ต่อจากตอนที่เเล้ว
"หลังจาก1เดือนที่ผานมาลูคัสก็ไม่ได้ยิ้มอีกเลย" "จะว่าไปการยิ้มจองเค้ามันมาดีหรอมาร้อยกันเเน่" "เเต่ที่รู้เลยไอหมอนั้นเวลายิ้มหล่อพอสมควรเลยเเฮะ" หนึ่งเดือนเเล้วเธอพึมพำกับตัวเองในขณะที่กำลังอ่านนิยายไป ไอลูคัสนั้นทำไมถึงยิ้มกัยหรอมันจะมาร้ายกันนะ เธอกำลังทบทอนว่า1เดือนมานี้เค้าปฎิบัติกำเธอยังไง เเต่ก็ยังเหมือนเดิม ลูคัสไม่ได้ปฎิบัติกับเธอดีขึ้นเลย "เดี่ยวเดี่ยวอาทาเนเซียทำไมต้องไปสนใจว่าไอบ้านั่นจะทำดรหรอไม่ทำดีกับเธอด้วยละ" เธอตะโกนอย่างดังจน
"ยัยบ๊องอยากตะโกนได้ไหมข้ากำลังมีอารมณ์สุนทรีย์" เสียงทุ้มเอยขึ้นเค้าวาร์ปมาที่ห้องของเธอทันที "ปั้ง" เสีบงลูคัสถืบประตูห้องของเธอเข้ามา
"ห้ะ คนอย่างนายนี่นะมีอารมณ์สุนทรีย์ฮ่าๆๆๆๆฉันรอขำๆๆจะไม่เสียงดังแล้วชวนไปอารมณ์สุนทรไกลๆส้นเท้าฉันเถอะจ๊ะ" อาคารเอเซียทำเสียงกวนๆจริงๆเธอก็ไม่เชื่อด้วยว่าคนแบบลูคัสที่คิดจะทำอะไรก็อยากจะทำคิดอยากจะฆ่าใครก็อยากจะฆ่าไม่ชอบขั้นตอนอะไรที่ซับซ้อนจะมานั่งแต่งนิยายแบบสุนทรียภาพแบบนี้
"เฮ้ยน่ารำคาญจริง" ลูคัสปิดประตูแล้วเดินปึงปังกับห้องไปตอนนี้เขากำลังจะเขียนไดอารี่สุดโปรดพี่ไม่เคยเขียนมานานแสนนาน
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ค่อยได้คุยกันค่อยๆเหินห่างกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ระยะเวลาก็ผ่านไปครึ่งปีแล้ว อาคารเอเซียคุ้นชินกับสถานที่นี้นานแล้ว ลูคัสก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมมองเธอด้วยสายตาเย็นชาไร้เยื่อใย กับเธอที่คอยกวนประสาทเขาอยู่เรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
อาคารเอเซียตื่นขึ้นมาในพระราชวังสถานที่ที่เธอไม่ได้มานานมาเเล้ว ใช่หลังจากที่อ้ายรู้คัดประสาท ลักพาตัวเธอไปก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย แต่จู่ๆเธอก็กลับมาที่นี่อย่างปริศนา หรือว่าจะมีคนช่วยเธอ แต่คงเป็นไปไม่ได้ลูกค้าในขณะที่พลังเวทย์ยังไม่ฟื้นฟูนั้นแข็งแกร่งมากแข็งแกร่งกว่านักเวทย์ทั่วไปหลาย 10 เท่า ถ้าเขาพลังเวทย์ฟื้นคืนก็คงทำรายงานอาณาจักรหนึ่งได้แบบใช้ปลายเล็บ หลังจากที่เธอพุ่งคลิ๊กอยู่นั้นได้เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนอยู่บนหัวเตียง ลายมือที่ปราณีตเขียนด้วยความบรรจงรู้ได้เลยว่าคนที่เขียนเนี่ยใส่ใจขนาดไหนกับการเขียนโน๊ตนี้ขึ้นมาด้วยความในจุดหมายเขียนไว้ว่า
ถึงอาทาเนเซีย
นี่ยายบ๊องฉันน่ะเป็นจอมเวทย์ใจดีไม่กัดจะเอาตัวน่ารำคาญแบบเธอไปไว้ที่หอคอยของฉันตลอดหรอกนะ เอาเป็นว่าใช้ชีวิตการอยู่ที่บ้านให้สนุกและกันแล้วก็ก่อนหน้านี้ฉันใช้เวทปลอมแปลงกับเวทควบคุมในการสร้างร่างแยกของเธอขึ้นมาเพราะฉะนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าเจ้าไปไหนมา ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตและยัยบ๊องเดี๋ยวเราคงได้เจอกันแล้วล่ะ
จากลูคัส
"ไอ้บ้านี้ คิดจะทำอะไรก็ทำเห้อ" เธอถอนหายใจแต่ก็แอบยิ้มในใจที่เขาแอบแคร์ความรู้สึกของเธออยู่บ้าง เธอนึกไม่ถึงว่าคนที่เธอไม่ค่อยชอบขี้หน้าจะแคร์ความรู้สึกของเธอขนาดนี้ ทั้งๆที่ครึ่งปีที่ผ่านมา เธอไม่แม้แต่จะพูดดีกับเขาสักครั้ง แต่ก็นะหมอนั่นจับตัวฉันไปก่อนเองหมดตั้งหากควรที่จะขอโทษฉันไม่ผิดสักหน่อย อาคารเอเซียคิดในใจพร้อมพูดในใจว่าเธอไม่ผิด
"ยัยบ๊องนี่ไม่คิดจะสำนึกบุญคุณกันเลยจริงๆสินะ" ลูกค้าที่แอบดูอยู่ห่างๆเห็นปฏิกิริยาของเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังบ่นเขาในใจแน่นอน เขายิ้มออกมาได้สีหน้าที่บรรยายไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ กล้าว่าฉันเจอดีแน่ยัยบ๊อง เขาพูดในใจในขณะที่แอบดูอยู่บนต้นไม้หลังจากนั้นก็จากไป
รายเดือนผ่านมาอาคารเอเซียเริ่มปรับตัวได้หลังจากการกลับมาเธอเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้งก่อนหน้านี้เธอไปอยู่หอคอยถึงครึ่งปีทำให้เธอลืมมารยาทบนโต๊ะอาหารและอะไรหลายๆอย่างไปมาก
องค์หญิงเพคะมีข่าวด่วนไหมคะด่วนมากๆเลย ลิเรียนหรือลิลลี่สาวใช้คนสนิทของอาชาเนเซีย วิ่งมาด้วยสีหน้าแตกตื่นราวกับว่าเธอไปเจอผี
ตัดจบเพราะเเอดขี่เกียจไว้มาต่อนะ