หมอกกลับมาถึงคอนโดของตัวเอง วันนี้เขาเหนื่อยมากจนต้องออกมานั่งสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง พลางมองวิวของเมืองใหญ่ไปด้วย
ซึ่งทิวทัศน์เมืองใหญ่ก็ไม่ได้ถูกใจเขาเท่าไรนัก แต่ตอนนี้ก็คงหาที่ผ่อนคลายที่อื่นไม่ได้แล้ว
เขานึกถึงภาพของภูและไออุ่นก็นึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย ถึงจะมีกันแค่สองคนพ่อลูกแต่ก็เป็นภาพที่อบอุ่นจริงๆ
'หรือควรรับเด็กสักคนมาเลี้ยงดี หรือว่าจะจ้างอุ้มบุญ'
ยืนคิดสักครู่ก็ขอหยุดความคิด จะอยากมีลูกเพียงเพราะเหงามันก็ไม่ใช่เรื่อง นึกแล้วก็อยากตีตัวเองสักที
ในตอนที่หมอกกำลังทะเลาะกับตัวเองในใจเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เขารู้ว่าเสียงริงโทนนี้เป็นของใครเพราะเจ้าของเบอร์เป็นคนตั้งไว้เอง
'น้องเดีย'
พอเห็นว่าเป็นหลานสาวของเขา หมอกก็รีบรับสายทันที พอได้ยินเสียงจากปลายสายใจของเขาก็แทบจะหลานวูบ
"ฮึก..ฮึก คุณอา..."
ลิเดียกำลังน้องไห้ เขาจึงรีบถามไป"น้องเดียเป็นอะไรครับ"
"คุณย่า..ฮึก..คุณย่าเสียงดังใส่เดีย ฮือ วันนี้เดียสอบได้แค่19เต็ม20 คุณย่าบอกว่าเดียโง่แล้วก็ให้เดีย อึก..เดียอ่านหนังสือตั้งแต่กลับมา..ฮึก..จากโรงเรียน"
สาวน้อยเล่าไปก็สะอื้นไปจนเกือบฟังไม่รู้เรื่อง หมอกรีบปลอบใจหลานสาวตัวน้อยทันที
"น้องเดียอย่าร้องนะลูก เดี๋ยวอาไปรับนะรออยู่ที่บ้านเก็บของตัวเองใส่กระเป๋าไว้"
"ฮึก..ค่ะ..แล้วคุณย่าฮึก..จะอยู่กับใครคะ"
โดนดุขนาดนั้นยังห่วงย่าอยู่ดี แต่หมอกก็คิดคำตอบเผื่อไว้แล้ว
"ย่าอยู่กับพี่กล้าได้ ไม่ต้องห่วง"
ถึงแม้ปกติจะไม่ได้ขับรถตัวเองเพราะนั่งรถประจำตำแหน่งอย่างเดียว แต่หมอกก็มีรถของตัวเองจอดไว้ที่คอนโดหนึ่งคัน
เขารีบสตาร์ทรถและออกตัวทันที ตั้งใจจะไปถึงให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ลิเดียต้องนั่งร้องไห้คนเดียวนาน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาหรือก็คือพ่อแม่ของลิเดียไปดูงานที่สาขาต่างประเทศ โดยปกติก็กินเวลาหลายเดือนแบบนี้ทำให้ลิเดียต้องอยู่กับแม่ของเขา
คุณหญิงวาทินเคยเป็นคุณย่าที่ใจดีแต่พอลิเดียยิ่งโตรวมถึงเรื่องที่พี่ชายของเขายืนยันว่าจะให้ลิเดียเลือกทางเดินชีวิตตัวเอง คุณหญิงก็ไม่พอใจ
ผลก็เลยเป็นแบบนี้
"คุณอา!!"
พอหมอกขับรถมาจอดหน้าประตูบ้านก็เห็นลิเดียในชุดนอนวิ่งออกมาแต่ก็ตามหลังด้วยแม่ของเขา
"อวัศย์แกจะพายัยเดียไปไหน!!"
"ผมจะพาหลานไปอยู่กับผม"
หมอกตอบเสียงแข็ง ยิ่งทำให้คุณหญิงไม่พอใจเข้าไปใหญ่
"แล้วเรื่องเรียนล่ะ! ถ้ายัยเดียคะแนนตกจะทำยังไง!!"
"ไม่ทำอะไรทั้งนั้นแหละ! ไว้แม่อารมณ์ดีก่อนผมจะเอาหลานมาส่ง"
พูดแล้วหมอกก็รีบอุ้มลิเดียขึ้นรถไป อีกครั้งที่คนเป็นแม่ต้องยืนมองลูกชายของเธอเดินออกไปกลังจากทะเลาะกัน
ลิเดียนั่งกอดกระเป๋าของตัวเองที่เบาะข้างคนขับ ปากเล็กๆ นั่นยู่เข้าหากันด้วยความน้อยใจ
"คุณอา เดียไม่เก่งเหรอคะ คุณย่าชอบบอกว่าเดียโง่"
"ไม่หรอก น้องเดียเป็นเด็กที่เก่งมากๆ นะ"
"แต่เดียได้คะแนนแค่19เอง..."
เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง หมอกเลยเอามือลูบหัวหลานสาวเบาๆ แล้วปลอบใจ
"เดียฟังอานะ เดียเก่งมากแล้ว พยายามมาตลอดเลยแถมคะแนนคั้ง19 เยอะมากๆด้วย ถ้าน้องเดียไม่เก่งใครจะเก่งล่ะ"
"วันไหนเดียเหนื่อยก็ออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าน มัวแต่อ่านหนังสือในห้องมันเสียสุขภาพนะ ไม่ต้องฟังย่าหรอก เดี๋ยวอาจัดการให้!"
หมอกให้กำลังใจหลาน หากใครมาเห็นท่าทางและรอยยิ้มเขาตอนนี้คงประหลาดใจน่าดูที่คุณชายน้ำแข็งแห่งตระกูลวาทินจะมีรอยยิ้มแบบนี้
พอได้ยินแบบนั้น ลิเดียที่ทำท่าซึมเหมือนจะร้องไห้ก็หัวเราะออกมา หมอกคิดแล้วว่าเด็กวัยแค่นี้รอยยิ้มนั้นดีกว่าจริงๆ
ลิเดียหลับไปแล้ว เด็กน้อยหลับตั้งแต่รถขับออกจากบ้านใหญ่มาไม่นาน อาจจะเพราะเหนื่อยจากการเรียนและร้องไห้มาอย่างหนัก
หมอกเลยอุ้มหลานสาวลงจากรถ เพื่อจะพาขึ้นไปนอนบนห้อง
'น้องเดียโตขนาดนี้แล้ว หรือเราแก่ขึ้นนะ'
พออุ้มหลานแล้วรู้สึกว่าหนักเหมือนอีกไม่นานลิเดียจะตัวเท่าเขาแล้ว
'สงสัยอาหารการกินแต่ละยุคต่างกัน'
เด็กสมัยนี้โตไวจะตายไป ไม่แปลกที่เขาจะตัวเล็กกว่าพวกพนักงานในบริษัท
โดยเฉพาะเลขาของตัวเอง รายนั้นตัวใหญ่มาก เผลอๆอาจจะบังเขามิดด้วย เหมาะกับเป็นบอดี้การ์ดมากว่าเลขาอีก
หมอกอุ้มลิเดียมาถึงห้องนอนเล็กที่เขาจัดไง้ให้หลานโดยเฉพาะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลิเดียมานอนที่นี่
ห้องนอนสีครีมเต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่นของลิเดียซึ่งเขาเป็นคนซื้อให้ทั้งหมด
"ฝันดีนะน้องเดีย"
เขามองหลานที่หลับตาพริ้มอยู่ ภาวนาให้เด็กน้อยอย่าเก็บเรื่องในวันนี้มาฝัน ขอให้ฝันของเธอมีแต่เรื่องดีๆ
หมอกเองพอหลานหลับไปแล้วเขาก็มาอาบน้ำและเช็คเอกสารต่างๆ อยู่บนเตียง งานของเขามีทั้งวันทั้งคืนนั่นแหละ ไม่ได้พักง่ายๆ หรอก
พอบรรยากาศรอบตัวเงียบเขาก็เผลอนึกถึงเรื่องราวสมัยเด็ก เขาเองก็ถูกบังคับให้เรียนดีบ่อยๆ ทั้งที่อยากทำกิจกรรมเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ
ครั้งหนึ่งตอนมัธยมต้นหมอกเคยโดนรุ่นพี่ทาบทามให้ไปเป็นผู้นำเชียร์เพราะรูปร่างเพรียวบางและหน้าตาน่ารัก
หมอกดีใจมากเลยทุ่มเทให้กับการซ้อมผู้นำเชียร์ เขาเกือบได้ขึ้นเป็นเซนเตอร์ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเรื่องมันแดงขึ้นมาในวันที่เขาคะแนนสอบตก
"ฉันรู้มาว่าแกไปทำกิจกรรมมา"
"ม..แม่รู้ได้ยังไง"
"ก็ข้างบ้านเขาเห็นแก่แล้วมาบอกฉันน่ะสิ เขาว่าแกทั้งเก่ง ทั้งโดดเด่นโดยเฉพาะหน้าตาของแก สวยจนใครๆ ก็มอง"
หมอกรู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อย เขานึกว่าคุณแม่จะชมตัวเอง แต่พอเขากำลังจะเอ่ยขอบคุณกลับถูกสวนด้วยคำพูดของผู้เป็นแม่
"ภูมิใจนักเหรอที่ได้ใช้หน้าตาของแกแลกมันมาน่ะ!!"
ในตอนนั้นหมอกถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขาอยากอธิบายให้ผู้เป็นแม่ฟังว่ามันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด เขาก็ใช้แรงกายและความสามารถตัวเองเช่นกัน
ในวันนั้นเรื่องทุกอย่างมันจบลงเพราะพี่ชายของเขาเข้ามาพอดี พี่ของหมอกให้หมอกกลับเข้าห้องไปเพื่อที่จะไม่ต้องฟังอะไรต่อจากนี้
ทั้งคู่ทะเลาะกัน ถึงแม้จะเป็นแม่มากกว่าที่โวยวายแต่ไม่นานก็เงียบลง พี่ชายของเขาเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เหนื่อยแต่ก็ฝืนยิ้ม
"แม่เขาคงเครียดกับธุรกิจที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางน่ะหมอก"
"พี่เมฆ...แม่จะกลับมาใจดีอีกไหม"
"หลังจากที่เราสบายขึ้นแม่ก็คงอารมณ์ดีเอง นอนพักเถอะนะวันนี้หมอกซ้อมมาเหนื่อยๆ"
วันนั้นหมอกจึงหลับไป แต่ในคืนนั้นเขาก็ตื่นมาเพราะอยากเข้าห้องน้ำ พอเดินออกไปเห็นประตูห้องของแม่เปิดอยู่
"ฮึก..ฮือ.."
เขาเห็นแม่นั่งร้องไห้ แต่ก็กลัวเกินกว่าจะเข้าไปปลอบ เลยได้แต่ยืนมองอยู่แบบนั้นด้วยความไม่รู้ว่าคนเป็นแม่ร้องไห้เพราะอะไร
แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานก็เป็นอย่างที่พี่ชายของเขาว่า ธุรกิจภายใต้ชื่อวาทินก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ผลประกอบการพุ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ชนิดว่าเป็นที่จับตาในแวดวงธุรกิจ
พวกเขาสบายขึ้นจริงๆ ได้มีบ้านหลังใหญ่ ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น
แต่สิ่งที่เหมือนเดิมคือแม่ของเขาที่ได้ชื่อว่าคุณหญิงวาทิน เธอไม่ได้เข้มงวดน้อยลงกลับกันเธอกลับกดดันลูกชายทั้งสองมากขึ้น
แต่พอหลังจากที่พี่ชายแต่งงาน และพี่สะใภ้ของเขาให้ได้กำเนิดลิเดีย ดูเหมือนแม่ของเขาจะใจเย็นลง เธอสามารถเลี้ยงลิเดียได้ด้วยความรักและความเอาใจใส่
ถึงจะไม่เข้าใจสาเหตุที่พอลิเดียโตแม่ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม
หมอกนั่งคิดเรื่องราวในอดีตจนตัวเขาเองก็เผลอหลับไป
"คุณอา คุณอาเช้าแล้วนะคะ"
เสียงของหลานสาวดังพร้อมกับแรงเขย่าที่ข้างตัว หมอกลืมตาตื่นมาพบว่าเป็นลิเดียมาปลุกเขานั่นเอง
เขาเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้คือวันเสาร์หลานของเขาไม่ได้ไปเรียนแต่เขาต้องเข้าบริษัทแต่จะให้เธอที่เป็นเด็กผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวก็คงไม่ปลอดภัย
วันนี้พาหลานเข้าบริษัทสักวันแล้วกัน
ภูมาจอดรถรอรับเจ้านายของตัวเองต่างออกไปคือวันนี้เขาพาไออุ่นมาด้วยเพราะป้าพร้มไม่ว่างพอดี
แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นคุณหมอกเดินมากับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
'ใครน่ะ ลูกคุณหมอกงั้นเหรอ!'
เด็กผู้หญิงในชุดเดรสสีครีมกับผมดัดลอน ดูก็รู้ว่าเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ซึ่งผู้ดีมีเงินคนเดียวที่เขารู้จักก็คุณหมอกนี่แหละ แสดงว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คงเป็นลูกคุณหมอกจริงๆ
กลายเป็นว่าภูดันรู้สึกหน้าชาขึ้นมา
"มองอะไรของคุณน่ะ"
คุณหมอกเดินมาถึงตอนไหนก็ไม่รู้ เห็นว่าเขายืนนิ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่างเลยเอ่ยทัก
"ไม่มีอะไรครับ! คุณหมอกสวัสดีตอนเช้าครับ แล้วก็..คุณหนู"
"หลานผมเอง น้องเดียสวัสดีคุณภูสิเขาเป็นเลขาของอา"
เธอพยักหน้ารับแล้วยกมือไหว้เขา"สวัสดีค่ะน้าภู หนูชื่อลิเดียค่ะ"
"สวัสดีครับ"
หมอกรับไหว้ลิเดีย เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาพอรู้ว่าลิเดียเป็นเพียงหลานสาวของเจ้านายเขาเท่านั้น
ถึงจะไม่เข้าใจว่าจะโล่งใจทำไมก็ตาม
ทั้งสามขึ้นรถมาหมอกนั่งอยู่เบาะหลังก็เพิ่งเห็นว่าวันนี้ที่นั่งข้างคนขับมีก้อนกลมๆ ขาวๆ นั่งอยู่ด้วย
"วันนี้ป้าพริ้มไปงานบวชหลานแกน่ะครับ ผมเลยพามาด้วย"
"น้องนี่! น้องเล็ก!"
ลิเดียพอเห็นว่าข้างหน้ามีคาร์ซีทเด็กอยู่ เธอก็โน้มตัวลงไปมองด้วยความตื่นเต้น
"คุณน้าคะ คุณน้า\~ น้องชื่ออะไรเหรอคะ"
"ไออุ่นครับ ไออุ่นดูซิพี่เขาจะเล่นด้วย"
เห็นแบบนั้นน้องอุ่นที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทก็หัวเราะชอบใจใหญ่ เพราะปกติไม่ค่อยได้เล่นกับเด็กเหมือนๆกัน ถึงแม้ลิเดียจะโตกว่าตั้ง7ปีก็ตาม
"น้องเดียนั่งดีๆก่อน เดี๋ยวถึงแล้วค่อยเล่นกับน้อง"
หมอกที่กลัวว่าหลานสาวจะเกิดอุบัติเหตุก็กำชับให้เธอมานั่งดีๆ ที่เบาะพร้อมคาดเข็มขัด ลิเดียที่ยังตื่นเต้นอยู่ก็ดูเหมือนจะภาวนาให้ถึงที่บริษัทเร็วๆ
"ไม่อาวว อุ่นม่ายปัย"
"คุณน้า ให้น้องอุ่นอยู่กับหนูนะคะ!"
เฮ้อ...ไออุ่นใช้มือเกาะกระโปรงของลิเดีย ในขณะเดียวกันลิเดียก็ไม่คิดจะปล่อยน้องไปไหน
ลิเดียต้องเข้าไปในห้องของคุณหมอก ส่วนลูกของเขาก็ต้องนั่งอยู่ข้างนอก แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ยอม
"ให้เขาเข้าไปเล่นด้วยกันเถอะ"หมอกกล่าว
"แต่คุณหมอกทำงาน จะให้ลูกของผมรบกวนได้ยังไง"
"ไม่เห็นจะเป็นอะไรแค่เด็กสองคนเอง จริงไหม"
ไม่พูดปล่าวหมอกยังหันไปมองทางเด็กๆ เด็กทั้งสองพอรู้ว่าหมอกไม่ว่าอะไรก็จะใช้หมอกเป็นเครื่องมือต่อรองให้เข้าไปเล่นด้วยกัน
แสบนักนะ ทั้งคู่เลย
"ตามที่คุณหมอกว่าเลยครับ ผมขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน"
"ไม่เป็นไรหรอก"
ขอโทษอีกแล้ว คนคนนี้ขอโทษเป็นชีวิตจิตใจหรือไงกัน หมอกไม่ได้พูดอะไรต่อ เลือกที่จะพาเด็กๆ เข้าห้องไป
ภูเองก็กลับมานั่งทำงาน เขานั่งทำงานจนหัวหมุนทั้งจัดตารางงาน รับและปฏิเสธนัดหมายคนจะเข้าพบคุณหมอก ไหนจะพิมพ์จดหใายตามที่ได้รับสั่ง
เรียกได้ว่าเงยหน้าจากจออีกทีก็เที่ยงแล้ว
"คุณหมอกครับ เที่ยงนี้ทานอะไรดีครับผมจะสั่งให้"
"ชู่ว"
ภูเข้ามาในห้องตั้งใจว่าจะสั่งอาหารเที่ยงให้ผู้เป็นนาย แต่พอเข้ามาก็เห็นว่าคุณหมอกเอานิ้วชี้แตะปากส่งเสียงให้เขาเงียบแล้วชี้มือไปอีกทาง
ทำไมเขารู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นน่ารักมากๆ
ภูหันไปมองตามที่ชี้ พบว่าเป็นเด็กๆ ทั้งสองนอนหลับสนิทบนโซฟากว้างพร้อมผ้าห่ม
ดูแล้วสบายกันเชียว คงเล่นกันเหนื่อยสิท่า
"ผ้าห่มของเดียน่ะ"
อยู่ๆคุณหมอกก็พูดขึ้นมา ภูแอบคิดว่าคุณหมอกจะอายกับผ้าห่มลายมายเมโลดี้สีชมพูหรือเปล่าถึงได้พูด
"คุณหมอกคนสนิทกับหลานสินะครับ"
"ระดับนึง ผมมีหลานแค่คนเดียว"
เพราะคุณหมอกเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด หน้าตาก็เดาอารมณ์ยาก แต่หลานสาวอย่างลิเดียวกลับอยู่กับผู้เป็นอาได้โดยไม่อึดอัด แถมยังแสดงท่าทีร่าเริงตลอดเวลาอีก
"จริงสิ คุณหมอกทานอะไรดีครับ"
"อะไรก็ได้แล้วก็คุณสั่งของคุณมาด้วยสิ มาทานด้วยกันในนี้"
นี่คุณหมอกชวนเขาทานข้าวด้วยงั้นเหรอ ภูไม่รอช้ารีบยกสายหาร้านอาหารประจำทันที ไม่บอกก็รู้ว่าเขาตื่นเต้นที่จะได้ทานข้าวกับเจ้านาย
จริงๆนะ เขาแค่ตื่นเต้นเพราะได้ทานข้าวกับเจ้านาย
"คุณสั่งขนมให้เด็กๆด้วยนะ เอาเป็นขนมข้าวถุงใหญ่มาสองถุง"
เพราะมื้อนี้คุณหมอกบอกทานอะไรก็ได้ บนโต๊ะเลยมีกับข้าวมากมายซึ่งจะทานหมดไหมไม่รู้ แต่เขาคิดว่าคุณหมอกควรทานเยอะๆ
ภูนั่งหันหน้าเข้าหาคุณหมอก เป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นหน้าคุณหมอกชัดๆ
มองทีไรก็สวยจริงๆ ภูคิดในใจ เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าคิดอะไรกับคุณหมอก ชื่นชมเพราะใบหน้าที่สวยเหมือนตุ๊กตาหรือเพราะเขาเผลอชอบเจ้านายตัวเองไปแล้วจริงๆ
"ป๊า..."
เสียงงัวเงียของไออุ่นเรียกภูเบาๆ เขาเห็นว่าลูกชายกำลังยันตัวเองขึ้นมา
"น้องอุ่นตื่นแล้วเหรอครับ"
ไออุ่นพยักหน้าทั้งที่ยังงัวเงียแล้วลงมาจากโซฟา แต่แทนที่จะเดินมาหาภูกับเดินไปเกาะขาของคุณหมอกแทน
"หม่าม้า"
แค่ก แค่ก
ภูเกือบสำลักข้าว เพราะน้องอุ่นที่งัวเงียดันมาอ้อนคุณหมอกแถมยังเรียกว่าแม่เต็มปาก เขามองคุณหมอกสลับกับลูกชายตัวเองด้วยความรู้สึกหวั่นใจ
กลัวว่าคุณหมอกจะดุ จะไม่พอใจ จะอารมณ์ไม่ดี
"มานี่มา"
หมอกที่เห็นว่าเด็กน้อยงัวเงียมาเกาะขาตัวเอง ก็อุ้มมานั่งไว้บนตัก ภาพตอนนี้คือเขาใช้มือประคองให้เด็กน้อยนั่งที่ขาของเขาข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ตักข้าวเข้าปาก
นึกว่าแม่เด็กจริงๆแล้ว
"คุณหมอก เดี๋ยวผมอุ้มน้องอุ่นให้ครับ"
"ไม่เอา! อุ่นจะอยู่กับหม่าม้า"
พอภูจะขออุ้มไออุ่นให้ แต่เจ้าเด็กก้อนกลมกลับเกาะตัวของหมอกแน่น เพราะเพิ่งตื่นนอนไออุ่นเลยจะงอแงกว่าปกติมาก
"คุณหยิบขนมให้หน่อย"
หมอกสั่ง ภูที่ได้รับคำสั่งก็รีบหยิบขนมซองใหญ่พร้อมแกะซองแล้วยื่นให้ทันที
"วันนี้มีขนมด้วย ไออุ่นอย่างอแงนะ"
หมอกพูดก่อนส่งขนมใส่มือไออุ่น ทำให้ภูแปลกใจกว่าเดิม ทั้งท่าทางและน้ำเสียงของเจ้านายเปลี่ยนไปจากปกติมาก
อาจจะเพราะอยู่กับเด็กเลยต้องใช้เสียงที่อ่อนลง แต่เขาก็ไม่คิดว่าพอคุณหมอกเลี้ยงเด็กแบบนี้จะเป็นภาพที่ทำให้เขาหวั่นไหวขึ้นมา
บางทีน้องอุ่นอาจจะต้องมีแม่จริงๆ
#คุณหมอกไม่ใช่แม่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments