[Yaoi] เจ้าต้นถั่วของพี่

[Yaoi] เจ้าต้นถั่วของพี่

ตอนที่ 1 เพาะเมล็ด

 

"เดี๋ยวพ่อจอดให้ลายลงตรงนี้ก็ได้ครับ"

"ได้ยังไงกันล่ะ เดินเข้าไปถูกรึไงเรา"

"กูเกิ้ลแมพก็มีปะพ่อ เอาน่า ปล่อยลายลงตรงนี้แหละ แล้วพ่อก็หาที่จอด ไว้สัมภาษณ์เสร็จลายโทรหา แล้วพ่อก็มารับ โอเค้?" ไม่รอให้พ่อได้พูดอะไร ทันทีที่รถชะลอตัว ม้าลายก็แทบจะกระโดดลงจากรถในทันที จนคนเป็นพ่อต้องแตะเบรคแล้วคอยมองซ้ายมองขวาเพราะไอ้ลูกชายดันขอลงตรงถนนใหญ่หลังมหาลัย เด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าแทบจะตลอดเวลา ส่งยิ้มแล้วโบกมือส่งให้พ่อขยับรถไป ก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วข้ามถนน

ลัดเลาะจนถึงประตูหลังมหาลัย เขาก็ต้องก้ม ๆ เงย ๆ หาทางเข้าไปยังตึกสัมภาษณ์ด้วยสมาร์ทโฟนในมือ " ตึกดาวระดับ... ตึกดาวระดับ..."

สองเท้าก้าวเดินพร้อมกับตาที่มองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เดินตามทางไปเรื่อย ๆ เงยหน้ามาอีกที เขาก็กำลังยืนอยู่ในดงต้นข้าวโพดที่สูงชะลูดเทียมอกของเขา เขาก้มลงมองมือถือตัวเองอีกครั้ง "งั้นตรงนี้คงจะเป็นแปลงคณะเกษตร"

เขามองซ้ายมองขวา เห็นตึกสีขาวตั้งอยู่ลิบ ๆ สัญชาตญาณบอกเขาให้เดินไปยังตึกที่ตั้งเป็นแถวอยู่ข้างหน้า

"อะ...เดินระวังหน่อยครับ" เสียงดังมาจากทางขวามือของม้าลาย

"ขอโทษครับ" ม้าลายรีบกล่าวคำขอโทษทันทีที่เห็นว่าเท้าข้างนึงของตัวเองกำลังย่ำอยู่ในแปลงต้นอ่อน เมื่ออีกคนยืนเต็มความสูงแล้วจึงเห็นได้ถึงความต่างกันของส่วนสูง ม้าลายเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะชักเท้ากลับมายืนในระยะที่ปลอดภัยกับต้นอ่อน

"มาสัมภาษณ์ใช่ไหม?" คนตัวสูงกว่าถามเสียงนิ่ง ๆ ก่อนจะดึงเอาเชือกฟางสีแดงมาผูกที่ปลายไม้ไผ่ซึ่งตัดเป็นท่อนเล็ก ๆ ยาวประมาน 1 ศอก แล้วเสียบลงไปในดินกั้นเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันการเดินตัดแปลงในอนาคต

"ตามพี่มาสิ..." คนตัวสูงปัดเศษดินออกจากมือก่อนจะเดินนำเข้าไปในตึกสีขาว ม้าลายลังเลใจ แต่ดูจากการแต่งตัวของเขาแล้วก็คงจะเป็นรุ่นพี่คณะนี้จริง ๆ นะแหละ เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มสัญลักษณ์ของคณะเกษตร...

"เพชร...พามาอีกคนละ" คนตัวสูงพูดเสียงเรียบเรื่อยพลางเอามือสองข้างใส่ในกระเป๋าหน้าของเสื้อที่อยู่บริเวณท้องน้อย เท่าที่สังเกตได้เขาดูเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อ ติดจะผอมแห้งไปหน่อย ไว้ผมยาวทรงหางเต่าระปกเสื้อ และหน้าตาถือว่าค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว

"มาอีกคนแล้วเหรอ น้องชื่ออะไรคะ?" พี่ผู้หญิงแต่งชุดนักศึกษาเต็มเครื่องแบบ ดูทรงแล้วน่าจะชื่อเพชร เดินเข้ามาชวนม้าลายคุย

"ชื่อม้าลายครับ"

"ชื่อน่ารักจังเลย"

"เสียงสองทันทีเลยนะ" พี่ผู้หญิงอีกคนนึงเดินเข้ามาสมทบก่อนจะพูดแนวจิกกัดไปหนึ่งประโยค คนฟังได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ กลั้วเสียงหัวเราะแห้ง ๆ คนมาใหม่แต่งตัวทะมัดทแมง เสื้อยืดสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาลประจำคณะ กางเกงยีนส์สีดำสนิทและรองเท้าผ้าใบที่เป็นสีเทาตุ่น ๆ จนมองไม่ออกว่าเป็นสีของมันจริง ๆ หรือเพราะว่าผ่านการใช้งานมาอย่างหนักกันแน่

"น้องสอบสัมภาษณ์ห้องไหนคะ?" คนทะมัดทแมงพุ่งคำถามมายังม้าลาย

"402..." คนตัวสูงเอื้อมมือมาจับข้อมือของม้าลายข้างที่กำลังถือเอกสารสำคัญประกอบการสอบสัมภาษณ์ ก่อนจะตอบเพื่อนไป

"งั้นเดี๋ยวตามพี่ไปยื่นเอกสารประกอบการสอบสัมภาษณ์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพี่พาไปหน้าห้องสอบสัมภาษณ์เอง" ผู้หญิงในชุดนักศึกษาพูดพลางเจือรอยยิ้มมาให้ ม้าลายยิ้มตอบ แล้วมองไปยังคนที่จับข้อมือของเขาค้างไว้อยู่ สัมผัสของเขาไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไปจนอดคิดไม่ได้ว่าเพราะเขามีอุณหภูมิที่พอเหมาะแบบนี้ต้นไม้ที่เขาปลูกคงจะเจริญเติบโตได้ดี คนตัวสูงกว่าปล่อยมือที่จับออกพลางสบตากับม้าลายก่อนจะหันหนีในทันที ม้าลายที่เป็นอิสระแล้วจึงเดินตามพี่ผู้หญิงชุดนักศึกษาไป

 

"ครับพ่อ ลายอยู่หน้าห้องสัมภาษณ์แล้วครับ...ครับ...เดี๋ยวโทรหาหลังสัมภาษณ์เสร็จอีกทีนึงครับ...ครับ...สวัสดีครับ"

"สวัสดี เราชื่อทรงยศนะ ชื่อเล่นชื่อบีม ยินดีที่ได้รู้จัก" ผู้ชายที่มีรูปร่างกึ่งเด็กชายกึ่งชายหนุ่มทักทายม้าลายทันทีที่เขาวางโทรศัพท์ สีหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตร

"เราชื่อม้าลาย ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" ม้าลายยิ้มตอบจนข้างแก้มขึ้นรอยบุ๋ม

"นายมีลักยิ้มด้วย"

"อ่า ใช่"

"เท่ชะมัด เราอยากมีบ้างอะ" พูดพลางก็เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งมือซ้ายกางออกจากกันแล้วก็นาบไปบนหน้าของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าม้าลายแล้วหัวเราะคิกคัก "ม้าลาย?"

"ใช่ เราชื่อม้าลาย"

"ชื่อแปลกดีอะ ทำไมถึงชื่อนี้อะ"

"คือว่า...ตอนแม่ท้องเราอะ แม่ฝันว่าตัวเองไปแอฟริกาไปเจอฝูงม้าลายอะ"

"ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อนาย?"

"อ่า ใช่"

"โคตรจะเจ๋ง เรานะมีพี่น้องสามคน เราเป็นคนสุดท้อง พี่คนโตชื่อ โบว์ พี่คนรองชื่อเบลล์ เราเลยชื่อบีมอะ"

"อ๋อ งี้นี่เอง"

"นายมาจากจังหวัดอะไรอะ เรามาจากนครพนม"

"เราอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง ขับรถ 1 ชั่วโมงถึง"

"งี้ก็ไม่ต้องอยู่หออะดิ ดีจัง เรานะ กำลังหารูมเมทอยู่ หอพักเขาบอกว่าจับกลุ่มกับเพื่อนมาจองห้องหรือจะสุ่มก็ได้อะ"

"สุ่ม?"

"ก็คือให้เขาจัดให้ ต่างคนต่างไม่รู้จักกันงี้"

"อ๋อ"

"เชิญค่ะ นักศึกษา" เสียงเรียกจากหน้าประตูทำให้ม้าลายและบีมยืดตัวตรงแทบจะในทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินตามเข้าห้องไป ภายในห้องแบ่งเป็นโต๊ะสัมภาษณ์ 3 โต๊ะ โต๊ะนึงมีอาจารย์ 2 คน หลังจากสัมภาษณ์เรียบร้อย ม้าลายก็โทรหาพ่อ เมื่อนัดแนะกันเสร็จ บีมที่พึ่งออกจากห้องสอบสัมภาษณ์ก็ขอแลกเปลี่ยนไลน์เอาไว้ติดต่อพูดคุยกัน ม้าลายก็ให้ไปด้วยความยินดี ไม่กี่นาทีต่อมาม้าลายก็ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเด็กเกษตร62 เป็นที่เรียบร้อย จำนวนคนที่เกือบ ๆ 200 คน ทำเอาม้าลายวิตกกังวล ทำได้เพียงมองการโต้ตอบนั้นเงียบ ๆ เท่าที่สังเกตจะมีแค่กลุ่มเดิม ๆ ที่คอยรับส่งมุกโต้ตอบกัน เป็นสีสันในช่องแชทสี่เหลี่ยม

 

 

"อะ...ระวังหน่อย" เสียงอู้อี้เย็น ๆ ดังขึ้น ม้าลายเงยหน้ามองซ้ายมองขวา หลังจากแยกกับบีมแล้วเขากะไว้ว่าจะเดินตัดแปลงเกษตรอีกครั้งแล้วให้พ่อมารับ ณ จุดเดิมที่ลงรถ เพราะเขาคิดว่าน่าจะสะดวกและวุ่นวายน้อยกว่าด้านหน้ามหาลัย

"ขอโทษครับ" เพราะมัวแต่สนใจแชทไลน์เขาเกือบจะเดินเข้าไปในแปลงต้นอ่อนอีกแล้ว เจ้าของเสียงมองหน้าม้าลายนิ่ง ๆ พลางขยับหมวกฟางปีกกว้างให้พอดีหัว

"น้องม้าลาย?"

"ครับ? รู้จักชื่อผมได้ไงอะ" ม้าลายมองใบหน้าที่โดนปิดไปครึ่งหน้าด้วยผ้าปิดปากแล้วได้แต่ทำหน้างง ใครอะ?

"จำกันไม่ได้จริงดิ" ว่าพลางก็ปลดผ้าปิดปากออกก่อนจะส่งยิ้มเจือเสียงหัวเราะในลำคอมาให้ ไม่รู้คนอื่นคิดยังไงกับภาพตรงหน้าแต่สำหรับม้าลายมีแต่ความสงสัยว่า เขาขำอะไร "ทำหน้าอย่างนั้นหมายความว่ายังไง?"

"ผมแค่สงสัยว่าพี่ขำอะไร" ม้าลายค่อนข้างแน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นคนเดียวกันกับคนที่นำทางม้าลายไปตึกสอบสัมภาษณ์ "แล้วก็มีแค่พี่ที่รู้จักชื่อผม มันดูไม่แฟร์เลยอะ"

"ขำที่เราจะเดินเข้าแปลงสองรอบ ละพี่ก็เป็นคนเตือนทั้งสองรอบนะสิ ส่วนพี่ชื่ออัศวิน เรียกแค่วินก็ได้" คนตัวสูงพูดพลางขยับเข้ามาใกล้ สีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น "แล้วกำลังจะกลับแล้วเหรอ?"

"ครับ พ่อมารอรับแล้ว"

"โอเค เดินทางปลอดภัย เจอกันวันปฐมนิเทศ" พูดพลางก็ยกหมัดขึ้นมาตรงหน้าม้าลาย ม้าลายมองหน้าคนตัวสูงสลับกับกำปั้นตรงหน้า

"ครับ" พูดจบม้าลายก็เดินออกมาเลย ปล่อยให้หมัดลอยค้างกลางอากาศ อัศวินทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปากและมองคนตัวเล็กกว่าเดินทอดน่องจนหายลับตาไป

 

"ไฮ เราหล่อนะ"

"เราม้าลาย" บทสนทนาเกิดขึ้นในวันปฐมนิเทศหลังจากรับรู้เรื่องแผนการเรียน แนวทางการลงทะเบียนเรียน และแจ้งชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา มาโนชหรือหล่อเป็นเพื่อนร่วมที่ปรึกษาเดียวกันกับม้าลาย หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งยุโรปแต่เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้เป็นลูกครึ่งแม้แต่นิดเดียว ไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์กรีดเลือดออกมามีแต่คำว่าไทยแน่นอน

"วันนี้มีเรียกรวมเจอรุ่นพี่ก่อนกินข้าวเที่ยงอะ ไปพร้อมกันป่ะ" หล่อเปรยขึ้นหลังจากเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นที่เรียบร้อย

"เอาดิ" ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินลงบันได เสียงของเพื่อนใหม่อีกคนก็เรียกชื่อหล่อดังมาจากชั้นบน

"หล่อ! รอด้วย!" ผู้หญิงรูปร่างสะโอดสะองใบหน้ากลมจิ้มลิ้ม ยิ้มจนตาหยีเรียกให้ทั้งม้าลายและหล่อหันไปมอง ทันทีที่เห็นเธอม้าลายก็เกิดอาการหน้าชาขึ้นมาเหมือนกับเส้นเลือดทุกเส้นพร้อมกันส่งเลือดมาที่หน้าของเขา

"ไอ้เกด เบา ๆ หน่อย เสียงดัง นี่ไม่ใช่โรงเรียนมัธยมนะ" เจ้าของชื่อได้แต่ปรามเพื่อนผู้หญิงของเขา

"เหมือนกันนะแหละ" เธอก้าวฝีเท้าจนตามมาทันทั้งคู่ที่รออยู่ตรงเชิงพักบันได "นี่ใครอะ"

"นี่ ม้าลาย เพื่อนร่วมอาจารย์ที่ปรึกษา"

"สวัสดีม้าลาย เราเกดนะ" พูดพลางก็ส่งยิ้มตบท้ายไปอีกครั้ง ม้าลายมองหน้าเกดก่อนจะหันหน้าไปอีกทางในทันที ความรู้สึกชาที่หน้ายังคงอยู่

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

"เกด มึงอย่าทำให้ม้าลายกลัวดิ"

"อย่ามา กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย" เกดเบิกตากว้างขึ้นมาอีกเล็กน้อยก่อนจะแสดงท่าทางโกรธใส่เพื่อนของตัวเองซึ่งไม่ได้ทำให้เธอดูน่ากลัวขึ้นมาเลย มิหนำซ้ำยังให้ความรู้สึกว่าน่ารักซะมากกว่า

หลังจากปรับตัวสักพักม้าลายก็เริ่มรู้สึกชินกับทั้งคู่ เกดเป็นเพื่อนมาจากโรงเรียนเดียวกับหล่อ ทั้งคู่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มอต้น เกดไม่ได้เรียนคณะเดียวกันกับม้าลายและหล่อ เธอเป็นเด็กคณะวิทยาศาสตร์ เกดแยกตัวไปตั้งแต่ทักทายกับหล่อเสร็จแล้ว บอกว่าจะไปคอยอยู่ที่โรงอาหารถ้าเลิกแล้วให้คอลไลน์มา

"ม้า...ลาย!" เสียงของทรงยศทักทายม้าลายในทันทีที่เจอหน้ากัน "นี่ ๆ แนะนำให้รู้จักกับแมว"

"หวัดดี เราแมว นายคือม้าลายใช่ป่ะ ไม่เห็นเคยโพสต์แนะนำตัวในโน้ตเลยอะ" เพื่อนใหม่เปิดประเด็นทันที

"โน้ต...มีโน้ตด้วยเหรอ"

"มีสิ โน้ตแนะนำตัว จะได้รู้จักกันไง อย่าลืมไปโพสต์ชื่อเล่นไว้นะ" หลังจากโชว์หน้าจอโทรศัพท์ที่เปิดหน้าโน้ตในกลุ่มไลน์เด็กเกษตร 62 ให้ดูแล้ว แมวก็ขอตัวไปคุยกับเพื่อน ๆ กลุ่มอื่น ๆ แมวเป็นผู้ชายตัวสูงอีกคนที่แต่งกายเรียบร้อย ผมสั้นรองทรงดูสะอาดสะอ้าน แมวสวมแว่นตากรอบใสแฟชั่นทรงสี่เหลี่ยมขนาดเข้ากับใบหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ไม่ได้ดูเย่อหยิ่งหรือไม่ต้อนรับแขกใด ๆ ผิดกันแมวดูเป็นคนที่เข้าถึงกับทุกคน และดูเป็นคนที่สามารถเข้าได้กับทุกคนซะอีก

"เราชื่อทรงยศนะ ชื่อเล่นบีม" ทรงยศเริ่มทักทายคนที่มากับม้าลาย

"เราหล่อนะ"

"เห็นด้วย ๆ ในนี้นายน่าจะหล่อสุดแล้วละ"

"ไม่ ๆ เราชื่อว่า หล่อ"

"คิดว่าไม่รู้จริง ๆ ดิ เราแซวเล่นน่า ฮ่า ๆ " ทรงยศหัวเราะชอบใจใหญ่หลังจากได้พูดคุยกับหล่อไปราว ๆ สองสามประโยค เขารู้สึกถูกใจเพื่อนคนนี้อาจเป็นเพราะเขาดูน่าแกล้งและมีปฏิกิริยาที่ดีต่อมุกไร้สาระของเขา ชีวิตของคนเราอาจแค่ต้องการคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับมุกไร้สาระเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่ก็ได้

ม้าลายหันไปสังเกตว่าทรงยศไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้ก ม้าลายสังเกตเห็นคนอีกคนที่ยืนนิ่ง ๆ คอยสังเกตวงสนทนา แม้ท่าทีของเขาจะเรียบเฉยแต่นัยตาของเขาสั่นระริกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาเหล่มองสถานการณ์ตรงหน้า นาน ๆ ครั้งถึงจะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาที่มุมปาก

"เออ ลืมแนะนำไปเลย นี่เชน เพื่อนร่วมที่ปรึกษาคนเดียวกันกับเรา" คนที่โดนแนะนำตัว ผุดรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะโบกมือเป็นการทักทายทุกคนที่ยืนอยู่ ไม่มีแม้แต่คำพูดว่ายินดีที่ได้รู้จัก

"ปีหนึ่ง มารวมกันตรงนี้ค่ะ" เสียงแหลมอู้อี้ที่ผ่านโทรโข่งเรียกให้ทุกคนที่อยู่กันใต้ตึกคณะเกษตรเงียบเสียงและหันไปมอง ทุกคนเดินไปเรียงแถวหน้ากระดานราว ๆ 10 แถวเห็นจะได้ ม้าลายอยู่ประมานแถวที่ 6 นับจากข้างหน้า

"โอย มองไม่เห็นเลยอะ"

"ละทำไมนายไม่ใส่แว่นอะ"

"ต้องใส่ด้วยเหรอ?"

"ถ้านายมองไม่เห็นก็ไปตัดแว่นดิ" เสียงพูดคุยดังมาจากคนที่นั่งถัดจากม้าลายไปสามคน เนื้อหาเกี่ยวกับแว่นตา

"พี่จะไม่ห้ามให้น้อง ๆ คุยกันนะคะ แต่ว่าคนเราเนี่ยมีหูสองข้าง มีปากอันเดียว ถ้าทุกคนพูดแล้วใครจะฟังคะ ตอนนี้พี่เป็นคนพูด น้อง ๆ ก็ควรจะเป็นคนฟังเนาะ พี่ใช้เวลาไม่มาก เพราะพี่รู้ว่าทุกคนหิวข้าวกันแล้ว โรงอาหารอยู่ทางด้านหลังของเรานี่เอง..." พูดพลางพี่เขาก็ผายมือไปด้านหลังของแถว เป็นการแนะนำสถานที่ไปในตัว "...ห้องน้ำก็มีทุกชั้นของตึก ทุกชั้นห้องน้ำจะอยู่ที่ปีกซ้ายของตึก จำได้ใช่ไหมคะ?"

"...เอาละพี่จะพูดเร็ว ๆ เลยละกัน พี่ชื่อพี่ตรีนะ หลายคนอาจจะเคยเห็นหรือจำพี่ได้จากวันสอบสัมภาษณ์..." เมื่อพูดถึงตรงนี้ม้าลายนึกขึ้นได้ทันทีว่าเขาก็คือพี่ผู้หญิงคนที่ใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาลดูทะมัดทแมงคนนั้น

"...วันนี้ก็จะมาแจ้งกิจกรรมคร่าว ๆ เกี่ยวกับการรับน้อง คณะเราไม่อะไรมาก มีประมาน 3 อย่างที่จะได้ทำ อย่างแรกเดี๋ยวจะให้น้อง ๆ แขวนป้ายชื่อตัวเอง ป้ายชื่อนี้ ห้ามหายนะ โอเคไหม ถ้าพังก็มาซ่อมได้ พวกพี่ ๆ นะ อยากรู้จักทุกคนเลย ถ้าพวกเราแขวนชื่อไว้ก็จะได้รู้ไงว่าคนไหนชื่ออะไร

อย่างที่ 2 เดี๋ยวจะมีสมุดแจกให้คนละหนึ่งเล่ม รู้กันอยู่แล้วแหละเนอะ ล่าลายเซ็นต์นั่นเอง แต่พี่ใจดี ในสมุดเนี่ยจะมีชื่อจริงกับชื่อเล่นของพี่เขาให้ วงเล็บว่าไม่ได้บอกชั้นปี รายชื่ออาจจะคละ ๆ กันก็ได้ ก็ตามหาพี่เขา ถามชั้นปี ขอเบอร์หรือไลน์ไอดี เฟสบุ๊ค ทวิตเต้อ ไอจี ช่องทางการติดต่อสักหนึ่งอย่างจากพี่เขา ที่อยู่บ้านพี่เขาก็ได้นะ พี่นับให้เหมือนกัน แล้วก็ให้พี่เขาเซ็นต์ลายเซ็นต์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เพราะน้องก็คงอยากรู้จักพี่ ๆ เหมือนกันใช่ไหมล่ะ

อย่างสุดท้ายก็คือแคมป์รับน้อง ปีนี้สถานที่ยังไม่ออกมา ถ้ายังไงเดี๋ยวมาแจ้งทีหลังนะคะ ต่อไปก่อนแยกย้ายกันก็ไปรับอุปกรณ์ที่โต๊ะตรงนู้นนะ แล้วก็แยกย้ายกันได้ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะคะ มีปัญหามาคุยกับพี่หลังไมค์ได้ แยกย้ายได้จ้า"

พี่ตรีผายมือไปยังโต๊ะที่เรียงเป็นแถวยาวที่ฝั่งขวาของโถงใต้คณะ ที่หน้าโต๊ะมีป้ายตัวอักษร ก-ฮ แบ่งไว้โต๊ะละประมาน 10 ตัวอักษร ม้าลายเดินไปเข้าแถวที่โต๊ะสุดท้าย ที่เขียน ห-ฮ แถวค่อนข้างยาว ระหว่างรอคิวม้าลายหันไปมองบรรยากาศรอบ ๆ คนเต็มไปหมด ทรงยศที่ยืนห่างไปหลายแถวโบกมือให้ม้าลาย พลางชี้ว่าตัวเองได้ป้ายกับสมุดมาแล้ว ก่อนจะเดินมาหาม้าลาย

"แถวยาวมาก แต่ดีที่เรานั่งใกล้โต๊ะเลยได้ป้ายมาก่อน" ป้ายชื่อเป็นสีขาวเรียบ ๆ มีรูปสัญลักษณ์คณะที่เป็นรูปต้นไทรทั้งต้นอยู่บริเวณมุมซ้ายบนของป้าย กรอบของป้ายเป็นสีน้ำตาลอ่อน ตัวป้ายเป็นแนวนอนห้อยด้วยเชือกป่านสีขาว

ม้าลายต่อคิวจนได้ป้ายชื่อกับสมุดปกมันเล่มสีแดงอมส้มขนาด A5 หน้าปกพิมพ์ชื่อคณะเป็นภาษาอังกฤษด้วยสีทอง เปิดดูข้างในจะเห็นเป็นชื่อจริงวงเล็บด้วยชื่อเล่นของรุ่นพี่ มีบรรทัดว่างราว ๆ 4 บรรทัดต่อ 1 คน ต่อด้วยบรรทัดสุดท้ายที่เขียนว่า sign หน้านึงมีประมาณ3 คน รวมคนในแต่ละชั้นปีก็น่าจะประมาณ500 คนเห็นจะได้ เมื่อคำนวณตัวเลขเสร็จม้าลายก็เกือบจะช็อค ในหัวเกิดความกังวลว่าจะทำยังไงต่อไปดี ทรงยศเห็นสีหน้าซีดเผือดของเพื่อนก็ได้แต่ทำหน้างง

"เป็นไรไปอะ" พลางเอื้อมมือเอาป้ายชื่อที่ม้าลายถือมาคล้องคอให้ ม้าลายมองหน้าเพื่อนด้วยหน้าตาที่จะร้องไห้ ปกติเขาไม่ค่อยชอบทำกิจกรรมอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เขาจะทำได้เหรอ

"เราต้องขอลายเซ็นต์รุ่นพี่เกือบ ๆ 500 คนเลยนะ"

"ไม่ไหวเหรอ?" เสียงพูดขึ้นนิ่ง ๆ ดังขึ้นข้างหลัง คนคุ้นหน้าที่เคยเห็นมาสองครั้งปรากฏตัวขึ้น

"พี่วิน สวัสดีครับ" ม้าลายที่นึกชื่อของคนตรงหน้าได้ในทันทีก็ยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท ทรงยศที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยกมือไหว้ตาม วันนี้พี่วินอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำสวมทับด้วยเสื้อคลุมประจำคณะ กางเกงขายาวสีอ่อนทรงกระบอกช่วยเสริมให้ขาดูยาว เขายิ้มออกมาในทันทีที่ได้ยินคนตัวเล็กเรียกชื่อของเขา

"จำชื่อพี่ได้ด้วยเหรอ" พูดพลางก็ส่งยิ้มกว้างแล้วก็แววตาสดใสมาให้ม้าลายเป็นของตอบแทน

"ครับ จำได้ งั้นผมขอลายเซ็นต์กับไลน์ไอดีพี่หน่อยได้ไหมครับ?" ไอ้ม้าลายคนนี้ ไหนตอนแรกกังวลกับกิจกรรม ตอนนี้กลับเปลี่ยนท่าทีเป็นคนกินยากล้าหาญซะอย่างนั้น

"เอามาสิ เดี๋ยวพี่ให้เบอร์โทรกับไลน์ไอดี จดนะ..." หลังจากขอเบอร์และลายเซ็นต์จากพี่วินเสร็จแล้ว ม้าลายก็เก็บสมุดลงกระเป๋าสะพายข้างที่พกติดตัวมาด้วยทันที

"เห็นไหม ขอเบอร์ไม่เห็นยากเลย" วินเปรยขึ้น

"อืม คงต้องลองดูก่อนนะครับ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าง่ายหรือยาก" ม้าลายตอบเสียงเรียบเรื่อย วินยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะโบกมือแล้วขอตัวแยกไปอีกทาง

"อ่ะ เราลืมขอลายเซ็นต์ด้วยเลยอะ" ทรงยศพูดพลางเกาหัวตัวเอง เพราะมัวแต่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่กล้าด้วยแหละอีกอย่าง

"คราวหน้าเดี๋ยวเราพาไปขอเอง" ม้าลายส่งยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อนของเขา ทรงยศยิ้มตอบกลับก่อนจะชักชวนให้ม้าลายไปกินข้าวด้วยกัน

"บักเชน! ทางนี้! วู้ว! รู้นะเว้ยว่าเห็นแล้ว..." ทรงยศแทบจะถลาตัวเข้าไปนั่งข้างเชนที่กำลังรูดหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองอยู่

"เห็นแล้ว ได้ยินแล้ว คุณอย่างช้าอะ" เชนพูดพลางเหล่มองคนข้างตัวเล็กน้อยก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อของตัวเอง

"ทำไมนายมีกระเป๋าเสื้ออะ ชุดนักศึกษาต้องไม่มีกระเป๋าเสื้อไม่ใช่เหรอ ต้องเรียบ ๆ "

" ใช่ แต่ผมสะดวกแบบนี้ " ว่าพลางก็หยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาเตรียมตั้งท่าจะเริ่มกิน " พวกคุณไม่ไปซื้อข้าวอะ? "

ฮอต

Comments

ยากูซ่า ล่ามังกร

ยากูซ่า ล่ามังกร

สนุกมากๆเลยค่ะหนูชอบนะคะ

2020-01-28

3

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!