ชีวิตในมหาวิทยาลัยของ “ก้อง” เป็นไปอย่างปกติ เขาเป็นนักศึกษาปีสองที่มีชีวิตง่าย ๆ ไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก แต่มีเพื่อน ๆ ที่สนิทสนมอยู่หลายคน ในกลุ่มเพื่อนของก้องนั้นมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ส่วนใหญ่เพื่อนของเขาจะมักจะเป็นพวกที่ชอบเล่นเกมและพูดคุยเรื่องกีฬา ทำให้เขาไม่เคยคิดเรื่องความรักเป็นพิเศษ
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับ “เมฆ” รุ่นพี่ปีสี่ที่เป็นคนเงียบ ๆ ดูเท่และสุขุม เมฆเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก แต่เวลาเขาพูด ทุกคนจะตั้งใจฟัง เพราะคำพูดของเมฆนั้นดูมีเหตุผลและเข้าใจโลกอย่างลึกซึ้ง ก้องเริ่มสังเกตตัวเองว่า เขามักจะหันไปมองเมฆเสมอเวลาที่รุ่นพี่คนนี้เข้ามาในห้องเรียน หรือเวลาที่เขานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมห้องสมุด ก้องรู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไปในตัวเอง แต่เขาไม่กล้ายอมรับหรือพูดออกไป
วันหนึ่ง เมฆได้ขอให้ก้องช่วยงานโปรเจกต์ของมหาวิทยาลัย ทั้งสองเริ่มใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ทั้งทำงาน กินข้าว และพูดคุยกันมากขึ้น จากที่เคยเป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องทั่วไป ความสนิทสนมของพวกเขากลับพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างเกมไปจนถึงเรื่องชีวิตที่ซับซ้อน
ก้องเริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่คาดคิดมาก่อน—ความรู้สึกพิเศษที่มีต่อเมฆ ไม่ใช่เพียงแค่รุ่นพี่ที่นับถือ แต่เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ในใจลึก ๆ เขารู้ว่าเขาชอบเมฆ แต่เขาก็สับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง “ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย?” ก้องถามตัวเองหลายครั้ง เขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะคิดถึงมัน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
ความรู้สึกของก้องค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเผชิญหน้ากับมัน วันหนึ่งเมื่อทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันในสวนของมหาวิทยาลัย ก้องตัดสินใจพูดออกไป “พี่เมฆ… ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไง แต่ว่าผมคิดว่าผมชอบพี่”
เมฆเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองตาก้องและพูดเบา ๆ แต่หนักแน่น “ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”
คำตอบนั้นทำให้ก้องตะลึง ทั้งดีใจและโล่งใจที่ได้ยินคำพูดนั้นจากปากเมฆ ก้องไม่คิดเลยว่าคนที่เขาคิดว่าจะเย็นชาหรือไม่มีความรู้สึกแบบนี้ จะตอบรับความรู้สึกของเขา
แต่ความจริงไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าทั้งสองคนจะยอมรับความรู้สึกต่อกัน แต่ก้องก็ยังคงรู้สึกสับสนและกังวล เขารู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดเผย โดยเฉพาะในสังคมที่ยังไม่ยอมรับความรักแบบนี้เต็มที่
“พี่คิดว่าเราควรจะบอกใครไหม?” ก้องถามเมฆในคืนหนึ่งที่พวกเขานั่งด้วยกัน
“ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก” เมฆตอบ “ความรักมันเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น สิ่งสำคัญคือเรามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน”
คำพูดของเมฆทำให้ก้องรู้สึกโล่งใจ เขาเริ่มเข้าใจว่าความรักนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามรูปแบบหรือกรอบเดิม ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมรับและเคารพความรู้สึกของตัวเองและคนที่เขารัก
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มต้นความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องรีบร้อนที่จะเปิดเผยตัวตนหรือให้ใครมองเห็น พวกเขาสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน และเรียนรู้ที่จะเข้าใจและยอมรับความรักในแบบของตนเอง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสังคมรอบข้าง