เจ้าบ้านเจ้าเรือน
จังหวัด อยุธยา เวลา 18:00 นาฬิกา
ชุดของกัน
ร่างเล็กในชุดรำรองดูสบายๆได้เดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ของเพื่อนสนิดอย่างวารุณวัน หรือ คณาคินทร์ มือเรียวพนมมือไหว้ หญิงชราตรงหน้าด้วยความนอบน้อม คุณหญิงเเขไขท่านเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของคณาคินทร์ เเละเป็นย่าของเพื่อนสนิดด้วย
" ผมไหว้ครับหม่อมย่า "
" อื่มๆ ไหว้พระไหว้เจ้าเถอาะนะ นี้มาไกลเชียวเป็นไงมาไงล่ะ "
หญิงชราพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆพร้อมกับท่าทีที่ดูสบายๆ " พอดี ผมจะมาขอเช่าเรือนเล็กอยู่ครับหม่อมย่า ไม่ทราบว่าจะได้ไหมครับ " ชายหนุ่มเปิดประเด็นในทันที อีกฝ่ายยกยิ้มก่อนจะพยักหน้าปรกๆ
" ได้สิ จะอยู่ฟรีๆก็ได้เพื่อนเจ้าคินทร์มันหนิ "
" ไม่เอาหรอกครับคุณหญิงย่า ผมขอเช่าดีกว่าเกรงใจด้วย "
" อื่ม ถ้าเธอสะดวกเเบบนั้นก็ตามใจเถอาะ ว่าเเต่จะพักเรือนหลังไหนหล่ะจะได้ให้ตาคินทร์พาไป "
" อื่ม..ขามาผมเห็นเรือนหลังนึงสวยมากๆรู้สึกถูกชะตา จะขอพักที่เรือนหลังเล็กข้างเรือนใหญ่ได้ไหมครับ "
สิ้นคำนั้นหญิงชราดูจะตื่นตระหนกเบาๆหากเเต่เก็บสีหน้าไว้ มือเหี่ยวย้นยื่นกุนเเจให้กับเขาพร้อมกับเอ่ยเตือนไว้ " อย่าเข้าไปที่เรือนใหญ่ล่ะ "
...****************...
ณ.เรือนเล็ก
บานประตูหนาถูกเปิดออก พร้อมกับไฟที่ติดไปทั่วบ้าน เพราะคณาคินทร์ได้เปิดสวิทไฟ " ตุ๊บ ฟรึบ " กระเป๋าเป้ใบใหญ่ถูกทิ้งลงข้างโซฟาห้องนั้งเล่น กรภัทรทิ้งตัวลงนอนที่โซฟานุ่มด้วยความเหนื่อยหนายในชีวิต เเขนข้างขวายกขึ้นเกยหน้าผาก
" มึงเป็นบ้าไรวะ อยู่ๆก็ติดต่อมาเเล้วก็บอกว่าจะขอเช่าบ้าน " คณาคินทร์ เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความสนสัยถึงการมาปรากฏตัวของเพื่อนสมัยเรียน อยู่ๆมันก็ทักเขามาบอกจะขอเช่าบ้าน
" กูทะเรอาะกับม๊ามาว่ะ ท่านจะให้กูรับช่วงต่อบริษัทเเต่กูไม่พร้อม กูอยากเป็นนักเขียนไม่ใช่นักธุรกิจเเบบที่ท่านต้องการ "
" มึงก็เลยหนีมาเนี้ยนะ?! มึงก็รู้ว่าท่านต้องตามหามึงจนเจอ ยังไงมึงก็ต้องรับช่วงต่อมันไม่มีทางเลยเว้ย ที่มึงจะรอดจากท่านอะ "
" เเต่กูรู้สึกนะเว้ย ว่าถ้ากูหนีมาที่นี้จะมีบางอย่างปกป้องกูได้อะอย่างน้อยๆก็มีมึง "
" อะไรทำให้มึงคิดงั้น?! "เสียงเข้มเอ่ยถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเป็นปม " ไม่รู้ดิ เเต่ความรู้สึกกูมันบอกเเบบนั้นคือกูไม่ได้คิดไปเองนะ ในทุกๆครั้งที่กูเครียดหรือเจอเรื่องอะ กูมักฝันถึงใครบางคนที่ไม่รู้จัก "
" ทำบุญมะ?! " เสียงเข้มเอ่ยพูดขึ้นมาลอยๆ ร่างเล็กดีดตัวลุกขึ้นมา " กูไม่ตลกไอ้สัส " เสียงนุ้มเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง " กูพูดจริงๆ ฝันเเบบนี้ทีไรกูเห็นมีเเต่เจ้ากรรมนายเวรทุกทีอ่ะ "
" มึงครับ มันก็เป็นเเค่ฝันมั้ย?!/เเต่มึงก็เชื่อ?! ไม่งั้นจะมาที่นี้เพื่อไร " คำๆนี้เล่นเอากรภัทร เถียงไม่ออกได้เเต่ปัดๆไปเพราะลึกๆภายในใจ เขาก็ไม่อยากเชื่อเรื่องพวกนี้ มันคงเป็นเเค่ฝันเเหลาะ
" ชั่งเเม่งเหอาะ เอาเป็นว่ากูหนีม๊ามาละกัน ท่านคงตามหาไม่เจอไปสักพักใหญ่อะ เลยมาขอเช่าที่นี้อยู่เเป๊ปนึง "
" เออๆ/ เออมีเรื่องสงสัย ทำไมหม่อมย่าไม่ให้ไปยุ่งกับเรือนใหญ่วะ ท่านไม่เปิดให้ใครเช่าหรอ?! "
" มึงจะถามถึงเรือนนั้นทำไมวะนั้น " ร่างสูงเดินมานั้งลงที่โซฟาอีกฟากหนึ่งสีหน้านั้นดูอึดอัคใจที่จะพูด " เรือนนั้นมันทำไมวะ " คณาคินทร์ถอนหายใจเบาๆก่อนจะเริ่มพูดถึงเรือนหลังนั้นคร้าวๆให้ฟัง
" เรือนใหญ่หลังนั้นเป็นสิ่งที่ นายหลวง ร.5 ท่านประทานให้สร้างขึ้นก่อนจะปูมบำเหน็ดรางวัลให้ปู่ทวด เห็นว่าท่านส่งไม้ถวายสร้างตำหนักริมน้ำในพระราชวังจึงได้รางวัลนี้มา เเต่ปู่ทวดท่านเสียไปหลายร้อยปีเเล้วเหลือก็เเต่เรือนหลังนี้ล่ะ "
" เเล้วยังไงต่อวะ ท่านรักเรือนหลังนั้นมากจนคุณหญิงย่าไม่ขายหรือให้ใครเช่าใช่มะ "
" ตรงกันข้ามเลย คุณหญิงย่าท่านเคยสั่งให้คนมาทำการรื้อถอนเรือนหลังนั้นเเล้ว เเต่มันก็จบไม่สวย ทุกครั้งที่จะรื้อถอนมันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา "
" ยังไงวะ "
" มึงอย่ารู้เลย เอาเป็นว่ามึงก็อย่าไปยุ่งกับเรือนหลังนั้นเเล้วกัน ใช่ว่าหม่อมย่าท่านหวงเเต่เขาไม่อยากให้มึงเป็นอันตรายจบนะรีบไปนอนพักเถอาะ มึงเดินทางมาเหนื่อยๆ "
สิ้นคำนั้น คณาคินทร์ก็ลุกเดินอกจากบ้านไปทิ้งปริศนาไว้ให้คนที่มาอยู่ไหม่อย่างกรภัทรได้เก็บไปคิดให้ปวดหัวเล่นๆ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments