บทที่ 1

ภูกำลังร้อนรนตั้งแต่เช้าด้วยเหตุผลที่เขาตั้งใจขับรถออกมาเร็วเพื่อจะเผื่อเวลาตอนไปรับคุณหมอกแต่กลับมาเจออุบัติเหตุทำให้รถติดยาวเป็นหางว่าว

สุดท้ายกว่าจะมาถึงก็ช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง เขาเกรงว่าคุณหมอกคงจะโกรธแต่กลับมีสีหน้าเรียบเฉยจนภูกดดันกว่าเดิม

"ขอโทษครับคุณหมอก ผมไม่คิดว่าจะมีอุบัติเหตุบนถนน"

"ผมเห็นข่าวแล้วล่ะ ไม่เป็นไร"

ภูคาดว่าคุณหมอกคงนั่งเช็คข่าวเช้ารอเขา แต่ขนาดบอกไม่เป็นไรหน้ายังไม่เปลี่ยนเลย

ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบริษัท ถึงแม้ภูจะไปรับคุณหมอกช้าแต่ก็เข้างานตรงเวลา

เช้านี้เขาทำเหมือนเดิม ชงกาแฟให้กับคุณหมอกและคอยรับเอกสารจากแผนกต่างๆ มาเพื่อให้คุณหมอกเซ็น

"ขออนุญาตครับ"

ภูยกเอกสารมาวางไว้ที่โต๊ะ คุณหมอกเปิดดูไปก็มีสีหน้าปกติบ้าง ขมวดคิ้วเล็กน้อยบ้าง อาจเพราะเอกสารนั้นทำมาไม่ดีนักซึ่งคุณหมอกก็ใช้เวลาค่อนข้างนานกับเอกสารหนึ่งเล่มกว่าจะเซ็นชื่อ

เขายืนรอเอกสารแต่ก็แอบสะดุดตาว่ากาแฟของคุณหมอกยังไม่หมดด้วยซ้ำ หรือครั้งนี้เขาชงไม่อร่อยกัน

"เฮ้อ"

"เป็นอย่างไรบ้างครับ"

ภูเห็นร่างเล็กเอนตัวไปกับเก้าอี้ด้วยอาการเหนื่อยล้าจึงเอ่ยถาม คุณหมอกก็ส่ายหน้าแต่ก็ยังเอามือทุบที่บ่าตัวเองเบาๆ

น่าจะไม่ว่างจนดื่มกาแฟถ้วยเดียวไม่หมดมากกว่า

"เดี๋ยวผมนวดให้ครับ"

"ขอบใจนะ"

เขาเดินไปด้านหลังของอีกฝ่าย ก่อนวางมือบนไหล่ทั้งสองข้าง ภูนึกแปลกใจ คุณหมอกตัวเล็กขนาดที่มือของเขาเกือบกำไหล่มิด

ภูออกแรงนวดไหล่ทั้งสองข้าง คุณหมอกที่ตอนแรกดูไม่สบายตัวก็ค่อยผ่อนคลายลง

"ดีขึ้นไหมครับ"

"ดีขึ้น..อ๊ะ!"

ชิบหาย…ภูอุทานในใจเพราะพอเขาได้ยินคำชมเลยเผลอออกแรงมากไปจนอีกคนส่งเสียงร้องออกมา

เสียงแปลกๆ ด้วย

ทั้งคู่หยุดการกระทำ ภูที่ยืนข้างหลังก็ทำอะไรไม่ถูก เขาเห็นว่าคุณหมอกแอบเอามือปิดปากตัวเอง ใบหูนั่นก็ขึ้นสีแดง

 ไม่ใช่แค่คนเล็กที่รู้สึกอาย เขาเองก็เขินเหมือนกันเพราะเสียงเมื่อกี้มันสะกิดใจเขาไม่ใช่เล่น

"ขอโทษครับ คุณหมอกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"

