ฉันตายแบบไม่ยิ่งใหญ่
ไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่ใช่ฮีโร่
แค่หลับไปพร้อมหนังสือนิยายที่คั่นหน้าสุดท้ายไว้ครึ่งเดียว
พอลืมตาอีกที
เพดานไม่ใช่ห้องนอน
เป็นผ้าม่านสีงาช้าง
กลิ่นหมึก กลิ่นกระดาษ
และเสียงนาฬิกาเรือนเก่าที่เดินช้ากว่าโลกหนึ่งจังหวะ
“ยินดีต้อนรับสู่เรื่องราวของเรา”
ฉันสะดุ้ง
ประโยคนั้น—ฉันจำได้
นี่คือประโยคเปิดของนิยายเล่มโปรด
เล่มที่ฉันอ่านซ้ำจนจำบทพูดได้เป็นหน้า ๆ
แย่แล้ว
หรือ…เจ๋งแล้ววะ?
ฉันรีบลุก วิ่งไปหน้ากระจก
เด็กหนุ่มในนั้นไม่ใช่ฉันคนเดิม
แต่เป็น “ตัวประกอบหมายเลข 17”
คนที่ในนิยายมีบทบาทเดียวคือ
ตายเพื่อปูทางให้พระเอกเติบโต
โอเค…ไม่เจ๋งแล้ว
ฉันจำได้แม่น
อีกสามวัน เมืองนี้จะล่ม
ตัวประกอบหมายเลข 17 จะถูกลูกหลง
ชื่อจะถูกพูดแค่หนึ่งบรรทัด
แล้วหายไปเหมือนฝุ่นบนชั้นหนังสือ
แต่ปัญหาคือ
ฉันรู้ตอนจบ
รู้ทุกแผน
รู้แม้กระทั่งคำโกหกที่ตัวร้ายจะใช้
และคำถามที่กัดหัวใจฉันคือ
ถ้าฉันรู้ทุกอย่าง แล้วฉันยังต้องเดินตามเรื่องเดิมไหม?
วันแรก ฉันลองไม่ทำอะไร
โลกยังเดินเหมือนเดิม
ตัวละครพูดบทเดิม
พระเอกยังมองฟ้าอย่างโดดเดี่ยว
นางเอกยังยิ้มแบบที่คนอ่านจะตกหลุมรัก
วันที่สอง ฉันทดลองเล็กน้อย
เตือนทหารยามเรื่องการทรยศ
ผลคือ—ไม่มีใครเชื่อ
เพราะตัวประกอบหมายเลข 17
ไม่มีน้ำหนักพอจะเปลี่ยนโชคชะตา
คืนที่สอง
ฉันนั่งอ่านนิยายเล่มนั้นอีกครั้ง
หน้าเดิม ตัวหนังสือเดิม
แต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม
ฉันไม่อยากเป็นคนที่ “รู้ตอนจบ”
ฉันอยากเป็นคนที่ “เขียนตอนใหม่”
วันที่สาม—วันเมืองล่ม
เสียงระฆังดัง
ท้องฟ้าแดงเหมือนหมึกที่หกใส่หน้าโลก
ในนิยาย
ฉันควรตายตรงหัวมุมถนน
เพราะมัวช่วยเด็กคนหนึ่ง
และใช่
เด็กคนนั้นยังวิ่งมาชนฉันเหมือนเดิม
ฉันอุ้มเขา
แต่ไม่วิ่งไปหัวมุมถนน
ฉันพาเขาเข้าซอยเล็ก ๆ
ซอยที่ในนิยายไม่เคยถูกเขียนถึง
เพราะคนเขียนไม่รู้ว่ามันมีอยู่
โลกสั่น
เรื่องราวสั่น
เหมือนหนังสือทั้งเล่มกำลังลังเล
ตัวร้ายปรากฏ
แต่ไม่ใช่ตรงเวลา
พระเอกมาช้าไปครึ่งฉาก
นางเอกตะโกนชื่อใครบางคน—ไม่ใช่ชื่อเดิม
และตอนนั้นเอง
ฉันได้ยินเสียงเดิมอีกครั้ง
“เธอกำลังทำให้เรื่องนี้หลุดจากโครงนะ”
ฉันหัวเราะ
ทั้งที่เลือดเปื้อนแขน
“ก็ใช่สิ”
ฉันตอบ
“เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณแล้ว”
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองรอดเพราะอะไร
ไม่รู้ว่าพล็อตใหม่จะดีหรือพัง
แต่ฉันรู้แค่อย่างเดียว—
ฉันยังหายใจ
ในโลกที่ไม่รู้ตอนจบ
คืนถัดมา
ฉันเขียนบันทึกหน้าแรกของหนังสือเล่มใหม่
ไม่มีชื่อผู้เขียน
ไม่มีสารบัญ
มีแค่ประโยคเดียว
“ครั้งหนึ่ง ฉันเคยเป็นตัวประกอบ
แต่ตอนนี้ ฉันกำลังเป็นมนุษย์”
และถ้านี่คือเรื่องราว
ฉันขอเลือกเป็นคนที่ยังเขียนต่อ
แม้จะไม่รู้ว่าหน้าสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร
เพราะบางที
การเกิดใหม่
ไม่ใช่การได้ชีวิตที่สอง
แต่คือ
การได้สิทธิ์เลือกครั้งแรก