รุ่นพี่เย็นชาคนนั้นเป็นรูมเมทของผม
รูมเมท
สถานการณ์ในตอนนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างกระอักกระอ่วน
ผมนั่งอยู่บนรถไฟฟ้าแบบ4ล้อ ในขณะที่อีกคนยืนกอดอกพิงกรอบประตูบ้านและจ้องตรงมาที่ผมด้วยนัยน์ตาเรียบเฉย
แต่สาบานได้เลยว่ามีแว๊บนึงที่ผมสังเกตุเห็นได้ถึงประกายบางอย่างที่ฉายแววอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น แต่ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็เลือนหายไป หลงเหลือไว้เพียงความเฉยชาที่ทำเอาร่างกายของผมเกร็งจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
ถ้าถามว่าเห็นได้ไง ทั้งๆที่ผมนั่งอยู่บนรถ น่าจะไกลกับตรงที่เขายืนอยู่รึเปล่า?
ก็จริงอยู่ที่ผมไม่ได้ไปยืนประจันหน้าแบบจ้องตากันปริบๆ แต่เรื่องของเรื่องก็คือผมกำลังจะเอารถไปจอดที่ข้างบ้านไง แล้วในตอนนั้นเองที่ผมขับรถเข้าไปใกล้กับตัวบ้าน แล้วชะงักที่เห็นจักรยานคันนึงจอดอยู่ และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดออกมาพอดี ผมตกใจก็เลยจอดรถกระทันหันตรงบริเวณหน้าประตูบ้านนั่นแหละครับ
บลู
ผมพักอยู่ที่บ้านนี้ครับ
ผมกลั้นใจพูดออกไป ทั้งๆที่ความจริงตอนนี้แม้แต่ปากก็ไม่กล้าที่จะขยับ เพราะอะไรน่ะหรอ...
ก็คนตรงหน้าเล่นจ้องกันไม่เลิกเลยเนี่ยสิ
ไหนจะท่าทางของเขาตอนที่มองผมยังชวนให้รู้สึกขนลุกแปลกๆ
ถ้ามองแค่หน้าอย่างเดียวก็ได้อยู่หรอก แต่ทำไมจะต้องไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยล่ะครับเนี่ย
อย่างน้อยก็น่าจะตอบอะไรกลับมาสักอย่างสิ
จะมายืนจ้องหน้ากันแบบนี้ต่อไปให้ได้อะไรขึ้นมา
หน้าแตกดังเพล้งเลยครับ...
ยังไม่ทันได้เอ่ยแนะนำตัวเพื่อสานสัมพันธ์กับรูมเมท แต่ผมก็โดนปฏิเสธในแบบที่ทำเอาไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว
ขอสารภาพว่าน้ำตาจะไหลแล้วครับตอนนี้
เขาพูดมาแค่นั้น ก่อนจะเดินไปที่ข้างบ้าน และออกมาพร้อมกับจักรยานที่ผมเห็นในตอนแรก
ผมจำต้องยอมถอยรถหลบออกมา เพื่อให้เขาจูงจักรยานออกไปอย่างช่วยไม่ได้
ทางก็ตั้งกว้าง แล้วผมจะหลบให้เขาทำไมวะครับ
ในที่สุดผมก็เข้ามาถึงห้องนอนได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน
หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นออกไปแล้ว ผมก็เลยถือโอกาสนี้รีบขับรถเข้ามาจอดไว้ข้างบ้าน แล้วก็ขนกระเป๋าสัมภาระของตัวเองเข้ามาด้านใน
และวินาทีตอนที่เห็นการตกแต่งรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านพักหลังนี้ ผมรู้สึกเป็นปลื้มอย่างถึงที่สุด พูดไม่ออกกันเลยทีเดียว บอกตามตรง ผมอยากย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรจริงๆ
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นทำให้ผมหลุดโฟกัสไปชั่วขณะหนึ่ง
ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่มที่ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่หรือว่าเล็กจนเกินไป
จากที่กะดูจากสายตา รู้สึกว่าเตียงนี้สามารถนอนได้ถึง2คนเลยทีเดียว
ผมว่าจะพักสายตาสักแป๊ปแล้วค่อยลุกมาจัดของเข้าที่
แต่เมื่อผมกดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามานี่สิ
ผมควรโทรไปปฏิเสธดีมั้ย? หรืออะไรยังไงดี
รู้สึกว่าตัวผมเริ่มจะนั่งไม่ติดที่แล้ว หน้าจอยังคงค้างเอาไว้ที่หน้าแชทของใครบางคนอยู่ และดูเหมือนว่าทางนั้นเองก็กำลังรอคำตอบจากผมอยู่เช่นกัน
เรน
ออกไปเดินตลาดกลางคืนกัน
เรน
ได้ยินคนแถวนี้เขาพูดกัน
บลู
เรนเก็บของเสร็จแล้วหรอ
บลู
จะออกไปข้างนอกให้เหนื่อยมากกว่าเดิมทำไม
เรน
อย่างน้อยมาถึงแล้วก็ต้องออกไปสำรวจพื้นที่ดิ
เรน
ตอนแรกเห็นบลูบอกจะไปเดินเล่นไม่ใช่หรอ
บลู
ไว้ไปพรุ่งนี้ไม่ได้หรอ
เรน
แต่พรุ่งนี้มันไม่มีตลาดนะ
บลู
เดี๋ยวขอหลับสักชม.ก่อนนะ
แล้วผมก็ตอบตกลงไปแล้วเรียบร้อย
อุตส่าห์หายไปตีกับตัวเองมาตั้งนาน สุดท้ายก็ไม่กล้าปฏิเสธอยู่ดี
ไอ้นิสัยยอมคนของผมนี่มันจะไม่มีวันหายไปง่ายๆใช่มั้ย?
ตอนนี้เป็นเวลา5โมงเย็นแบบเป๊ะๆ
และตัวผมก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดิมอีกแล้วครับ
คือผมกำลังจะออกจากบ้านเพื่อไปเดินตลาดกลางคืนกับเรนนั่นแหละ
แต่ไม่รู้เพราะบังเอิญหรืออะไร พอก้าวขาออกจากห้องปุ๊บ คุณรูมเมทของผมก็ปรากฏตัวทันทีราวกับนัดกันไว้
อีกฝ่ายกำลังจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของผม
พอมาเห็นเขาแบบนี้แล้วผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาเลย
นั่นก็เพราะว่าเมื่อตอนบ่าย3กว่าๆ ช่วงที่ผมแบกสัมภาระเข้ามาในบ้านนั่นแหละ
ตอนขึ้นชั้นสองมาคือผมไม่รู้ไงว่าห้องไหนเป็นห้องนอนของตัวเอง
ก็เลยเดาสุ่ม และดันโป๊ะแตกไปเปิดห้องของรูมเมทตัวเองเข้า
แค่นั้นไม่พอ ผมยังถือวิสาสะเดินเข้าไปอีก ยืนชื่นชมกับสไตล์การจัดห้องอยู่นาน พึ่งจะมารู้ตัวว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองก็ตอนที่หันไปเจอรูปเขาแปะอยู่บนผนังห้องนั่นแหละ
คนอะไรจะแปะรูปตัวเองไว้ในห้องนอน ประเด็นคือขนาดของรูปภาพนั้นมันใหญ่มาก
รู้สึกได้เลยว่าตอนนั้นผมยืนอึ้งอยู่สักพักนึง ก่อนจะรีบตั้งสติและพาตัวเองออกมาจากห้องนั้นโดยเร็ว
ตกใจกับขนาดของรูปภาพไม่พอ ยังต้องมาใจเต้นให้กับคนในภาพอีก
จะอะไรล่ะ ก็ตัวเขาในภาพไม่ได้ใส่เสื้อนี่นา
ความไหล่กว้างกับซิกแพคแน่นๆ พร้อมกับท่าโพสที่ไม่ดีต่อใจเอาซะเลย
โชคดีที่เสียงของเขาดึงผมให้กลับมาสู่ปัจจุบัน และผมก็หวังว่าตัวเองคงจะไม่เผลอทำสีหน้าเหม่อลอยออกไปต่อหน้าเขาหรอกนะ
เขามองหน้าผมด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้ว ไม่รู้หรอกว่าการมองแบบนั้นมันเรียกว่าอะไร ผมนึกคำไม่ออก
เอาเป็นว่ามันทำให้ผมรู้สึกขนลุกแล้วก็ร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้
อยากออกไปจากตรงนี้แล้ว ผมควรเดินออกไปเลยดีมั้ย? หรือจะรอให้เขาเข้าห้องไปก่อน
ผมหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะรีบพาตัวเองออกมาโดยเร็ว และไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองเขาด้วยซ้ำ
Comments