"ม..ไม่ล่ะ คุณเอาเอกสารพวกนี้ไปส่งให้ทีนะ"

คุณหมอกพูดโดยไม่ได้หันมามองเขา ส่วนเขาก็ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่ายจนเกิดบรรยากาศที่แปลกระหว่างทั้งคู่

ภูกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเอง เขายังเอาเรื่องเมื่อกี้ออกจากหัวไม่ได้แอบคิดว่าตัวเองเป็นอะไรไปทำไมมีอาการแบบนี้

คุณหมอกเป็นผู้ชายแต่เครื่องหน้าดูทั้งน่ารักและสง่างาม ดวงตาเรียวบางทีก็ดูเชิดหยิ่ง แต่บางครั้งก็ดูน่ารักเหมือนเด็ก ที่สะดุดตาเขาสุดคงเป็นริมฝีปากอวบนั่น

ตอนแรกไม่คิดอะไรแต่พอเห็นบ่อยๆ เข้าก็เริ่มคิดว่าคุณหมอกทาลิปสติกหรือเปล่า ทำไมมันชมพูระเรื่อแบบนั้น

เขานั่งคิดเพ้อเจ้อได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดัง มันไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ของบริษัทแต่เป็นของเขาเอง

'ป้าพริ้ม'

หน้าจอแสดงเบอร์โทรของคุณป้าเจ้าของอพาร์ตเมนต์ ภูแปลกใจคุณป้าไม่เคยโทรหาเขาตอนเช้าแบบนี้มาก่อนทำให้เขาสังหรณ์ใจไม่ดี

"สวัสดีครับคุณป้า"

"เจ้าภู! อ..ไออุ่นมันได้แผล ป้าเลยพามาโรงพยาบาล ตอนนี้ม..หมอเขาเอาตัวไปห้องฉุกเฉินแล้ว!"

เสียงปลายสายของคุณป้าพูดด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำเสียงทั้งร้อนรนและเหมือนจะร้องไห้ออกมา 

ภูเองก็ตกใจพอได้ยินว่าลูกของเขาได้รับอุบัติเหตุจึงรีบถามว่าลูกของเขาอยู่ที่โรงพยาบาลไหน

"โรงพยาบาลxxx ภูรีบมานะลูก ฮือ ต..ตอนป้าพามาอุ่นมันไม่ร้องไม่อะไรเลย ป้ากลัวมันจะเป็นอะไรไป"

เขากดวางสายแล้วคว้ากุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องของหมอก

"คุณหมอกครับ! ผมขอลางานครึ่งวันนะครับ"

หมอกเห็นว่าเลขาของเขาน้ำเสียงดูกังวลอย่างมากและใบหน้านั่นก็มีเหงื่อซึมออกมา

"เกิดอะไรขึ้น?"

"ลูกชายของผมประสบอุบัติเหตุครับ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ผมอยากขอลาไปดูลูก"

หมอกเห็นว่าภูพยายามคุมน้ำเสียงอย่างหนักเพื่อที่จะคุยกับเขา ถึงจะกะทันหันแต่เรื่องอุบัติเหตุเกิดกับคนในครอบครัวมันเป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่ใจจืดใจดำขนาดจะไม่ให้ลางานหรอกนะ

แถมวันนี้ก็ไม่มีงานอะไรที่ต้องรีบทำแล้วด้วย

"รีบไปเถอะ เอารถไปก็ได้"

"ขอบคุณครับ!"

