ความสุขของซูหลินลี่
ณ หมู่บ้านตงซานที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักพรรดิแคว้นเยี่ย ที่มีดินแดนทางเหนือติดกับแคว้นหมิง และทั้งสองแคว้นก็ยังทำการค้าขาย ส่งออกแลกเปลี่ยนสินค้ากันเรื่อยมา นับว่าทั้งสองแคว้นถือว่าเป็นมิตรกันตลอดมา ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับชายแดน ไม่ว่าจะเป็นแคว้นเยี่ยหรือแคว้นหมิงต่างก็ไปมาหาสู่กัน และแลกเปลี่ยนสินค้ากันเรื่อยมา ซึ่งที่นี่มีอากาศที่หนาวมากในฤดูเหมันต์(ฤดูหนาว) แต่พอถึงฤดูคิมหันต์กลับร้อนมากๆเช่นกัน แต่ก็ยังดีหน่อยที่ยามฤดูฝนกลับตกต้องตามฤดูกาล จึงทำให้ต้นไม้ต้นหญ้า ผักป่า พืชพันธุ์ธัญญาหาร หรือแม้กระทั่งดอกไม้ใบหญ้า รวมทั้งเห็ดและสมุนไพรต่างๆนาๆกลับอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
รวมถึงสัตว์ป่าที่นี่ซึ่งมีมากมายหลายชนิดรวมกันอยู่ที่นี่มากมาย เพราะเหตุนี้จึงทำให้พื้นที่ในเขตหมู่บ้าน ตงซาน ที่มีกันแค่20หลังคาเรือน จึงอาศัยอยู่กันค่อนข้างมีการเป็นอยู่ที่ดี และอยู่กันอย่างมีความสุข มิค่อยจะมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเท่าใดนัก เพราะชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มักจะหาของป่าและล่าสัตว์ไปขาย เพื่อแลกข้าวแลกเกลือ หรือแม้แต่น้ำมันน้ำตาลเครื่องนุ่งห่ม หรืออาภรณ์แพรพัน และบางครอบครัวก็ยังมีตำลึงเหลือพอที่จะส่งลูกหลานเข้าไปศึกษาร่ำเรียนที่สำนักศึกษาในเมืองได้อีกด้วย แต่ก็ยังมีแค่ชาวบ้านส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำนาทำการเกษตรบ้าง และ มีบ้างบางครอบครัวที่เลี้ยงไก่ไข่เลี้ยงเป็ดวัวไว้เทียมเกวียน และมีบางบ้านที่ปลูกผักกินเอง เหตุใดถึงมีแค่บางครอบครัวเท่านั้น เหตุเพราะพื้นที่ที่นี่มีภูเขาหลายลูกล้อมรอบ จึงทำให้มีที่ดินไว้ใช้สอยในการทำเกษตรน้อยมาก การเพาะปลูกจึงลำบากมากต่อการใช้แรงงานคน เพราะดินน้อยกว่าก้อนหินจึงยากต่อการทำการเกษตรนั่นเอง
และที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้ยังติดกับทะเล แต่ถัดจากภูเขาลูกใหญ่หลังหมู่บ้าน ก็ยังมีหนองน้ำจืดที่มีขนาดกว้างใหญ่พอสมควร ใหญ่พอที่จะทำให้ทุกคนในหมู่บ้านตงซานแห่งนี้มิขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ และยังใช้ในการเกษตรบ้าง ส่วนน้ำในหนองน้ำใหญ่นี้สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้อยู่กันแบบมิค่อยอดอยาก เพราะมีน้ำให้ใช้สอยมีสัตว์ป่าให้บุรุษในหมู่บ้านได้ล่า ส่วนสตรีก็จะขึ้นเขาไปเก็บเห็ดหรือผักป่าและสมุนไพรกันอย่างสนุกสนาน ในยามฤดูที่เห็ดเกิดก็จะเกิดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีภูเขาหลายลูกนั่นเอง หรือยามผักป่า แม้กระทั่งสมุนไพรก็ยังมีมากมายนานับชนิดมิได้ และยังมีนาข้าวให้ได้เก็บเกี่ยวเพื่อเอาไว้แลกของกินของใช้ที่ตนเองไม่มี แต่ถึงอย่างนั้นก็มิมีผู้ใดในหมู่บ้านตงซานร่ำรวยกัน หรือจะกล่าวว่าไม่มีตำลึงเงินมากมายจนเหลือล้นเสมือนคนในเมือง เพราะของที่เอาไปขายก็พอแค่ได้จุนเจือครอบครัวมิให้อดอยาก โดยเฉพาะข้าวและเกลือ ที่แพงและหายากยิ่ง ที่เหลือก็เก็บไว้เล็กน้อยเผื่อยามลำบากในภายภาคหน้า หรือยามป่วยไข้ อีกทั้งยังเก็บไว้แต่งสะใภ้เข้าบ้าน และยังเก็บไว้เป็นสินเดิมให้กับบุตรสาวที่จะออกเรือนนั้นเอง
และแน่นอนว่าพวกชาวบ้านในหมู่บ้านตงซานจะทำเช่นนี้ในทุกๆปี พอถึงช่วงฤดูเหมันต์(ฤดูหนาว)ทุกบ้านก็จะกักตุนเสบียงอาหารไว้มากพอสมควร จนเกือบจะมิเหลือตำลึงเงินเลยทีเดียว และปีนี้ก็เช่นกัน เหมันต์ฤดู(ฤดูหนาว)มาเยือนได้สักพักแล้ว ตอนนี้กำลังมีหิมะเกาะอยู่บนยอดหญ้าบ้าง บนต้นไม้บ้างแต่ก็ยังไม่มากเท่าใดนัก แน่นอนว่าอีกมินานก็จะขาวโพลนเต็มภูเขาทุกลูกและบนหลังคาบ้าน ตามทางเดินเล็กๆในหมู่บ้านก็เช่นกัน แทบจะเดินมิได้เหมือนทุกๆปีเลยทีเดียว
เพราะเหตุนี้จึงไม่ค่อยจะมีผู้ใด อยากเดินออกนอกบ้านนอกเรือนในฤดูหนาวของทุกปี จึงจำเป็นต้องยอมควักตำลึงเงินก้อนโต เพื่อนำไปซื้อเสบียงกักตุนไว้ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะหาซื้อมาได้ หรือถ้าบ้านไหนโชคดีล่าสัตว์ตัวใหญ่มาได้นั้น พวกเขาแทบจะมิต้องหาเพิ่มด้วยซ้ำ สัตว์ใหญ่ที่ว่า ก็อย่างเช่นหมูป่าตัวอวบอ้วน หรือแม้กระทั้งกวางตัวใหญ่นั่นเอง
แต่ผิดกับปีนี้ที่เกิดเหตุกราณ์เลวร้ายอย่างที่สุด เท่าที่พวกเขาเคยพบเจอในชีวิตมาก่อน และตอนนี้ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่เล็กไม่ใหญ่มาก กำลังมีเสียงร้องไห้เสียงดังจากน้องชายคนที่สี่ของบ้าน
"ฮือๆๆ ท่านแม่ท่านพ่อพี่ใหญ่ฮือๆๆ พี่รองขอรับๆ พี่รอง"
"ว่าอย่างไรเจ้าสี่พี่รองของเจ้าทำไมหรือ เกิดอันใดขึ้น เหตุใดเจ้าทำหน้าตาเช่นนี้ แล้วเจ้าร้องไห้ด้วยเหตุใด แม่มิสบายใจเลยรีบบอกแม่มาเร็วเข้า"
"ฮือๆๆท่านแม่พี่รองนางไม่พูดกับข้า ข้าถามเท่าใดนางก็มิยอมตอบ ข้าเขย่าตัวนางอย่างไรนางก็มิยอมตื่นขอรับฮือๆๆๆ"
"เจ้าว่าอย่างไรนะ"
นาง ซูหลินเย่ว ผู้เป็นมารดาได้แต่เบิกตากว้างตกใจกับคำเอ่ยถึงพี่สาวคนรองจากบุตรชายคนที่สี่ มิต่างจากบิดาอย่าง ซูซางซาน ก็ตกใจมากเช่นกัน แต่เขากลับมิสามารถลุกขึ้นมาได้ เหตุเพราะเขานั้นเป็นไข้ป่า ด้วยตัวเขานั้นขึ้นเขาไปหาผักป่ามาประทังชีวิตตนและลูกเมีย โดยอากาศที่หนาวเหน็บเลยจับไข้มาสองวันแล้ว เขามิได้กินยา เพราะไม่มีตำลึงเงินในบ้านหลงเหลืออยู่แล้ว เสบียงอาหารทีกักตุนไว้มากมานในบ้านก็หมดไปตั้งแต่สามวันก่อน ตำลึงเงิน5ตำลึงทีเขาเก็บไว้ใช้จ่ายยามลำบาก ก็ได้ถูกพวกเลวนั้นเอาไปจนหมด เขาได้แต่สาบแช่งพวกมัน ขอให้พวกมันตายตกไปในระหว่างทาง ที่พวกมันกลับไปบ้านเมืองของพวกมัน เขาคิดด้วยความโกรธแค้นและชิงชังพวกมันเป็นที่สุด และตอนนี้ได้แต่เป็นห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียวเป็นอย่างยิ่ง
ย้อนไปเมื่อสามวันก่อน ชาวเมืองแคว้นเยี่ยรวมถึงชาวบ้านในหมู่บ้านตงซานต่างก็แสดงความดีใจ กับศึกที่องค์รัชทายาทเหล่าองค์ชายและทหารกล้า ที่ปราบพวกทหารแค้วนหมิงได้สำเร็จ ชาวเมืองทุกคนต่างดีใจโห่ร้องขึ้นด้วยความภาคภูมิใจกับองค์รัชทายาทและองค์ชาย รวมถึงทหารทุกนาย ในเมืองต่างเลี้ยงฉลองกันยกใหญ่ มิต่างจากหมู่บ้านตงซานที่ฉลองกันภายในครอบครัวอย่างมีความสุขเช่นกัน แต่พวกเขาก็ได้ยินข่าวดีได้ไม่นาน เพราะจู่ๆก็มีเหตุการณ์มิคาดฝันเกิดขึ้นกับหมู่บ้านตงซานของพวกเขา พวกทหารแคว้นหมิงที่หนีตายจากสงคราม ระหว่างแคว้นหมิงกับแคว้นเยี่ยนั้น พวกทหารแคว้นหมิงที่รอดตายนั้น กลับหนีตายมาทางหมู่บ้านตงซานประมาณ150นายเห็นจะได้
พวกมันเห็นว่าหมู่บ้านตงซาน เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล และไม่มีทหารของแค้วนเยี่ยเฝ้าเลยสักนาย พวกมันทั้งได้ใจและดีใจจึงปล้นเอาเสบียงที่ชาวบ้านกักตุนไว้ในช่วงฤดูหนาวไปจนหมด ถ้ามีคนที่ไม่ยินยอมพวกมันก็จะทุบตีจนเลือดตกยางออกอย่างเลือดเย็น จึงทำให้ทุกคนในหมู่บ้านหวาดกลัวไปตามๆกัน ทุกคนเลยยินยอมให้พวกมันเอาทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
กระทั่งตำลึงเสื้อผ้ายาสมุนไพรอาหาร และเกวียนของชาวบ้านไปจนหมด ที่หมู่บ้านมีเกวียนเทียมวัวอยู่2หลัง พวกมันก็เอาไปทั้ง2หลัง ชาวบ้านได้แต่สาบแช่งทั้งร้องไห้และยังมีคนที่ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด และทรมานจากการถูกทุบตี
จากเหตุการณ์ครานั้นจนถึงวันนี้ ชาวบ้านบางคนบางครอบครัวที่ทนรอความช่วยเหลือจากทางการต่อมิไหว เพราะความหิวจึงได้ขึ้นเขาแม้อากาศที่หนาวเหน็บก็ตามที
แต่พวกเขาก็ยังภาวนา และหวังเพียงให้ผู้ใดสักคนขับรถม้าผ่านมาที่นี่สักคัน หรือคนของทางการจะเป็นผู้ใดก็ได้ มาช่วยพวกเขาที
ครั้นจะให้พวกเขาเดินเท้าเข้าไปในเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากทางการ กว่าจะถึงคงได้หนาวตายก่อน เพราะพวกเขามีเสื้อผ้าพอแต่ใส่กันหนาวภายในบ้าน หรือออกไปได้แต่มิไกลมากนัก ถ้าหากให้เดินทางไกลคงทนหนาวมิไหวแน่ อย่างน้อยๆถ้าเดินเท้าก็คงมิต่ำกว่า5-6วันกว่าจะถึงในเมืองได้ และเหตุที่มิมีเสื้อผ้ากันหนาว
เพราะพวกทหารเลวแคว้นหมิงพวกนั้น ปล้นเสื้อกันหนาวผ้าห่มแม้กระทั่งชุดที่ชาวบ้านใส่กันไปจนเกือบหมด
พวกมันเพีนงอ้างเหตุผลเลวๆว่า กว่าที่พวกมันจะถึงแคว้นหมิงก็คงจะหนาวตายก่อนเช่นกัน
!!!!!!!!!!!!!!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 54
Comments
Fannya
อยากอ่านต่ออยู่ค่าาา แอดอัพเร็วหน่อยนะ
2024-08-15
1