นิรันดร์ | ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน
一 | หนึ่งใจฝัน หนึ่งใจสัญญา
สองดวงใจบริสุทธิ์เติบโตเคียงกันในโลกสงบ
ดินแดนอันงดงามซ่อนตัวกลางมหาสมุทรไกลโพ้น สายลมอ่อนพัดผ่านดอกไม้หลากสีที่บานสะพรั่งตลอดทั้งปี
เสียงลมทะเลอ่อน ๆ พัดผ่านใบไม้สีเขียวสดทั่วลานไม้ไผ่ที่ทอดยาวหน้าบ้านหลังใหญ่ ใจกลางเกาะสวรรค์พฤกษา เฟิ่งเจียหลินนั่งประสานขาบนพื้นไม้ สวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนดุจแสงอรุณ ดวงตากลมโตจ้องมองพ่อกับแม่ตรงหน้า ในขณะที่เสวี่ยตงหานนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบงัน
เฟิ่งผิงผู้เป็นแม่ส่งสายตาหวานซึ้งให้เด็กทั้งสองก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เฟิ่งผิง
ตอนนี้พวกเจ้าอายุหกขวบกันแล้ว
เฟิ่งผิง
ถึงเวลาต้องเลือกเส้นทางชีวิต
เฟิ่งผิง
ถึงเวลาต้องเลือก…ว่าจะฝึกฝนและเรียนรู้จากที่ใด
เฟิ่งหลาน
พวกเราคิดว่าจะให้พวกเจ้าเรียนที่ตำหนักไม้หอม
เฟิ่งหลาน
มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณยุทธ์พืชมากมาย
เฟิ่งหลาน
ที่พร้อมจะสอนพวกเจ้า
ทันใดนั้นเอง มือเล็ก ๆ ของเฟิ่งเจียหลินก็ยกขึ้นอย่างมั่นใจ
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าขอไปเรียนที่โรงเรียนนั่วติงบนแผ่นดินใหญ่เจ้าค่ะ
เสียงของเธอแม้จะอ่อนเยาว์
แต่กลับเปี่ยมด้วยความมั่นใจจนบิดามารดาต้องชะงัก
เฟิ่งผิง
ลูกแน่ใจหรือว่าอยากจากเกาะนี้ไปไกลขนาดนั้น
เฟิ่งผิง
โรงเรียนนั่วติงอยู่เทียนโต่ว
เฟิ่งผิง
ไกลจากที่นี่ถึงพันลี้
เฟิ่งผิง
และห่างไกลจากพ่อแม่
เฟิ่งหลาน
เหตุใดจึงเลือกที่นั่น
เฟิ่งเจียหลินหายใจเข้าลึก
ดวงตาเปล่งประกายด้วยแสงแห่งความฝัน
เฟิ่งเจียหลิน
เพราะข้าอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์อวี้เสี่ยวกังเจ้าค่ะ
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าเคยอ่านเรื่องวิจัยของเขาในตำรา
เฟิ่งเจียหลิน
เขาแตกต่างจากคนอื่น
เฟิ่งเจียหลิน
ไม่เคยดูแคลนผู้ที่มีวิญญาณยุทธ์ด้อย
เฟิ่งเจียหลิน
เขาศรัทธาในพลังของความรู้และความพยายาม
ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าถือครองดอกบัวเซียนสวรรค์
เฟิ่งเจียหลิน
ข้ารู้ดีว่าข้าต้องมีใจบริสุทธิ์
เฟิ่งเจียหลิน
ไม่โลภ ไม่อาฆาต
เฟิ่งเจียหลิน
แต่หากข้าไม่เข้าใจโลกกว้าง
เฟิ่งเจียหลิน
ไม่เคยเห็นความชั่วร้าย
เฟิ่งเจียหลิน
ไม่รู้จักความโหดร้าย
เฟิ่งเจียหลิน
แล้วข้าจะปกป้องผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไร
น้ำเสียงของเฟิ่งเจียหลินแม้จะยังเด็กนัก
แต่เต็มไปด้วยสาระจนเฟิ่งผิงนิ่งเงียบไป
ชื่อเสียงเรียงนามของอวี้เสี่ยวกังบนแผ่นดินใหญ่ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ผู้ที่มีความคิดสวนทางจากหลักข้อมูลทุกอย่างของวิญญาณยุทธ์ และเป็นผู้ที่มีความคิดฉลาดหลักแหลม
เฟิ่งเจียหลินพยักหน้าเบา ๆ
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าอยากเป็นดั่งเขา…
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าอยากเข้าใจความหมายของพลังอย่างลึกซึ้ง
เฟิ่งเจียหลิน
ไม่ใช่เพียงแค่ฝึกให้แข็งแกร่ง
เสวี่ยตงหานเอ่ยขึ้นมาด้วย สีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาสงบเย็น
เสวี่ยตงหาน
ถ้าเจียหลินจะไป ข้าจะไปด้วย
เฟิ่งหลานหันไปมองเด็กชายที่เขาเลี้ยงดั่งลูก
เฟิ่งหลาน
ตงหาน เจ้าจะไปด้วยหรือ
เฟิ่งหลาน
ที่นี่ก็มีอาจารย์มากมายที่สอนสายพลังจู่โจมเช่นเจ้า
เสวี่ยตงหานก้มศีรษะเล็กน้อย
ดวงตาทอดมองเงาของตนเองบนพื้นไม้
เสวี่ยตงหาน
ท่านพ่อ ท่านแม่
เสวี่ยตงหาน
วิญญาณยุทธ์ของเจียหลินคือดอกบัวเซียนสวรรค์
เสวี่ยตงหาน
หากนางเปื้อนเลือด
เสวี่ยตงหาน
วิญญาณจะปิดตาย
เสวี่ยตงหาน
หากใจนางมีแค้น
เสวี่ยตงหาน
ความบริสุทธิ์จะจางหาย
น้ำเสียงมั่นคงราวกับดาบที่ฝังอยู่ในใจ
เสวี่ยตงหาน
จงปล่อยให้ข้าเป็นคนแบกบาปแทนนางเถอะ
น้ำตาคลอในดวงตาของเฟิ่งผิงโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่เฟิ่งหลานเงียบงันไปหลายนาที
เฟิ่งหลานก็ลูบผมลูกสาวเบา ๆ แล้วหันไปพยักหน้าให้ภรรยา
เฟิ่งหลาน
พวกเขาอาจพร้อมกว่าที่เราคิด
ยามรุ่งอรุณทาบฟ้า แสงสีทองอ่อน ๆ สาดลงบนยอดไม้ของเกาะสวรรค์พฤกษา
น้ำทะเลสีฟ้าครามกระทบโขดหินเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราวกับเสียงหัวใจของเกาะที่เต้นอยู่เงียบ ๆ
เรือสำเภาขนาดกลางหนึ่งลำจอดนิ่งอยู่กลางท่า
เสาธงประดับด้วยผืนผ้าขาวปักลายกระเรียนและดอกบัว
เครื่องหมายแห่งตระกูลเฟิ่งที่สืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน
เฟิ่งเจียหลินสวมเสื้อคลุมผ้าลินินเนื้อดี สีชมพูอ่อนผสานม่วงดั่งกลีบดอกบัว
ดวงตาคู่งามของนางจ้องมองขอบฟ้าอย่างสงบ
แม้ริมฝีปากจะยิ้มน้อย ๆ แต่ในอกกลับแน่นราวมีถุงทรายทับใจ
ข้างนางคือเสวี่ยตงหานในชุดคลุมดำปักลายคลื่นเงิน สายตาเงียบงันแต่คมลึก
เด็กชายไม่เอ่ยคำใดมาแต่เช้า มีเพียงมือที่ถือกระเป๋าเสบียงและสัมภาระของทั้งสองอย่างแนบแน่น
เฟิ่งผิง
หากเจ้าไม่อยากไปตอนนี้
เฟิ่งผิง
ยังไม่สายที่จะเปลี่ยนใจนะลูก
เฟิ่งเจียหลินหันมายิ้มบาง
เฟิ่งเจียหลิน
หากข้ากลัวการเดินทางครั้งนี้
เฟิ่งเจียหลิน
แล้ววันหนึ่งจะยืนหยัดบนโลกกว้างได้อย่างไรเจ้าคะ
เฟิ่งหลานเดินเข้ามาข้างหลัง เอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวอย่างแผ่วเบา
เฟิ่งหลาน
เจ้าเป็นพี่ชายที่ข้าไว้ใจ
เฟิ่งหลาน
แม้พวกเจ้าเกิดปีเดียวกัน
เฟิ่งหลาน
เจ้ากลับแบกรับได้มากกว่าใคร
เสวี่ยตงหานไม่ตอบ เพียงค้อมศีรษะนิ่ง
เฟิ่งหลานยื่นห่อผ้าให้เขา
เฟิ่งหลาน
นี่คือจดหมายแนะนำตัวของข้า
เฟิ่งหลาน
ให้แก่ผู้อาวุโสใหญ่ของโรงเรียนนั่วติง
เฟิ่งหลาน
และนี่คือกำไลมิติที่ข้าเก็บเงินไว้จำนวนมาก
เฟิ่งหลาน
ไม่ต้องประหยัดมากเกินไป แต่ก็จงอย่าใช้สุรุ่ยสุร่าย
เฟิ่งหลาน
เงินพวกนี้ จะทำให้พวกเจ้าใช้ชีวิตได้สบายๆถึงสิบปี
เฟิ่งผิงเดินเข้ามาหาลูกสาว
ยื่นกล่องเล็ก ๆ สีขาวมุกให้
เฟิ่งผิง
ในนี้เป็นเมล็ดบัวจากดอกบัวเซียนสวรรค์รุ่นเก่าที่สุดในสวนของแม่
เฟิ่งผิง
หากลูกตั้งใจปลูกและดูแลมัน
เฟิ่งผิง
มันก็จะภักดีต่อลูกเพียงผู้เดียว
เฟิ่งผิง
หากเกิดอันตรายอันใด
เฟิ่งผิง
มันก็จะคอยปกป้องเจ้า
เฟิ่งเจียหลินรับมาเงียบ ๆ
น้ำในดวงตาไหลเอ่อโดยไม่รู้ตัว
เฟิ่งเจียหลิน
ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวัง
เฟิ่งผิง
เราไม่เคยหวังให้เจ้าสมบูรณ์แบบ
เฟิ่งผิง
แค่จงเป็นตัวของตัวเอง
เฟิ่งผิง
อย่างมีความสุขและเข้มแข็ง
เสียงแตรลมจากเรือดังขึ้นเบา ๆ
เป็นสัญญาณเตรียมออกเดินทาง
เฟิ่งหลานวางมือบนบ่าของทั้งสอง
เฟิ่งหลาน
การออกเดินทางคือจุดเริ่มต้น
เฟิ่งเจียหลินและเสวี่ยตงหานก้าวขึ้นเรือโดยไม่หันกลับมา
แต่เมื่อเรือเริ่มเคลื่อนออกจากฝั่ง
สายลมก็พัดผ่านแรงขึ้น กลีบดอกบัวนับพันจากทั่วเกาะลอยตามลมมาส่งพวกเขา
ราวกับธรรมชาติเข้าใจว่าการเดินทางของทั้งสองไม่ใช่เพียงการข้ามทะเล
แต่เป็นการก้าวเข้าสู่โชคชะตา
พวกเขายืนเคียงกัน บนหัวเรือ
สูดกลิ่นไอทะเลลึกเข้าไปเต็มปอด ก่อนเอ่ยคำแผ่วเบา
เสวี่ยตงหานตอบกลับด้วยเสียงต่ำแน่น
เสวี่ยตงหาน
ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
เสวี่ยตงหาน
ข้าก็พร้อมที่จะไปกับเจ้า
mamee ˚୨୧⋆
สวัสดีค่ะทุกคนน 👋🏻
mamee ˚୨୧⋆
เค้ากลับมาแต่งในรอบปีเลยย
mamee ˚୨୧⋆
หายไปนานม้ากกกก
mamee ˚୨୧⋆
แต่ได้ประสบการณ์มาเย้อเลย
mamee ˚୨୧⋆
ที่หายไปน้านนานเนี่ยเค้าไปติดรี้ดอะไรท์
mamee ˚୨୧⋆
แล้วก็ไปใช้ชีวิต
mamee ˚୨୧⋆
เค้าคิดว่าเรื่องนี้ควรอัพแอปนี้
mamee ˚୨୧⋆
นั่นเลยเป็นเหตุผลให้เรากลับมาเนี่ยแหละะ
mamee ˚୨୧⋆
ฝากน้องเจียหลินกับตงหานไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะะ
Comments