ภูก้มหัวแล้วรีบออกไป ตอนนี้หมอกเองก็มีที่ที่จะต้องไปเช่นกันกะจะบอกภูว่าไม่ต้องไปส่งเขาที่บ้านแต่เดี๋ยวค่อยบอกก็ได้ เขาเหลือบมองมือถือตัวเองที่มีแจ้งเตือนข้อความขึ้น

'กลับมาที่บ้าน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย'

หมอกหยิบเสื้อนอกของตัวเองมาใส่ก่อนเดินไปข้างนอก เขาเห็นรูปที่ตั้งไว้บนโต๊ะของเลขาเลยแอบดูสักหน่อย

รูปนั้นเป็นรูปที่ภูถ่ายกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ดูก็รู้ว่าเป็นลูกชาย เล่นหน้าตาเหมือนกันเสียขนาดนั้น

ส่วนข้างล่างเขียนว่า '3 years' น่าจะเป็นอายุของเด็กคนนี้ หมอกลองเอาอายุของภูที่เขียนในใบสมัครมาคำนวณดูก็คิดว่าภูมีลูกเร็วกว่าที่คิด

"มีตอนอายุ23เองเหรอ"

เขาเห็นภาพที่น่ารักแบบนี้ ใบหน้าที่นิ่งเรียบก็เผลอยิ้มออกมา

หมอกเองก็อยากมีลูกบ้าง แต่เพราะเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงและไม่ได้มีเวลามากพอที่จะดูแลใคร ความฝันนี้จึงถูกเก็บไป

ฝ่ายของภูรีบมาที่โรงพยาบาลตามที่คุณป้าแจ้งเอาไว้ การปรากฏตัวของชายชุดสูทขับรถหรูก็เป็นที่จับตาแด่ผู้ในโรงพยาบาล ยิ่งใบหน้าหล่อคมคายก็ดึงดูดสายตาเข้าไปใหญ่

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ภูจะสนใจ เขากำลังเครียดเพราะห่วงลูกชายของตัวเอง จึงรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลเพื่อสอบถามจนได้ความว่าตอนนี้ลูกของเขาออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว กำลังไปพักตัวที่ตึกผู้ป่วยเด็ก

ได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งไปทันที

"เจ้าภู! ทางนี้"

เขาเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยรวม ก็ได้ยินเสียงคุณป้าเรียก ภูเห็นว่าใบหน้าของคุณป้ามีรอยของน้ำตา แสดงว่าเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆ

ภูเห็นว่าข้างๆ คือเตียงของลูกชายเขาก็พุ่งตัวไปดู น้องอุ่นกำลังนอนหลับตาพริ้มบนเตียง ที่หน้าผาก แขน และขามีผ้าก๊อซปิดอยู่ 

ภูเห็นแบบนั้นก็สงสารลูก เขาอยากเจ็บแทนลูกจริงๆ

"ป้ากำลังทำกับข้าวอยู่ ฮึก..ไม่รู้ว่าเจ้าอุ่นมันเดินออกไปที่ถนนตอนไหน รู้ตัวอีกทีมีคนโวยวายเสียงดังว่าเด็กถูกรถชน ป้าหันไปเจอก็ไม่เจอเจ้าอุ่นเลยวิ่งออกไปดู"

"ถึงจริงๆ จะเป็นแค่รถเฉี่ยว แต่เจ้าอุ่นยังเด็ก ป้าขอโทษตริงๆ นะภู ฮือ"คุณป้าร้องไห้อีกครั้ง 

"ป้าไม่ผิดหรอกครับ ป้างานยุ่งตลอดแต่ยังอุตส่าห์ดูแลน้องอุ่นให้ผม ผมผิดเองที่ไม่มีเวลาดูแลลูก"

เขาพูดจากใจจริงๆ ป้าพริ้มเลี้ยงไออุ่นมาสามปี หล่อนรักลูกเขาเหมือนหลานแท้ๆ ของตัวเองไม่เคยทิ้งขว้างไออุ่นแม้แต่ครั้งเดียว

ความผิดของเขาทั้งนั้นที่ไม่มีเวลาดูแลไออุ่น ภูเดินเข้าไปใกล้เตียงแล้วลูบหัวลูก

"น้องอุ่น ป๊าขอโทษนะครับ"

"ป่าป๊า?"

