ห้วงรักอลวน LGBT หัวใจรักสามเรา
ตอนที่ 5 กล่องที่อยู่ใต้เตียง
ช่วงสายของวัน โรงเรียนมัธยมที่เริ่มกลับมาคึกคักหลังการแข่งหุ่นยนต์ จื่อรุ่ยเดินเคียงข้างลี่หานเข้ามาในห้องชมรมหุ่นยนต์ สีหน้าของเธอเงียบเฉยกว่าปกติ
อาจารย์จาง เจิ้งหมิง:
(เงยหน้าจากเอกสาร)
จาง เจิ้งหมิง
“อ้าว ลี่หาน จื่อรุ่ย มาพอดีเลย จะกลับมาเริ่มโปรเจกต์ใหม่กันหรือยัง?”
ลี่หาน:
(ยิ้มจาง ๆ แล้วถาม)
ซู ลี่หาน
“อาจารย์คะ… ไป๋ห่าวหายไปหลายวันแล้วนะคะ เขาไม่กลับมาโรงเรียนอีกแล้วเหรอ?”
จาง เจิ้งหมิง
“อืม… ยังไม่ได้บอกพวกเธอสินะ ไป๋ห่าวได้รับทุนจากศูนย์วิจัยหุ่นยนต์ที่อเมริกา เขาเดินทางไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว”
ซู ลี่หาน
“เธอรู้มาก่อนไหม?”
จ้าว จื่อรุ่ย
“ไม่รู้ และไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่ด้วย”
ลี่หาน
สบตาเธอเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
จาง เจิ้งหมิง
“เขาเตรียมตัวเงียบ ๆ น่ะครับ ดูเหมือนจะไม่อยากให้ใครวุ่นวายด้วยตอนก่อนเดินทาง... เขาเป็นคนแบบนั้นแหละ”
จื่อรุ่ย
เบือนหน้าไปทางโต๊ะทำงานของไป๋ห่วย ไม่พูดอะไร
ซู ลี่หาน
“ยังไงก็หวังว่าเขาจะสบายดีนะคะ”
จาง เจิ้งหมิง
“อาจารย์ ก็หวังอย่างนั้นครับ เขาเก่งมาก พอมีโอกาส เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะก้าวไปข้างหน้า”
ผ่านมาแล้ว เจ็ดเดือน ตั้งแต่วันสุดท้ายที่ใครสักคนได้ยินชื่อ “ไป๋ห่าว” ผ่านเสียงจริง ๆ
โลกของเขาเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ในไดรฟ์ข้อมูลที่ไม่มีใครกล้าเปิด
เช้าวันอาทิตย์ที่ฟ้าเทาหม่น
จื่อรุ่ยนั่งเหม่ออยู่ริมหน้าต่าง ลมเย็นต้นฤดูใบไม้ผลิพัดเข้ามาเบา ๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น📲 เธอเหลือบมองหน้าจอ — ชื่อของ “ลี่หาน” ปรากฏชัด
ลังเลเพียงครู่ ก่อนจะกดรับสาย
ซู ลี่หาน
“ฮัลโหล…”
“ยังไม่ตื่นเหรอ?”
เสียงลี่หานฟังดูอบอุ่นผิดปกติ
ซู ลี่หาน
“วันนี้…ฉันว่าจะไปบ้านของไป๋ห่าว ไปด้วยกันไหม?”
จ้าว จื่อรุ่ย
“ไปทำไมเหรอ?”
ซู ลี่หาน
“ก็แค่…อยากไปถามแม่เขาว่าไป๋ห่าวเป็นยังไงบ้างช่วงนี้น่ะ”
หัวใจของจื่อรุ่ยกระตุกเบา ๆ — เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลี่หานก็เป็นเพื่อนกับไป๋ห่าวมาตั้งแต่มัธยม แต่ก็อดคิดไม่ได้…ว่าเธอ “เป็นห่วงเขา” เกินไปหรือเปล่า
จ้าว จื่อรุ่ย
“เธอห่วงเขาขนาดนั้นเลย
เหรอ?”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนลี่หานจะตอบกลับมา
ซู ลี่หาน
ก็ห่วงในฐานะเพื่อนน่ะ เราเรียนมาด้วยกันนะ
จื่อรุ่ยสะดุด ใจเต้นแรงขึ้น แต่ยังพยายามฝืนตอบ
จ้าว จื่อรุ่ย
“ใครหึงกันล่ะ…ก็แค่ถามเฉย ๆ”
เธอเบือนหน้าหนีแม้ไม่มีใครเห็น สีหน้าแดงจาง ๆ ซ่อนอยู่หลังคำพูดเรียบเย็น
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน
หน้าบ้านของไป๋ห่าวยังคงเหมือนเดิมทุกตารางนิ้ว
ประตูรั้วเหล็กสนิมกินนิดหน่อย ต้นมะลิเลื้อยเกาะอยู่ข้างกำแพงเหมือนวันสุดท้ายที่พวกเธอทั้งสามคนยืนส่งเขาขึ้นรถ
ลี่หานเดินนำเข้าไป แล้วกดออดเบา ๆ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างใน ก่อนที่ เฉิน เหมยฮวา จะเปิดประตูออกมาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
เฉิน เหม่ยฮวา
“ลี่หาน…จื่อรุ่ย ไม่ได้เจอกันนานเลยลูก เข้ามาก่อนสิ”
แม่ของไป๋ห่าวพาทั้งคู่ไปนั่งที่โต๊ะน้ำชา ☕🍃ในห้องรับแขก กลิ่นชาอู่หลงอ่อน ๆ ลอยขึ้นมาเมื่อเธอรินใส่ถ้วย
หลังบทสนทนาเบา ๆ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็หยุดชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดขึ้น
เฉิน เหม่ยฮวา
“ก่อนที่ห่าวจะเดินทาง เขาฝากกล่องหนึ่งไว้ใต้เตียง”
“เขาบอกว่า ถ้าจื่อรุ่ยมาที่นี่ ให้แม่เอาให้เธอ…”
ลี่หานเลิกคิ้วมองจื่อรุ่ยเล็กน้อย ส่วนจื่อรุ่ยเงียบไปเหมือนหัวใจเพิ่งหยุดเต้น
จ้าว จื่อรุ่ย
“กล่องอะไรเหรอคะ…”
เฉิน เหม่ยฮวา
“แม่ก็ไม่แน่ใจ เขาไม่ให้เปิดดู บอกแค่ว่า...อยากให้เธอเป็นคนได้รับเองกับมือ”
ในอกของจื่อรุ่ย แน่นไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ออก
เธอไม่ได้คาดหวังว่าคำตอบทุกอย่างจะอยู่ในกล่องนั้น แต่แค่ความตั้งใจเพียงน้อยนิดที่เขาฝากไว้…มันก็ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก
ซู ลี่หาน
ขึ้นไปดูกันก่อนไหม ???
บานประตูห้องของไป๋ห่าวเปิดออกช้า ๆ
จื่อรุ่ยก้าวเข้าไปพร้อมกับลี่หานข้างหลัง เธอหยุดยืนเพียงครู่ กวาดสายตาไปทั่วห้องที่คุ้นเคย
โต๊ะหนังสือยังเรียบร้อย เตียงยังพับผ้าห่มเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน
...ยกเว้นความรู้สึกของคนที่เคยยืนอยู่ในห้องนี้
สายตาของจื่อรุ่ยหยุดอยู่ที่พื้นใต้เตียง เธอก้มตัวลงช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ดึงกล่องไม้ออกมา
กล่องไม่ใหญ่นัก แต่ไม่เล็กพอจะมองข้าม
บนฝากล่องมีลวดลายหุ่นยนต์วาดมือสีหม่น เป็นภาพกันดั้มที่เธอคุ้นตา — เขาเคยเล่าว่าเป็นชุดที่เขาชอบที่สุด
เธอค่อย ๆ เปิดฝากล่องออก ภายในมีกล่องโมเดลกันดั้มอยู่สองกล่อง
กล่องแรก เป็น HG 1/144 Gundam Exia — หุ่นกันดั้มที่ใช้ดาบพลังงาน และมีคอนเซปต์ "ความเชื่อมั่นอันบริสุทธิ์"
กล่องที่สอง คือ MG 1/100 Wing Gundam Zero Custom — หุ่นสีขาวปีกนกสีเงิน เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและการเสียสละ
ในแต่ละกล่อง มี “จดหมายวาเลนไทน์” ซ่อนอยู่คนละซอง — ซองกระดาษสีครีม เรียบแต่สะอาด
เธอหยิบซองของกล่องแรกขึ้นมา เปิดอ่าน
ลี่หานนั่งลงข้าง ๆ มองเงียบ ๆ แล้วเอียงหน้าอ่านด้วยอย่างไม่ตั้งใจ
[จดหมายฉบับแรก – Exia]
"จื่อรุ่ย..."
“ฉันไม่เคยมีความกล้ามากพอจะบอกเธอตรง ๆ เลยว่า... ฉันแอบรักเธอมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนเธอจะขึ้นปี 1 เสียอีก”
“ทุกครั้งที่เห็นเธออยู่กับเพื่อน ๆ เห็นเธอยิ้มตอนซ้อมงานโรงเรียน เห็นเธอหลับคาโต๊ะตอนสอบกลางภาค ฉันก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันช้าลงเพื่อให้ฉันได้มองเธออีกนิดเดียว”
“พอวันนี้เธอขึ้นปี 1 แล้ว ฉันก็รู้ว่าฉันไม่มีเวลาอีกต่อไปแล้ว ฉันจะพูดมันออกมาตอนไหนก็ไม่ได้อีกแล้ว...”
“โมเดลตัวนี้ Exia เป็นหุ่นที่ยืนหยัดด้วยความศรัทธา เป็นหุ่นที่เดินหน้าแม้จะโดดเดี่ยว ฉันอยากให้เธอเก็บไว้... เหมือนฉันที่ได้เฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ”
จื่อรุ่ยนิ่ง เธอเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาคลอเล็กน้อยขณะวางจดหมายนั้นลง
ก่อนจะหยิบจดหมายฉบับที่สองขึ้นมา
[จดหมายฉบับที่สอง – Wing Gundam Zero Custom]
“จื่อรุ่ย…”
“ฉันรู้ว่าเธอมีใจให้ลี่หาน…ฉันดูออกมาตั้งแต่ปี 2 แล้ว”
“มันตลกดีนะ ที่ฉันพยายามจะลืมเธอ พยายามหันหน้าไปทำอย่างอื่น พยายามฝังตัวเองในวงจรไฟฟ้า หุ่นยนต์ และเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพื่อจะลืมใครบางคนที่ไม่เคยลืมได้เลย…”
“ฉันเข้าใจดีว่าเธอไม่เคยมองฉันแบบนั้น ไม่เคยเลย...แต่ก็ยังเกลียดตัวเองไม่ได้สักทีที่ยัง ‘หวัง’ ว่าเธออาจจะหันมามองบ้าง”
“Wing Zero เป็นหุ่นที่แลกทุกอย่างเพื่อสิ่งสำคัญ แม้มันต้องสูญเสียความรู้สึกตัวเองก็ตาม…ฉันก็แค่หวังว่า เธอจะเก็บมันไว้…เพื่อจำได้ว่า มีใครคนหนึ่งเคยรู้สึกแบบนั้นกับเธอ”
จื่อรุ่ยวางจดหมายลงช้า ๆ เธอไม่ได้พูดอะไร ริมฝีปากสั่นน้อย ๆ
ลี่หานเอื้อมมือมาแตะไหล่เธอเบา ๆ
ซู ลี่หาน
“ไม่เป็นไร…”
“อ่านต่อเถอะ ฉันอยู่ตรงนี้”
จื่อรุ่ยพยักหน้าเบา ๆ สูดลมหายใจเข้าลึก เธอไม่ได้ตอบกลับ แค่เงียบ…เพราะหัวใจมันอัดแน่นเกินกว่าจะพูดอะไรได้
เมื่ออ่านจบ ทั้งสองขอบคุณแม่ของไป๋ห่าวแล้วขอตัวกลับ
พอเดินออกจากบ้าน แสงแดดยามเย็นเริ่มส่องลอดเมฆที่เคยคลุมฟ้า
หน้าบ้านถัดไป พวกเธอเห็น เซี่ยงอัน กับ หลินเจิ้ง — เพื่อนร่วมห้องรุ่นเดียวกันในโรงเรียนมัธยม
กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งไม้หน้าบ้านของเซี่ยงอัน
บนโต๊ะเล็ก ๆ มีพวกแผงวงจร หุ่นต้นแบบที่พวกเขากำลังประกอบ
เซี่ยงอันเงยหน้าขึ้นก่อน
หลิน เจิ้ง
“อ้าว! จื่อรุ่ย ลี่หาน!”
“มานั่งคุยด้วยกันสิ พวกเรากำลังลองชุดวงจรใหม่ที่ใช้ AI จัดท่าทางแขนกล...สนุกดีนะ!”
หลินเจิ้งเงยตามองตามอย่างเงียบ ๆ แต่ยิ้มเล็ก ๆ ให้
ลี่หานหันมามองจื่อรุ่ย เหมือนจะถามว่า
เธอพยักหน้าเบา ๆ — เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เรียกว่า "คำตอบ" หรือเปล่า
แต่เธอรู้ว่า...เธอไม่อยากกลับบ้านคนเดียวในเย็นวันนั้น
Comments