เสียงฝนตกกระทบหลังคาเป็นจังหวะเบา ๆ ในคืนที่ทั้งหมู่บ้านดับไฟไปหมด เหลือเพียงแสงจากเทียนเล่มเล็กในมือของ “มีนา” หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่นั่งมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่างห้องไม้
คืนนี้เป็นคืนครบรอบสามปีที่ “ธันวา” หายไป — หายไปพร้อมเครื่องบินที่ไม่มีใครเจอซาก
มีนาไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว เธอแค่รอ…ในใจยังคงเชื่ออย่างดื้อดึงว่าคนอย่างธันวาไม่มีวันจากไปโดยไม่ลา
ขณะที่เธอวางเทียนลงบนโต๊ะ เสียงสายฟ้าแลบสว่างวาบ ทำให้เธอเห็นบางอย่างตกลงมาจากฟ้า — วัตถุเล็ก ๆ ส่องแสงสีฟ้าอ่อนร่วงลงไปที่หลังเนินหลังบ้าน
หัวใจเธอเต้นแรง มือสั่นแต่ขากลับรีบวิ่งออกไปท่ามกลางฝน
กลางความมืด เธอเห็นสิ่งนั้นชัดขึ้น — ไม่ใช่ดาวตก แต่เป็น “เครื่องบินของเล่น” ลำเล็กที่ธันวาเคยพับให้เธอในวันเกิดปีสุดท้ายก่อนจะจากไป
บนกระดาษนั้นมีข้อความเปียกน้ำแต่ยังพออ่านได้
> “ถ้าเธอเห็นสิ่งนี้ แปลว่าฉันยังอยู่ในที่ที่แสงของเธอส่องถึง”
มีนาหลับตา ฝนไหลผ่านแก้มแทนน้ำตา เธอเงยหน้ามองท้องฟ้า — ดาวหนึ่งดวงเปล่งแสงแรงกว่าดาวอื่น ราวกับกำลังตอบกลับ
เธอยิ้ม “งั้นฉันจะไม่ร้องอีกแล้วนะธันวา… แต่จะมองฟ้าแทน”
คืนฝนยังคงดำเนินต่อไป แต่ในหัวใจของมีนา — มันสว่างกว่าที่เคย