...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
......................
เพื่อนข้างบ้านที่ชอบช่วยเหลือ
เพื่อนข้างบ้านที่ชอบทำตัวแปลกๆ
และเพื่อนข้างบ้านที่แสดงท่าทีแปลกประหลาดชวนหลอนแอบขนลุกอยู่ไม่น้อย
อาซึกะสาววัย26..เธอทำงานสะสมเงินจนสามารถซื้อบ้านในหมู่บ้านหลังหนึ่งได้...ในวันนี้เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่สักทีหลังจากที่จัดการเรื่องเอกสารต่างๆและจัดการเรื่องย้ายบ้านจากในหมู่บ้านแถบชนบทย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านในเมืองอยู่นาน....เพราะที่ทำงานของเธออยู่ในเมือง..เธอจึงจำเป็นต้องย้ายเข้ามา..แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ต้องเสียเงินไปกับการเช่าบ้านคนอื่นอยู่..
ทันทีที่เธอค่อยๆทยอยขนของลงจากรถแท็กซี่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาอาสาช่วยขนของให้กับเธอ..เขาเป็นผู้ชายอายุห่างจากเธอไม่มากน่าจะราวๆ..28-30...
"มาครับเดี๋ยวผมช่วย.."
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและยิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันยกเองได้"
อาซึกะพูดปฏิเสธไปด้วยความเกรงใจและเพราะไม่รู้จัก..มาถึงวันแรกก็เข้ามาช่วยแบบนี้เธอเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน..
"ไม่เป็นไรหรอกครับ..ผมอยากจะช่วย"
เขาพูดด้วยความเต็มใจและยิ้มอีกเช่นเคย
"ฉันเกรงใจอะคะ"
อาซึกะพูดด้วยความเกรงใจและทำตัวไม่ถูก
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ..ใครที่ย้ายเข้ามาใหม่ๆผมก็มาช่วยทุกคนแหละครับ.."
เขาพูดเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำคือเรื่องปกติ
"จริงเหรอค่ะ.."
อาซึกะพูดด้วยความที่ไม่อยากเชื่อ
"ไม่เชื่อผมเหรอครับ.."
"เปล่าคะ..ไม่ใช่อย่างนั้น..ฉันแค่ไม่คิดว่าคนในเมืองจะมีคนจิตใจดีอยู่ด้วย"
อาซึกะพูดไปเพราะเธออยู่ในแถบชนบทและมีความคิดอย่างหนึ่งว่าคนในเมืองไม่ได้ใจดี..แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนใจดีกับเธอ
"คนในเมืองก็ไม่ได้ใจร้ายกันทุกคนหรอกครับ"
ชายคนนั้นเหมือนจะพูดแทนคนทั้งเมือง
หลังจากเขาช่วยเธอขนของขนกระเป๋าเสร็จเขาเดินจากไปโดยที่ไม่ลาหรือปริปากพูดอะไรแม้แต่น้อย..อาซึกะเองก็ถึงกับงงและก็แอบเสียดายเหมือนกันเพราะยังไม่ทันได้พูดขอบคุณเขาเลย..
ในตอนเย็นขณะที่เธอกำลังจัดตกแต่งต้นไม้ของเธออยู่..ก็มีป้าวัยกลางคนหนึ่ง
มาคุยกับเธอ..
"นี่แม่หนู..เมื่อตอนที่เธอมามีพ่อหนุ่มมาช่วยเธอถือของใช่ไหม.."
เธอพูดอย่างกับตาเห็น
"ใช่คะ..ทำไมเหรอค่ะ"
"พ่อหนุ่มคนนั้นน่ะเขาใจดีมากเลยนะ..
ตอนที่ป้าย้ายเขามาที่นี้ใหม่ๆอ่ะนะ..เขาก็มาช่วยถือของขนของเข้าบ้านป้าเหมือนกันจ้ะ"
"อ่อ...คะ"
"แล้วคุณป้ารู้ไหมค่ะว่าบ้านเขาอยู่ตรงไหนแล้วชื่ออะไร..พอดีฉันอยากจะไปขอบคุณเขาที่ช่วยขนของถือกระเป๋าน่ะค่ะ"
"แม่หนูไม่รู้อะไร..บ้านเขาก็อยู่ใกล้บ้านของแม่หนูไงจ๊ะ"
สิ้นเสียงป้าก็ทำเอาอาซึกะแอบตกใจและขนลุกอยู่ไม่น้อย..เพราะพอมองไปรอบๆ..ข้างบ้านของเธอแทบจะเงียบนอกจากบ้านเธอแล้วก็มีแค่บ้านฝั่งตรงข้ามเท่านั้น..ที่ดูเหมือนจะมีคนอยู่จริงๆเพราะรอบๆข้างๆบ้านเธอแทบจะไม่มีใครอยู่เลย..ถึงจะมีบ้านหลายหลังก็เถอะแต่ก็เงียบไร้แววผู้คน..
แต่หลังจากที่ป้าพูดจบผู้ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ที่กำแพงข้างบ้านเธอแล้ว..ทำเอาเธอตกใจไม่น้อย
"คุณ..."
"สวัสดีครับ..ผมซาโตชิ.."
เขาพูดขึ้นเหมือนกับรู้ว่าอาซึกะจะถามเขายังไงยังงั้น
"คะ..ยินดีที่ได้รู้จักคะคุณซาโตชิ..
ฉันอาซึกะคะ.."
"ผมรู้จักครับ.."
"รู้จักเหรอค่ะ!?.."
"ช่างเถอะครับ..ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกผมได้เลยครับ.."
"เอ่อ....อ่อ..คะ😶"
หลังจากที่เขาพูดจบก็ปล่อยให้อาซึกะยืนงงและสงสัยอยู่อย่างนั้นโดยที่เธอยังไม่ได้พูดต่อ..และแน่นอนว่าเธอยังไม่ได้พูดขอบคุณเขาอีกเช่นเคย
อาซึกะพยายามจะไปหาเขาที่บ้านทั้งเคาะประตูเรียกก็แล้วถามคนบ้านฝั่งตรงข้ามก็แล้ว..ก็มักจะไม่เจอเขาตลอดดูเหมือนว่าเขามักจะติดธุระและยุ่งอยู่ตลอดเวลาไม่มีพัก..และมักจะได้คำตอบเดิมกลับมาก็คือไม่เจอและไม่ได้คุยหรือว่าพูดขอบคุณเขาเช่นเดิม
อาซึกะเป็นคนที่ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร
หากใครช่วยเหลือเธอ..เธอก็มักจะขอบคุณและนำของกลับไปตอบแทนทันที..
"น่าแปลกนะ..อยู่บ้านใกล้กันแท้ๆ
แต่กลับไม่เคยเห็นตอนที่เขาออกจากบ้านเลย"
อาซึกะนั่งบ่นพึมพำกับตัวเองและตั้งข้อสงสัยในตัวของซาโตชิชายหนุ่มที่เธออยากจะตอบแทนและขอบคุณเขา..
นานวันเข้าหลายปีผ่านไปจนกระทั่งในที่สุดเธอก็ได้เจอกับเขา..
เขาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ลึกลับที่แทบจะไม่ค่อยได้เจอและเห็นและมีโอกาสได้เจอกันน้อยสุดๆ....และชวนให้เธอสงสัยเป็นที่สุด..
ในวันนี้เธอได้ขอให้เขาอยู่เพื่อเธอจะได้คุยกับเขานานๆหน่อยและเผื่อว่าเธอจะได้คำตอบ..ที่แทบจะไม่ได้เจอเขาเลยและสาเหตุที่เขาแทบจะไม่อยู่บ้านเลย..อาซึกะ..ในตอนนี้สงสัยและอยากรู้เป็นอย่างมาก
เมื่อซาโตชิเห็นอาซึกะขอร้องเขาเช่นนั้นเขาเองก็ยอมใจอ่อนให้กับเธอ..และยอมให้เธอเข้ามานั่งในบ้านของเขาส่วนอาซึกะเองก็ทำน้ำซุปบ้านเกิดของเธอมาให้เขาได้ลองชิมดูเหมือนกัน..และของที่เธอจะขอบคุณเขาอีกสองสามชิ้น..
"งั้นคุณนั่งเล่นไปพลางๆนะครับ...ผมจะไปดูงานที่ผมเพิ่งจะทำเสร็จไปเมื่อกี้นี้สักหน่อย.."
"คะ..ตามสบายเลยคะ..^^"
หลังจากที่ซาโตชิเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของเขา..อาซึกะก็ดันเหลือบไปเห็นประตูห้องนอนของเขาที่เปิดแง้มอยู่..
ดูเหมือนประตูที่ถูกเปิดแง้มอยู่นั้นไปดลใจความอยากรู้อยากเห็นของเธอขึ้นมา..และเหมือนว่าซาโตชิเองก็เปิดทางให้เธอด้วยเช่นกัน..
อาซึกะลุกขึ้นจากโซฟาค่อยๆเดินตรงไปหน้าประตูห้องนอนของซาโตชิ....เธอค่อยๆเปิดประตูที่ถูกแง้มอยู่ออก..
และก็พบกับความลับของเพื่อนบ้านของเธอที่เธอเองก็ไม่ควรจะรู้....หลังจากที่เธอเปิดประตูเดินเข้าไปเธอถึงกับยืนอึ้งนิ่งไปชั่วขณะ....เพราะข้างในห้องนอนที่ควรจะเป็นห้องนอนสำหรับพักผ่อนและผ่อนคลายนั้นเต็มไปด้วยขวดโหลแก้วที่เก็บซากศพของสัตว์นับไม่ถ้วนล้อมรอบเตียงของเขา..และที่ทำให้ชวนขนหัวลุกและทำเอาอาซึกะถึงกับหลอนไปอีกนานอย่างแน่นอนก็คือ..นิ้วมือของคนนับไม่ถ้วนที่ถูกเก็บเอาไว้ในขวดโหลแก้วพวกนั้น
อาซึกะยืนอึ้งนิ่งจนลืมตัวเพราะเธอสติหลุด
จู่ๆซาโตชิมายืนอยู่ข้างหลังของเธอแล้ว..
"ลองมาเป็นของสะสมให้กับผมดูไหมครับคุณอาซึกะ"
"แต่ถ้าหากคุณต้องการ..ผมคงต้องรอให้คุณตายก่อน...ผมถึงจะนำนิ้วมืออันงดงามของคุณมาสะสมได้😊"
"ผมชอบของสะสมพวกนี้เป็นพิเศษเลยล่ะครับ"
ซาโตชิโน้มตัวเข้ามาใกล้อาซึกะที่ยังยืนนิ่งอึ้งและตกใจในเวลาเดียวกันแล้วพูดกระซิบข้างหูของเธอ..พร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนหลอนและจิตอยู่หน่อยๆ..
ซาโตชิเขาทำอาชีพเป็นคนเฝ้าสุสานและเขามีหน้าที่ฝังศพคนที่ตายงานอดิเรกคือเก็บซากศพของสัตว์ที่ตายไปแล้วนำมาเก็บไว้...แต่ที่พิเศษก็คือนิ้วมือของศพของคนที่ตายไปแล้ว..เขาเป็นคนฝังศพของคนตายที่ถูกนำมาฝังที่นี้เขาจะดูแลและทำความสะอาดซากศพทุกศพก่อนจะนำลงหลุม..เขาจะตัดนิ้วมือทุกนิ้วของศพนั้นออกเพื่อนำไปเก็บสะสมและดูแลทำความสะอาดโหลแก้วอย่างดี..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments