บ้าจริง! อาคมนี้กระตุ้นกู่ในกายของเธอ
ตำหนักกู่ปิงเป็นกลุ่มมหาอำนาจลึกลับที่แข็งแกร่งและน่ากลัวที่สุด และที่สามารถรักษาอำนาจมาได้ถึงหลายพันปี เพราะการฝังกู่ไว้ในร่างของผู้ใต้บัญชาทุกคน แต่หากจะใช้อาคมปลุกกู่ในร่างเหล่านั้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งต้องลงแรงมหาศาล
เนื่องจากกู่ชนิดนี้ว่ากันว่า เป็นเศษวิญญาณของราชันอสูรกู่ไหมทองคำสวรรค์ และเพื่อเป็นการลงโทษผู้อาวุโสที่รับเมล็ดพันธุ์ไม่ดีเข้ามาในตำหนักจนต้องกำจัดในภายหลัง นี่จึงเป็นวิธีสุดท้ายของผู้อาวุโส ในการกำจัดหย่าซิน
ถึงแม้ว่าพวกเขาแอบเสียดายที่ต้องสละหมากที่แข็งแกร่งระดับนี้ไปแต่ เมื่อเทียบกับความแค้นในอดีตระหว่างตำหนักกู่ปิงกับตระกูลกวง เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ล้วนไม่อยู่ในสายตา
นี่ก็คือการกำจัดเนื้องอกที่จะเป็นอันตรายต่อตำหนักในอนาคตตามหน้าที่ที่ควรจะทำถึงแม้พวกเขาจะสั่งการลงไปโดยไม่มีคำสั่งของคนผู้นั้นก็ตาม
ร่างกายหย่าซินพลันหนาวสะท้าน ไม่มีพลังวิญญาณ ปรับสมดุลร่างกายอีกต่อไป เห็นคนนับสิบพุ่งเข้ามาจู่โจม อย่างโหดเหี้ยมแต่ พลังในกายเธอพึ่งถูกลดทอนไปแทบสิ้น ทำได้เพียงใช้ทักษะท่าร่างที่ไม่อาศัยพลังปราณ ปกป้องชีวิตของตน
ผ่านไปไม่นานทั่วร่างล้วนปรากฏบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง เลือดไหลเป็นสีม่วงเข้มปนดำ นี่ยิ่งทำให้เธอกังวลมากยิ่งขึ้น เกรงว่าวันนี้เธอคงไม่รอดชีวิตออกไป
คนหนึ่งคน ก็มิอาจเอาชนะคนนับสิบที่หลั่งใหลเข้ามามิหยุดยั้งได้
เพียงเพราะพลาดท่าในพริบตาเดียว เธอก็ถูกระบี่ยาวทั้งสามเล่มก็แทงเข้าจุดเสินเชวี่ย จุดตันเถียน และ จุดถันจง พร้อมๆกัน และด้วยตำแหน่งทั้งสามนี้ ทำให้เธอพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์ ร่างบางทรุดลงอย่างเจ็บปวดสาหัส ไม่สามารถค้ำร่างให้ยืนอยู่ได้อีกต่อไป
แต่เธอได้ทำสุดความสามารถแล้ว พวกเขาใช้พิษ ใช้ค่ายกล ใช้กำลังที่มากกว่า ซ้ำยังกู่ในกายเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นเซียน ก็เกรงว่าไม่อาจเอาชนะได้
ทันใดโรหิตสีดำใหลออกปากอย่างหยุดไว้ไม่อยู่ ร่างกายเธอรับไม่ไหวอีกต่อไป มีแต่ต้องตายเท่านั้น เหตุการณ์ร้ายแรงในค่ำคืนจบลง ด้วยบทสรุปตามที่พวกเขาต้องการแล้ว
เห็นอย่างนั้นบุคคลชุดคลุมปริศนาจึงเคลื่อนที่จากไป ก่อนไปเสียงดังกึกก้องจึงสั่งการ"เก็บกวาดให้หมดพวกเจ้าสามคนไปรับโอสถสวรรค์ที่หอสูง"
หย่าซินในท่าคุกเข่า หายใจโรยริน มองผู้คนรอบๆศิษย์พี่น้องที่ทยอยจากไป ใช่แล้วพวกเขาทำภารกิจจบแล้ว ไม่มีเหตุอันใดให้อยู่ต่อ แววตาเธอฉายแววเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง ไฉนตำหนักถึงทำกับเธอเช่นนี้
ก่อนที่ศิษย์ที่สามคนจะดึงกระบี่ออกจากร่างเธอ เวลานี้คนผู้หนึ่งก็มาถึง และมองดูภาพเบื้องล่างอย่างตกตะลึง เป็นจังหวะเดียวกันที่กระบี่ถูกชักออก หย่าซินจึงสิ้นใจโดยสมบูรณ์
"นาง...นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!?"
เสียงกัมปนาทสนั่นสั่นไหวไปทั่วทั้ง4หุบเขา คลื่นเสียงฉาบด้วยอำนาจแห่งเจ้าอนาเขต เจ้าแห่งตำหนักกู่ปิง ทำให้ทั้งศิษย์และผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องบนทั้งหมดล้วนสั่นสะท้าน
แรงกดดันนี้อานุภาพมหาศาล ศิษย์ระดับจงบริเวณนั้นทั้งสามคน เป็นลมล้มพับข้างๆร่างของหย่าซินในไม่ถึงก้านธูป
และศิษย์หลายพันคนในหุบเขาที่สี่ ก็เช่นกัน บางคนก็กระอักเลือด บางคนก็เป็นลมล้มไป
ยามนี้ผู้อาวุโสสี่หุบเขารวมทั้ง17คน ล้วนถูกเรียกมาบริเวณเกิดเหตุ และคุกเข่าอยู่อย่างนั้น
ท่านเจ้า ร่อนกายยังเบื้องล่าง มือหนาสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัวจากจิตใต้สำนึก เขาเอื้อมมือไปประคองร่างบางที่ไร้วิญญาณ และได้เห็นใบหน้านี้อย่างชัดเจน ทำให้เขาตกตะลึง ความรู้สึกเดิมเมื่อสี่พันปีก่อน กลับมาอีกครั้ง ครั้นตั้งสติได้มืออีกข้างก็ถ่ายเทพลังวิญญาณให้นาง
ไม่มีผู้ใดทราบว่าสีหน้าของเขาภายใต้ชุดคลุมในยามนี้ ซีดเซียวเพียงใด องคาพยพที่เคยคมคายองค์อาจ แปรผันไปอย่างสิ้นเชิง พยายามรักษาคนในอ้อมเเขนอย่างสุดความสามารถ
การแสดงออกถึงความสนิทสนมนี้ทำเอาผู้อาวุโสทั้งหลายมองหน้ากัน และอึ้งงันพูดไม่ออก ยามนี้ถึงได้รู้ว่าพวกเขาทำผิดพลาดใหญ่หลวงแล้ว