“ถ้าคุณตื่นขึ้นมา แล้วพบว่า...กระจกไม่ได้สะท้อนตัวคุณ แต่เป็นใครบางคนที่เฝ้าจ้องตอบ”
เสียงฝนตกกระทบหลังคาไม้เก่าๆ ดังต่อเนื่องเหมือนเป็นบทเพลงกล่อมโลกใบเก่าให้จมหาย
“คุณลุง...วันนี้ผมกลับบ้านได้หรือยังครับ”
เด็กชายวัยสิบสามปีนั่งกอดเข่ามุมห้อง เงาสะท้อนในกระจกเก่าๆ ใกล้เขากลับเป็นเงาผู้ใหญ่ในชุดสูทเก่า โทรม แต่ยังคงยิ้ม
“ยัง…คืนนี้เธอต้องอยู่ต่ออีกหน่อย”
บ้านหลังนี้ ไม่มีใครอาศัยมานานนับสิบปี
แต่ทุกปี จะมีเด็กชายคนหนึ่ง หายตัวไป
ย้อนกลับไปเมื่อวาน
ทัตเทพ เด็กชายจากกรุงเทพฯ เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดหลังจากแม่เสียชีวิตกะทันหัน พ่อไม่อยู่ เขาถูกส่งมาอยู่กับคุณลุงที่ไม่เคยพบหน้า ชื่อว่า “ลุงคม”
บ้านของลุงคมอยู่กลางป่า เงียบสงัด ไม่มีไฟ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่คุณลุงใจดี ทำกับข้าวให้ พาเดินเล่น และมีเพื่อนเล่นแค่กระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องโถง
“กระจกนี่เก่าเหรอครับลุง”
ลุงคมเพียงยิ้ม และตอบว่า
“มันไม่สะท้อนเธอหรอก…มันสะท้อนสิ่งที่เธอ ‘อยากจะเป็น’ ต่างหาก”
คืนที่สอง
ทัตเทพเริ่มฝันถึง “ตัวเอง” ในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง เขาโตเป็นผู้ใหญ่ ใส่สูท ดูมีเสน่ห์ และมั่นใจ—ในกระจกนั่นเอง
เด็กชายถามลุงคมในเช้าวันถัดมา
“ถ้าผมอยากเป็นแบบนั้นจริงๆ ต้องทำยังไงครับ”
ลุงคมตอบเพียงว่า
“ก็แค่…แลกที่กัน”
คืนสุดท้าย
กระจกส่งเสียง…
เงาในนั้นพูดกับเขา
“มาเถอะ ฉันคือเธอในวันที่ไม่มีใครรังแก ไม่มีใครทอดทิ้ง ฉันรู้ว่าจะทำให้เธอมีความสุข”
ทัตเทพยื่นมือแตะกระจก...
และ…เขาหายไป
วันถัดมา
คุณครูจากโรงเรียนโทรมาตามหาทัตเทพ ไม่มีใครพบเขาอีกเลย
มีเพียงลุงคม ยิ้มจางๆ ขณะนั่งดู “ผู้ใหญ่คนใหม่” ใส่สูท เริ่มต้นวันของเขาในร่างใหม่
“ปีที่สิบเจ็ดแล้วสินะ…”
“บ้านของลุงคม” คือสถานที่เปลี่ยนชะตา สำหรับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
แต่ค่าตอบแทน…คือการสละ ‘ตัวตนที่แท้จริง’”
จบบริบูรณ์