หลังจากที่ร่างกายของชายหนุ่มได้ปลดปล่อยความกระหายในกาม ชายหนุ่มนอนกอดร่างของหญิงสาวแปลกหน้าตลอดทั้งคืนจนกระทั้งเช้ามืด เขาจำเป็นต้องเดินทางออกต่างประเทศเพื่อไปบริหารงานที่ได้ลงทุนกับมิตรสหาย ทำให้เขาต้องปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระนอนซบเข้ากับหมอนข้างที่อยู่ข้างกายของหล่อน เขาจึงต้องไปจัดการกับตนเองให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง
ด้านนอกที่พักของนายน้อย
"ไอ้เดย์!!!! ซวยละมึง" เสียงของรามัณต์ดังขึ้นราวกับละเมอเมื่อเขาไม่เห็นยัยเมรีขี้เมาที่เพื่อนของเขาเก็บมาข้างทางหายไปจากโซฟา รามัณต์เดินตามหายัยขี้เมาทั้งห้องพักกลับไม่เจอ เขาแน่ใจว่านายน้อยยังไม่ได้ออกจากห้องนอน เวลาตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่นายน้อยต้องตื่นนอน นายน้อยของเขาจะตื่นหลักจากที่พวกเขาปลุกเท่านั้น แต่วันนี้ทำให้เขาต้องชะงักร่างสูงใหญ่ที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามสมกับชายชาตรีออกมาจากห้องในชุดสูทที่เรียบร้อย แต่สายตาดันไปเจอะเจอบุคคลที่ไม่ควรอยู่ในห้องนั้นที่ละเมองึมงำเสียงดังอยู่บนเตียง
"งะ...นะ...นั้นมัน"เสียงของรามัณต์อึ..อะ ทันทีที่ได้เห็น
"นายเป็นคนพายัยนั้นเข้ามาใช่ไหม"
เสียงทุ้มถามเบาๆ แต่เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ นายน้อยพยักราวกับว่าเข้าใจ เขารู้ดี ตลอดทั้งชีวิตที่เดย์กับรามัณต์อยู่กับเขา ทั้งสองป้องกันไม่ให้มีผู้หญิงเข้ามาก้าวก่ายตามคำสั้งนายแม่และความจงรักภัคดีต่อเขา การที่มีผู้หญิงแปลกหน้าที่อยู่ในห้องเขาเท่ากับว่าได้รับความช่วยเหลือจากบอดี้การ์ดของเขาคนใดคนนึง เพราะทั้งสองมั่นใจว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่งหรือไม่ก็ไล่ให้ไปไกลๆ แต่ดันผิดคาดที่ว่าเขาดันโดนยาปลุกซะเอง
"ไม่ต้องรายงานรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะมัม เข้าใจที่พูดใช่ไหม"
"ครับนาย"
"รอบหน้าอย่ามีแบบนี้อีก"
"แล้วหล่อนละครับ"
"ปล่อยให้นอนไปก่อน เซ็คเอ้าว์หลังจากที่ยัยนั้นออกจากโรงแรม คามเช็คประวัติให้ด้วย เอาให้หมดรวมถึงสุขภาพของหล่อนด้วย "
"ครับ นายน้อย"
จากนั้นชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องโดยไม่เลี้ยวมองด้านหลังสักนิด หลังจากที่มีความสัมพันธ์มันทำให้เขาหลงไหล ปราบปลื้มที่ได้เป็นคนแรกของเธอแต่เสียอย่างเดียวที่เขากับเธอเจอกันในเวลาที่ไม่เหมาะสม เขาได้ทิ้งเสื้อคลุมตัวใหญ่ตัวโปรดไว้ให้เธอ เสื้อผ้าของเธอตอนนี้มันปิดไม่ได้มิดชิด เสื้อผ้าของเธอค่อนข้างโชว์เนื้อหนังมังสา อวดผิวขาวละเอียดแด่สายตาของเหยี่ยว กาทั้งหลายเขาจึงตัดสินใจเอาไว้ใช้เธอจะดีกว่า เขาจึงเดินทางทันที
"อืมมมมหืมมม"
หญิงสาวที่กระพริบตาปริบๆเพื่อปรับเเสงของห้อง
"ทำไมห้องมันแปลกๆวะ"
หนูนาตื่นขึ้นมาหันซ้าย หันขวา ขยี้ตาสองสามครั้ง ตีหน้าตนเองสองสามทีให้แน่ใจว่าตนนั้นไม่ได้ฝัน
"ชิบหายแล้ว ที่นี้ที่ไหนวะเนี้ยยยย!!"
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงอย่างฉับพลันส่งผลให้ใจกลางสาวร้าวระบมทันที
"โอ้ยยย เจ็บบบ"
หญิงสาวร้องโอดครวญเมื่อรู้สึกเจ็บหนูนาสำรวจร่างกายตนเอง ร่างกายที่มีแต่รอยขีดข่วน รอยช้ำ รอยมือเต็มตามตัว ซ้ำยังไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ มีแต่กายเปลือยเปล่า สายตากลมโตกวาดมองตามพื้นห้องจึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตนตกอยู่แถวปลายเตียง น้ำตาของหนูนาเริ่มไหลรินออกมาช้าๆ เธอถูกขืนใจ เธอไม่ได้ยินยอม เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคนที่ข่มขืนตน เหตุการณ์สุดท้ายคือเธออยู่ตรงบันได โดนกระชากตัวจนชนอะไรสักอย่างแล้วหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เจอกับสภาพนี้ มันน่าเจ็บใจนักเชียว ถ้าเป็นไปได้ขอให้หายไป ไปตายที่ไหนก็ไป ถ้าเจอกันอย่าได้ทัก จะยกพรรคพวรุมกระทืบให้ดู!!! หญิงสาวปาดน้ำตาแล้วพยายามพยุงร่างกายของตนเองชำระสิ่งอัปมงคลตามร่างกายจากนั้นหยิกเสื้อคลุมตัวใหญ่มากระทืบให้สาแก่ใจแล้วเอามาใช้ต่อเพื่อปกปิดรอยแห่งอัปยศระหว่างทางกลับบ้าน
สองเดือนมานี้หนูนาได้แต่ทำงานอย่างเดียวจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เธอทำแต่งานจนหนูเล็กอดห่วงไม่ได้ ถึงแม้ภายนอกเธอจะแข็งแกร่งดั่งหินผาแต่ในใจของเธอยังมีแต่มิ้มตลอดมา หนูนาอกหักมาสองเดือนเต็ม เธอทำงานเพื่อจะให้ลืมสาวในดวงใจเป็นสองเดือนที่ทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ
"เจ๊ พักก่อนไหม เจ๊ไม่ได้เที่ยวนอนแล้วนะ" หนูเล็กได้แต่เตือนสติพี่สาวที่กำลังนวดแป้งเพื่อทำขนม
"ถ้าเหนื่อยเดียวเจ๊พักเอง"เธอตอบกลับน้องสาวที่วันๆเริ่มทำตัวเหมือนป๊าขึ้นมาทุกที
หนูนายังคงนวดแป้งต่อไป เธอเริ่มใส่สีธรรมชาติ ที่หนูเล็กเก็บจากสวนเล็กๆของเธอ ทันใดนั้นกลิ่นช็อกโกแลตที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้าตกลงมาแตก กลิ่นของช็อกโกแลตอบอวนทั้งห้องทำให้หนูนาตะเลิดออกมาจากห้องครัว
"อ้วกกกก อ้วกกกกก"
ร่างเล็กออกจากห้องวิ่งไปห้องน้ำทันที เธออาเจียนทุกอย่างจนหมดไส้หมดพุง หนูเล็กเห็นอาการของพี่สาวไม่ดีขึ้น เธอตะโกนเรียนลูกน้องให้ช่วยประคองพาเจ๊ของเธอไปพักที่โต๊ะอาหาร
"เฮียเล็ก เจ๊นาเป็นไรอะ ทำไมอาเจียนขนาดนั้น" แพน แม่ครัวทำขนมถามขึ้นทันที
"เฮียก็ไม่รู้เหมือนกัน"หนูเล็กตอบ
"เฮียอุ้มเจ๊นาไปที่รถเถอะ เดียวแพนขับรถให้" แพนเสนอขึ้นมาทันที
"ไอ้แพน เฮียเป็นผู้หญิงนะเว้ย เฮียอุ้มไม่ไหวหรอก ไปโทรเรียกลุงลองมาช่วย ส่วนแกมาช่วยเฮียแบกเจ๊ขึ้นรถลุงลอง" หนูเล็กพูดขึ้นทันที ไม่ใช่ว่มเธอไม่ไว้ในการขับรถของแพน แต่แค่กลัวแพนจะสติแตกถ้าเกิดเจ๊นาช็อกคารถ ถ้าประคองรถไม่ดีได้ตายหมู่แน่ ส่วนหนูเล็กเองเป็นคนขับรถได้แต่ยิ่งสถานการณ์แบบนี้เธอได้ขับรถฝ่าไฟแดง ด่ารถทุกคันที่ขว้างทางแน่ ยังไงซะหาคนมีสติ มีสมาธิดีกว่า มือบางของหนูนาจับแขนของหนูเล็กจนหนูเล็กรู้สึก
"ว่าไงเจ๊ ไปโรง'บาลเถอะ"หนูเล็กพูดขึ้นพลางมองหน้าพี่สาว
"ฉันไม่ได้เป็นไร"หนูนาพูดเสียงเบา
"ลุงลองมาแล้ว ไปกันเถอะ"หนูเล็กไม่สนใจพี่สาวงพาขึ้นรถทันที
ณ โรงพยาบาล
ห้องฉุดเฉินที่แสนวุ่นวาย นายพยาบาลรีบกุลีกุจรพาหนูนาไปพบแพทย์ที่ชำนาญทันที หนูเล็ก แพน ลุงลองได้แต่มองหน้ากันเมื่อเห็นพยาบาล หมอเข้าห้องฉุดเฉินกันหลายชุด
"คงไม่ใช่เจ๊นานะเฮีย" แพนพูดขึ้น
"คงไม่ใช่หรอก เจ๊นาไม่ได้โดนยิงอาบเลือดซะหน่อย"หนูเล็กพูดไปตามที่คิด ในห้องฉุดเฉินอาจจะมีนักศึกษาแพทย์กำลังดูการทำงานของแพทย์มืออาชีพก็ได้ เคสของหนูนาไม่ได้หนักหนาสาหัสหรอก
"คิดทางที่ดี ดีแล้วลูก"ลุงลองเสริม
ไม่นานนักคุณหมอร่างเล็กเดินออกมาพร้อมใบอะไรสักอย่าง
"ใครคือญาติคนไข้ที่ชื่อหนูนา แซ่ลิ้วคะ"
"ผมฮะ ผมเป็นน้องสาวของเขา"
"ดิฉันขอแจ้งข่าวดีนะคะ คุณแม่และเด็กปลอดภัย แต่อย่าให้คุณแม่คิดมากนะคะไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่และเด็กคะ"คุณหมอพูดจบแล้วเดินทางไป ปล่อยให้ญาติขอคนไข้ได้แต่อ้าปากค้างกับอาการป่วยของหนูนา
"แพน~เฮียหูฝาดปะวะ"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments