เทอคือคนที่ฉันรอมาตลอด
กรุงเทพฯในช่วงปลายปีไม่ได้หนาวเย็นจับใจเหมือนภาคเหนือหรือเมืองในต่างประเทศที่ฉันเคยเห็นจากรูปถ่าย แต่มันก็พอมีสายลมเย็นแผ่วๆ พัดผ่านเป็นครั้งคราว ฉันยืนอยู่บนสะพานลอยหน้าแยกราชประสงค์ มองผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ท่ามกลางแสงไฟจากห้างสรรพสินค้าและเสียงเพลงจากร้านค้ารอบข้างที่ดังคลอเบาๆ
สองปีแล้ว...
สองปีที่หัวใจของฉันว่างเปล่าราวกับถูกแช่แข็งไว้ในฤดูหนาวที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ฉันยืนอยู่ตรงจุดนี้หลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ลมพัดผ่านกลับมีแต่ความเงียบเหงาและความคิดถึงที่คอยทิ่มแทงหัวใจ ความทรงจำเกี่ยวกับฝ้ายยังคงชัดเจน เธอคือคนที่ฉันรักหมดหัวใจ แต่เธอกลับหายไปจากชีวิตของฉันอย่างไม่มีคำลา
"นนท์ อย่าร้องไห้เลยนะ" เสียงของเธอยังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำ
ฉันพยายามลืมเธอ พยายามใช้ชีวิตต่อไป แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ภาพของเธอก็ยังคอยวนเวียนอยู่ในหัว เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และแม้แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เคยติดเสื้อของเธอก็ยังคงตามหลอกหลอน
สองปีที่ฉันรอคอยการกลับมาของฝ้าย แม้จะรู้ดีว่ามันอาจไม่มีวันเป็นจริง
---
วันนี้ฉันแวะมาที่แยกราชประสงค์เพราะนัดเจอเพื่อนที่ร้านคาเฟ่เล็กๆ ริมถนน เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ ดังแว่วมาจากในร้าน กลิ่นกาแฟหอมอบอวลไปทั่ว ฉันนั่งมองถนนผ่านกระจกบานใหญ่ เห็นผู้คนเดินสวนกันไปมา แต่จู่ๆ สายตาของฉันก็พลันสะดุดกับบางสิ่งที่ทำให้ลมหายใจของฉันชะงัก
เธอ...
ฝ้าย
ฉันจ้องมองเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เธอสวมเสื้อกันหนาวสีครีม ผมยาวปลิวไสวตามแรงลม ใบหน้าที่ฉันจำได้ดีนั้นยังคงสวยงามเหมือนเดิม หัวใจฉันเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
เธอเดินฝ่าฝูงชนมาทางฉัน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นฉัน
ฉันลังเลว่าจะทำยังไงต่อไปดี ควรจะวิ่งเข้าไปหาเธอไหม? คำถามมากมายถาโถมเข้ามาในหัว ความทรงจำเก่าๆ ที่ทั้งหวานและขมขื่นพุ่งเข้ามาเหมือนภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำ
แต่แล้วเธอก็หันมา
ดวงตาคู่นั้นสบกับฉันโดยไม่คาดคิด
เวลาราวกับหยุดนิ่ง
---
ฝ้ายเดินเข้ามาใกล้ ฉันยืนนิ่งไม่กล้าขยับ แม้หัวใจจะเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา เธอยิ้มบางๆ และพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน
“นนท์...”
ฉันพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น "ฝ้าย..."
เธอยืนมองฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง
"ขอโทษที่ทำให้รอนานนะ" ฝ้ายเอ่ยออกมา น้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความรู้สึกผิด
ฉันพยายามยิ้มทั้งที่หัวใจยังสั่นไหว "แค่กลับมาก็ดีแล้ว"
เราสองคนยืนมองหน้ากันโดยไม่มีคำพูดใดๆ ความเงียบงันนี้เต็มไปด้วยความหมายที่ไม่ต้องอธิบาย
ฝ้ายถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น "เราไปหาที่นั่งคุยกันดีไหม?"
ฉันพยักหน้า และพาเธอเดินเข้าไปในคาเฟ่ที่ฉันนั่งอยู่ก่อนหน้า
---
เรานั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะเล็กๆ มุมหนึ่งของร้าน บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟและเสียงดนตรีแจ๊สที่ยังคงบรรเลงอย่างต่อเนื่อง
"เธอหายไปไหนมา?" ฉันถามออกไปในที่สุด แม้จะกลัวคำตอบ แต่ฉันก็ต้องรู้
ฝ้ายก้มหน้าลงเล็กน้อยเหมือนกำลังรวบรวมความกล้า "เราต้องไปทำงานต่างประเทศแบบกระทันหัน แล้วก็มีปัญหาบางอย่างที่ทำให้ติดต่อกลับมาไม่ได้"
"แต่สองปีเลยเหรอ?" ฉันถาม น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
ฝ้ายเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอมีแววเศร้า "ฉันรู้... ฉันผิดเองที่ไม่บอกอะไรเลย ฉันเสียใจจริงๆ นะ"
ฉันนิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะพยายามสะกดความรู้สึก "ฉันไม่โกรธเธอหรอก แค่กลับมาก็ดีแล้ว"
ฝ้ายมองหน้าฉันอย่างไม่เชื่อสายตา "นนท์... เธอเป็นคนที่ใจดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จัก"
"แล้วตอนนี้เธอกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรหรือเปล่า?" ฉันถามด้วยความหวัง
ฝ้ายยิ้มบางๆ "ใช่ ฉันกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯแล้ว และฉันก็อยากเริ่มต้นใหม่"
คำพูดของเธอทำให้หัวใจที่เคยแหลกสลายของฉันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
---
การพบกันของเราวันนี้เหมือนเป็นสายลมแห่งฤดูหนาวที่พัดมาปลอบโยนหัวใจที่เหน็บหนาว บางทีความรักก็เหมือนสายลม แม้มันจะพัดหายไป แต่ถ้าเราเชื่อมั่น วันหนึ่งมันจะพัดกลับมา... เช่นเดียวกับฝ้ายที่กลับมาในชีวิตของฉัน
และครั้งนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหายไปอีก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments