ในค่ำคืนที่ลมหนาวพวยพัดเอาความเงียบเหงาเข้ามาในหัวใจของ เมริสา เธอพึ่งถูกคนที่รักที่สุดหักหลัง
จะว่าเขาผิดก็ไม่ใช่ เพราะเธอเองก็มีส่วน มีส่วนทำให้เขาหมดรักในตัวเอง หากเธอรู้อย่างนี้เธอคงไม่โหมทำงานหนัก
มอบเวลาให้เขา เอาเวลาให้ตัวเองดูแลรูปร่างหน้าตาให้มากกว่านี้
แต่แล้วยังไง ตอนนี้เขาไปกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว อนาคตของเธอกับเขาดับสลายไปแล้ว ไม่มีอีกแล้ว
เธอหัวเราะให้กับความรู้สึกบีบรัดในทรวงอกของตัวเอง เธอนี่อ่อนแอจริงๆ
เมริสาหายใจเข้าและพ่นออกมาคราหนึ่ง ส่ายหัวให้ตัวเอง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโปรเจคใหม่ต่อไป
ในเมื่อเรื่องความรักเธอพังทลายไปแล้ว ในชีวิตของเธอ เป้าหมายที่ต้องการก็มีเพียงการงานแล้ว
บริษัทนำเข้าอาหารออแกนิค ที่ทำงานใหม่ที่เธอพึ่งได้รับโอกาสให้เข้ามาทำงานได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ เธอจำเป็นต้องทำมันให้ดีที่สุด
นาฬิกาบนผนังออฟฟิศบ่งบอกเวลา เที่ยงคืนแล้ว
บนตึกระฟ้าชั้นที่5ของบริษัท เมริสายืนมองดูเมืองใหญ่และผู้คนที่ยังคงสัญจรบนถนนด้วยรถรา ผ่านกระจกอินฟาเรด
เมื่อมองขึ้นไปอีกนิดก็จะเห็นหมู่ดวงดาราที่เจิดจรัสด้วยแสงอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำ
เมริสาตั้งใจมองไปยังดวงจันทร์ดวงนั้น ทำให้เธอนึกได้ว่าวันนี้คือวันขึ้น15ค่ำ ของเดือนตุลาคม พระจันทร์เต็มดวงดูสมบูรณ์แบบ
ทว่าความรู้สึกของเธอกลับขาดหาย สูญเสียบางอย่างในขีวิตไป เธออยากมองดูมันให้นานขึ้นอีกสักนิด เพื่อจะได้อาศัยความสมบูรณ์ของดวงจันทร์เติมเต็มความรู้สึกในใจ
แต่เธอหารู้ไม่ ว่าดวงจันทร์ก็กำลังมองมายังเธอเช่นกัน
ผู้ที่อยู่ท่ามกลางแสงแห่งดวงดารา ผู้ถูกรายล้อมด้วยความสุข เกียรติ และชื่อเสียง
ร่างสูงใหญ่สวมสูทสีดำเข้ม ตัดกับเสื้อตัวในที่เป็นสีขาวพิสุทธิ์ขับเน้นให้ร่างกายเขาดูสมบูรณ์แบบ มากขึ้น
ใบหน้าคมคายนั้นจ้องมองดูเธอจากทางด้านหลัง ไม่รู้ว่าทำไม ยามที่เธอไม่รู้ตัวเองและแสดงด้านที่อ่อนไหวของตัวเองออกมาต่อหน้าเขา ถึงทำให้เขาคลั่งใคล้เธอขนาดนี้
ลีออนมองดูเธอ ในใจเขาร้อนแรงด้วยไฟแปลกประหลาด และกำลังรุกลามขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่เวลาผ่านเนิ่นนานไป
ราวกับถูกห้วงรักไร้รูปร่างดึงดูดจิตวิญญาณ ลีออนเดินเข้าไปหาแผ่นหลังเล็กๆของเมริสาที่กำลังเหม่อมองดวงจันทร์
มือหนาโอบล้อมรอบเอวที่กระชับได้สัดส่วน สัดส่วนความบางและกลิ่นที่เขารับรู้ได้ทำให้เสน่ห์ของเธอในใจเขาเพิ่มมากขึ้น
เมริสาสะดุ้งจนร่างกระตุก หันหน้ามองดูคนที่มาใหม่อย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นว่าคนที่ถือวิสาสะแตะตัวเธอคือพี่ชายของท่านประธาน หนึ่งในประธานคณะกรรมการบริษัทแห่งนี้ เมริสาก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
ทว่าเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของชายหนุ่ม คำถามที่กำลังจะออกจากปากก็ถูกเก็บไปทันที
สิ่งที่เธอควรทำตอนนี้คือรอดพ้นจากอันตรายให้ไวที่สุด ไม่ใช่ยืนต่อปากต่อคำพูดคุยกับสัตว์ร้ายยั่วน้ำลายเขาอยู่ตรงนี้
เมริสาใช้แรงน้อยๆของตนผลักแขนสองข้างของเขาที่โอบเอวเธอออก และกำลังจะวิ่งออกไปจากออฟฟิศนี้
ทว่าเมื่อเขารับรู้ว่าเธอกำลังจะหลุดมือไป มือหนาก็เลื่อนเข้ามาจับแขนเธอดึงเข้าหาตัวไปตามอารมณ์
ร่างของเมริสาถูกดึงเข้าไปล้มลงตามแรง ทิศทางที่เธออยู่ก็คืออกแกร่งของเขา
มืออีกข้างสัมผัสบนเอวของเธอและกระชับเข้าไปหาลมหายใจเขาเข้ามาใกล้ใบหน้าเธอทันที
ก่อนที่ริมฝีปากจะประกบลงมา
เมริสาใช้สติของตนที่ยังหลงเหลืออยู่ก่อนจะไม่มีโอกาส ผลักเขาอีกครั้งแล้ววิ่งออกไป
ครั้งนี้เธอรวดเร็วและหลุดออกมาจากเขาได้ถึงสองเมตร
เพียงอีกไม่กี่ก้าวเธอก็จะออกจากห้องออฟฟิศนี้ได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆร่างกายถึงหยุดนิ่ง
ความหวาดกลัวเคลื่อนเข้ามาห้องล้อมทั้งหัวใจเธอ ร่างกายที่เคยถูกตัวเราควบคุม มีหรือจะเคยเป็นดั่งเช่นตอนนี้
แม้แต่จะขยับเธอยังไม่มีความสามารถ
ประสาทสัมผัสรับเสียงได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาจากทางด้านหลัง กำลังก้าวเข้ามาหาเธอช้าๆ
ร่างบางสั่นสะท้าน ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเธอ แต่มันกำลังแสดงปฏิกิริจากจิตใต้สำนึกของเธอต่อหน้าเขา
เห็นดังนั้นลีออนยกยิ้ม รู้สึกเอ็นดูเธอเหลือเกิน ทว่าถึงแม้จะอยากทะนุถนอมหญิงสาวตรงหน้ามากเท่าไหร่
สัญชาติญาณดิบเถื่อนอีกส่วนหนึ่งของจิตใจเขาก็ไม่อาจห้ามปรามได้อีก แววตาสีทองหยาดเยิ้มตัดกับขนตางอนยาว
ใบหน้านี้ของเขาเองที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนที่พบเจอต้องแพ้พ่ายให้กับความหลงใหลในใจ
มือหนาช้อนอุ้มร่างของเมริสาเดินไปที่โซฟาใหญ่ ซึ่งเอาไว้ให้พนักงานนั่งพักจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน
แต่ในตอนนี้มันกลับเป็นเครืองมือดีดีสำหรับการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง