กาลเวลา
"ธีม เรื่อ**งบังเอิญ"**
'เว่ยอิง ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นพี่น้องร่วมสาบาน เจ้าคิดว่ายังไง' เสียงทุ้มต่ำถามพลางมองอย่างรอคอยคำตอบ แน่นอนว่าจอมยุทธนั้นคาดหวังไม่น้อยเลยทีเดียว
'สำหรับข้าแล้ว...ตกลงสิ หลานจ้าน' เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน
ผ่านมาสักพักแล้วสินะ ตั้งแต่วันที่ตอบรับคำขอของเขา ก็มีเรื่องให้เข้ามาไม่หยุดหย่อน ไหนจะการเตรียมพิธีการร่วมสาบาน การสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว
เพราะเว่ยอิงในร่างคุณชายโม่เองก็มีฐานะไม่ใช่น้อย แม้ว่าจะลูกนอกกฎหมายของจินกวงชาน แต่ก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าอยู่ตระกูลจินอยู่ดี ทุกอย่างถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะของทั้งคู้ที่ไม่ได้น้อยหน้ากันเลย
"ได้เวลาแล้วนะ เว่ยอิง" เจียงเฉิง ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลเร่งเพื่อนสนิท แถมยังมีท่าทีตื่นเต้นกว่าว่าที่ศิษย์น้องร่วมสาบานเสียอีก
"ขอบใจที่เข้าใจข้า แม้ว่าจะใช้เวลานานมากก็ตามที" แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยการที่เขาเกือบตายเป็นครั้งที่สองแต่ถ้ามันทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้ก็ถือว่าดีแล้ว
"เจ้ามันไม่เคยบอกอะไรข้าอยู่แล้ว รู้ทีหลังตลอด"
"ต่อไปในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องได้พบความบังเอิญที่ทำให้หลงรักใครขึ้นมาแน่นอน"
"สำหรับข้าไม่มีคำว่าบังเอิญ มีแต่คำว่าตั้งใจ" ถึงจากนี้ไปจะเชื่อเพื่อนสนิททุกเรื่องแต่เรื่องแบบนี้ถือเป็นข้อยกเว้น
"แล้วข้าจะคอยดู หวั่นอิ๋น" ใบหน้าหวานยิ้มอย่างรู้ทัน
*เรื่องจริงจากประวัติศาสตร์ มีสิ่งที่เรียกว่า พี่น้องร่วมสาบาน เป็นธรรมเนียมที่พี่ชายน้องชายจะมาสาบานรักกัน
-โดยที่พี่ชายในสาบาน (ผู้ชายอายุมากกว่า) จะมารับน้องชายร่วมสาบาน (หนุ่มรูปงาม) ไปอยู่บ้านด้วยราวกับเจ้าสาว
-แน่นอนว่ามีความสัมพันธ์ทางกาย
-จะแต่งงานหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง
"จากนี้ไปคุณชายโมเสวี่ยนอวี่คืออวี๋ฝูเหรินของสกุลหลานแล้ว ขอให้ทุกคนในตระกูลหลานเคารพเขาดั่งเหมือนที่เคารพข้ามาโดยตลอด" น้ำเสียงของหานกวงจินไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงความเคร่งครัดในระเบียบเสมอมา
"ขอรับ หานกวงจิน"
"ไปกันเถอะ หลานฝูเหริน" แต่น้ำเสียงอ่อนลงทันทีเมื่อผู้กับพูดเป็นภรรยา ทำให้ศิษย์ในสำนักหาวิธีเอาตัวรอดพ้นจากการลงโทษได้อย่างไร
"ครับ ท่านพี่หลาน" ถึงแม้ว่าอายุเมื่อครั้นยังอยู่ในร่างเว่ยอู่เซี่ยนจะอายุเท่ากันแต่ในร่างใหม่นี่ถือว่าห่างกันพอสมควร ต่อหน้าผู้คนจึงต้องเรียกให้เป็นธรรมเนียม และเพื่อฝึกให้ชินปากจะได้ไม่มีการหลุดว่าแท้จริงแล้วดวงวิญญาณของร่างนี้เป็นใคร
หลังจากเสร็จพิธีทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมาย เนื่องจากพิธีแต่งงานยังเป็นยาม*จ่าว เฉิน (รุ่งอรุณหรือรุ่งสาง) ทำให้ไม่ติดขัดกับงานของทุกตระกูลมากนัก ผู้คนต่างพากันอิจฉาที่คุณชายโม่พูดถูกขนานนามว่า เสียสติ ไม่มีใครสนใจ ไม่ได้รับการดูแลเหมือนลูกในกฎหมาย แต่ก็เหมือนฟ้าเป็นใจให้คุณชายหลานวั่งจีมีเมตตามารับไปเป็นน้องชายร่วมสาบาน เรียกได้ว่าเหมือนการเกิดใหม่เลยทีเดียว
ณ โรงเตี๊ยม
"พักสองวันนะเถ้าแก่"
"พักสองวันครับเถ้าแก่"
เสียงของทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ช่างเป็นเสียงที่คุ้นหูยิ่งนักเมื่อหันมาตามทางของเสียงก็พบว่า...
ประมุขตระกูลหลาน
"บังเอิญมากที่ข้าพบประมุขตระกูลเจียงที่นี่" หลานซีเฉินเอ่ยทัก ไม่คิดว่าเขาจะได้พบกับคนที่แอบชอบในเวลานี้
"ไม่หรอก ข้าไม่เชื่อว่าเรื่องบังเอิญมีอยู่จริงแถมพวกเรายังเพิ่งออกมาจากงานแต่งของเสวี่ยนอวี่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย" เจียงเฉินตอบปฏิเสธในทันที เมื่อเช้าก็เพิ่งจะได้ยินจากปากเพื่อนสนิท
นี่เขายังจะต้องทนฟังจากปากของประมุขของตระกูลหลานอีกรึ ช่างน่าปวดหัวเสียจริง
"ไม่ทราบว่าประมุขตระกูลเจียงมีธุระอันใดกับที่นี่"
"ข้าว่าจะมาซื้อของและสำรวจแถวนี้สักวันสองวัน ค่อยกลับท่าเรือสัตบง"
"ให้ข้าอาสาพาท่านเที่ยวชมที่นี่ดีหรือไหม ไม่มีที่มดในกูซูที่ข้าไม่รู้จัก" เขาอาสาอยากพาไปแต่ทว่า...
"ข้ามิกล้ารบกวนท่านประมุขหลานหรอก ข้าขอตัว"
ตลอดระยะทางการซื้อของที่จำเป็นในส่วนทีี่เขาปกครองนั้นไม่มี ก็พบประมุขตระกูลหลานทุกที่อยู่ร่ำไป เลยลองสอบถามชาวบ้านแถวนั้น จึงได้ความว่า
'วันนี้ท่านประมุขตระกูลหลานจะมาตรวจความเรียบร้อยของชาวบ้าน และสอบถามตามสถานที่ต่างไปๆ ทำให้พบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง'
มันไม่ได้บ่อยธรรมดา...มันทุกครั้งเลยต่างหากล่ะ! อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น น่าหงุดหงิดเสียจริง
น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นประมุขเจียงหัวเสียมากขนาดนี้แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ ความจริงเขาไม่ได้ตั้งใจตามไปหรอก
แต่กำหนดการมันระบุไว้ก็เดินทางตามที่ได้รบมา บางครั้งก็ไม่ได้เจอกันแต่คงถูกเหมารวมอยู่ดี เพราะสีหน้าความไม่พอใจมันเด่นชัดบนใบหน้ามาก
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาและคนหน้าหวานดันเข้าโรงเตี๊ยมพร้อมกันอีก ถ้าไม่ติดว่าเป็นเซียนป่านนี้คงหยิบกระบี่มาฟาดฟันเป็นแน่
"ท่านจงใจไปพร้อมข้าใช่หรือไม่ แบบนี้ไม่ถูกต้องเลยนะ" น้ำเสียงของเจียงเฉินบ่งบอกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก แทบอยากจะหาเรื่องสู้เลยด้วยซ้ำ ถึงจะอายุเข้าเลขสามแต่ความอารมณ์ร้อนยังคงอยู่เสมอ
"ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการทั้งหมดแม้กระทั่งตัวข้าเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประมุขตระกูลเจียงจะเดินทางไปที่ใด" ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญของทั้งคู่ที่ต่างพบกันบ่อยมากจนน่าแปลกใจ แม้กระทั่งตัวของหลานซีเฉินเองยังแปลกใจ แต่หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นมาจากความคิดของหานกวงจินและอวี๋ฝูเหรินคนสวยนั่นเอง
"เว่ยอิง เจ้าคิดว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ไม่ว่าเมื่อไหร่คนรักของเขาก็สดใสเสมอ จะอยู่ในร่างของตนเองหรือร่างของคนอื่นแต่ความงามทางจิตใจไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด และเป็นคนที่แสบที่สุดในยุทธภพอีกด้วย
"อันนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าป่านนี้เจียงเฉินโกรธแน่นอน"
"ทำไมล่ะ!"
"ก็ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่าใครจะไปที่ไหน แต่พวกเราสองคนรู้ว่าจะไปที่ไหน"
"พวกเราจงใจทำให้พวกเขาเจอกันบ่อยขึ้น"
"แม้เพียงสักนาทีก็ยังดี"
"เผื่อว่าจะได้รู้ใจของตนเองเสียที"
"อายุก็มากแล้ว"
"เว่ยอิง เจ้านี่มัน...แสบจริงๆ" ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายนอกจากเสียงหัวเราะที่ดังลั่นจิ้งชื่อ
ชุดทำพิธีในยาม*จ่าว เฉิน (รุ่งอรุณหรือรุ่งสาง) ถูกเปลี่ยนเป็นชุดปกติที่ทั้งคู่เคยใส่ หลังเสร็จพิธีหานกวงจินก็เดินทางตามกำหนดการของตระกูลทันที ส่วนหลานฝูเหรินก็เข้าจิ้งชื่อเพื่อพักผ่อนตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งยาม**เซี่ย อู่ว (ตอนบ่าย) สามีถึงมาปลุกให้ไปกินข้าวด้วยกัน ความเคร่งครัดที่เคยทำกับคนทั้งตระกูลแต่กลับผ่อนปรนให้กับเว่ยอิงเพียงคนเดียว
"อาหารที่นี่จะอร่อยกว่านี้ถ้ามีเนื้อมากกว่านี้" เสียงทุ้มนุ่มบอกด้วยใบหน้าจริงจัง ในบรรดาทุกเรื่องที่สนทนากันมีเพียงเรื่องกินและเรื่องงานเท่านั้นที่เขาจะจริงจัง นอกนั้นก็เล่นไปเรื่อยตามประสาเด็กหนุ่มของร่างใหม่
"เดี๋ยวรอบหน้าข้าจะทำให้" เสียงทุ้มต่ำขานรับอย่างตั้งใจ คนที่เคยทำผิดพลาดในอดีตอย่างหลานจ้านจะไม่มียอมให้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ไม่ว่าอะไรที่จะสามารถรั้งคนๆ นี้ไว้ได้ เขายอมทำทั้งหมด
"เจ้าไม่เหมือนหลานจ้านที่ข้าเคยรู้จัก" เพราะสมัยก่อนเป็นคนที่แทบจะอยากฆ่าเขาทุกเวลา แต่ในตอนนี้กลับมาขอแต่งงาน พามาอยู่ด้วยกันแถมยังตามใจทุกครั้ง ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก
"เว่ยอิง ข้ามองเจ้าผิดไปตอนเป็นปรมาจาร์ยอี๋หลิง"
"ข้าจะไม่ยอมทำผิดซ้ำสองเป็นแน่"
"ข้าไม่อยากเสียเจ้าไปอีกแล้ว"
"ตลอดระยะเวลาสิบสามปีที่อดทนมา"
"มันช่างทรมาณเหลือเกิน"
"ข้าไม่เคยรู้สึกขอบคุณความบังเอิญในวันนั้น ที่ลูกศิษย์ในกูซูกำลังเดือดร้อนพอดีจนทำให้ต้องลงจากเขา"
"ทำให้ข้าได้พบกับเจ้าอีกครั้ง"
"ไม่ว่าจะบังเอิญ หรืออะไรก็ตามแต่"
"ข้าก็ขอบคุณที่ทำให้ได้เจอกันอีกครั้ง เว่ยอิง"
"เว่ยอิง เจ้าร้องไห้ทำไม"
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาของตนเองไหลมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะมัวแต่ฟังคำพูดมากมายของคนรัก ที่ปกติเป็นคนพูดน้อยจนนับคำได้แต่ในวันนี้กลับพูดออกมามากมายเสียจนน่าตกใจ นี่คือสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้หานกวงจินผู้ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ยอมแหกกฎแบบนี้
ความรู้สึกนี้มันดีจนท่วมท้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ มีเพียงการโอบกอดแล้วลูบผมเป็นการปลอบใจ ไม่มีคำพูดใดถูกเอ่ยออกมาอีก เท่านี้ก็มากพอแล้ว เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่สงสัยในตัวท่านพี่คนนี้อีกต่อไปแล้ว
"ขอบคุณที่ยอมพูดออกมามากมายขนาดนี้"
"ข้าคิดมาโดยตลอดว่าท่านพี่เกลียดข้าเสียอีก"
"ขอบคุณมากจริงๆ"
ชายเสื้อถูกถอดออกอย่างปรานีและพับเก็บอย่างเรียบร้อย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เว่ยอิงไม่เคยคิดว่าหลานจ้านจะเป็นคนแบบนี้ คนที่ไม่เคยแม้แต่จะดื่มสุรา อ่านหนังสือประโลมในวันนั้นกลายเป็นคนบ้ากามถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน
ถึงจะอ่อนโยนทุกขั้นตอนแต่ว่ามันช่างขัดกับใบหน้าของเขาเสียจริง
"หลานจ้าน พ... พอก่อน... อ๊ะ!" ทำไมถึงแข็งแรงขนาดนี้ ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร
"ทำไมตัวเจ้าหอมขนาดนี้ เว่ยอิง" ทำไมยิ่งถอดถึงยิ่งสวย ละสายตาไม่ได้เลย
"ท่านพี่ พอก่อนนะ" เสียงทุ้มนุ่มพยายามดัดเสียงให้ฟังดูน่ารักที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เผื่อคนรักจะยอมใจอ่อนลงบ้าง
แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการทำให้สติของสามีขาดผึง ขนาดที่ค้างคาอยู่ภายในขนาดใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว เสียงไม้กระทบพื้นดังสนั่นไปทั่วห้อง ทำให้คนตัวเล็กรู้ว่าไม่ควรพูดอะไรหวานหูในขณะกำลังทำกิจกรรมแบบนี้อีกเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเจ็บตัวมากกว่าเดิม
"ท่านพี่วันอื่นยังมีนะ สามสี่วันค่อยทำทีได้ไหม"
"ไม่ได้หรอก ทุกวันก็คือทุกวัน"
"ไม่อย่างนั้น..."
"ข้าจะต้องขาดใจตายเป็นแน่"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments