มีคนตาย!!! ตัวเอก 13:24
หลังจากที่ผมกลับบ้านหลังจากที่ทำงานเสร็จ
วันนี้ผมรู้สึกเครียดกว่าทุกๆ เพราะผมได้ทำงานได้รับเงินเดือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่มีโอกาสไปเหยียบที่นั่นอีกเลย
ทำยังไงดีล่ะ?
ผมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแลอีกนะ ตั้งหลายคนเลยนะ ต่อให้ผมสาธยายเล่าเรื่องทุกอย่างนี้ ผมรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเหมือนเดิมเพราะพวกเขามันใจดํา! อ่า…สถานการณ์ตอนนี้ชั่งหัวมันทุกอย่างเถอะ
ในตอนที่ฟ้าจะตกดิน ผมออกไปที่ร้านขายของชำ เพื่อซื้อเชือกเส้นใหญ่มา
หลังจากกลับมาบ้านผมหาที่ผูกเงื่อนเชือก สุดท้ายนำเก้าอี้มารอง นำบ่วงเชือกคล้องคอ เตะเก้าอี้ให้ล้มลงไป
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เริ่มเลือนลาง มีเพียงแรงของผมและเชือกที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน
จนทุกอย่างมืดบอด
ชีวิตนี้จบแล้ว ทุกอย่างหลังจากนี้ผมไม่รู้ บางทีตอนนี้ใครบางคนอาจจะเจอศพของผมแล้ว น่าจะเจอในตอนที่สภาพไม่ค่อยดังเท่าไหร่ เพราะผมไม่ได้สนิทกับเพื่อนบ้านชักเท่าไหร่ กว่าจะเห็นถึงความผิดปกติคงอีกนานแน่
ผมพลางคิดเรื่องทั้งหมดก่อนจะได้รับจูบจากท่านเทพธิดาผู้มีเส้นผมสีเหลืองทองอร่ามที่หน้าผาก
ผมเกิดใหม่ที่ต่างโลกด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนพระเจ้าจงใจสร้างขึ้นมา ผมสีแดงเพลิงน่าดึงดูด หน้าตางดงามยากที่จะหาใครเทียบ และก็มีคนที่หน้าตาเหมือนผมเป๊ะๆ อยู่ด้วย นั่นคือฝาแฝดของผม
แต่สิ่งที่แยกระหว่างเราสองคือสัญลักษณ์ผู้กล้าแห่งเพลิงที่หน้าผากของผม
ทำให้ผมโดนแยกมาเลี้ยงที่พระราชวังตั้งแต่อายุไม่ถึง 3 ปี
ที่ผมจำเรื่องทั้งหมดนี้ได้เพราะร่างนี้มีความทรงจำภาพถ่าย
จนผมเติบโตขึ้นได้ 13 ปี พระราชาที่เป็นพ่อบุญธรรมของผมได้อัญเชิญผู้กล้าจากต่างโลกมา ในระหว่างการอัญเชิญ ราชาได้สังเวยลูกสาวของตนเอง 3 คน เปลี่ยนกับผู้กล้าของต่างโลก 1 คน
ที่อัญเชิญผู้กล้ามาทั้งๆ ที่มีผมอยู่แล้วเพราะว่าพลังไฟของผมมันอ่อนแอ ราชาจึงเปลี่ยนผมที่เป็นไพ่ใบหลักเป็นใบสํารองแทน ที่จริงหลังจากที่ผมเข้ามาอยู่ที่พระราชวังได้ไม่นาน เทพธิดาของผมได้บอกกับผมว่าจอมมารตายแล้ว จากนั้นผมก็ไม่มีความทะเยอทะยานในการฝึกฝนอีกต่อไป
ที่ผมไม่ห้ามให้ราชาอัญเชิญผู้กล้ามาเพราะว่าผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นประสงค์ของท่านเทพธิดา ที่ผมเชื่อใจท่านพระว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อช่วยมนุษย์ในโลกใบนี้
ดูเหมือนว่าผมจะกลายเป็นผู้ช่วยของผู้กล้านอกจากนั้นรอบตัวของเขาก็มีเพียงข้ารับใช้หญิงทรงเสน่ห์ เหมือนว่าแค่ดูผ่านๆ รูปร่างดีทุกคนเลย
หลังจากที่ผู้กล้ามาได้ 1 วัน พระราชวังได้จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับผู้กล้าขึ้นมา โดยเชิญเหล่าขุนนางจากทั่วสารทิศยศน้อยใหญ่มาเข้าร่วมงาน
ผมได้ติดตามผู้กล้าไปเข้าร่วมงาน ผู้กล้าได้รับการทักทายจากเหล่าขุนนาง จนกระทั่งมีขุนนางที่ผมเกลียดเข้ามาทักทาย สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมไปได้ไม่ใช่ขุนนางคนนั้นแต่เป็นคนที่มีผมสีแดงเพลิงเหมือนผม ตาหน้ายากที่จะหาใครเทียบเหมือนผม ฝาแฝดของผม
ไม่ได้เจอกันนานเลยแหะ พลางมองไปที่แขนของเขา รอยแ
ผลจากการถูกของร้อนทับใส่ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เราทั้งสองแยกจากกันเลย…ฝาแฝดพี่ของผมได้ปกป้องผมด้วยการกอดไม่ให้สิ่งใดทำร้ายผมได้พูดให้กำลังใจผมทั้งที่ตัวเองหวาดกลัวกว่า
และงานเลี้ยงก็ดำเนินต่อไป ผมตื่นเต้นมากที่ได้เจอพี่แต่ผมกดความตื่นเต้นเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้หันไปมอง
ผมเห็นภาพบาดตาเข้าให้แล้ว พี่ของผมโดนลวนลามต่อหน้าสาธารชน พี่ก้มหน้างุดจนผมยาวสลวยของพี่ไม่สามารถปิดบังตราทาสได้
ผู้กล้าที่เห็นผมมองนานก็มองตาม ผมเห็นดังนั้นจึงกลับมามองที่ผู้กล้าเช่นเดิม แต่ผู้กล้าก็มองค้างอยู่นานดวงตาแฝงด้วยความชอบใจ
ไม่นานนักข้ารับใช้ที่รับใช้ผู้กล้าเริ่มมีผู้ชายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งหมด ไม่มีผู้หญิง ผมที่อยู่ข้างๆ ห้องของผู้กล้า จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางของชายหนุ่มในบางครั้ง ส่วนคนที่มาหาผู้กล้าบ่อยๆก็ไม่พ้นขุนนางที่ผมเกลียด พี่ของผมมาด้วยตลอด แต่ทุกครั้งที่พี่ผมกลับเขาก็มีสีหน้าเหนื่อยล้าตลอด
เรื่องการฝึกของผู้กล้า ผู้กล้าทำทุกอย่างได้ลื่นไหล่สมบูรณ์แบบ จนผมสงสัยว่าโลกนี้มีจอมมารจริงๆ หรือ
แต่ความสงสัยของก็ผมอยู่ได้ไม่นาน เพราะท่านเทพธิดาได้บอกผมว่า ทำให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป อะไรเนี่ยไม่เข้าใจเลย ผมนั่งคิด นอนคิด บางครั้งก็รู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาเหมือนมีไฟมาเผา ผมอยู่ในห้องของผมหลายวัน
จนกระทั่ง ผู้กล้าเข้ามาในห้องนอนของผม มาหาผม แต่เมื่อมองมาที่ผมเขากลับชะงักตัวลงสักพัก ก่อนจะเดินเข้ามา
เขาทำท่าทางเหมือนกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เขากระชากแขนผมก่อนจะเดินตรงไปที่กระจกในห้อง ผมเห็นดวงตาตาสีเลือดของตนเด่นชัดท่ามกลางความมืดจากม่านที่บังแสงไว้ ทั้งที่ปกติมันควรเป็นสีน้ำตาลเหลือบดำแท้ๆ และผมมองไปที่หน้าผากตนเองที่ควรมีสิ่งที่บ่งบอกถึงการเป็นผู้กล้าแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ
ผมทรุดตัวลงทันที อ้าปากพูดคำว่า เป็นไปไม่ได้ ซ้ำๆ
ผู้กล้าพูด “มันเป็นไปแล้ว นายเป็นปีศาจไปแล้ว" ผู้กล้าพูดเหมือนกำลังปลอบผม
คำพูดนั่นทำให้น้ำตาของผมพรั่งพรูออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ท่านทำทุกอย่างเพื่อช่วยมนุษย์ในโลกใบนี้จริงๆด้วย เพื่อให้ทุกคนร่วมกันสาปแช่งปีศาจแทนมนุษย์ด้วยกันเอง เพื่อให้มนุษย์ดีต่อกัน นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ทำเพื่อท่าน ทำให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป
ผู้กล้าที่เห็นผมร้องไห้ก็กอดผมเอาไว้ ฉวยโอกาสจูบผมสอดลิ้นเข้ามา ผมยอมให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการเพราะสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ต้องมีหนึ่งในเราต้องตาย
เขาพาผมไปนอนที่เตียง ใช้มือลูบไล้เอวบางแล้วเลื่อนมือไปบีบนวดส่วนสะโพก ชุดนอนตอนนี้ที่ผมใส่เป็นชุดนอนกระโปงที่มีกระดุมคอยเชื่อมชุด เนื้อผ้าบางนุ่มลื่น เมื่อได้รับสัมผัสมันรู้สึกแปลกๆ
เขาปลดกระดุมทุกเม็ดของผม เผยให้เห็นร่างผอมบางผิวขาวชวนน่าหลงไหลที่ถูกผ้าปิดซ่อนเอาไว้ เขาใช้มือบีบส่วนอกของผมเบาๆ ก่อนจะมาคลึงเล่นยอดอกทั้งสองข้าง
มันรู้สึกจั๊กจี้นิดๆ
เขาเมื่อเห็นท่าทางของผม ก็แตะไปที่ส่วนกลางตัวของผม มันทำเอาตัวผมสดุ้งเล็กน้อย เขาคลึงมันด้วยนิ้วไม่กี่ครั้ง แต่นั้นก็พอที่จะทำให้ผมร้องครางออกมา
เมื่อเห็นผมเป็นอย่างนั้น ส่วนกลางของผมถูกนำออกมาจากชั้นในเพื่อปรนเปรอทันที จังหวะที่เพิ่มความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เอวของผมมันยกขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดร่างกายของผมเกร็งกระตุกพร้อมกับปล่อยน้ำที่เกิดจากความสุขสมออกมา มันทำเอาผมหอบถี่
เขากดจูบผม 2 นิ้วพลางเกลี่ยเอาน้ำแล้วค่อยๆสอดแทรกเข้าไปในส่วนอ่อนนุ่มของผม ใช้นิ้วสำรวจหาจุดกระสันแล้วกดมันลงไป
ร่างกายของผมถูกกระตุ้นอีกครั้ง ส่วนกลางเริ่มแข็งตัว เขาเพิ่มจาก 2 นิ้ว เป็น 3 นิ้ว เพื่อขยาย
สักพักเขาละตัวนั่งก่อนจะปล่อยส่วนพองโตให้เป็นอิสระ โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูว่า
“กลัวไหม"
ผมไม่ได้พูดตอบแต่ส่งเสียงหอบไปแทน เขายิ้มแล้วจ่อแกนกลางและสอดมันเข้าไปจนสุดความยาว
ผมใช้แขนปิดใบหน้าเหอร้อนของตน แต่เขายกแขนของผมออก แล้วใช้มือเกลี่ยใบหน้าแดง
“อย่าปิดสิ" เขาพูดแล้วกดจูบลงแล้วละออกมา
มือทั้งสองข้างเลื่อนมาที่สะโพกของผมเพื่อจับ แล้วค่อยขยับสะโพกของตนเริ่มจากช้าๆ เสียงครางต่ำออกมาเบาๆ เมื่อถูกโพรงคับแคบโอบรัดส่วนแกนเอาไว้ เขาบีบสะโพกให้แน่นเข้าที่ก่อนจะกระหน่ำส่วนนั้นโดนที่จุดกระสันอย่างต่อเนื่อง
ผมที่อยู่ใต้ร่างของเขาตอนนี้เพียงแต่ครางเสียงหวานเท่านั้น ส่วนล่างมันรู้สึกหน่วงๆ ตัวของผมสั่นตามแรงกระแทก ดวงตาหรี่ลงพร้อมกับน้ำตาที่เล็ดลอดออกมา
ในระหว่างทางเขาพรมจูบไปทั่วตัวของผม บางครั้งก็กัดดูด นั่นทำให้ผมสดุ้งเป็นบางครั้ง
ในตอนนี้เขาลดความเร็วลง แล้วเลื่อนมือข้างหนึ่งไปลูบไล้เอวบางเบาๆ ทำให้ผมบิดตัวเล็กน้อยๆ
ไม่นานนักร่างของเขากระตุกเกร็งและปล่อยน้ำที่เกิดจากความสุขสมออกมา ส่วนผมน่ะเหรอ ยังแข็งอยู่แต่เสร็จไปหลายครั้งจนไม่มีแรงทำเองแล้ว และเขาก็ช่วยผมให้เสร็จ
ผมเดินช้าๆ เปิดม่านเพื่อเดินออกมาที่ระเบียบ ตอนนี้พระจันทร์ลอยเด่นขึ้นมาแทนพระอาทิตย์เรียบร้อย ดูเหมือนว่าเขาจะมาตอนฟ้าสว่างนะแต่ตอนนี้มืดแล้ว
“มานอนด้วยกันเถอะ"เขาตบเตียงที่เป็นของผม
“ขอบคุณครับ ท่านผู้กล้า แต่ไม่เป็นไรดีกว่า ผมขอชมจันทร์แทน"
เขาพึมพำกับตัวเองว่า“ครั้งนี้ยังไม่ได้บอกสินะ เฮ้อ"
“ฉันชื่อ จีซัส จำไว้ด้วยล่ะ"
ผมพยักหน้าน้อยๆ สายตาจ้องไปที่พระจันทร์
“บอกชื่อของนายมา ฉันรู้แล้วแต่จะฟังจากปากนายเอง"
“ผมชื่อ…เรนครับ"ผมเหมอมองท้องฟ้า
“…?"
“ชื่อนี้คุณแม่ตั้งให้ครับ"ผมยื่นแขนออกไป
“นายทำอะไร"ถึงผมไม่ได้หันไปมองก็รู้ว่าเขาวิตกกังวนอยู่แน่ เพราะเสียงของเขามันบอกทุกอย่าง
ท้องฟ้าที่ผมเหมอมองแท้จริงแล้ว ผมมองพวกปีศาจที่มาสอดแนมต่างหาก แขนที่ยื่นออกไปก็เพื่อให้ปีศาจสังเกตเห็นผมและพาผมออกไปจากที่นี่
ในเมื่อผมเป็นปีศาจ ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ตั้งแต่มาอยู่ทั้งโลกปีศาจ ผมได้เห็นว่าวิถีชีวิตของมนุษย์และปีศาจไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่นัก กับกันเมื่อเป็นเผ่าปิศาจผมมองมนุษย์ไปในทางลบมากกว่าเดิมอีก
ผมได้ไต่เต้าตำแหน่งจนได้เป็นผู้ช่วยจอมมาร
จอมมารรุ่นใหม่ถูกผมดูแล จนเขาไว้ใจผมสุดหัวใจ จอมมารรุ่นใหม่ตนนี้ มีความสามารถมากและความทะเยอทะยานสูง ทำให้เขาเอาแผ่นนี้ที่ถูกยึดจากมนุษย์บางส่วนกลับคืนมาได้ แต่ยังไม่ทันได้คืนทั้งหมด จู่ๆจอมมารก็ร่างกายอ่อนแอกะทันหัน
จีซัสได้โอกาสก็บุกมาที่ปราสาทสังหารปีศาจไปทั้งหมด ในท้ายที่สุดเขาบุกมาที่ห้องของจอมมาร เมื่อผมเห็นเขาผม กางแขนปกป้องผู้เป็นราชาที่นอนโทรมอยู่ข้างหลัง
“เรน ครั้งนี้พี่ชายนายตายเหมือนเดิม ด้วยวิธีเดิมๆ เหมือนเคย”
“เรน ครั้งนี้นายหนีฉันไปเหมือนทุกครั้ง ชีวิตนี้ฉันฆ่าราชาเหมือนครั้งก่อนด้วยล่ะ"
“เพราะงั้นครั้งนี้ขอให้ไม่มีใครสักคนในพวกเราตายเถอะนะ ได้โปรดคนคนเดียวที่ฉันรัก"
เมื่อจีซัสพูดจบ ความจำในหัวผมก็ตัดลงเพียงเท่านั้น
ผมตื่นขึ้นที่เตียงนอนของใครบางคน ผมนั่งและสัมผัสได้ถึงโซ่ที่ถ่วงขาของผมไว้
จีซัสยิ้มสดใสเมื่อเห็นผมตื่น เขาป้อนซุปเนื้อเข้าไปในปากของผม
“ขอโทษนะที่นี่ไม่มีเนื้อสัตว์เลย ฉันหาได้แค่นี้น่ะ"
“อร่อยไหม"
“อร่อย…”
“ดีใจจังที่นายชอบเพราะมันเป็นเนื้อของนายฉันคิดว่านายจะไม่ชอบเสียอีก”
เมื่อจีซัสเห็นผมทำท่าจะอ้วกก็พูดว่า“นั้นของคนอื่น”เขาพูดนิ่งๆ
ผมปัดซุปนั้นทิ้งลงพื้น จีซัสยังคงรอยยิ้มก่อนจะน้ำซุปออกมาจากความว่างเปล่า ผมบัดซุปนั้นทิ้งอีกครั้ง
“อ่า ให้ตายสิ นี่มันเนื้อส่วนแขนของฉันเลยนะ”
เขาหุบยิ้มลงแล้วมาจับแขนของผม
“เราไปเร็วหน่อยดีกว่า”
เขานำมีดที่เอาออกมาจากความว่างเปล่ากรีดลึกไปที่คอของตัวเองจนตาย
ผมอยู่ที่ไหน?
“กรี้ดดดด”
“น่ารำคาญชะมัด ทำไมแกต้องโผล่มาทุกครั้งตอนที่ฉันมาด้วย”จีซัสกระทืบหัวของผู้ส่งเสียงกรีดร้องจนตาย
ผมดูได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นคือเทพธิดาของผม ด้วยเสียงและเส้นผมสีทองอร่ามนั้น… ฉับพลันใบหน้าของผมซีดลงทันที
“เรนเป็นอะไรสีหน้าไม่ดีเลยนะ"จีซัสถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
“เรนยิ้มสิ รอยยิ้มจะช่วยนายได้"จีซัสยิ้ม
แต่เมื่อเขาเห็นเรนไม่ทำตามที่พูดก็หุบยิ้มลง
“ถ้างั้นเรนคนที่ 1123 ก็โดนแทง 39 แผลนะ เพราะนายฆ่าแม่ตัวเองตอนอายุไม่ถึง 3 ปี กับมี SXX กับฉันตอนอายุ 13”
ไม่นานนักเขาก็ทำตามที่พูดทันที
“เรนฆ่าตัวตาย เรนโดนฟัน เรนโดนแทง เจอเเล้ว”
เขาอุ้มร่างของเรนเข้าไปในห้องนั้น
“เรนคนใหม่อยู่กับเรนคนเก่าไปนะ
จากนั่นจีซัสหายไปในความว่างเปล่า เพื่อเริ่มชีวิตครั้งใหม่ อีกครั้ง
1346 คําตึงๆ 🗿🗿🗿🗿