ตอนที่ 5

ประกาศก่อกบฏ!

ทหารในวังไม่ทันตั้งตัวถูกโจมตีจากทุกทิศทางภายในไม่กี่ชั่วยามวังหลวงเกือบตกอยู่ในเงื้อมมือของขบถมกษัตริย์ บาดเจ็บ ขังตัวอยู่ในห้องรับรองหลังวัง กองหนุนองค์ของชายรองนำกำลังที่เหลือสู้จนเลือดโชกทหารในวังเริ่มหมดกำลังใจ

“เราคง…พ่ายแพ้ในวันนี้…”

ผ่านไป 1 ชั่วยาม…

แต่แล้ว เสียงแตรเขาสงครามก็ดังขึ้น ทหารม้ากว่า 500 นาย ปรากฏตัวเหนือกำแพงวังธงสีทองที่ปักบนหลังม้าโบกสะบัด

นำหน้าคือ ภาคินในชุดนักรบสีดำทอง ขนาบข้างด้วย อลัน และ องค์ชายรอง

“เพื่อแผ่นดิน! เพื่อความยุติธรรม!”

ภาคินตะโกน

ทหารที่ตามเขามาคือกองกำลังลับของชายแดนที่อลันคุมอยู่ บัดนี้พวกเขากลับมาเพื่อทวงคืนราชสำนักจากเงื้อมมือของผู้ทรยศ

ศึกกบฏ

ณ กลางลานวังหลวง

อลันปะทะกับเสนาบดี อี้เหวิน

ภาคินสู้กับเมษาด้วยกระบี่แห่งคัมภีร์

องค์ชายรองนำทหารบุกเข้าควบคุมศูนย์บัญชาการ

เมษาที่ใช้พลังอาคมจากคัมภีร์ปลอมพ่ายแพ้เมื่อคัมภีร์จริงเรืองแสงในมือของภาคินเธอถูกกระแทกลงกลางลานพร้อมกับคำพูดสุดท้ายว่า..

“เจ้าก็แค่ผู้มาจากต่างโลก…แต่แย่งทุกอย่างของข้าไป!”

ท้ายที่สุด

กบฏถูกกวาดล้างองค์ชายรองเข้าเฝ้ากษัตริย์และคุกเข่าขออนุญาต

“ให้ภาคินอยู่เคียงข้างในฐานะผู้ปกป้องบัลลังก์”

เสียงในท้องพระโรงเงียบสงัด ก่อนกษัตริย์จะพยักหน้าเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม พระราชวังกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง…เหล่าขุนนางที่เคยร่วมมือกับพวกกบฏ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เสนาบดีอี้เหวิน และ เมษา ถูกนำตัวไปประหารในจัตุรัสกลางเมืองทรัพย์สมบัติของพวกเขาถูกยึดเพื่อฟื้นฟูบ้านเมือง

ณ ตำหนักเย็น

ภาคินกับองค์ชายรอง กลับมาใช้เวลาร่วมกันเหมือนเดิมพวกเขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกแล้ว

“ข้ายังจำวันแรกที่เจ้ามาได้ดี…เจ้าร้องไห้หน้าถ้ำ แต่วันนี้เจ้าคือผู้กอบกู้แผ่นดิน”

องค์ชายรองพูดพลางจับมือภาคินแน่น ภาคินยิ้มทั้งน้ำตา ไม่ใช่แค่ความดีใจแต่เป็นความกลัวที่จะต้องจากโลกใบนี้อีกครั้ง เขาไม่ได้พูดอะไร แค่นั่งพิงไหล่องค์ชายเงียบ ๆ ใต้แสงเทียนในห้องส่วนตัว

อลัน เดินเข้ามาเงียบ ๆ ก่อนยิ้มแล้วพูดว่า..

“ภารกิจของนายสำเร็จแล้วนะภาคิน…”

“นายได้ทำให้โลกนี้เปลี่ยนไปแล้ว และยังเปลี่ยนหัวใจของคนบางคนด้วย”

ภาคินเงยหน้าขึ้น

“แต่ทำไมฉันยังอยู่ที่นี่?”

อลันเดินมาแตะไหล่เบา ๆ แล้วกระซิบ

“เพราะนายยังไม่ได้ ‘ตัดสินใจ’ ว่าจะอยู่ หรือจะกลับไป”

ภาคินยืนมองแสงทองจากคัมภีร์ที่ส่องอยู่กลางอากาศมันเปิดประตูมิติอีกครั้ง พร้อมเสียงเรียกแผ่วเบาเหมือนกระซิบว่า “เจ้าพร้อมจะกลับไปแล้วหรือยัง?”

แต่ภาคิน…หลับตาแน่น แล้วส่ายหน้า

“ฉัน…จะไม่กลับไปอีกแล้ว”

เขาหันไปหาอลัน ยื่นถุงผ้ากำมะหยี่สีทองให้ ภายในบรรจุทองคำแท่งโบราณที่ได้รับจากองค์ชายในวันแรกที่เขาเข้าวัง

“อลัน นายคือคนเดียวที่ฉันไว้ใจ”

“ถ้านายกลับไปแล้ว ฉันฝากให้นายช่วยดูแลครอบครัวของฉันด้วย…ให้เงินพวกเขาใช้ ให้เขารู้ว่า…ฉันยังรักพวกเขา”

อลันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างเข้าใจ

“นายรู้ใช่มั้ย ว่านี่จะเป็นการจากลากันจริง ๆ”

ภาคินพยักหน้า

“แต่ฉันไม่เสียใจเลย เพราะที่นี่…ฉันมีหัวใจอยู่แล้ว”

อลันรับถุงผ้ามา

“ฉันจะนำทองไปขายแล้วนำเงินไปให้ครอบครัวนายตามที่นายบอกไว้”

ก่อนเขาจะเดินจากไปเพื่อเตรียมกลับไปยังโลกเดิมที่จากมา เขาหันกลับมาอีกครั้ง ยิ้มให้เพื่อนรัก

“ถ้าวันใดวันหนึ่งนายเปลี่ยนใจ…ฉันจะรอที่ห้องสมุดชั้นสอง ล็อกสาม เหมือนเดิมนะ”

ณ ในวังหลวง

ภาคินเดินกลับสู่วังอย่างมั่นคงองค์ชายรองยืนรอเขาอยู่ที่ระเบียงวัง…เมื่อเห็นเขาเดินกลับมา สีหน้าก็อ่อนโยนขึ้นทันที

“เจ้ากลับมาแล้ว?”

ภาคินเดินเข้าไปใกล้

“ครั้งนี้…ไม่ใช่กลับมา แต่ข้าจะอยู่ที่นี่กับท่าน…ตลอดไป”

องค์ชายก้าวเข้ามากอดเขาแน่นและสายตาของทั้งคู่ สะท้อนแสงอาทิตย์แรกของรุ่งเช้าใหม่ในแผ่นดินที่สงบ

วันถัดมา…

หลังจากสงครามสงบและบัลลังก์มั่นคง ภาคินได้รับพระราชทานตำแหน่ง ขุนนางพิเศษฝ่ายการศึกษาเพื่อให้เขาได้ใช้ความรู้และความสามารถช่วยพัฒนาแผ่นดินเขากลายเป็นผู้ที่ประชาชนชื่นชม และถูกกล่าวขานว่า…

“คือผู้ที่ฟ้าส่งมาเพื่อเปลี่ยนอนาคตของเมืองนี้”

แต่ในทุกวันที่ภาคินเดินในวังยังมีสายตาหนึ่งที่มองเขาเสมอ…สายตาอ่อนโยนขององค์ชายรอง ผู้ไม่เคยปริปากพูดถึงความรู้สึก แต่ในทุกสัมผัส ทุกถ้อยคำ กลับสื่อชัดเจนว่า เขารัก

คืนหนึ่ง

ณ ศาลากลางสระบัว

เมื่อภารกิจทั้งวันสิ้นสุดภาคินนั่งมองจันทร์อยู่ องค์ชายรองเดินเข้ามาเงียบ ๆ วางผ้าคลุมไหล่ให้ พร้อมกับพูดว่า

“ฟ้าเย็นเช่นนี้…เจ้าควรอบอุ่นกว่านี้”

ภาคินยิ้ม

“ข้าอบอุ่นอยู่แล้ว…เมื่อมีท่านอยู่ใกล้”

องค์ชายชะงักเล็กน้อย ก่อนนั่งลงข้าง ๆ

ทั้งคู่เงียบ มีเพียงเสียงลมพัดเบา ๆ และเสียงใจเต้นของคนสองคน

“ภาคิน…”

“หากข้าขอให้เจ้าอยู่เคียงข้าตลอดไป…เจ้าจะว่าเช่นไร?”

ภาคินหันไปสบตาเขา

“ไม่ว่าโลกไหน…ข้าก็เลือกอยู่กับท่านอยู่แล้วมิใช่หรือ?”

องค์ชายยิ้ม แล้วโน้มตัวมากุมมือเขาไว้แน่น

“เช่นนั้นในพรุ่งนี้…เจ้าจะยืนข้างข้า บนแท่นพิธีอภิเษกหรือไม่?”

ภาคินเบิกตากว้าง

“ท่านจะ…แต่งงานกับข้า?”

องค์ชายหัวเราะเบา ๆ

“ไม่ใช่เจ้าที่ต้องแต่งกับข้า…แต่ข้าต่างหากที่ขอแต่งกับเจ้า”

เช้าวันต่อมา…

ข่าวการอภิเษกระหว่างองค์ชายกับภาคินแพร่ไปทั่วแผ่นดินแม้จะมีเสียงคัดค้านจากบางฝ่าย แต่กษัตริย์ก็ออกหน้าสนับสนุนโดยไม่ลังเล

“ผู้ที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์สมควรได้รับความสุข…ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด”

เสียงฆ้องดังทั่ววังหลวง ผู้คนในเมืองหลวงต่างหลั่งไหลมาชมพิธีอภิเษกสมรสขององค์ชายรองกับภาคิน คู่รักที่เปลี่ยนแผ่นดินแห่งนี้ บริเวณลานพิธีถูกประดับด้วยผ้าทอไหมสีทอง ดอกไม้สดจากภูเขาสูง และธงราชวงศ์โบกสะบัดในสายลม องค์ชายสวมฉลองพระองค์เต็มยศ ส่วนภาคินอยู่ในชุดประดับหินทับทิมแดงสดที่องค์ชายเลือกเองกับมือ แม้สายตาทุกคู่จะจับจ้องอย่างชื่นชม…แต่ในเงามืด กลับมีสายตาอีกคู่หนึ่งจ้องมองด้วยความแค้น

“มันจะไม่มีวันจบแบบนี้…”

เสียงกระซิบเบา ๆ ดังจากมุมลับใต้พระราชวัง ชายชุดดำผู้รอดจากการกวาดล้างกบฏ กำลังร่ายเวทบทหนึ่ง เขาคืออดีตขันทีประจำตัวเสนาบดีเมษา ที่ลอบฝึกศาสตร์ต้องห้ามจากคัมภีร์เก่า เขายังมีเศษชิ้นเล็ก ๆ ของคัมภีร์นั้นอยู่…แม้ไม่สมบูรณ์ แต่มากพอจะก่ออาเพศ

“เจ้าคือคนที่มาจากต่างโลก…ข้าจะส่งเจ้ากลับไปตลอดกาล และพรากเจ้าจากองค์ชาย…ไม่มีวันกลับมาอีก”

ขณะเดียวกัน พิธีเริ่มต้น

เสียงสวดประกาศความรักท่ามกลางผู้คนและสายลมอ่อนโยน องค์ชายจับมือภาคินแน่น พร้อมเอ่ยคำสัตย์ปฏิญาณ

“ข้าขอสาบานต่อฟ้า ว่าเจ้าจะเป็นข้า และข้าจะเป็นของเจ้า…ไม่ว่าในยามสงบหรือยามศึก ไม่ว่าในโลกใดหรือยุคใด”

เสียงผู้คนปรบมือด้วยความยินดี แต่ท้องฟ้ากลับเริ่มครึ้ม เมฆดำก่อตัวอย่างรวดเร็ว ลมกรรโชกพัดกระโชกแรง

ภาคินรู้สึกถึงแรงดึงบางอย่างจากพื้นใต้เท้า เขาหันไปมององค์ชายที่จ้องมาด้วยแววตาเป็นห่วง

“องค์ชาย…ข้า…รู้สึกแปลก ๆ”

ใต้ดิน พระเวทปลุกพลังจากคัมภีร์เริ่มแผ่พลัง ประตูมิติแห่งความตายปรากฏขึ้นกลางฟ้าอย่างฉับพลัน แรงดูดพุ่งเข้าหาภาคิน

องค์ชายคว้าตัวเขาไว้แน่น ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและความโกลาหล

“เจ้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

ขณะพลังมืดกำลังดูดภาคินไป

ทันใดนั้น…

คัมภีร์ของแท้ซึ่งภาคินเคยเปิดเมื่อนานมาแล้ว ปรากฏขึ้นตรงหน้าเอง แสงสีทองสว่างวาบ ปกคลุมร่างของเขาทั้งสอง

เสียงของโบราณกาลเอ่ยออกมา…

“ความรักแท้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา คือพลังที่ไม่มีศาสตร์ใดต้านได้”

ศัตรูที่อยู่เบื้องหลังเริ่มกรีดร้องร่างของเขาถูกกลืนกลับไปในรอยแยกที่เขาเรียกขึ้นเอง ประตูมิติ…ปิดลงอย่างเงียบงัน

ภาคินทรุดลงในอ้อมกอดขององค์ชาย ทั้งคู่หอบหายใจหนัก แต่ยังจับมือกันแน่น

“ข้าไม่ปล่อยเจ้าอีกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไร”

ภาคินยิ้มทั้งน้ำตา

“และข้าจะไม่หนีจากเจ้า ไม่ว่าโลกไหนเช่นกัน”

หลายเดือนหลังจากเหตุการณ์การอภิเษกและการปราบกบฏ บ้านเมืองกลับสู่ความสงบ องค์ชายและภาคินใช้ชีวิตร่วมกันในวังหลวงอย่างสงบสุข

แต่อยู่มาวันหนึ่ง…พระอาจารย์หลวงได้นำตำราพยากรณ์เก่าที่เพิ่งค้นเจอในห้องใต้ดินของหอสมุดหลวงมาให้กษัตริย์

ในนั้นเขียนไว้ว่า:

“เมื่อคัมภีร์แห่งแสงถูกรื้อฟื้น คัมภีร์แห่งเงามืดจะตื่นตาม

ผู้ที่ได้ครอบครองมัน…จะมีพลังเปลี่ยนโลก หรือทำลายทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

หากรักมั่นคงมิอาจต้านเงามืด ยุคมืดจะมาเยือนอีกครั้ง”

ฮอต

Comments

Abdul Rahman

Abdul Rahman

สุดยอดเลยค่ะแอด! 🙌

2025-06-05

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!