ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านผมดังขึ้น
"g-6 อยู่รึเปล่า"
นั้นเป็นเสียงของหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนักล่าผี
ใครกันนะมาเคาะประตู ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะเสียงของสมาชิกทุกคนนั้นเหมือนกัน คงเป็นเพราะต้องการปกปิดตัวตนเเต่ยังไง
ลองลงไปเปิดประตูดูดีกว่า
ผมเปิดประตูออกไปเเล้วพบว่านั่นคือ g-3เพราะสมาชิกเเต่ละคนจะมีโค้มเนมติดอยู่ที่หน้าอก
"อะไรก็อยู่นิ"
"งานของผมจบไปเเล้วนะ มีธุระอะไรกับผม?"
"ช่วยฟังสิ่งที่ฉันพูดที"
"งั้นg-3เข้ามาก่อนเลย"
ผมพาเขามานั้งที่ห้องรับเเขกเเละเริ่มบทสนทนา
"คุณอยากพูดอะไรหรอ g-3 "
"ขาของฉันที่ขาดไปจากการต่อสู่มันเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น"
"มันเกิดอะไรขึ้นกับขาของคุณ?"
"คุณเห็นเองก็น่าจะเข้าใจกว่า"
เเละg-3ก็ถอดขาเทียมออกเเละเปิดผ้าพันเเผล ขาของg-3 ขาดตั้งเเต่หัวเข่าลงไป ตรงจุดที่ขาดผมเห็นดวงตาประหลาดที่จ้องมมองผมอยู่
"นี่มันอะไร!"
"อย่างที่เห็นg-6มันเกิดขึ้นหลังจากที่ออกจาสุสาน ตอนนี้ดวงตามันเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวานยังมี1ดวงอยู่เลย ประธานบอกให้ฉันมาหาคุณเพราะคุณคือคนที่ทำลายเเหล่งกำเนิดอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง"
ผมใช้ดวงตาที่สามมองไปที่g-3พบว่าครึ่งนึงของเขากลายเป็นผีไปเเล้วเพราะเขาถูกผีโจมตีมาทำให้ความเเค้นเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดสิ่งเเบบนี้ขึ้น ปกติเเล้วถ้ากรนีเดียวกันความเเค้นที่เข้าสู่ร่างกายจะหายไปเองภายในไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผีถูกจักการ
เเต่นี่มันนานเกินไปหรืออาจเป็นเพราะเขาถูกโจมตีจากผีในนิวรณ์เลยทำให้เป็นเเบบนี้ ผมอธิบายให้g-3 ฟัง เเละเขาก็ถามผมว่า
"มันมีวิธีเเก้มั้ย"
ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเเต่ตอนนั้นผมคิดได้ว่า คำภีร์มิติรัตติกาลอาจช่วยได้เพราะผมได้มันมาจากสุสาน ผมรู้ว่ามันบ้ามากๆที่ใช่สิ่งนี่ เเต่g-3 มาถึงที่บ้านของผมเเล้วต้องช่วยให้ได้
เเต่ก่อนหน้านั้น g-3 ได้พูดขึ้นเเล้วถอดหน้ากากออก
"ฉัน ชื่อคันนะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
ผมตกใจมากที่เธอถอดหน้ากากเเละบอกชื่อกับผม
"ผมชื่อคิริว ยินดีเช่นกัน"
ใบหน้าภายใต้หน้ากากคือ เด็กสาวผมสีม้วงตาสีฟ้า
"งั้นไปที่ห้องของผมเลยผมเจอวิธีช่วยคุณเเล้ว"
"อุ้มไปหน่อยสิฉันเดินไม่ไหวเเล้ว"
ผมมองไปเห็นขาของเธอ ซึ่งในตอนนี้ดวงตาได้เพิ่มขึ้นมาเเล้ว
ผมต้องรีบจัดการกับความเเค้นในตัวของเธอ ไม่งั้นเธอคงกลายเป็นผีเต็มตัวเเน่เลย
ผมอุ่มเธอไปไว้บนเตียงในห้องเเละหยิบคำภีร์ รัตติกาล ขึ้นมา
ผมเปิดอ่านมันเเล้วพบว่าข้างในนั้นมันว่างเปล่า เเต่ในกระดาษเเผ่นเเรกมีข้อความเขียนไว้ว่า 'ผู้ที่จะใช้งานต้องเป็นผู้ที่ทำสัญญาเพื่อเป็นเจ้าของคำภีร์เท่านั่น' ทำสัญญาหรอเเล้วมันต้องทำยังไง? อยู่ๆมือของผมที่จับกระดาษอยู่ก็มีเลือดไหล
ออกมาเเล้วเลือดหยดนั้นก็ตกลงบนหน้าเเรกของคัมภีร์ จึงทำให้ผมกลายเป็นเจ้าของคำภีรัตติกาล เเละบรรยากาศรอบๆบ้านผมก็เปลียนไปท้องฟ้ามืดลงเเละมีลมเเรงพัดตลอดเวลา
ในตอนนี่คันนะได้หมดสติไปเเล้วผมจึงเปิดอ่านมันอีกครั้งเเละโชคดีที่ผมเปิดไปเจอหน้าที่เกี่ยวกับการชำระความเเค้นที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ในหน้านั้นมีบทสวดเขียนไว้ผมไม่รีรอที่จะท่องบทสวดนั้นออกมา
"ข้าขอเรียกนามแห่งเจ้าผู้ถูกพันธนาการ
เจ้าผู้ถูกโซ่ตรวนแห่งความแค้นกัดกินจิตใจ
เจ้าผู้หลงลืมตน ท่ามกลางเงาแห่งความมืด
ขอจงฟังเสียงของข้า—
เสียงของผู้ที่ยังคงยืนอยู่ข้างเจ้า!"
"เถ้าธุลีแห่งความอาฆาต จงมลายหายไป
โซ่ตรวนแห่งคำสาป จงถูกปลดเปลื้อง
ไฟแห่งแค้นเคือง จงมอดดับสิ้น
และเจ้าผู้เป็นอิสระ จงหวนคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง!"
"ข้าขอเป็นแสงสว่างท่ามกลางรัตติกาล
ข้าขอเป็นเสียงเรียกจากความเงียบงัน
ข้าขอเป็นมือที่เอื้อมไปสู่เจ้า—
ณ บัดนี้ ข้าขอปลดปล่อยเจ้า!
คำสาปแห่งความแค้น จงสลายหายไป!"
ทันทีที่ร่ายเสร็จดวงตาที่ขาของคันนะก็สลายหายไป
เเละขาของเธอก็งอกขึ้นมาใหม่ ทันทีที่เธอได้สติกลับคืนมา
เธอก็พุ้งเข้ากอดผมทันที
"ขอบคุณมากนะคิริวเธอช่วยฉันไว้มากเลยทีเดียว"
เธอเดินทางกลับไปที่สมาคมเเละเธอก็พูกกับผมว่า
"เดี๋ยวฉันมาหาใหม่นะ"
หลังจากที่คันนะกลับไปได้ไม่นาน เหล่าปีศาจอีกามากมายก็ปรากฎตัวขึ้นรอบบ้านของผม ปีศาจอีกาพวกนั้นมีเป้าหมายเดียวกันคือเเย่งชิงคำภีร์ ตัวผมในตอนนี้สับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น เเต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็มีปีศาจอีกาบินตรงเข้ามาที่หน้าต่างห้องนอนมันชนหน้าต่างจนเเตกเเละมันก็เขามาโจมตีผมเพื่อหมายเอาชีวิตเเละเเย่งชิงคำภีร์
ผมใช้ดวงตาที่สามเผามันจนไหม่เกรียมเเต่พวกมันมีจำนวนเยอะเกินไปเหล่าปีศาจอีกาบุกเขามาโจมตีอย่างต่อเนื่อง
เเต่มีบางอย่างขึ้น
ตู้ม!
เสียงของระเบิดดังขึ้นนอกบ้านดึงดูดปีศาจอีกาให้ไปสนใจเสียงระเบิดเเละหลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นหลายนัด
กองกำลังททารติดอาวุท นำทีมโดย เร็น เขามาช่วยผมเพราะทางสมาคมได้จับสัญญาณของปีศาจจำนวนมากที่อยู่รอบบ้านของผม
ต่อจากนั้นพื่นที่รอบบ้านของผมก็กลายเป็นสงครามขนาดย่อม
การต่อสู้ของปีศาจอีกากับทหารติดอาวุทของสมาคมนักล่าผีเเละปีศาจ การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างยาวนานเเละไม่มีทีถ้าว่าหยุดลง
ปีศาจอีกาที่เริ่มเสียเปรียบก็ได้รวมร่างกับจนกลายเป็นอีกา
ขนาดยักษ์
มันส่งเสียงกรีดร้องออกมาจนทำให้ทหารหลายคนหมดสติไป
ผมที่ไม่อยากยืนดูการต่อสู่อยู่เชยๆเลยใช้พลังของดวงตาที่สาม
สร้างดาบไฟขึ้นมาเเละผมก็ได้พุ้งเข้าไปโจมตีเจ้าอีกายักษ์ตัวนั้น
ดาบไฟของผมฟันเข้าที่ปีกของอีกาจนขาดทำให้มันบินไม่ได้
เเละผมก็เเทงไปที่หัวใจของมันทำให้มันถูกไฟสีเขียวของผมเผาจนกลายเป็นฝุ่นผงในที่สุด
หลังการต่อสู้จบลงไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตมีเพียงรายงานการได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั่น
ซากของเหล่าอีกาที่เหลือจากการต่อสู้ทางสมาคมได้เก็บซากเหล่านั้นไปวิจัยเเละหาสาเหตุการเกิดที่เเท้จริงต่อไป
เเละเร็น ก็เล่าถึงเล่าถึงคำภีร์มิติรัตติกาลว่า
"มันคือคำภีร์ที่การินที่เป็นเจ้าของสุสานที่เกิดนิวรณ์สร้างขึ้นเพื่อจดบันทึกคาทาเเละบทสวดรวมถึงขั้นตอนการกำจัดปีศาจเเต่ละชนิด ผู้ใดที่เป็นเจ้าของหรือได้รับสืบทอดมันมานั้นสามารถเรียกใช้คำภีร์ได้ตลอดเวลา มันจะเปิดหน้าของคาทาที่ผู้ใช้ต้องการ พลังอำนาจของมันมีผลทั้งกับปีศาจเเละผี ทางสมาคมไม่สามารถครอบครองเอาไว้ได้เลยมอบหมายให้คุณคิริวเป็นผู้ดูเเลมันครับ"
"เเละสาเหตุของการปรากฎตัวเเละการโจมตีของปีศาจอีกานั้น
อาจเกิดจากที่พลังของคำภีร์นั้นดึงดูดความกลัวมารวมกันเป็นรูปร่างของอีกา เเละอาจดึงดูดความเเค้นจนเป็นเเบบเดียวกันก็ได้ดังนั้นคุณไม่ควรใช้คำภีร์นี้อีก"
"ผมจะระวังครับคุณเร็น"
หลังจบบทสนทนาผมก็ไปอยู่ห้องพักชั่วคราวเพระบ้านของผมเสียหายหนักจากการต่อสู้เเละกำลังรอการซ่อมเเซมดูเหมือนว่าทั้งบ้านของผมพังยับยกเว้นห้องนอน
ผมนอนลงบนเตียงในห้องพักเเละหลับไป....
"คิริวจัง~ฉันมาหาเเล้วน้า~"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments