ว่ากันว่าองค์ชายเจ็ดอ่อนแอ?
บทนำ
แฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์มักจะใช้แนวทางทั่วไป 4 ประการดังต่อไปนี้: [ 3 ]
เวทมนตร์สิ่งมีชีวิตในตำนานเช่นมังกรหรือ องค์ประกอบ เหนือธรรมชาติ อื่นๆ เช่นแหวนเวทมนตร์อยู่ร่วมกันอย่างมองไม่เห็นกับโลกธรรมดา โดยคนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว ในเรื่องนี้ เวทมนตร์มีความคล้ายคลึงกับจินตนาการร่วมสมัย อย่างมาก ซึ่งมักจะทับซ้อนกับประวัติศาสตร์ลับ หรืออีกทางหนึ่ง เรื่องเล่าของผู้เขียนแสดงให้เห็นหรือนัยว่าในปัจจุบัน เวทมนตร์จะ "ถอนตัว" ออกไปจากโลก หรือถูกซ่อนไว้โดยผู้ริเริ่มเพียงไม่กี่คน เพื่อให้ประวัติศาสตร์กลับไปสู่เวอร์ชันที่เราคุ้นเคย[ 4 ]ตัวอย่างนี้พบได้ในThe Charwoman's ShadowของLord Dunsanyซึ่งเกิดขึ้นในสเปน แต่จบลงด้วยนักมายากลในนั้นที่เอาตัวเองและสิ่งมีชีวิตแห่งความโรแมนติกทั้งหมดออกจากโลก จึงทำให้ยุคทองสิ้นสุดลง[ 5 ]
นอกจากนี้ยังสามารถรวมถึงประวัติศาสตร์ทางเลือกซึ่งอดีตหรือปัจจุบันได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่แท้จริงกลายเป็นแตกต่างออกไป[ 6 ]
เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกรองที่มีความคล้ายคลึงกับสถานที่ (หรือหลายๆ แห่ง) และช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่แน่นอน แทนที่จะใช้การผสมผสานทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์แบบที่งานแฟนตาซีโลกรองอื่นๆ นิยมใช้ อย่างไรก็ตาม งานของนักเขียนแฟนตาซีส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดได้รับแนวคิดและแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง ทำให้ขอบเขตของแนวทางนี้คลุมเครือ
แฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์อาจเกิดขึ้นในโลกสมมติที่คล้ายกับช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์แต่ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่แท้จริง[ 6
12 เทพเจ้ากรีกและเทพธิดากรีกแห่งเขาโอลิมปัส
ซูส (Zeus) - เทพแห่งท้องฟ้า
โพไซดอน (Poseidon) - เทพเจ้าแห่งท้องทะเล
แอรีส (Ares) - เทพแห่งสงคราม
อะโฟรไดท์ (Aphrodite) - เทพีแห่งความรัก
เฮรา (Hera) - เทพีแห่งสตรี
ดีมิเทอร์ (Demeter) - เทพีแห่งการเก็บเกี่ยว
อะธีนา (Athena) - เทพีแห่งยุทธศาสตร์
อะพอลโล (Apollo) - เทพแห่งดวงอาทิตย์
อาร์ทิมิส (Artemis) - เทพีแห่งการล่า
ฮิฟีสตัส (Hephaestus) - เทพเจ้าแห่งไฟ
เฮอร์มีส (Hermes) - ผู้ส่งสารแห่งปวงเทพ
ไดอะไนซัส (Dionysus) - เทพแห่งไวน์
ซูส (Zeus) - เทพแห่งท้องฟ้า (God of the Sky)
ขุนนางอังกฤษมีสองประเภท คือขุนนางสืบตระกูล (hereditary peer) และขุนนางตลอดชีพ (life peer)[1] ซึ่งในสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ (ค.ศ. 1422–61) ขุนนางประกอบไปด้วยบรรดาศักดิ์ห้าระดับ ซึ่งถูกเรียกว่า "ขุนนางแห่งอาณาจักร" (Peers of the Realm) เรียงจากสูงไปต่ำดังนี้:
"ดยุค" (Duke) สตรีเรียก "ดัชเชส" (Duchess)
"มาร์ควิส" (Marquess) สตรีเรียก "มาร์เชอเนส" (Marchioness)
"เอิร์ล" (Earl) สตรีเรียก "เคาน์เตส" (Countess)
"ไวเคานต์" (Viscount) สตรีเรียก ไวเคาน์เตส (Viscountess)
"บารอน" (Baron) สตรีเรียก บารอเนส (Baroness)
อัศวิน (knight หรือที่เรียกว่า milites ในภาษาละติน) ปรากฏขึ้นในปลายศตวรรษที่ 10 ในฐานะที่เป็นกลุ่มชนชั้นเฉพาะของคนติดอาวุธ ที่ขุนนางจ้างมาสำหรับป้องกันปราสาทให้กับตน อัศวินและขุนนางเป็นชนชั้นที่ยังแยกกันอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ ค.ศ. 1200 ขุนนาง (noble หรือที่เรียกว่า nobiles ในภาษาละติน) ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินผู้สั่งสมความมั่งคั่งเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น จนอาจเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจในเขตแดนของตน และอัศวินที่รับใช้ขุนนางเหล่านั้นก็มักจะยากจนและมีกำเนิดมาจากครอบครัวชาวนาผู้ต่ำต้อย
ในเวลาต่อมา อัศวินเริ่มเข้าไปผสมกับชนชั้นสูงมากขึ้นโดยการได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากชนชั้นสูงและผ่านการแต่งงานเข้าสู่ตระกูลขุนนางเหล่านั้นด้วย ดังนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นนี้ จึงมีการเรียกขุนนางว่าเป็น domini (เจ้า - lord) อีกทั้งมีอัศวินบางคนที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ พวกเจ้า เช่น การสร้างป้อมค่ายต่าง ๆ รอบที่ดินของตน เป็นต้น
ศาสนจักรก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มพูนสิทธิพิเศษให้แก่อัศวินโดยการเน้นบทบาทของนักรบในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ของชาวคริสต์ที่ได้รับมาจาก พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับบทบาทของพระ การตั้งอัศวิน (dubbing of a knight = การตั้งอัศวินเป็นพิธีกรรมสำคัญในการที่บุคคลจะได้รับตำแหน่งจากเจ้านายเหนือหัวของตน ในแง่นี้หมายถึงการนำดาบแตะไหล่เพื่อสถาปนาเป็นอัศวิน) กลายเป็น“พิธีรับศีลของการเป็นอัศวิน” (sacrament of knighthood) ยิ่งกว่านั้นการทำสงครามครูเสดต่อต้านชาวมุสลิมในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และชื่อเสียงของคณะอัศวินบางกลุ่ม อย่างเช่น อัศวินฮอสพิทาลเลอร์ (Knight Hospitaller) อัศวินเทมพลา (Knight Templar) และอัศวินทิวทอนิค (Teutonic Knight) เป็นต้น ช่วยทำให้เกียรติภูมิของอัศวินในฐานะนักรบชาวคริสต์เพิ่มสูงมากขึ้น ๆ วรรณคดีหลายเล่มอย่างเช่นเรื่อง บทเพลงแห่งโรแลนด์ (Song of Roland) และเรื่องพระเจ้าอาเธอร์ (Arthurian romance) ล้วนแต่ยกย่องพฤติกรรมของอัศวินทั้งสิ้น อนึ่ง เมื่ออัศวินมีที่ดินเป็นของตนเอง ก็ยุติความแตกต่างที่แยกระหว่างขุนนางกับอัศวินลง พร้อมกันนั้นก็เกิดชนชั้นใหม่ที่ขยายขนาดขึ้นเป็นขุนนางและอัศวินผู้เป็นเจ้าของที่ดิน หลักฐานต่าง ๆ สมัยกลางใช้คำอันหลากหลายเมื่อต้องเอ่ยถึงอัศวินและขุนนาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเคยมีช่องว่างที่กั้นระหว่างอัศวินกับขุนนางอยู่ ในต้นศตวรรษที่ 12 นักเขียนแยกระหว่างอัศวินธรรมดา อัศวินที่เป็นอัศวินระดับกลาง และอัศวิน
สัตว์ในตำนาน/เทพนิยาย
-ไซคลอปส์ถูกใช้ระบุถึงยักษ์ตาเดียวคือมีตาเดียวอยู่กลางใบหน้า มีอยู่ 2 ชนิดโดยชนิดแรกเป็นลูกของเจ้านภา "อูรานอส" หรือยูเรนัสและพระแม่ธรณี "จีอา" มีด้วยกัน 3 ตน ชื่อว่า บรอนทีส สเทอโรพีส และอาจีส
-กายไทฟอน (Typhon) เป็นลูกของจีอา พระแม่ธรณี ซึ่งพระนางให้กำเนิดภายหลังที่โครนัสถูกโค่นบัลลังก์แล้ว เพื่อให้ไปสู้รบกับซูสเทพเจ้าแห่งสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ ไทฟอนเป็นอสูรกายที่น่าเกลียดน่ากลัว
-กริฟฟอน หรือ กริฟฟิน (Griffin,Gryphin,Griffon,Gryphon) คือสัตว์ในเทพนิยายเป็นครึ่งนกอินทรี ครึ่งสิงโต โดยส่วนหัว ขาคู่หน้าและปีกเป็นนกอินทรี ส่วนลำตัวและขาคู่หลังเป็นสิงโต และมีหางเป็นงู
-คิดนา (Echidna) ในตำนานของกรีกนั้นเป็นสตรีที่งดงาม แต่ท่อนล่างเป็นงูขนาดยักษ์ เป็นภรรยาของไทฟอน อีคิดนาถูกยักษ์ร้อยตาอาร์กัส ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของฮีร่าสังหาร นางเป็นอสูรกายที่ไม่ค่อยมีบทบาทมาก
-บาซิลิสก์ มีลักษณะคล้ายๆ งูที่มีมงกุฎสีทองเล็กๆ บนหัวไก่ ในยุคกลางมีผู้เชื่อว่ามันเป็นเพียงงูที่มีหัวเหมือนไก่ บางครั้งมีหัวเป็นคน บาซิลิสก์เกิดจากไข่ที่ออกมาจากพ่อไก่ระหว่างที่มีกลุ่มดาวสุนัข
-ไคเมร่าหรือคิเมร่า เป็นสัตว์ในเทพนิยายกรีก ในตำนานเล่าว่าไคเมร่าเป็นลูกของอิคิดนาและไทฟอน เป็นพี่ชายของเซอร์เบอรัส ไคเมร่ามีร่างกายกำยำและเป็นที่รวมของสัตว์ร้าย 3 ชนิด คือ ส่วนหัวถึงหน้าอกเป็นสิงโต
-เซอร์เบอรัส หรือ เคอร์เบอรอส แปลว่า ปิศาจในหลุม เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีก มีรูปร่างเป็นสุนัขสีดำใหญ่โตพ่วงพี มี 3 หัว ปลายสุดของหายเป็นงู (บางตำนานว่าเป็นหางมังกร) เซอร์เบอรัสมีหน้าที่เฝ้าทางลงสู่นรก
พลังธาตุ/เวทมนตร์ธาตุ
เวทมนตร์ธาตุเป็นเวทมนตร์ระดับที่สี่ ประกอบไปด้วย ธาตุทั้งแปด แม้จะถือว่าเป็นเวทมนตร์ชั้นล่างสุดแต่ก็เป็นเวทมนตร์สำคัญที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับเรียนเวทมนตร์ในระดับที่สูงกว่า ผู้เล่นสายเวทมนตร์มีสิทธิ์เรียนรู้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุ แต่สามารถเลือกเรียนเวทมนตร์ระดับสูงได้เพียงธาตุเดียว แต่ก็มีกรณียกเว้นที่ผู้เล่นบางคนทำภารกิจลับหรือใช้ไอเทมเพื่อให้ใช้เวทมนตร์ธาตุได้มากกว่าปกติ
ธาตุไฟ จะเน้นทำลายวงกว้างและต่อเนื่องแม้ว่าจะร่ายเวทมนตร์จบไปแล้วพลังทำลายก็ยังคงอยู่ พลังทำลายเพื่อเรียกค่าความเสียหายนั้นไม่มีธาตุไหนเทียบเท่า ข้อเสียคือกินพลังเวทมนตร์มากที่สุด
ธาตุน้ำแข็ง เย็นถึงกระดูก ไม่ช้าไม่เร็วแต่ป้องกันได้ยาก ส่วนใหญ่เมื่อร่ายแล้วมักไม่มีพลาด นอกจากพลังโจมตีแล้วยังสามารถใช้ลดทอนความสามารถด้านอื่นๆของศัตรูได้อีก
ธาตุลม มีเวทมนตร์เสริมพลังหลายอย่าง โจมตีก็ได้รักษาก็ดี มีความสามารถครอบจักรวาล แต่ไม่โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งจนเด่นชัด นอกจากระยะที่ไกลที่สุดในเวทมนตร์ทั้งหมดแล้ว ที่เหลือก็ระดับแค่กลางๆหากเทียบกับเวทมนตร์ที่คล้ายๆกันของสายอื่น
ธาตุดิน มีความสมดุลมากที่สุด ลักษณะของพลังตรงๆไม่พลิกแพลงมากนัก สามารถโจมตีและป้องกันเป็นกายภาพได้ มีเวทมนตร์ที่ดีๆอยู่หลายบท แต่นับว่าช้าที่สุดในเวทมนตร์ทั้งหมด
ธาตุสายฟ้า ร่ายได้เร็วที่สุด ที่ความสามารถในการรบกวนและก่อกวน และหากใช้เป็นก็มีเวทมนตร์ที่รุนแรงมากด้วย ต่างจากธาตุไฟตรงที่การโจมตีมักจะเป็นเป้าเดี่ยว ไม่เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูกลุ่มใหญ่
ธาตุน้ำ มีพลังในการชำระล้าง รักษา และ รูปลักษณ์ที่ไม่ถึงกับตายตัว เป็นเวทมนตร์ที่มีแรงอัดมากที่สุด ถ้าคิดจะกระแทกให้ศัตรูเปลี่ยนตำแหน่ง ธาตุน้ำถือว่าดีที่สุด น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีเวทที่ตักสินเป็นตายได้
ธาตุแสงสว่าง นั้นมักจะมีการกำหนดค่าความเสียหายไว้แต่แรก ไม่ว่าระดับสูงหรือต่ำก็โดนเท่ากัน นอกเหนือจากส่วนนี้แล้วก็ยังมีความสามารถในการรักษาและฟื้นฟูผลจากเวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี
ธาตุความมืด เป็นการโจมตีเสียส่วนมาก ซึ่งการโจมตีจากธาตุความมืดนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับคำสาปที่ทะลุทะลวงการป้องกันธรรมดาๆ แถมยังมีเวทมนตร์ประเภทคำสาปซึ่งธาตุอื่นๆไม่มี ข้อเสียคือไม่มีเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัว
ไฟ พลังโจมตีสูง สัญลักษณ์ ความกล้าหาญ
น้ำแข็ง MPเยอะ สัญลักษณ์ ความเสียสละ
สายฟ้า สกิลเยอะที่สุด สัญลักษณ์ ความรอบรู้
ลม ความเร็วสูง สัญลักษณ์ ความอิสระเสรี
น้ำ การรักษาสูง สัญลักษณ์ ความอ่อนโยน
ดิน ป้องกันสูง สัญลักษณ์ ความอดทน
แสง เพิ่มบัพ สัญลักษณ์ ความจังรักภักดี
ความมืด ดีบัพ สัญลักษณ์ ความปล่อยวาง
เวทมนตร์เฉพาะ
เวทมนตร์สองระดับนี้เป็นเวทมนตร์ที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ แต่ระดับที่สองเป็นต้นไปจะมีข้อจำกัดที่มากขึ้น เช่นระดับที่สอง เวทมนตร์เฉพาะ คือเวทมนตร์ที่มอบสิทธิ์เรียนรู้ให้กันในเฉพาะกลุ่ม/เผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเวทของเผ่ามังกรสำหรับมังกร เวทแห่งกาลเวลาสำหรับเทพแห่งกาลเวลา เวทแห่งความตายสำหรับเทพแห่งความตาย การจะได้สิทธิ์มาจำเป็นต้องมีสถานะอยู่ในกลุ่มนั้นๆ โดยกลุ่มที่จะมีเวทมนตร์เฉพาะได้นั้นต้องเป็นเผ่าพันธุ์ระดับสูงที่เป็นได้ยากมากๆเท่านั้น
ไรท์เตอร์
คำไม่พอทำไงดีนะ???
ไรท์เตอร์
Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode Episode
ไรท์เตอร์
บายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆบายจ้าทุกคนจุ๊ปๆ
Comments
The person I once loved:(★
คนอื่นบางคน/อ่าน:เรา/เลื่อนแล้วบอกตัวเองว่าจบแล้ว/Facepalm//Grin/
2024-10-28
4
李希偉.
ดีเเล้วค่ะเเอดจะได้ไม่ต้องลำบากสมองคนอ่่าน
2024-11-18
1
李希偉.
มาเเบบไม่ทันตั้งตัวเลยเจ้าค่ะ
2024-11-18
2