SYAMACIA ศึกพิภพมนตรา โลกแห่งจิตวิญญาณ

มอร์โอดอร์ฟื้นสติอีกครั้ง

เขาต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ได้พบเห็น

เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย

บรรยากาศเต็มไปด้วยหมอกหนา

มีต้นไม้ใหญ่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่เพียงต้นเดียว

แสงจันทร์เต็มดวงสาดแสงมายังไม้ใหญ่ สะท้อนเงาภายใต้เมฆหมอกขุ่นมัว ทำให้รู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วร่างกาย

มอร์โอดอร์

"ที่นี่ที่ไหนกัน"

เขามองดูไปรอบๆ สำรวจสิ่งต่างๆด้วยความระแวดระวัง

ซาลาดิน

"ที่นี่คือโลกแห่งจิตวิญญาณ"

ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ออกมาจากเงามืดของต้นไม้ใหญ่

การปรากฏตัวของชายผู้นี้ทำให้บรรยากาศรอบๆรู้สึกอบอุ่นขึ้น

มอร์โอดอร์

"โลกแห่งจิตวิญญาณ ข้าตายแล้วจริงๆหรือ"

มอร์โอดอร์รำพึงรำพันกับตัวเอง

เขารู้สึกเสียดายที่ตัวเองยังใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า

มอร์โอดอร์

"ท่านคือยมทูตมารับวิญญาณของข้าใช่ไหม"

ซาลาดิน

"เจ้าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้"

ซาลาดิน

"ที่นี่คือโลกแห่งจิตวิญญาณ มิใช่ยมโลก มิใช่นรกหรือสวรรค์"

มอร์โอดอร์

"แล้วอะไรคือโลกแห่งจิตวิญญาณ"

ซาลาดิน

"โลกแห่งจิตวิญญาณคือโลกที่อยู่ในจิตใจของคนผู้หนึ่งผู้ใด"

ซาลาดิน

"ใช้ติดต่อพูดคุยกับจิตวิญญาณที่ตนผูกพันในความคิดของตนเองได้"

มอร์โอดอร์

"แต่ข้าไม่เคยพบเจอท่านเลยสักครั้งในชีวิต แล้วเหตุใดข้าจึงได้พูดคุยกับท่านในโลกแห่งนี้ได้"

ซาลาดิน

"เพราะเจ้าคือผู้สืบทอดเวทย์มนต์เมจิกซีโร่ต่อจากข้า"

ซาลาดิน

"แล้วเจ้ายังใช้วิชาดาบที่ข้าเป็นผู้ให้กำเนิดต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจจนเกือบตาย"

ซาลาดิน

"แล้วที่สำคัญเจ้ามีสายเลือดของข้าไหลเวียนอยู่ในร่างกาย"

มอร์โอดอร์

"ท่านก็คือ...."

มอร์โอดอร์

"จักรพรรดิเวทย์มนต์ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน"

มอร์โอดอร์

"ซาลาดิน โฮอินไฮนซ์"

มอร์โอดอร์รู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด

ซาลาดิน

"ใช่ ข้าคือซาลาดินผู้นั้นแหล่ะ"

มอร์โอดอร์

"แล้วตอนนี้ข้าตายรึยัง"

ซาลาดิน

"ข้าก็เพิ่งบอกไปว่าเจ้าใช้วิชาดาบของข้าต่อสู้กับจักรพรรดิปีศาจจนเกือบตาย"

ซาลาดิน

"ซึ่งหมายความว่า ยังไม่ตาย"

มอร์โอดอร์

"ค่อยโล่งอก ถ้าข้าตายตอนนี้ข้าคงเสียดายชีวิตแย่"

ซาลาดิน

"น่าอับอายนัก ลูกหลานของข้ากลายเป็นพวกรักตัวกลัวตายรึนี่"

มอร์โอดอร์

"ข้าไม่ได้หวาดกลัวความตาย"

มอร์โอดอร์

"เพียงแค่รู้สึกเสียดายที่ชีวิตนี้ยังใช้ไม่คุ้มค่า"

มอร์โอดอร์

"ยังไม่ได้ออกไปเจอโลกกว้าง"

ซาลาดิน

"อย่างนั้นก็ดี เจ้าจงมีชีวิตอยู่ต่อไป ใช้ชีวิตที่เหลือให้คุ้มค่า และออกไปเจอโลกกว้างที่เจ้ายังไม่เคยเห็น"

มอร์โอดอร์

"แต่ข้าพ่ายแพ้จักรพรรดิปีศาจผู้นั้นแล้ว ข้าในตอนนี้ไม่สามารถต่อกรกับมันได้เลย"

ซาลาดิน

"จักรพรรดิปีศาจเพิ่งถูกปลดผนึก พลังยังไม่สมบูรณ์ ร่างกายนั้นเป็นเพียงร่างกายที่สร้างจากจิตวิญญาณเพียงชั่วคราว เจ้ายังมีโอกาสชนะ"

มอร์โอดอร์

"เพราะเหตุใดกัน เวทย์มนต์ผนึกวิญญาณของท่านจึงถูกปลดผนึกออก ทั้งๆที่เหลือเวลาอีกหนึ่งปีถึงจะยุติสนธิสัญญาหนึ่งพันปี"

ซาลาดิน

"เพราะวิชาดาบนิลกาญจน์ กระบวนท่าที่1 ผ่าจักรวาล คือกุญแจ ข้าผนึกวิญญาณจักรพรรดิปีศาจไว้กับดาบอัสเรียล และผนึกวิญญาณจักรพรรดิเทพไว้กับดาบทัณฑ์สวรรค์ด้วยพลังของตรีศูลผ่าจักรวาล"

มอร์โอดอร์

"แล้วมันเกี่ยวข้องกันตรงไหน"

ซาลาดิน

"กระบวนท่าผ่าจักรวาลข้าสร้างขึ้นมาจากพลังของตรีศูลผ่าจักรวาล เจ้าใช้กระบวนท่านั้นในที่ขณะใช้ดาบอัสเรียลของจักรพรรดิปีศาจ"

มอร์โอดอร์

"ท่านบอกว่าจักรพรรดิปีศาจยังไม่ฟื้นพลังเต็มที่ แต่ตอนนี้มันกำลังใช้ร่างกายของข้าเป็นภาชนะใส่วิญญาณของมัน"

ซาลาดิน

"ไม่ต้องกังวลไป ก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่มีพลังเวทย์มนต์ แต่เมื่อใดที่เจ้าฟื้นจากความตาย พลังที่แท้จริงของเจ้าจะตื่นขึ้น"

มอร์โอดอร์

"แล้วข้าจะต้องทำยังไง"

ซาลาดิน

"ข้าจะสอนเจ้าเอง วันนี้เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างแน่นอน เพราะเจ้าคือบุรุษแห่งคำทำนาย มนุษย์ผู้มีพลังของเทพและปีศาจ ผู้ที่จะรวมสามแดนเป็นหนึ่งเดียว และสร้างโลกที่สงบสุขอย่างแท้จริง"

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