครูใหญ่เขาก็มีเป้าหมายในการเป็นคิงต่อไป เพื่อที่จะปกป้องเพื่อนของเขา และ ทุกคนที่รุยได้คิดว่าตัวเองทำร้ายไป รุยจำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มากกว่านี้

“ว่าแต่... ฉันขอดูกระทะของเธอหน่อยได้ไหม?”

ครูใหญ่ต้องการตรวจสอบดูกระทะที่รุยใช้ รุยส่งมันให้กับเขา หลังจากที่ครูใหญ่ได้สัมผัสและพลิกดูไปมา เขาก็รู้ได้ทันทีว่ากระทะใบนี้มันผิดปกติ “เธอใช้กระทะใบนี้มานานแค่ไหนแล้วละเนี่ย” ครูใหญ่ถามด้วยความสงสัย

“ผมได้รับมันต่อมาจากคุณพ่อนะครับ”

กระทะใบนี้ พ่อของรุยได้ส่งต่อมันให้เขา มันเป็นกระทะที่มีความเก่าพอสมควร รอบๆ ตัวกระทะ ก็มีแต่รอยบุบจากการใช้มานานมากมาย ทำให้ครูใหญ่รู้ได้ในทันทีที่สัมผัส

“กระทะของเธอมันใช้ไม่ได้แล้วนะเจ้าหนู”

ครูใหญ่อธิบายว่า กระทะของรุยนั้นมีทั้งรอยบุบ รอยรั่วมากมายไปหมด มันทำให้พลังเวทที่ปรุงลงไปในอาหาร บิดเบี้ยว เกิดความไม่เสถียรขึ้นและผิดเพี้ยนไปหมด หากผู้รับพลังงาน กินอาหารที่มีพลังเวทบิดเบี้ยวเข้าไปอาจเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ ยิ่งผู้ที่ปรุงอาหารมีพลังเวทมหาศาล ความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งทวีคูณจนเกินความควบคุม

“ฉันมีเพื่อนที่ตีกระทะเก่งๆ อยู่คนหนึ่ง แต่เขาอยู่ห่างออกไปคนละหมู่บ้านนะ”

คุณครูใหญ่แนะนำและส่งแผนที่ให้กับรุยดู หมู่บ้านของเพื่อนครูใหญ่ดูเหมือนจะอยู่ห่างออกไปไกลพอสมควร ครู่ใหญ่ให้รุยคุยกับคุณแม่เพื่อตัดสินใจ หากเขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น รุยจำเป็นจะต้องมีกระทะที่ดี

“ผมไปได้ใช่ไหมครับแม่?”

สายตาเจ้าหนูรุยกลับมาดูมุ่งมั่นขึ้นอีกครั้ง เขาจ้องมองยังใบหน้าของคุณแม่ที่แสนจะเป็นห่วงลูก แต่ด้วยแววตาของรุยนั้น มันทำให้คุณแม่ไม่อาจปฏิเสธได้

“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”

คุณแม่กล่าวคำลาพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมาเบาๆ

รุยได้เตรียมตัวออกเดินทางไปยังหมู่บ้านของช่างตีกระทะ แต่เขาได้ออกไปคนเดียวเนื่องจากคุณแม่ได้ขอร้องให้ครูใหญ่หาคนเดินทางไปกับรุยด้วยอีกคน ครูใหญ่จึงได้ส่ง หลานชายจอมขี้เกียจของเขาไป

การเดินทางในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รุยได้ออกไปนอกหมู่บ้าน เขาดูตื่นเต้นกับมันมากๆ

“ไปกันเถอะเจ้าทึ่ม”

เสียงของหลานชายครูใหญ่ตะโกนบอกรุย จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ออกเดินทาง........

ฮอต

Comments

Alan

Alan

พูดเลยว่าติดใจนะจ๊ะ แอดอัพเร็วๆเลย

2025-03-20

1

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!