อยู่ๆ เด็กน้อยที่นอนบนเตียงก็ลืมตาขึ้นมา ผิดคาดจากที่ภูคิด ไออุ่นที่ควรจะอยู่ในสภาพอิดโรยเพราะความเจ็บ แต่พอเห็นเขาก็กระโดดใส่ไม่สนใจความเจ็บสักนิด

นี่เด็กสามขวบจริงไหม

"น้องอุ่นเก่งนะคะคุณพ่อ ตอนแรกก็กังวลว่าสมองจะกระทบกระเทือนไหม แต่ก็ไม่เป็นอะไร พอทำแผลมีแค่ร้องไห้งอแงนิดเดียว แต่พอเอานมให้ดื่มแกก็นอนหลับปุ๋ยเลย"

พยาบาลที่ดูใจดีเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยชม ทำให้ทั้งภูและป้าพริ้มรู้สึกว่าเด็กที่ตนเลี้ยงมานั้นคงแข็งแรงมากจริงๆ

ส่วนภูก็ดีใจที่ลูกชายของเขาไม่เป็นอะไรมาก

"เก่งมากลูกป๊า"

"ผมไม่ได้ขับรถให้ท่านมานานแล้วนะครับ"

คำทักทายแรกเมื่อหมอกลงมาจากบริษัทเป็นของคนขับรถคนสนิทของบ้านเขา

ไอนี่มันชื่อกล้า คนงานในบ้านที่กวนประสาทเขาที่สุด

"ก็ดีสำหรับฉันนี่ มันแปลว่าฉันจะไม่ต้องกลับมาบ้านไง"

หมอกกำลังนั่งเบื่ออยู่บนถนน เขาอยากกลับไปที่บริษัททั้งที่เพิ่งออกมาได้ไม่นาน 

ในขณะนั้นกล้าก็ชวนเขาคุยไปเรื่อยทั้งที่เขาก็ไม่ได้อยากคุย แต่เพราะเป็นคนสนิท แถมเป็นคนสนิทของคุณแม่ ถ้าเกิดไปทะเลาะก็คงมีแต่เขาทีผิด ก็หมอนี่มันเหลี่ยมจะตาย

แม่ให้เงินเดือนมันเท่าไรกัน

"คุณหญิงสั่งให้ผมมารับท่านทีไรผมมาเก้อทุกที ครั้งนี้ท่านอุตส่าห์ยอมกลับมากับผมเสียที"

"นั่นเพราะพี่ชายและหลานของฉันจะลำบาก ฉันถึงยอมกลับมาด้วย"

คำตอบแบบนั้นทำเอากล้านึกขบขัน คุณชายผู้เย็นชาดุจน้ำแข็งก็มีมุมยอมจำนนเมื่อพูดถึงพี่ชายและหลานของตัวเอง

จากถนนที่มีตึกก็เริ่มกลายเป็นทุ่งนา และกลายเป็นที่ดินของเหล่าคนรวยที่ชอบพื้นที่ใกล้ธรรมชาติ บ้านใหญ่ของเขาก็อยู่เขตนี้เหมือนกัน

"ถึงแล้วครับ"

บ้านหลังใหญ่ของตระกูลวาทินอยู่ข้างหน้า ถึงแม้บ้านจะดูตกแต่งสวยงามและอบอุ่นเพราะมีทั้งคู่แต่งงานที่มีลูกสาววัยกำลังน่ารักและหญิงวัยกลางคนผู้เป็นทั้งแม่และย่าอยู่ร่วมกัน

แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่

และนั่นคือสาเหตุที่เขาไม่กลับบ้านโดยไม่จำเป็น เพราะมันคือบ้านแต่ไม่ใช่บ้านแบบที่ควรจะเป็นไงล่ะ

หมอกเดินเข้าไปที่ห้องทำงานชั้นสองของบ้าน ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีเสียงทักสวนขึ้นมา

"มาแล้วเหรอ?"

"ครับ คุณแม่"

...#คุณหมอกไม่ใช่แม่...

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 4

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!